หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 386 ปลดปล่อย
ตอนที่ 386 ปลดปล่อย
“หลายพันปีที่ผ่านมา ข้าไม่เคยได้ข่าวว่ามีผู้ใด ใช้ร่างปุ๋ยโอสถในการบ่มเพาะพฤกษามนตร์ดำอีกเลย ข้าเคยคิดว่ากระบวนการเพาะเลี้ยงที่โหดร้ายเช่นนี้ คงสูญสลายสิ้นแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าในวันนี้ข้าจะได้พบเห็นอีกครา”
คิ้วทั้งสองของเกอชีจิกแน่นเข้าหากัน เพียงจะขยับปากกล่าวคํา น้ําเสียงที่อ่อนแรงสายหนึ่งพลันดังก้องจากด้านหลัง
“ได้โปรด….ได้โปรดช่วย…..ปลิดชีวิตข้า….โปรดช่วย…..ปลิดชีวิตข้า….”
ครั้นเมื่อหันกลับมา เกอซีจึงพบกับหญิงสาวผู้คล้ายมีวัยยังไม่ถึงยี่สิบ นางนอนอยู่เหนือเตียงศิลาในห้องตรงข้าม
ทั่วทั้งร่างของสาวน้อยผู้นี้เปลือยเปล่า เรือนผมแห้งกรอบกระจัดกระจายยุ่งเหยิงบนเตียงศิลา
ต้นเห็ดสีน้ําเงินคล้ําเจริญเติบโตทั่วเรือนร่าง มันแปรเปลี่ยนเลือดเนื้อผิวหนังที่เดิมล้วนกระจ่างใสให้กลับกลายเป็นปุ๋ยดินเพื่อกลุ่มเห็ดน้อยใหญ่ และในยามนี้ร่างนั้นกําลังส่งกลิ่นอับเน่าเหม็นคลุ้งกระจาย
ต้นเห็ดพวกนี้หยั่งรากฝังลึกลงในร่างของนาง บางส่วนชอนไชติดตามเลื้อยลงสู่อวัยวะภายในเข้าจุดตันเถียน* ที่เหลือล้วนชอนไชแทรกซอนไปตามแนวกระดูก มันค่อย ๆ กลืนกินพลังชีวิตของนางไปเรื่อย ๆ ทีละน้อย
*จุดตันเถียน คือจุดรวมพลังปราณในร่าง อยู่ในตําแหน่งเหนือสะดือประมาณ 2 ข้อนิ้ว
เกอซีเหยียดยื่นฝ่ามือ หมายอาศัยพลังสํารวจดูอาการบาดเจ็บแสนสาหัสของสาวน้อยเบื้องหน้า ทว่ากลับถูกมังกรทองตัวจิ๋วเข้าขวาง
“นายท่าน ขออย่าได้สูญเสียพลังวัตร พวกเขาล้วนเกินเยียวยารักษา”
มังกรทองตัวน้อยถ่ายถอนหายใจยาว พลางกล่าวด้วยน้ําเสียงหนักใจ “เมล็ดพันธุ์ของพฤกษามนตร์ดําล้วนถูกฝังลงในร่างของพวกเขา เพื่อให้ร่างนั้นสามารถกลับกลายเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงการเจริญเติบโตของพวกมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
“เมื่อใดที่ต้นกล้าอ่อนของพฤกษาเวทแตกหน่อขึ้น ปราณชีวิตของร่างปุ๋ยโอสถและเวทพฤกษาจะถูกหล่อหลอมรวมเป็นหนึ่งจิตวิญญาณตลอด ถึงเนื้อหัวใจของร่างปุ๋ยโอสถจะถูกแทนที่ด้วยรากพฤกษา นั่นจึงเป็นเหตุให้พวกเขายังคงเหลือลมหายใจ แม้พฤกษาพวกนั้นจะกั้นขวางทางเดินลมทั้งช่องปากและจมูกจนสิ้น”
“เช่นนั้น นายท่าน แม้ท่านจะทําลายพฤกษาเวทเหล่านั้น คนพวกนี้ล้วนไม่อาจเหลือชีวิตต่อไปได้ และหากท่านไม่กําจัดพฤกษาพวกนี้ ปราณชีวิตของพวกเขาย่อมจะถูกสูบกลืนด้วยพฤกษาเวทเหล่านี้ กระทั่งเดือดแห้งสิ้นสูญและถึงความตายในที่สุด”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ใบหน้าของมังกรทองตัวจิ๋ว พลันเผยถึงความเศร้าสลด “ร่างปุ๋ยโอสถเหล่านี้ ล้วนไม่ต่างใดกับซากศพคนตาย เมื่อใดปราณชี วิตของพวกเขาจะสิ้นสูญ นั่นคือสิ่งเดียวที่ควรตั้ง คําถามในยามนี้”
“ยังมีหากพวกเขาสิ้นใจเนื่องเพราะพฤกษาเวท กลืนกินปราณชีวิตจนสิ้นจิตวิญญาณของพวกเขาจะถูกกัดกร่อนไม่เหลือ กระทั่งไม่อาจถือกําเนิดใหม่อีกครา…..เฮ้อ ! …..นายท่าน การลงมือปลิดชีพพวกเขาย่อมเป็นจุดจบที่ยอดเยี่ยม ที่สุดสําหรับพวกเขาแล้ว”
เกอซีนิ่งอึ้งตกอยู่ในความเงียบสงัดครู่ใหญ่ เมื่อได้ยินสิ่งที่มังกรทองเอ่ยกล่าว
สาวน้อยผู้นั้นยื่นมือหาเกอซี พลางส่งเสียงร้องตะกุกตะกักอีกครา “ได้โปรด…..ปลิดชีวิต พวกเรา……”
“ยังดี…กว่า….อยู่ในสภาพนี้….ให้ข้าตายเสียยังจะ…ดีกว่า…..ปลดปล่อย……”
ประกายตาของเกอซีค่อย ๆ รวมตัวหนาแน่น ก่อนกลับกลายเป็นนิ่งสงบ เถาวัลย์ม่วงอเวจีในมือเริ่มแกว่งไกวทีละน้อย
นางหันมาจ้องสาวน้อยเบื้องหน้าพลางผงกศีรษะด้วยท่าที่เคร่งเครียด “ย่อมได้ ข้ารับคําร้องขอจากเจ้า”
สิ้นคํากล่าวนั้น เถาวัลย์สีม่วงพลันปลดปล่อยประกายเพลิงสีทองสว่างไสว เมื่อปลายเถาวัลย์เหยียดพุ่งตรงออกไป เปลวเพลิงสว่างเรืองรองสีทองจึงถูกปลดปล่อยให้แผ่กระจายอาบไล้พฤกษามนตร์ดําบนร่างสาวน้อยผู้นั้น
มันสั่นกระตุกอย่างรุนแรงคล้ายรู้สึกถึงความหวาดกลัว คล้ายหมายจะวิ่งหนีหลีกห่าง
ทว่า ! เปลวไฟสีทองคือความร้อนแรงแผดกล้า เหลือประมาณชั่วพริบตา ร่างของสาวน้อยผู้นั้น ตลอดถึงกลุ่มเห็ดสีน้ําเงินเข้มล้วนถูกเปลวไฟสีทองแผดเผากลืนกิน
เปลวประกายเรืองรองโอบล้อมทั่วร่างสาวน้อย ผู้นั้นประหนึ่งนางกําลังเผชิญหน้ากับความตายอันโหดร้าย หากทว่าใบหน้าของสาวน้อยผู้นั้นกลับเผยรอยยิ้มแห่งความซาบซึ้งใจ นางหันมองเกอซีด้วยดวงตาที่เปล่งประกายเรืองรองพร้อมคํากล่าวน้ําเสียงบางเบา “ขอบใจเจ้ามาก”
ชั่วครู่อึดใจสายน้อยผู้นอนแนบบนเตียงศิลาก็ถูกเปลวเพลิงแผดเผา กระทั่งเหลือเพียงเถ้าพฤกษามนตร์ดําสลายหายไม่เหลือร่องรอย
หากทว่าเกอซีหาได้ยังหยุดแค่เพียงนั้น
เถาวัลย์สีม่วงยังคงพุ่งทะยานจากร่างของนาง พร้อมเปลวเพลิงประกายแสงสีทองที่โหมกระพือลุกโชติช่วงตลอดทั่วเขตแดนคุกใต้ดิน
***จบตอน ปลดปล่อย***