คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 267 ยืนในฝั่งที่ดี รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง
ตอนที่ 267 ยืนในฝั่งที่ดี รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง
เกาจิ่งอานยกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างเย็นชา แก้วกาแฟในมือถูกเขาเล่นระหว่างนิ้วมืออย่างไม่ทุกข์ร้อน “ดูท่า หลงเซียวปฏิบัติต่อเสิ่นเหลียว ครั้งนี้คงจะเอาจริง เพียงแต่นี้ก็ไม่ควรตำหนิ เดิมทีเขาก็คือคนคนนึงที่ไม่สามารถขยี้เม็ดทรายในตาได้(ไม่สามารถทนต่อสิ่งที่ไม่ยุติธรรมได้)”
ยืนอยู่ในห้องทำงานประธานของบริษัทอึนเคอ หันหน้าไปทางนอกหน้าต่างที่ยาวจรดพื้น เกาจิ่งอานมองทัศนียภาพของเมืองหลวงอย่างครุ่นคิด การแสดงออกบนใบหน้าซับซ้อนเล็กน้อย
“เสิ่นเหลียวเผชิญหน้าหลงเซียวครั้งนี้ ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆสักนิดเลยจริงๆ อีกทั้งเพราะเรื่องนี้ เมื่อสำนักงานใหญ่ของเสิ่นเหลียวเปิดทำการซื้อขายไม่กี่วันในตอนเช้า ราคาหุ้นก็ดิ่งลงในอัตราร้อยละยี่สิบ และมีแนวโน้มที่จะดิ่งลงตลอดทาง”
เกาจิ่งอานพยักหน้า วางข้อศอกบนกำปั้น โอบแขนครึ่งนึงของตัวเอง จิบกาแฟอึกนึง “ดูท่าฉันต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ต่อMBKซะหน่อย”
“ความหมายของประธานคือ…..” ผู้ช่วยไต่ถามประโยคนึงอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นก็รอให้เกาจิ่งอานตอบสนองกับตัวเอง
เขามองไปที่ภาพด้านหลังของเกาจิ่งอานอย่างไม่อยากเชื่อเล็กน้อย หรือว่าเจ้านายจะต้องการแก้ไขเส้นทาง?
เกาจิ่งอานหันตัวกลับ มองลงไปยังผู้ช่วยที่เตี้ยกว่าตนเองเล็กน้อย เงาร่างที่ย้อนแสง ใบหน้ามองไม่ชัดเจน บนร่างกายถูกฝังด้วยแสงจางๆ ก็ยิ่งอำพรางสีหน้าที่ไม่อาจคาดเดาได้ของเขา
“เสิ่นเหลียวเป็นคนยังไง คุณก็รู้?”
ผู้ช่วยพยักหน้า “รู้ ขาวดำทั้งสองอย่างทำให้เขามีชื่อเสียงแค่ไหน ที่เมืองเจียงเฉิงได้นับการตอบรับอย่างมาก คนธรรมดาไม่กล้ายั่วเย้า อีกทั้งได้ยินมาว่า เขาโหดเกี้ยมอำมหิต ทำให้คนของเขาไม่พอใจไม่ว่าสิ่งใดก็ตาม ผลสุดท้ายก็ไม่ได้มีจุดจบที่ดี”
เกาจิ่งอานดื่มกาแฟอีกอึกนึง ยิ้มๆ “ตัวละครเสิ่นเหลียวนี้จะกลับไปที่หลงเซียวนั่นอย่างล้มลุกคลุกคลาน ฉันยังจะโง่แข่งขันกับเขาไหม? ที่วางแผนครั้งที่แล้ว เริ่มใหม่อีกครั้ง และบอกกับตู้หลิงเซวียนว่า บริษัทอึนเคอไม่ประสงค์จะร่วมมือกับนอกประเทศชั่วคราว ให้เขาหาร่วมมือกับคนอื่นๆเถอะ”
ผู้ช่วยสีหน้าตกตะลึง “แต่ว่าประธาน นี่คุณไม่เจรจากับคุณชายตู้ให้ดีก่อนหรอ? คิดที่จะเปลี่ยนใจชั่วคราว จะทำให้คุณชายตู้คิดว่าคุณกำลังปั่นหัวเขาอยู่หรือเปล่า?”
เกาจิ่งอานยกมุมปากขึ้น “ถ้าหลงเซียวและตู้หลิงเซวียนคนทั้งสองคนจำเป็นต้องทำให้ใครคนหนึ่งไม่พอใจ คุณคิดว่าฉันควรจะเลือกยังไง?”
ผู้ช่วยเข้าใจภายในเสี้ยววินาที “โอเค ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
“อืม”
ผู้ช่วยออกไปจากห้องทำงานแล้ว ริมฝีปากของเกาจิ่งอานก็ลดลง ความลึกซึ้งของรอยยิ้มก็เพิ่มมากขึ้น
คนกระดูกแข็ง(คนที่ยากที่จะจัดการ)อย่างหลงเซียวนี้ ไม่ใช่ใครๆจะเคี้ยวได้ ต้องดูสถานการณ์ให้ชัดเจนกำหนดตำแหน่งของตัวเองให้ถูกต้องแม่ยำโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกเขากัดแหลกเป็นชิ้นๆอย่างโหดเหี้ยมเป็นแน่
คิดถึงตรงนี้ เกาจิ่งอานก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
เสียงรอสายดังสักครู่ก็มีคนรับสาย
“ฮ่าๆๆ! คุณชายหลง ฝีมือรวดเร็วและดุดันเช่นเคย ครั้งนี้เสิ่นเหลียว……”
——
เมื่อได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วยตู้หลิงเซวียนกำลังจัดเสื้อผ้าที่สวมใส่ เตรียมจะไปโรงพยาบาลเยี่ยมลั่วหาน ร่างที่ใส่ชุดสูทยืนตรงในกระจก หยิบมือถือที่ดังขึ้นมา
“พูดมา”
นิ้วมือกลัดกระดุมบนกระบอกแขนเสื้อ เงาร่างที่สูงใหญ่ในกระจกสวมด้วยชุดสูทสีขาวอมเทายิ่งทำให้ดูดีมีสง่ามากยิ่งขึ้น ดวงตาทั้งคู่ที่หลบซ่อนมองไม่ออกถึงความคิด เวลานี้ไม่มีลมไม่มีคลื่น
“ผู้อำนวยการ เกาจิ่งอานเปลี่ยนใจชั่วคราว การร่วมมือของพวกเรายกเลิกแล้ว ฉันเพิ่งได้รับโทรศัพท์ที่ผู้ช่วยของเขาโทรเข้ามา ดูเหมือนว่า จะเป็นเรื่องของเสิ่นเหลียวทำให้เกาจิ่งอานหวาดกลัว”
ตู้หลิงเซวียนยังคงจัดการผูกเนคไทอย่างสงบ เหมือนกับว่าการเปลี่ยนใจชั่วคราวของเกาจิ่งอานจะไม่ได้สร้างผลกระทบใดๆให้กับตนเองเลย หรือว่า เขาได้เดาผลลัพธ์นี้ไว้ก่อนแล้ว
“คนไร้ความสามารถวิตกกังวลจนไม่กล้าทำอะไรคนนึง ในเมื่อเขาไม่เต็มใจจะร่วมงานกับฉัน อย่างนั้นฉันคงต้องส่งของขวัญอันล้ำค่ากลับไปให้เขาสักชุดนึง ติดต่อบริษัททางอังกฤษ ทำเอกสารขอตกลงส่งไป”
“ครับ ผู้อำนวยการ ไม่ทราบว่าคุณวางแผนที่จะกลับนิวยอร์กเมื่อไหร่ครับ?”
ตู้หลิงเซวียนแต่งตัวอย่างประณีต ใส่นาฬิกาข้อมือ “พรุ่งนี้”
“ครับ!”
“เตรียมรถ ฉันจะไปโรงพยาบาลหวาเซี่ยเช่นเดียวกัน”
“ครับ!”
ตู้หลิงเซวียนวางสายโทรศัพท์ ยิ้มอย่างอำมหิตกับกระจก ดวงตาที่เปลี่ยนแปลงไม่ปรากฏอารมณ์ความรู้สึกที่ชัดเจน แต่ทว่ามีความคิดที่จะฆ่าซ่อนอยู่
หลงเซียว หลงเซียวคนดีคนนึง ดูท่า ฉันจะประมาทศัตรูไม่ได้.
ตู้หลิงเซวียนก้าวเท้าออกจากประตูใหญ่โรงแรม เดินก้าวยาวลงขั้นบันได
——
“หมอฉู่ คนไข้ฟื้นแล้ว! คนไข้ฟื้นแล้ว!! ปาฏิหาริย์จริงๆ! ปาฏิหาริย์! คุณและหมอถังสร้างปาฏิหาริย์แล้ว!”
หลินซีเหวินเห็นแล้วเหมือนเด็กทารกตัวโต รีบเข้าไปในห้องทำงานของเธอคว้าแขนของลั่วหานอย่างแรงและเขย่ามันอย่างสุดชีวิต
ปากกาที่ลั่วหานจับอยู่ในมือ “แกร๊ก”ถูกหลินซีเหวินโยกจนตก พยักหน้าทั้งยิ้มทั้งจนปัญญาเล็กน้อย “เอาล่ะๆ ขืนคุณโยกต่อไปอีก คนไข้ฟื้นแล้ว ฉันคงต้องถูกคุณโยกจนหมดสติ”
“ฮ่าๆ! โอเคๆ ฉันคงไม่ได้ตื่นเต้นมากเกินไปใช่ไหม? แหะๆ เพียงแต่ตอนนี้สัญญาณชีพของคนไข้ยังไม่ค่อยแน่นอนมาก จำเป็นต้องติดตามดูอาการต่อไป หมอฉู่ คุณเก่งมากจริงๆ! ไอดอลพราวเสน่ห์ที่ไม่สามารถต้านทานได้!”
ลั่วหานก้มลงไปเก็บปากกาที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วมองไปยังใบหน้าของหลินซีเหวินที่แดงระเรื่อด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “ผู้ที่ทำการผ่าตัดเคสผ่าตัดนี้คือหมอถัง ถึงแม้จะต้องการสรรเสริญเยินยอ ก็ควรจะไปหาหมอถังไหม?”
หลินซีเหวินกัดๆริมฝีปาก สอบถามความคิดเห็น “จริงหรอ? ฉันสามารถไปหาหมอถังได้ที่ไหน?”
ลั่วหานพยักหน้า “ได้แน่นอน เพียงแต่ตอนนี้หมอถังน่าจะราวน์วอร์ดอยู่ ถึงอย่างไรคนไข้ก็ตื่นแล้ว เขาต้องรีบไปเยี่ยมคนไข้แน่ คุณสามารถรอให้เขาเสร็จธุระก่อนค่อยไปสรรเสริญเขา”
หลินซีเหวินดันแว่นตาที่ดีใจมากเกินไปจนล่วงลงมาขึ้น “โอเคๆ! ฉันจะทำตามคำแนะนำของหมอฉู่อย่างแน่นอน ยกย่องสรรเสริญหมอถัง!”
ลั่วหานเบะปาก หยิบเคสผู้ป่วยออกมาหนึ่งฉบับ “ดูเหมือนว่าฉันกับเด็กอย่างพวกคุณนี้จะมีช่องว่างระหว่างวัยจริงๆ ความฉลาดหลักแหลมของพวกคุณ มากกว่ามาก เห็นได้ชัดว่าตนอยากจะไปดูหมอถัง ยังต้องใส่ชื่อฉันด้วย จริงๆเลย……”
“นี่ถูกคุณมองออกหรอ? ฮ่าฮ่า! งั้นฉันจะไปเตรียมตัวสักนิด! อ่ะ ใช่ หมอฉู่ หมอถังชอบดื่มกาแฟอะไร? เดี๋ยวฉันจะซื้อให้เขาสักแก้ว”
ลั่วหานเงยหน้าขึ้นมองหลินซีเหวิน สังเกตการแสดงออกของเธออย่างอย่าละเอียด “ผู้ช่วยหลินกับหมอถัง กังวลมากเกินไปหรือเปล่า? ยังไงเนี่ย? ชอบหมอถังหรอ?”
หลินซีเหวินก็ไม่ได้ปกปิด พยักหน้ายอมรับอย่างตรงไปตรงมา “หมอถังยังเด็กแต่เก่งมาก ทั้งหล่อทั้งอ่อนโยน แถมยังอบอุ่นสุดๆ ผู้หญิงทุกคนต้องชอบ รสนิยมของฉันตามกระแสมาก ไม่แปลกที่จะชอบเขา?”
ลั่วหานตกใจไม่เบากับความใจกล้าของหลินซีเหวิน แต่หัวใจก็อบอุ่นตาม สำหรับจิ้นเหยียนแล้ว มีคนมาชอบ ก็เป็นเรื่องที่ดี
“เขาชอบลาเต้ ไม่ใส่น้ำตาล ไปเถอะ”
“โอเคโอเค! ขอบคุณนะหมอฉู่! Idol กดlike!”
หลินซีเหวินวิ่งออกจากห้องทำงานเหมือนนกออกจากกรง
ลั่วหานได้แต่เพียงยิ้มอีกครั้ง ดวงตาที่สวยงามทั้งคู่ก็ยิ้มไปด้วย
แว่วๆ ลั่วหานต้องประหลาดใจที่ได้ยินความตื่นเต้นครึกครื้นของพวกพยาบาลที่ทางเดิน เสียงพูดคุยค่อยๆดังขึ้น ดูเหมือนว่าจะได้พบกับบุคคลที่น่าทึ่ง
“ว้าว! หล่อจัง! ยังมีเสน่ห์ นี่คือใคร?”
“ไม่เคยเห็นนะ แต่หน้าตาดีจริงๆ เหมือนดาราเลย!”
“ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่……มาที่แผนกของพวกเรา ถ้าไม่ป่วยจนเกินเยียวยา ก็เป็นคนในครอบครัวของผู้ป่วย ท่านนี้น่าจะไม่ได้เป็น……”
หืม? ลั่วหานจำไม่ได้ว่ามีบุคคลเช่นนี้เป็นคนไข้ของเธอ
กำลังสงสัยอยู่ในใจ ประตูห้องทำงานของฉันก็ถูกเคาะดังขึ้น
เงยหน้าขึ้นมา ภาพร่างสูงใหญ่ก็ยืนอยู่ด้านนอกประตู มองตามเสื้อสูทรีดเรียบขึ้นไป ต้องแปลกใจกับใบหน้าอันหล่อเหลาที่คุ้นเคยตรงหน้าตอนนี้
ประหลาดใจมาก นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเขา
“เควิน? คุณมาที่นี่ได้อย่างไร? ไม่สบายหรอ?”ลั่วหานผลักเก้าอี้ออกแล้วลุกขึ้นยืน ยื่นมือไปทักทายให้เขาเข้ามานั่ง
รอยยิ้มที่สง่างามและหาที่เปรียบไม่ได้ของตู้หลิงเซวียนเผยให้เห็นกิริยาท่าทางของผู้ดีอยู่ลึกๆ ดูเหมือนว่าเขาคือมกุฎราชกุมารที่ก้าวลงจากบัลลังก์สูง ต้องเป็นที่เคารพเลื่อมใสของทุกคนอย่างแน่นอน
“ฉันตั้งใจมาหาคุณโดยเฉพาะ สะดวกไหม?”
ลั่วหานยิ้มอย่างสุภาพ “คนอื่นมาหาอาจไม่สะดวก คุณมาหา ต้องสะดวกแน่นอน เชิญนั่งเถอะ”
เชิญตู้หลิงเซวียนนั่งลง ลั่วหานตะโกนเรียกหวาเทียน “ผู้ช่วยหวา รินน้ำชาให้คุณชายตู้แก้วหนึ่ง”
ตู้หลิงเซวียนมองไปรอบๆห้องทำงานของลั่วหาน คำนับชื่นชม “เป็นสไตล์ของคุณจริงๆ เพียงแค่ดูของตกแต่งห้องทำงานก็รู้แล้วว่าเจ้าของต้องเป็นคุณ”
ลั่วหานยิ้มเล็กน้อย “มาหาฉันแต่เช้าขนาดนี้ คุณคงไม่ได้มาชื่นชมสไตล์การตกแต่งห้องทำงานของฉันใช่ไหม?”
ทุกครั้งที่ตู้หลิงเซวียนเข้าใกล้ ลั่วหานเคยชินที่จะเปิดเครื่องเตรียมป้องกัน ปฏิกิริยาตอบโต้แบบนี้ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด แต่ว่าดูเหมือนจะเป็นสัญชาตญาณที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ตู้หลิงเซวียนยิ้มพยักหน้า “คุณแอนน่าฉลาดจริงๆ บางครั้งคนฉลาดคิดอยากทำอะไรแต่ไม่มีโอกาสที่จะได้ทำ”
เขากึ่งตลกกึ่งจริงจัง มองลึกเข้าไปในสายตาของลั่วหาน
หวาเทียนถือถ้วยน้ำชามาให้ตู้หลิงเซวียน แววตาหยุดอยู่ที่เขาไม่กี่วินาที หลังจากนั้นก็กลับออกไป
ลั่วหานรู้สึกไม่ชัดเจน “มีเรื่องอะไร คุณบอกมาตรงๆดีกว่า”
ตู้หลิงเซวียนจิบน้ำชาหนึ่งที “ไม่มีอะไร ก็แค่มาหาคุณ พรุ่งนี้ฉันจะกลับนิวยอร์กแล้ว ก็แค่อยากมาหาคุณ”
ประโยคที่อ่อนโยนของเขา ดูเหมือนว่าจะไม่มีพิรุธอะไร มองไม่ออกว่าคิดเลยเถิดไปนิดๆ เกือบจะจริงใจทำให้จูงใจลั่วหาน
“พรุ่งนี้? พรุ่งนี้ฉันมีผ่าตัด คาดว่าจะไม่ได้ไปส่งคุณด้วยตนเอง”
“แอนน่า คำพูดปฏิเสธของคุณ แต่ไหนแต่ไรมาทำให้คนไม่สามารถโต้แย้งได้ จริงๆเลย……” เขาไม่ได้พูดในสิ่งที่อยากพูด แต่ทั้งสองคนก็รู้ดี
กับเควิน ลั่วหานไม่ถึงกับเข้าใจด้วยตนเอง แต่ความคิดของเขาลึกซึ้ง จุดนี้ลั่วหานเข้าใจดี
เขาทำทุกอย่าง ด้วยวัตถุประสงค์บางอย่างแน่นอน ในช่วงไม่กี่ปีที่รู้จักกันมา เธอก็รู้ดี
ดังนั้น ลั่วหานรู้สึกทั้งหมด ไม่ว่าตู้หลิงเซวียนจะปรากฏตัวต่อหน้าเธอในฐานะอะไร ก็น่าสงสัยทั้งนั้น
“ฉันพูดความจริง ไม่ได้มีความหมายที่จะโยนความรับผิดชอบใดๆ ไม่เช่นนั้น คุณเปลี่ยนตั๋วเครื่องบิน เปลี่ยนเวลาอย่างที่พูด ฉันก็จะต้องไปส่งคุณด้วยตัวเองแน่นอน”
“คนไข้สำคัญ ฉันเข้าใจ”
“ฉันขอบคุณคุณแทนผู้ป่วย”
อีกครั้ง ที่ยิ้มอย่างเข้าใจโดยไม่ต้องพูดออกมา
กลยุทธ์ของทั้งสองคน เข้าใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี
ในขณะที่คุยกัน โทรศัพท์ของตู้หลิงเซวียนก็ดังขึ้น
“ขอโทษนะ ฉันรับโทรศัพท์ก่อน”
“โอเค”
ตู้หลิงเซวียนเดินไปยังด้านหน้าของหน้าต่าง “มีอะไร?”
“ท่านประธาน ผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนใหม่ของบริษัทพบว่ามีสารก่อมะเร็ง ปัจจุบันสำนักกำกับดูแลคุณภาพในสหรัฐอเมริกากำลังดำเนินการตรวจสอบการสุ่มตัวอย่างสำหรับผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน เกรงว่าท่านต้องกลับมารอบที่เร็วที่สุด”
ตู้หลิงเซวียนหรี่ตาลง!
“เกิดเรื่องอย่างนี้ได้อย่างไร”
“หมายความว่าสำนักกำกับดูแลคุณภาพ พวกเขาได้รายงานเป็นทางการแล้ว แต่ผลิตภัณฑ์ของเราไม่เคยมีปัญหาด้านคุณภาพ การตรวจสอบครั้งนี้ ผลิตภัณฑ์บนเคาท์เตอร์หยุดขายทั้งหมด ส่งผลเสียอย่างมากต่อชื่อเสียงและยอดขายของบริษัท
“ฉันรู้ ฉันจะกลับไปโดยเร็วที่สุด”