คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่29 คุณชายรองกลับมาเร็วจริงๆ
ตอนที่29 คุณชายสองกลับมาเร็วจริงๆ
“ได้ยินพวกนางพยาบาลพูดว่าโรงพยาบาลเรามีหมอฉู่คนหนึ่ง ฝีมือขั้นเทพ ไม่ค่อยเข้าสังคมกับใครนัก พูดจา……ตรงไปตรงมา บุคลิกโดดเด่น ผมว่า คงเป็นคุณสินะ”
เผชิญหน้ากับท่าทางที่เย็นชาไม่สนใครของฉู่ลั่วหาน แต่ถังจิ้นเหยียนยังคงสื่อสารพูดจากับเธออย่างสุภาพอ่อนโยน ความอดทนและอารมณ์ดีแบบนี้ น่าชื่นชมยิ่งนัก
คนสองคนเดินคู่กันออกไปทางข้างนอก ฉู่ลั่วหานไม่ได้ชะลอฝีเท้าเลยแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่หันหน้ากลับไป“ในเมื่อคุณก็รู้นิสัยของฉันดี หมอถังอย่ามาเสียเวลาอันมีค่าของคุณกับฉันเลยค่ะ”
ถังจิ้นเหยียนไม่โกรธสักนิด แต่กลับยิ้ม รีบก้าวยาวๆเข้าไปหาฉู่ลั่วหานข้างๆ พูดอย่างนอบน้อม “ผมเรียกให้คุณมาช่วยกะทันหันแบบนี้ รบกวนเวลาเลิกงานตามปกติของคุณ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ”
อยู่ๆฉู่ลั่วหานก็หยุดฝีเท้าลง สีหน้าดูเหนื่อยอ่อน ถึงแม้ตัวเธอเองที่ใครต่อใครลือกันว่าหนังเหนียวยิงไม่ทะลุ ก็ยากที่จะปกปิดความเหนื่อยบนใบหน้าไว้ได้ “หมอถังคะ ต่อไปคุณก็จะพูดว่า ขอรบกวนเวลาฉัน ชวนฉันไปทานข้าวไถ่โทษใช่มั้ยล่ะคะ”
ดวงตาคมสวย เปี่ยมล้นไปด้วยสายน้ำของฤดูใบไม้ร่วง จ้องมองผู้ชายที่ทั้งสุภาพและหล่อเหลาตรงหน้า
ถังจิ้นเหยียนกลับหัวเราะขึ้นซะงั้น รอยยิ้มของเขาเป็นรอยยิ้มที่จริงใจ ไม่มีความเจ้าเล่ห์เลยแม้แต่น้อย “หมอฉู่อยากกินอะไรล่ะ ขอโทษด้วย เย็นวันนี้ผมมีนัดแล้ว เอาอย่างนี้ ไว้คราวหน้าดีมั้ย”
คิดไม่ถึงว่าเขาจะตอบแบบนี้ ฉู่ลั่วหานส่ายหน้าอย่างโล่งอก“ไม่เป็นไรค่ะ หมอถังไว้เจอกันนะคะ”
ถังจิ้นเหยียนพยักหน้าน้อยๆ “เจอกันพรุ่งนี้ครับ หมอฉู่”
เธอประคองร่างที่ทั้งเหนื่อยทั้งหิวเดินออกจากโรงพยาบาลไป ฉู่ลั่วหานแวะซื้อแซนด์วิชที่ร้านสะดวกซื้อหน้าโรงพยาบาล เหนื่อยจริงๆ พวกกับมีเรื่องหนักใจ หมอฉู่ที่ไม่ชอบกินอาหารสะดวกซื้อก็จนแล้วจนรอด
ตอนกลับมาถึงคฤหาสน์ ฉู่ลั่วหานเดินเข้าประตู รู้สึกบรรยากาศแปลกๆชอบกล หลงเซียวที่ไม่กลับมาตั้งหลายวัน เสด็จมาแล้วหรือไงกัน
เหอะ!
ไม่อยู่เป็นเพื่อนโม่หรูเฟย มาทำอะไรที่นี่ คิดแผนอะไรมาทรมานเธออีกล่ะ
ทันทีที่ผลักประตูออก แสงจากโคมไฟคริสทัลสว่างจ้าเข้าตาฉู่ลั่วหานที่ไม่ชินเต็มๆ รีบหยีตาอย่างช่วยไม่ได้ ยังไม่ทันได้เปิดตา น้ำเสียงแข็งกระด้างเยือกเย็นของหลงเซียวก็ทิ่มทางเขามาที่หูอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“ไม่อยากเจอหน้าฉันขนาดนี้เลย”
ฉู่ลั่วหานวางกุญแจบ้านกับกระเป๋าสะพายลง เงยหน้ามองหลงเซียวในชุดสูทหรู ชุดบนตัวเขาคือชุดเดียวกันกับภาพที่เธอเห็น ตัวจริงดูดีกว่าในภาพขึ้นมาอีกหน่อย ชุดสูทที่ถูกรีดและเย็บอย่างไร้ที่ติโดยช่างฝีมือ ยิ่งมาอยู่บนตัวเขาเรียกได้ว่าดูดีซะยิ่งกว่าเดิม
คิดอะไรของเธอน่ะฉู่ลั่วหาน!
“ฉันมีเคสด่วน ไม่รู้ว่านายกลับมาแล้ว ”ฉู่ลั่วหานรายงานออกไปสองประโยค เธอเหนื่อยมากจริงๆ แค่อยากจะนอนพัก มีแรงเถียงกับเขาซะที่ไหนกัน
หลงเซียวไขว้ขาอีกข้างขึ้นมาสลับ ดวงตาที่ชั่วร้ายไม่วายสอดส่อง“เสี่ยวจื๋อจะมาพรุ่งนี้ เธอรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง”
ให้ตายสิ!หลงจื๋อหรอ
แค่คิดถึงชื่อนี้ ฉู่ลั่วหานก็ปวดหัวไปหมด อิตาหลงจื๋อจะทำอะไรของเขากัน
“พรุ่งนี้ฉันทำงานทั้งวัน ตอนเย็นๆถึงกลับมา เขาจะมาเมื่อไหร่ล่ะ”
ฉู่ลั่วหานปวดเข่าจะแน่ ยืนมาตั้งหกชั่วโมงเต็มๆ ขาก็ทั้งเจ็บทั้งชา นานแล้วที่ไม่ได้เข้าผ่าตัด มากะทันหันแบบนี้กินแรงไปเยอะเลย
“พรุ่งนี้วันเสาร์ สายๆก็มา เรื่องโรงพยาบาล เธอจัดการเอง”
คำพูดไร้เยื่อใยของเขา ก็สามารถเปลี่ยนตารางชีวิตของเธอได้อย่างง่ายๆ ทำเอาเธอพูดไม่ออกสักคำ
ฉู่ลั่วหานส่งเสียงออกมาเบาๆ“หลงเซียว ฉันหวังว่านายจะจำสถานะของฉันได้ดี ฉันเป็นหมอ มีหน้าที่ของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบ ไม่สามารถละทิ้งคนไข้เพื่อมาต้อนรับแขกคนหนึ่งได้ คุณชายสองหลงตอนนี้ก็ยังคงเที่ยวเตะฝุ่นไปวันๆสินะ ให้เขาเปลี่ยนเวลามาซะ”
“ฉู่ลั่วหาน!”
หลงเซียวหันไปจ้องเธอตาเขม็ง แสงเย็นๆทะลุออกมาจากดวงตาของเขา “สถานะของเธองั้นหรอ ต้องให้ฉันช่วยเตือนความจำเธอมั้ยว่าสถานะที่แท้จริงของเธอคืออะไรกันแน่ เหอะ หมอฉู่อย่าลืมไป สถานะแรกของเธอก็คือคุณนายของตระกูลหลง เป็นภรรยาของฉันหลงเซียว สิ่งที่เธอต้องภักดีก็คือตระกูลหลง ”
สิ่งที่ทำให้ฉู่ลั่วหานเจ็บใจไม่ใช่เนื้อหาที่เขาพูด ในเมื่อคำสั่งพวกนี้เธอก็ได้ยินมานัดต่อนัดแล้ว สิ่งที่ทำให้เธอใจสลายก็คือน้ำเสียงของหลงเซียวในวินาทีนี้
พยายามฟื้นตัวกลับ ฉู่ลั่วหานหัวเราะขึ้นมา “ท่านเซียว ต้องขอโทษจริงๆ ฉันเกือบจะลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นคุณนายของตระกูลหลง ฉันเกือบคิดว่าผู้หญิงที่พาดหัวข่าวประจำวันนี้เป็นคุณนายตัวจริงซะอีก ยังไงก็ขอบคุณที่เตือนนะ!”
โกรธหรอ ในที่สุดเธอก็โกรธเป็น
ฉู่ลั่วหาน ต้องทำแบบนี้เธอถึงจะมีความรู้สึกรู้สากับเขาบ้างใช่ไหม
นิ้วเรียวยาวสะอาดสะอ้านของหลงเซียว เคาะลงบนที่วางแขนโซฟา“แล้วก็ ต่อไปหรูเฟยต้องไปตรวจดูความเป็นปกติของแม่และเด็กก่อนคลอดที่โรงพยาบาลกลาง เธอเป็นคนรับผิดชอบดูแลทั้งหมด จำไว้ให้ดี อย่าเล่นตลกอะไรกับฉัน”
ฉู่ลั่วหานอยากหัวเราะจนท้องขัดท้องแข็ง เธอเชิดหน้าขึ้นมองหลงเซียว ในตาไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแต่รอยยิ้มเย็นยะเยือก “ท่านเซียว สาขาหลักของฉันคือหัวใจ ถ้าคุณโม่หัวใจมีปัญหาอะไรล่ะก็ฉันต้องรับผิดชอบอย่างแน่นอน เกี่ยวกับการคลอดลูก เกรงว่านายจะต้องไปหาผู้ที่เชี่ยวชาญมากกว่า”
หลงเซียวยังไม่ทันได้เปิดปาก ฉู่ลั่วหานที่พิงกับราวบันไดอยู่ก็พูดขึ้นต่อ“ยังดีที่เมื่อกี้ท่านเซียวช่วยเตือนฉันไว้ ฉันคือคุณนายของตระกูลหลง โม่หรูเฟยหล่อนมีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้ฉันต้องดูแลด้วยตัวเองกัน”
ให้เธอรับผิดชอบโม่หรูเฟยงั้นหรอ เหอะเหอะ!
หยวนชูเฟินออกคำสั่งอย่างเย่อหยิ่งผ่านสายโทรศัพท์ เขาหลงเซียวก็ยังมาข่มขู่ต่อหน้าเธออีก ลูกสะใภ้อย่างเธอที่ไม่ได้เป็นแม้แต่คนโปรดของใคร หรือแม้แต่จะได้รับการยอมรับ คิดว่าเธอไม่มีน้ำโหบ้างหรือไงกัน
หลงเซียวกวาดตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า พลางค่อยๆยิ้มเย็นๆ“นับวันเธอยิ่งกล้ามากขึ้นนะ ดูไปดูมาฉันคงจะใจดีกับเธอมากเกินไป เธอคิดว่าตัวเองเก่งมาจากไหน หื้ม”
ฉู่ลั่วหานกำราวบันไดแน่น มองไปทางเขาอย่างสงสัย รอให้เขาพูดต่อ
หลงเซียวค่อยๆลุกขึ้นยืน ปัดๆชุดสูท ขายาวๆก้าวแค่สองสามก้าวก็มาถึงตรงหน้าเธอ “เธอไม่กลัวอะไรจริงๆหรอ ไม่ต้องการอะไรแล้วงั้นสิ”
ดวงตาของฉู่ลั่วหานค่อยๆเบิกกว้าง เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาไร้อุณหภูมิของหลงเซียวอย่างกล้าๆกลัวๆ “นายอยากจะพูดอะไรกันแน่”
มือข้างหนึ่งของหลงเซียวล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง ลมหายใจที่น่าสะพรึงกลัวกระทบเข้าที่หน้าของเธอ“ความเป็นอยู่ของตระกูลฉู่ ขึ้นอยู่กับการทำตัวของเธอ แต่ถ้าเธอไม่สนใจล่ะก็ ฉันก็จะบดมันให้เป็นผุยผง”
“อย่านะ!”
ฉู่ลั่วหานราวกับลูกไก่ในกำมือ ดึงสติตัวเองกลับมา ความเย่อหยิ่งและความทระนงตนเมื่อครู่พังทลายจนหมดสิ้น ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีจุดอ่อน ไม่มีจุดตาย
ถ้าหลงเซียวเล่นตระกูลฉู่ขึ้นมาล่ะก็ เท่ากับเธอไม่มีทางเลือกอะไรทั้งนั้น
คำพูดที่ตื่นตกใจของผู้หญิงคำเดียว ทำให้น้ำนิ่งในใจเขากระเพื่อมอย่างเบาๆ หลงเซียวจ้องมองไปที่ใบหน้าของเธอ“เธอจำไว้ให้ขึ้นใจ ความอดทนของฉันมีจำกัด ไม่สามารถเตือนสติเธอทุกครั้งได้”
ฉู่ลั่วหานจำไม่ได้ว่าหลงเซียวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่ายังไง จำได้เพียงแต่ตัวเองยังคงยืนอยู่ที่ทางขึ้นบันได ขาชา ไม่สามารถขยับไปไหนได้
ราวกับมีพายุทรายพัดเข้าตา แต่กลับไม่มีน้ำตาหยดออกมาจากตาของฉู่ลั่วหานแม้แต่หยดเดียว
หลงเซียวเดินออกมาจากรีสอร์ทหยีจิ่ง จี้ตงหมิงที่นั่งอยู่ในรถไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
ตัวรถขับขึ้นสะพานสูง แต่จี้ตงหมิงไม่รู้จริงๆว่าควรขับไปไหนดี ถึงถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ “บอส คืนนี้…..จะไปไหนครับ”
หลงเซียวมองเขาอย่างเย็นชา เพียงแค่บอกออกมาเขาก็พร้อมที่จะหมุนพวงมาลัย อยู่ๆเขาก็ตะคอกขึ้นมา“กลับไป!”
จี้ตงหมิงสะดุ้งสุดตัว“บอสครับ……กลับ…..กลับไปไหนล่ะครับ”
ครั้งนี้มีเพียงแต่สายตามรณะของหลงเซียวเท่านั้นที่ตอบกลับเขา จี้ตงหมิงคิดสถานที่นั้นออกเองภายใต้สถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายตรงหน้า
ดูท่าทางท่านเซียวโกรธขนาดนี้คงจะทะเลาะกับคุณนายมาสินะ คนที่ทำให้ ท่านเซียวโกรธได้ขนาดนี้ เห็นทีทั้งโลกคงจะมีแต่คุณนายคนเดียวเท่านั้น
เพราะปกติคนที่กล้ายั่วโมโหท่านเซียว คงต้องลงไปนอนใต้ดินกันหมดแล้ว
แต่ตอนที่จี้ตงหมิงเสี่ยงตายขับกลับไปที่รีสอร์ทหยีจิ่งอีกครั้ง สายตาของบอสราวกับมีไฟลุกไหม้ “ใครให้นายขับกลับมา?!”
จี้ตงหมิงหัวใจแทบแตกสลาย รีบทำใบหน้าประจบประแจง ยิ้มแฉ่ง “บอส…….ไม่ได้เป็นคนสั่งให้ผมขับกลับมาหรอกหรอครับ …….หรือว่าไม่ใช่ที่นี่”
“ไม่อยากทำแล้วใช่มั้ย?!”
จี้ตงหมิงกลืนน้ำลายดังเอื้อก “งั้น……บอสอยากไปไหนล่ะครับ”
นี่ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว ขับรถเล่นก็ไม่ได้ เรื่องที่เกิดขึ้นกับโม่หรูเฟยเมื่อตอนกลางวันจี้ตงหมิงก็เห็นกับตาตัวเอง ยังไงคืนนี้บอสก็ไม่เข้าไปหาแน่ๆ คฤหาสน์ของตระกูลหลง ยิ่งแล้วใหญ่
เหลือแต่รีสอร์ทเหาถิงที่เขาอยู่ แต่ถ้าเขาจะไปจริงล่ะก็ กลางดึกแบบนี้ก็คงไม่ให้เขาขับมาถึงที่นี่หรอก
ใจของบอสเขายากที่จะเดา ผู้ช่วยอย่างเขานี่สิเหนื่อยยิ่งกว่า
หลงเซียวยังไม่วายหายโมโห นั่งเงียบอยู่บนรถได้สักพัก ไม่ได้ออกคำสั่งให้จี้ตงหมิงทันที แต่กลับมองทะลุหน้าต่างรถ มองไปยังหน้าต่างที่มีแสงไฟลอดออกมาจากชั้นสอง
หน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสมีม่านกั้นอยู่ ทำให้มองไม่เห็นเงาคนข้างใน แต่กลางคืนที่เงียบสงัด ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าราวกับส่งเสียงดังฟังชัดออกมา เสียงลมหายใจอ่อนๆของเธอ กลิ่นหอมของตัวเธอ ค่อยๆพัดมาตามสายลม
ราวกับทุกอย่างอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่จริงๆแล้วไกลสุดลูกหูลูกตา
Shit!ท่านเซียวโมโหแล้ว!
เขามีทั้งทรัพย์สมบัติเงินทอง ทั้งอำนาจ ทั้งสถานะของตัวเขาเองในปัจจุบัน ผู้หญิงสไตล์แบบไหนที่เขาแตะไม่ได้ เพียงแต่เธอเท่านี้น แค่ผู้หญิงคนเดียว ทำเขาไม่เป็นอันทำการทำงาน กินข้าวไม่ลง กำไว้ในมือก็เจ็บมือ ปล่อยไปก็เจ็บใจ
พรึบ
ฉู่ลั่วหานปิดสวิตช์ไฟห้องนอน ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัว สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะผล็อยหลับไปพร้อมกับความมืดยามราตรี
“ไปเถอะ”
ท่านเซียวยกนิ้วสั่งออกไปสั้นๆ
เช้าวันต่อมา เมฆฝนปกคลุมไปทั่ว ท้องฟ้าส่งเสียงคำรามกึกก้อง
ลมฝนแรกของฤดูใบไม้ร่วง ตกกระทบลงกับน้ำหน้าส่งเสียงดังเปาะๆเหมือนฉากในหนังสยองขวัญ คฤหาสน์ที่กว้างขวางตอนนี้ดูมืดมนไปหมด
ฉู่ลั่วหานตื่นนอนเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวไปโรงพยาบาลเหมือนปกติ อยู่ๆก็ฉุกคิดถึงคำพูดที่หลงเซียวพูดเมื่อคืน มือข้างหนึ่งจิกเข้ากับเสื้อคลุมแน่น
ไม่อยากหย่า จุดประสงค์ก็คืออยากที่จะเปลี่ยนวิธีการทรมานเธอไปเรื่อยๆไม่ซ้ำกันสินะ
ไม่ว่ายังไงเธอก็จะหย่า ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร เธอฉู่ลั่วหานยังไงก็ไม่ยอมให้ใครมาควบคุมชีวิตตัวเอง!
คิดได้ไม่ทันไร เสียงกริ่งของคฤหาสน์ก็ดังขึ้น
ฉู่ลั่วหาน เดินลงไปชั้นล่าง เห็นคนอยู่บนหน้าจอ เงยหน้าขึ้นมือก่ายหน้าผาก
หลงจื๋อ!ไหนบอกว่าจะมาตอนสายๆไง! นี่มันสายบ้านไหนกัน!เพิ่งเจ็ดโมงตรงแท้ๆ!
หลงจื๋อยืนถือร่มกันฝนสีดำอยู่ท่ามกลางลมพายุ ข้างหลังมีรถเฟอร์รารี่สีแดงสะดุดตาจอดอยู่ “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ ตื่นกันยังเนี่ย รีบเปิดประตูเร็ว ฝนตก ข้างนอกหนาวมาก”
ฉู่ลั่วหานโกรธจนกัดฟันกรอด อิตานี่ตั้งใจจะทำอะไรของเขากันแน่!
มองหลงจื๋อที่กำลังอ้าปากพะงาบๆ ฉู่ลั่วหานอยากจะใช้ผ้าขี้ริ้วอุดปากเขาจะแย่!
แต่ทันทีที่กำลังจะยื่นมือออกไปเปิดประตู อยู่ๆเธอก็ชะงัก!
ถ้าเปิดประตูให้หลงจื๋อตอนนี้ แล้วรู้ว่าหลงเซียวไม่อยู่ล่ะก็ คงจะ……
พับผ่าสิ!
ฉู่ลั่วหานเกาหัวแกรกๆ ยกมือถือขึ้นมาโทรหาเบอร์ของ หลงเซียว
ทางฝั่งนั้น หลงเซียวที่ถูกปลุกตัวเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก้องกังวานแก้วหู รับสายด้วยเสียงเซ็กซี่แหบพร่า“มีอะไร”
ฉู่ลั่วหานมือข้างหนึ่งยันกำแพงไว้ หลับตาปี๋“หลงจื๋ออยู่หน้าคฤหาสน์แล้ว ทำไงดี”