เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 293 จางหงผู้จอมปลอม
“ที่ชั้น7”
จูหลินชิงพาฉินเฟิงมายังชั้น7ของโรงพยาบาลนี้
ฉินเฟิงก็มองสัญลักษณ์
เป็นห้องชุดSVIP
จูหลินชิงไม่ค่อยได้มา ไม่ค่อยคุ้นเส้นทางของโรงพยาบาลนี้ และไม่รู้ว่าห้องชุดSVIPมันเป็นระดับไหน เป็นห้องชุดที่เหมือนกับโรงแรม
เป็นห้องไม่กี่ห้องที่แพงที่สุดในโรงพยาบาล
ที่บอกว่าวันละหลายพันก่อนหน้านี้ ก็จะดูน้อยไป ระดับนี้ คงคืนละหลายหมื่น
“เอ่อ จางหงเป็นใครมาจากไหน? ”
ฉินเฟิงถามอยู่ข้างๆ
“ที่มาที่ไปหรือ? ก็ไม่เห็นมีอะไรนะ เป็นเพื่อนในห้องเรียนฉันไง ปกติก็ดีกับฉันมาก แต่มีจุดหนึ่ง ฉันไม่ชอบ เขามักจะชอบอาศัยจังหวะแต๊ะอั๋งฉัน ครั้งก่อนก็ถูกฉันด่าไป ต่อมาก็ดีขึ้น กลายเป็นสุภาพบุรุษ นิสัยดีมาก”
จูหลินชิงก็ทำหน้ายิ้มๆ
สำหรับเธอแล้ว ในโลกนี้ล้วนมีคนที่เคยทำผิดพลาด แต่พอกลับตัวเป็นคนดีได้ก็ดีแล้ว
ก็เหมือนกับตอนนี้ ที่ช่วยเหลือเธอมากมาย
“เข้าใจแล้ว”
ฉินเฟิงไม่ได้คัดค้านอะไร
“ไปกันเถอะ”
แล้วก็ผายมือ ให้จูหลินชิงเดินต่อไป
ไม่นานก็เดินมาถึงห้องที่อยู่ท้ายสุด ตกแต่งหรูหรามาก จนแทบจะไม่เหมือนห้องพักฟื้นคนป่วยแล้ว พอเปิดเข้าไปดู ก็กลับมาเหมือนกับห้องผู้ป่วยเหมือนเดิม เพราะว่ามีอุปกรณ์การแพทย์มากมาย
ดูแล้วกูเป็นมืออาชีพมาก
“ย่าคะ”
บนเตียง มีคนแก่อายุ70กว่า หน้าซีด ผิวหนังเหี่ยวย่นด้วยความชรา นอนอยู่บนเตียง มีมือโผล่ออกมาครึ่งหนึ่ง แล้วกำลังกระดิกนิ้ว
จูหลินชิงเรียก แล้วก็เข้าไปดูเธอ
แต่ว่าหญิงแก่คนนั้นยังคงหลับตาอยู่
“หลินชิง ตอนนี้ย่ายังสลบอยู่”
ด้านข้างเตียง มีชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่งตัวด้วยชุดสูท ท่าทางน่าเชื่อถือ ทรงผมแสกกลางคนหนึ่ง กำลังปลอบใจจูหลินชิง
“จางหง ขอบคุณนายมากนะ”
จูหลินชิงมองจางหงด้วยสีหน้าซาบซึ้ง
“ไม่เป็นไร ทุกอย่างมันจะดีขึ้นนะ”
จางหงเดินเข้ามา แล้วก็อ้าแขนออก เหมือนจะกอดเพื่อปลอบใจจูหลินชิง
แต่ว่า จูหลินชิงก็ถอยหลังออกมา
เพื่อหลบเลี่ยง
ทำให้จางหงมีสายตาที่ไม่พอใจออกมา แต่ไม่นานก็หายไป
“เอ่อ…….อาการของย่าฉัน………เป็นอย่างไรบ้าง? ” จูหลินชิงถามเบาๆ
“ค่อนข้างหนักอยู่เหมือนกัน”
จางหงมีสีหน้าหนักใจขึ้นมา
“ห้ะ……รุนแรงแค่ไหน? ” จูหลินชิงถาม
“ให้หมอประตัวมาอธิบายให้คุณฟังก็แล้วกัน”
จางหงก็สะบัดมือ จากนั้นก็มีเข้ามาจากด้านข้าง
“สวัสดีครับ ผมชื่อหลี่เลี่ยง ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยการแพทย์ตี้อีของหนานโจว และเป็นแพทย์อาวุโสในมหาวิทยาลัยการแพทย์ตี้อีของเมืองเทียนหนาน”
หมอคนนั้น แสดงบัตรประจำตัวที่หน้าอก แสดงตำแหน่งหน้าที่ของตนเอง
“สวัสดีค่ะ คุณหมอหลี่” จูหลินชิงพูดเสียงอ่อนๆ
“อาการของคุณย่าคุณ ไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไรนัก เธอได้สลบไปแล้ว3วัน อย่างช้าที่สุด พรุ่งนี้จะต้องทำการผ่าตัดด่วน แต่ว่า การผ่าตัด จะต้องทีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก”
หมอหลี่เลี่ยง มีสีหน้าจริงจังและเคร่งขรึม
“ใช้เงินจำนวน ต้องการเท่าไร?”
จูหลินชิงถามเสร็จ ก็หันไปมองฉินเฟิง แล้วก็พูดอย่างมั่นใจๆ ว่า “เอ่อ……เอามาให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ? ”
ใช้น้ำเสียงขึงขัง พูดประโยคนิ่มๆ ออกมา
“ได้”
ฉินเฟิงก็โยนให้เธอ
“เอ่อ หมอคะ ฉันมีแค่พันเดียว เป็นเงินที่ฉันเก็บออมไว้ ไม่ทราบว่าพอหรือเปล่า ถ้าไม่พอ เดี๋ยวฉันไปหาทางหาเงินมาให้เอง เดี๋ยวไปหางานทำ”
จูหลินชิงพูดอย่างลำบากใจ
“เงินพันเดียวของคุณ…….คุณจู คุณรู้ไหมว่าการผ่าตัดครั้งหนึ่งต้องใช้เงินมากมายเท่าไร? 10ล้าน เงินพันเดียวของคุณ มันเข้าห้องผ่าตัดไม่ได้ด้วยซ้ำ ก็หมดแล้ว”
หลี่เลี่ยงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที จากนั้นก็เอาเงินโยนกลับมาให้จูหลินชิง แล้วพูดว่า “ผมจะบอกให้นะ ช้าที่สุดอีก1วัน หลังจากวันพรุ่งนี้ ถ้าคุณยังไม่สามารถจ่ายเงินได้ล่ะก็ ย่าคุณก็รอความตายได้เลย”
ประโยคสุดท้าย รอความตาย พูดแรงมาก
เหมือนกับจะเสียชีวิตเร็วๆ นี้แล้ว
พอหมอคนนั้นออกไปแล้ว จูหลินชิงก็ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ดวงตาทั้งสองไร้สติ เงิน10ล้าน สำหรับเธอแล้ว มันเป็นตัวเลขมหาศาลมาก แค่เงินพันเดียว ก็ยังเก็บออมไว้ตั้งนาน
แต่ว่า ตอนนี้จะเอา10ล้าน
“ย่าคะ”
จูหลินชิงมองย่าตนเองอย่างเคว้งคว้าง น้ำตาก็ไหลออกมา
“หลินชิง”
จางหงเห็นดังนั้น ก็เดินเข้าไป เตรียมจะกอดจูหลินชิงที่กำลังร้องไห้ แต่เขาไม่คิดเลยว่า สถานการณ์ก็มาถึงขั้นนี้ จูหลินชิงก็ยังถอยออกไป ไม่ให้เขาได้กอด
กลายเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว
ทำให้สายตาของจางหงสาดความเย็นชาออกมา แต่ว่าวินาทีถัดไปก็หายไป แล้วพูดกับจูหลินชิงด้วยสีหน้าอบอุ่นว่า “หลินชิง ไม่เป็นไรนะ ผมมีวิธี”
“จางหง คุณมีวิธีงั้นหรือ”
พอได้ยิน จูหลินชิงก็เอียงหัวมา แล้วก็มองจางหง
“อืม แต่ว่าต้องลำบากคุณหน่อยนะ”
บนใบหน้าของจางหงเผยสีหน้าอดใจไม่ได้ออกมา
“ลำบากงั้นหรือ?”
“อืม ผมไม่ใช่ลูกคนโตของตระกูลจาง ไม่ได้สืบทอดตระกูล แต่ผมก็เป็นเชื้อสายตระกูลนี้ ตระกูลจางของเรามีกฎไว้ว่า เชื้อสายของตระกูลได้แต่งงาน ก็จะได้เงิน10ล้านมาหมุนเวียนใช้ และหลังจากนั้น ก็ต้องมีลูกกันด้วย ไม่อย่างนั้น จะต้องชดใช้เงิน10ล้านนี้”
จางหงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
มันมีกฎเกณฑ์แบบนี้อยู่จริง เป็นกฎที่ตระกูลใหญ่ๆ มีไว้เพื่อขยายตระกูลตนเอง
“แต่งงานงั้นหรือ?”
จูหลินชิงอึ้งไป
“ใช่ หลินชิง นอกจากคุณแล้ว ผมก็ไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนเลย ถ้าให้ผมไปแต่งงานกับหญิงคนอื่น ก็ไม่สู้ให้ผมไปตายดีกว่า เพื่อย่าของคุณ พวกเราจำเป็นต้องแต่งงานกัน”
จางหงทำท่าเหมือนทำทุกอย่างเพื่อจูหลินชิง
เหลือแค่ที่ยังไม่ได้ร้องไห้ออกมาเท่านั้นเอง
แต่ว่า ก็แสดงความหมายหนึ่งออกมาว่า ถ้าอยากช่วยย่าคุณ ก็จำเป็นต้องอยู่กับผม ไม่อยากนั้นก็ไม่มีทางเลือก
“คือฉัน……”
จูหลินชิงตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน จนทำอะไรไม่ถูก
ส่วนจางหง ก็หยิบแหวนวงหนึ่งออกมา เดินเข้าไป แล้วพูดด้วยสายตาลึกซึ้งว่า “หลินชิง คุณรู้มาตลอด ว่าผมชอบคุณ ชอบคุณตั้งแต่ที่มหาวิทยาลัยแล้ว และตอนนี้ มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกของผมฝ่ายเดียว ยังได้ทำเพื่อคุณย่าของคุณด้วย ย่าคุณเลี้ยงดูคุณมาจนเติบโต บุญคุณนี้ คุณควรจะจดจำมันนะ”
จางหงเดินเข้าไป เดิมทีจูหลินชิงก็ควรจะถอยห่างด้วยสัญชาตญาณ
แต่พอได้ยินครึ่งประโยคหลัง ฝีเท้าก็หยุดนิ่งลง ไม่กล้าขยับต่อ และขยับไม่ได้แล้ว จางหงพูดถูกต้อง ถ้าเธอถอยออกไปแบบนี้ ชีวิตของย่าเธอ ก็จะไม่เหลือแล้ว
เธอจะถอยไม่ได้
จางหงเห็นจูหลินชิงนิ่งไป สายตาก็เผยความหื่นกามออกมา เขาอยากจะได้ตัวของจูหลินชิงมาตลอด จูหลินชิงเป็นถึงหญิงสาวบริสุทธิ์ที่มีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัย
แต่ว่าถูกปฏิเสธมาตลอด
แต่วันนี้ ในที่สุดเขาก็จะได้หญิงสาวคนนี้แล้ว ไม่เพียงได้ตัวมา แถมยังเล่นได้อย่างสะใจ เขาเชื่อว่า ไม่ว่าเขาจะทำรุนแรงแค่ไหน จูหลินชิงก็คงจะไม่ปฏิเสธ
เพราะว่า ความเป็นตายของย่าเธอ อยู่ในมือของเขา
แต่ว่า ตอนที่เขาจะได้กอดจูหลินชิงแล้วนั้น ทางด้านข้าง ก็มีเสียงแก่ๆ ดังขึ้นมาว่า “แค๊กๆ หลินชิง รีบมาหาย่าสิมา”
จางหง: “???”