เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1910 ดักฆ่าในคืนมืด
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1910
งานเลี้ยงดำเนินต่อไปอีกครู่ใหญ่ อิ่มหนำสำราญ ทุกคนถึงได้พากันกลับไป
งานเลี้ยงนี้เต็มไปด้วยเสียงเครื่องดนตรีกับการร้องเต้นที่อ่อนช้อย
ไม่ว่าคนที่เข้าร่วมงานเลี้ยง หรือว่าคนที่รับชมงานเลี้ยงภายในเมืองฉิงเทียนต่างรู้สึกดีมาก
กลุ่มคนพูดกันไม่หยุด วิพากษ์วิจารณ์ผู้แข็งแกร่งร้อยคนต่างกันไป
ในใจของแต่ละคนมีตัวเลือกแรกของตัวเอง
เพียงแต่ตอนนี้ ยังไม่มีใครมั่นใจว่าคนที่ตัวเองเชียร์จะเดินไปถึงตอนสุดท้ายไหมก็เท่านั้น
หน้าประตูพระราชวัง รถม้าค่อยๆ จากไป
สำหรับผู้แข็งแกร่งที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนนั้น กินอะไร เล่นอะไรเป็นเรื่องไม่สำคัญ
ที่สำคัญคือจะชนะการต่อสู้ครั้งต่อไปได้อย่างไร
ดังนั้นงานเลี้ยงยังไม่จบก็มีคนจำนวนมากที่กลับไปอย่างรีบร้อน
เห็นได้ชัดว่าต่างรีบกลับไปหลอมหินแร่กุยหยวน
สำหรับเรื่องนี้ ลู่ฝานทำได้เพียงอวยพรให้พวกเขาโชคดี เขาไม่มีวิธีที่จะช่วยคนจำนวนมาก ทำได้เพียงช่วยคนข้างกายของตัวเองเท่านั้น
ภายในพระราชวัง บนรถม้าราชวงศ์
ลู่ฝานพูดกับสิบสาม “จำคำพูดของฉันได้แล้วยัง ตอนนี้นำคำพูดเหล่านี้บอกพวกศิษย์พี่ใหญ่ ให้พวกศิษย์พี่ใหญ่บอกต่อหานเฟิงกับหลิงเหยา ห้ามใช้หินแร่กุยหยวนเด็ดขาด แม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดทำลายมันทิ้งไป”
สิบสามพยักหน้าอย่างเข้าใจจากนั้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
หนานกงสิงตามขึ้นรถม้า พุงกางพูดขึ้น “ไม่ได้กินอิ่มขนาดนี้นานมากแล้ว หัวหน้าสำนักมีความจำเป็นต้องระวังขนาดนี้เหรอ นายไปบอกพวกเขาตรงๆ ก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
ลู่ฝานนวดหน้าผากพูดขึ้น “ปลอดภัยไว้ก่อน หลิงเหยาไม่ยอมมาใช่ไหม?”
หนานกงสิงยักไหล่พูดขึ้น “เธอบอกกับฉันว่า ให้หัวหน้าสำนักรีบจัดการเรื่องให้เสร็จ อันตรายอะไร เธอไม่สนใจสักนิด เธอคิดว่าติดตามอาจารย์ของนายค่อนข้างปลอดภัย และก็ไม่เป็นการสร้างเรื่องให้กับนาย”
ลู่ฝานพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วพูดขึ้น “อืม มีอาจารย์อยู่ วางใจได้หน่อยจริงๆ นั่นแหละ เอาเถอะ ไปกัน พวกเราควรกลับได้แล้ว”
ลู่ฝาน อู่คงหลิง หนานกงสิงที่นั่งอยู่บนรถม้าค่อยๆ เคลื่อนไปทางจวนองค์ชายใหญ่
อู่คงหลิงหรี่ตาเล็กน้อย เอนตัวไปทางลู่ฝานแล้วพูดขึ้นเสียงเบา “ลู่ฝาน อันนี้ให้นาย”
ขณะพูดอู่คงหลิงนำมุกหนึ่งเม็ดยัดใส่มือลู่ฝาน
ลู่ฝานเพ่งสมาธิไปด้านใน มองสิ่งที่อยู่ภายในมุกแล้วพูดอย่างตกตะลึง “เธอเอาของสิ่งนี้มาได้อย่างไร? นี่เธอหามาทั้งหมดเลยเหรอ?”
อู่คงหลิงพูด “แน่นอน นายคิดว่าช่วงที่ผ่านมา ฉันต้องการกำลังคนมากขนาดนั้นไปทำไม ลู่ฝาน ฉันพูดแล้วว่าฉันไม่ทำร้ายนาย ในทางกลับกันฉันจะช่วยนาย!
อู่คงหลิงยิ้มกริ่มพูดเสียงเบา “แน่นอน ช่วยนายก็ต้องมีของแลกเปลี่ยน อย่าโทษฉันล่ะ”
ลู่ฝานฟังคำพูดบอกเป็นนัยๆ ของอู่คงหลิงแล้วพูดช้าๆ “เธอตามสบาย”
อู่คงหลิงยิ้มตาหยีเป็นพระจันทร์เสี้ยว จากนั้นก็หอมลู่ฝานผ่านผ้าคลุมหน้า
หนานกงสิงกระแอมเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น “ฉันควรจะออกไปข้างนอกให้พวกคุณจัดการธุระหรือเปล่า!”
ลู่ฝานยิ้มพูด “ได้นะ นายออกไปสิ”
พูดจบ จู่ๆ รถม้าก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ลู่ฝาน อู่คงหลิง หนานกงสิงทั้งสามสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก
ในตอนนี้เอง ลู่ฝานเห็นทั้งรถม้าไฟลุกไหม้ขึ้นมา
ไฟลุกโชนเผารถม้าอย่างโหมกระหน่ำ ขณะเดียวกัน ร่างกายของอู่คงหลิงกับหนานกงสิงก็เริ่มแดงขึ้น
“เขตวิถี!”
ลู่ฝานอุทาน
จับอู่คงหลิงกับหนานกงสิงเอาไว้ ปราณชี่พุ่งเข้าสู่ร่างกายของทั้งสองโดยตรง ยับยั้งพลังเต๋าที่กำลังผันแปรอย่างคลุ้มคลั่งอยู่ในร่างกายของพวกเขา
ขณะเดียวกันเขตวิถีของลู่ฝานก็ถูกปล่อยออกมา
ตู้ม!
รถม้าระเบิด พลังรุนแรงพุ่งโจมตีไปที่ลู่ฝาน
เงาดำพุ่งเข้ามาในขณะเดียวกัน!
ลู่ฝานสะบัดมือโยนอู่คงหลิงกับหนานคงสิงออกไป จากนั้นก็ซัดหมัดกลับไปทางเงาดำ
ตูม!
หมัดกระแทกลงที่ตัวเงาดำ เกิดเสียงกระทบของโลหะและหิน
ในตอนนี้ลู่ฝานถึงได้เห็นชัดเจน นี่คือตราประทับขนาดใหญ่ เครื่องรางของผู้ฝึกชี่ที่ได้มาตรฐาน
บนตราประทับใหญ่ ลำแสงเก้าสีรวบรวมอยู่ภายใน แต่กลับแฝงไปด้วยพลังฟ้าดินรุนแรง
“เปิด!”
ลู่ฝานตะโกนเสียงดัง ปราณชี่พุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ลู่ฝานเงยหน้ามองไปข้างหน้า ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่าบนท้องฟ้ามีเงาดำเพิ่มขึ้นมาอีกเงา
คนผู้นี้ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้ชุดคลุมยาวสีดำ เห็นใบหน้าไม่ชัด
สิ่งเดียวที่สามารถมั่นใจได้นั่นก็คือคนผู้นี้เป็นผู้ฝึกชี่อย่างแน่นอน อีกทั้งยังเป็นอริยปราชญ์คนหนึ่ง
จากนั้นลู่ฝานมองไปทางด้านข้าง องครักษ์ที่คุ้มกันรถม้าของพวกเขา ทั้งหมดถูกเผาตาย ศพกำลังถูกเผาเป็นผงอย่างรวดเร็ว
สายตาของลู่ฝานเปลี่ยนไปเคร่งขรึมดุร้าย ดักฆ่าในคืนมืดเช่นนี้ คนผู้นี้มีความเป็นมาเป็นอย่างไรกันแน่?
ผู้ฝึกชั่วร้ายเหรอ?
น่าจะไม่ใช่ ดูเขตวิถีเปลวไฟที่รุนแรงนี้ และพลังฟ้าดินที่ได้มาตรฐาน ไม่มีออร่าปีศาจสักนิด ไม่ใช่พลังของผู้ฝึกชั่วร้ายแน่นอน อย่างน้อยลู่ฝานก็ไม่รู้จักผู้ฝึกชั่วร้ายคนไหนที่สามารถซ่อนเร้นออร่าปีศาจได้ถึงขั้นนี้
คนชุดดำเห็นว่าโจมตีไร้ประโยชน์ นิ้วมือเรียกวิชาขึ้นมาอีกครั้ง
ลู่ฝานสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทันใดนั้นรู้สึกได้ว่าเขตวิถีที่อยู่รอบด้านเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้น จากนั้นกดทับลงมาอย่างรุนแรง
ในเขตวิถี เปลวไฟเก้าสีออกมาพร้อมกัน ปิดล้อมซ้ายขวาบนล่างของลู่ฝานเอาไว้อย่างแน่นหนา
ความคิดชัดเจนอย่างมาก นั่นก็คือใช้พลังรุนแรงที่สุดกดทับลู่ฝานให้ตายไปโดยตรง
เรื่องที่อริยปราชญ์ปฏิบัติต่อนักบู๊ปราณฟ้าเดิมไม่มีความพะวงอยู่แล้ว
แต่น่าเสียดายที่เขาได้เจอกับลู่ฝาน
ทันใดนั้น ลู่ฝานก็ปล่อยเขตวิถีของตัวเองออกไป สกัดกั้นการโจมตีของเปลวไฟเก้าสีไว้ได้อย่างแน่นหนา
มองดูรอบด้านที่กลายเป็นทะเลไฟ มือซ้ายของลู่ฝานแอบทำนิ้ววิชา
สายตามองทะลุทะเลไฟ จ้องมองคนชุดดำผู้นั้น
เมื่อเห็นว่าลู่ฝานก็ปล่อยเขตวิถีออกมา คนชุดดำตกตะลึงและชะงักเล็กน้อย
สิ่งที่ลู่ฝานรอคอยก็คือตอนนี้
“วิชาเทพไร้ขีดจำกัด เก้ามังกรระดับเทพ เริ่ม!”
ลำแสงเก้าสีปรากฏใต้เท้าของคนชุดดำ
เล่นวิชา ใครจำใช้ไม่เป็นบ้าง!
ลู่ฝานเชื่อว่า การกระทำแบบนี้ คนชุดดำต้องคิดไม่ถึงอย่างแน่
ต่างคนต่างสู้ตาย ลู่ฝานไม่มีทางใช้แค่ทักษะวิชาบู๊เหมือนกับตอนประลองหรอก
ฆ่าคนก็คือเป็นเป้าหมาย!
แต่วินาทีต่อมา เรื่องที่ทำให้ลู่ฝานตกตะลึงเกิดขึ้นแล้ว
ในมือคนชุดดำเกิดค่ายกลขึ้นกะทันหัน เทพมังกรเก้าตัวที่เพิ่งปรากฏตัวเมื่อครู่ ถูกกดอัดดินในทันที
เหมือนว่าเขาเตรียมตัวรับวิชานี้ของลู่ฝานไว้ตั้งนานแล้ว!
ขณะที่ป้องกันก็ลอบโจมตีไปด้วย!
เก้ามังกรถูกกดทับจนกลายเป็นก้อน สุดท้ายก็แตกดับ
คนชุดดำยิ้มมุมปาก กำลังจะลงมืออีกครั้ง
จู่ๆ เห็นกระบี่หนักสีดำเล่มหนึ่งพุ่งตรงมาที่เขา
ในตอนนี้คนชุดดำลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย ร่างกายสลายหายไป ชั่วพริบตาหลบกระบี่หนักไร้คมของลู่ฝานได้
แต่กระบี่ของลู่ฝานเหมือนกับตัดผ่านช่องว่าง ทำลายความว่างเปล่า สุดท้ายก็ฟาดฟันไปที่ตัวของเขา
คนชุดดำมีแสงเพลิงพุ่งออกมาทั่วตัวในทันที ผ้าคลุมบนใบหน้าถูกตัดขาด
กระบี่หนักเหมือนกับพุ่งเป้ามาที่สิ่งนี้
แสงสว่างวาบผ่าน กระบี่หนักพลิกกลับ ตกสู่ในมือของลู่ฝาน
ในตอนนี้ลู่ฝานได้ทะลุผ่านเขตวิถีเปลวไฟมายังตรงหน้าคนชุดดำ
มองดูใบหน้าที่คุ้นเคยของอีกฝ่าย ลู่ฝานยิ้มพูด “เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้จริงๆ ประเทศตันเซิ่ง ผู้อาวุโสห้าของตระกูลหั่ว ไม่เจอกันนานนะ!”