ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 91 เข้าถึงบทบาทมากเกินไป
"เธอเองก็อาศัยเรื่องที่ว่าตัวเองเกิดมาในตระกูลที่ดีเท่านั้นแหละ ถ้าหากว่าไม่ใช่พี่ชายเธอ ตระกูลเจียงของพวกเธอก็คงไม่มีทางยิ่งใหญ่ได้แบบนี้หรอกนะ เธอเองก็คิดดูหน่อยละกัน ในตอนแรกพี่ชายเธอก็เอาชีวิตไปเสี่ยงตายอยู่ในแนวหน้าของสนามรบ ใครกันล่ะที่เป็นคนช่วยชีวิตเขา!" ดวงตาของโจวหรูเจือไปด้วยความอวดดี มองมาที่เฉียวเหวยอีอย่างไม่หวั่นไหว
เฉียวเหวยอีแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วตอบกลับไปอย่างอ่อนโยนว่า "ถ้าหากว่าเขาไม่ใช่คนที่มีความสามารถพร้อมแบบนั้น เธอเองก็คงไม่ไปช่วยเขาอย่างสุดชีวิตหรอก ถูกต้องไหม"
"ผู้หญิงที่มาจากหอคณิกาแบบเธอ ก็คงมีแต่พี่สะใภ้แบบฉันเท่านั้นแหละที่จะรับได้ และยอมให้เธอเข้าตระกูลมาเป็นเมียได้"
"เยี่ยมมาก!" เมื่อเห็นว่าเฉียวเหวยอีพูดบทแสดงที่อวดดีแต่ไม่เผยให้เห็นถึงความจองหองอย่างชัดเจน ซ่งหยวนก็ส่งเสียงร้องชมเชยตามขึ้นมาในทันที
ในฉากต่อมานั้น โจวหรูจะต้องบันดาลโทสะ สาดน้ำชาที่อยู่ในถ้วยที่วางอยู่ข้างมือไปที่เฉียวเหวยอี
หากทว่า ในเสี้ยววินาทีต่อมา โจวหรูพลันลุกขึ้นยืน ฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าของเฉียวเหวยอีเข้าไปอย่างเต็มแรง "แกกล้าดียังไง!!!"
หนึ่งฝ่ามือที่ตบฉาดลงไป ทำให้ทุกคนในกองต่างอึ้งตะลึงไปตามๆ กัน
แววตาของเฉียวเหวยอีปรากฏความสับสนงุนงง แต่เมื่อรู้ตัวว่าทั้งสองคนนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการแสดง เฉียวเหวยอีก็ไม่ได้หยุดแต่อย่างใด เฉียวเหวยอีทำสัญลักษณ์มือไปทางกล้อง บอกเป็นนัยด้วยท่าทางว่าให้ดำเนินการถ่ายทำต่อไป
หลังจากนั้นสามนาที การถ่ายทำก็สิ้นสุดลง ซ่งหยวนรีบตะโกน "คัท" ออกไปในทันที แล้วเข้ามาดูใบหน้าของเฉียวเหวยอีด้วยตนเอง บนใบหน้าของเฉียวเหวยอีมีรอยประทับฝ่ามือเป็นรูปนิ้วทั้งห้าอย่างชัดเจนปรากฏอยู่ ถึงขนาดที่ว่าบวมขึ้นมาให้เห็นแล้วเล็กน้อย
โจวหรูตบลงไปจริงๆ !
ซ่งหยวนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางโจวหรู แล้วพูดด้วยเสียงอันเคร่งขรึมขึ้นมาว่า "ตอนบ่ายเสี่ยวเฉียวยังมีงานแสดงต่อ! แล้วนี่เธอจะไปถ่ายต่อได้ยังไงกัน"
"ขอโทษด้วย พอดีฉันเข้าถึงบทบาทมากเกินไปหน่อย แล้วก็ฉากเมื่อสักครู่นี้ ไม่ใช่ว่าแสดงออกมาได้ดีมากเลยอย่างงั้นเหรอ" โจวหรูถามย้อนกลับไป
"ในเมื่อเธอชอบแต่งหน้าบางๆ ถ่ายละคร การที่มีบนหน้ามีรอยประทับสีแดงๆ อยู่ ก็ไม่ใช่ว่าดีแล้วหรือ เพราะจะได้ถ่ายฉากต่อไปให้ต่อเนื่องกันเลย ช่างแต่งหน้าจะได้ไม่ต้องลงเครื่องสำอางแต่งแต้มให้เธออีก"
ครั้งนี้โจวหรูทำเกินไปแล้วจริงๆ !
คำแก้ตัวแบบนี้ ซ่งหยวนไม่แม้แต่ที่จะอยากฟัง ขณะที่กำลังจะระเบิดอารมณ์นั้นเอง ทางด้านของเฉียวเหวยอีก็รีบเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงที่แผ่วเบาขึ้นมาก่อนว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ที่อาจารย์โจวพูดมาก็ถูก เหมาะพอดีกับที่ฉันจะต้องไปถ่ายต่อตอนบ่ายเลยค่ะ"
กล่าวจบ ก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องรับแขกไป แล้วเดินไปยังเก้าอี้พับตัวเล็ก จากนั้นก็หยิบหนังสือบทละครของฉากถัดไปของตนเองที่วางอยู่บนเก้าอี้ขึ้นมาก่อนจะนั่งลงไป
ตั้งแต่เกิดเรื่องจนจบ เธอไม่ได้เผยความรู้สึกที่แสดงออกมาว่าไม่พอใจเลยแม้แต่นิดเดียว สงบนิ่งเฉกเช่นเคย
ซ่งหยวนจ้องมองไปที่เฉียวเหวยอีด้วยความรู้สึกตะลึงอยู่สักพัก ก่อนจะหันไปพูดกับทีมนักแสดงว่า "เห็นไหม นี่แหละคือการเป็นนักแสดงมืออาชีพของเสี่ยวเฉียว! เรียนรู้เอาไว้ซะ!"
เฉียวเหวยอีทอดสายตาออกไปมอง แล้ววาดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ออกมา
หยวนเป่าเดินเข้ามาหา จ้องไปที่ใบหน้าของเฉียวเหวยอีด้วยความเป็นห่วงอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะอดไม่ได้แล้วพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า "ถ้าหากว่าพี่ผมรู้เข้าละก็…….."
"บอกถังอี้ด้วยว่า ภายในหนึ่งอาทิตย์นี้ ให้หานักแสดงรองหญิงที่เหมาะสมมากกว่าโจวหรู แล้วก็ฉากทั้งหมดที่เธอเคยถ่าย ในสัปดาห์ให้หลังเราจะถ่ายทำใหม่ทั้งหมด" เฉียวเหวยอีจ้องมองดูบทละครที่อยู่ในมือ พลางพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา
หยวนเป่าที่เอามือไปกุมมือของเฉียวเหวยอีอยู่นั้น ก็พลันนิ่งชะงักค้างไป
ผู้หญิงคนนี้ พูดโดยที่ยังมีสภาพจิตใจที่สงบนิ่งแบบนี้ได้อย่างไรกัน ซ้ำยังเปล่งคำพูดที่โหดร้ายแบบนี้ออกมาได้
"ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ปล่อยหลักฐานออกไปในคืนนี้เรื่องที่โจวหรูทำกับนางเอกพระเอก แล้วก็หลักฐานเรื่องที่เธอแก้บทละครด้วยตนเอง ทีนี้บริษัทก็มีเหตุผลเพียงพอที่จะเปลี่ยนบทแสดง ทางฝั่งของแฟนคลับเองก็จะรู้เรื่องให้กระจ่างไป" เฉียวเหวยอีพูดต่อด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“พอดีกันกับที่ จะได้เพิ่มไฟให้ละครเรื่องจิงหวาเป็นกระแสร้อนแรงขึ้นมาเสียหน่อย”
เรื่องที่น่ายินดีอย่างการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวนี้ เฉียวเหวยอีเองก็ไม่สนใจเท่าใดนักกับการที่จะได้ช่วยถังอี้สักเล็กน้อย
ในเมื่อโจวหรูเล่นอวดดีเสียขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นวันนี้ ก็เป็นฤกษ์ดีแล้วที่เธอจะได้พลิกสถานการณ์สร้างความหายนะให้เสียหน่อยแล้ว