ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 182 เบื้องหลังอันโหดร้าย
ล้อของรถม้าเคลื่อนตัวขึ้นอีกครั้ง
หยุนชางพยายามครุ่นคิด พวกเขาจะพานางไปที่ไหนกันแน่ ในวังมีคนที่ไม่ถูกกับนางมากอยู่ก็จริง แต่หากจะหาคนมีฝีมือมาจัดการเรื่องนี้ได้เห็นจะมีไม่กี่คน จู่ๆนางก็ฉุกคิดเรื่องจิ้งอ๋องขึ้นมา หรือบางทีพวกเขาอาจจับตัวนางมาเพื่อที่จะใช้ข่มขู่จิ้งอ๋อง?
หยุนชางรู้ดีว่าในเมื่อได้พบกับหวังซุ่นแล้ว จิ้งอ๋องเองก็คงจะอยู่ไม่ไกลจากที่นี่
ในขณะเดียวกัน ทางด้านบนของประตูเมือง จิ้งอ๋องกำลังนั่งอยู่ในเขตพักผ่อนของเหล่าทหาร มีทหารอยู่ด้วย 4-5 นาย จิ้งอ๋องนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าแน่นิ่ง แววตาว่างเปล่า ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่ ข้างๆมีหญิงฝีมือดียืนอยู่ด้วยนางหนึ่ง
"แอด……" ประตูไม้ถูกเปิดขึ้น จิ้งอ๋องเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปยังประตู ก็พบกับหวังซุ่นกำลังเดินเข้ามา
"เป็นอย่างไรบ้าง" จิ้งอ๋องเอ่ยถาม
หวังซุ่นเงยหน้ามองจิ้งอ๋อง เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่แล้วจึงพูดว่า "เมื่อครู่นี้มีรถม้าคันหนึ่งเพิ่งผ่านเข้าประตูเมืองไปพะยะค่ะ ในรถมีคนหน้าซีดนอนอยู่เห็นว่าเป็นเด็กชายที่ป่วยหนัก แต่หม่อมฉันดูแล้ว ที่หูมีรูเจาะ เห็นทีจะเป็นผู้หญิงที่ปลอมตัวมา หม่อมฉันพิจารณาดูจากส่วนสูงแล้ว น่าจะเป็นองค์หญิงฮุ่ยกั๋วพะยะค่ะ"
จิ้งอ๋องพยักหน้า "เจ้าได้ส่งคนสะกดรอยตามไปแล้วใช่ไหม"
หวังซุ่นขานรับ "พะยะค่ะ ข้างกายองค์หญิงน่าจะมีสายลับติดตามอยู่อย่างน้อย 4 คน หม่อมฉันยังส่งคนอีกจำนวนหนึ่งให้สะกดรอยตามไปด้วยพะยะค่ะ"
หญิงยอดฝีมือนางนั้นเงยหน้า "ท่านอ๋องทรงมีสติปัญญาเฉียบแหลม แม้จะไม่ได้มอบหมายให้พวกหม่อมฉันไปจัดการ แต่ก็คงจะตระเตรียมแผนการเอาไว้แล้วแน่นอน พวกหม่อมฉันจะคอยเฝ้าติดตามอยู่ห่างๆ ไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น เมื่อท่านอ๋องต้องการเรียกใช้ก็เชิญเรียกพวกหม่อมฉันมาได้ ขอท่านอ๋องอย่าทรงกังวลไปเลยเพคะ"
นัยน์ตาของจิ้งอ๋องเหมือนกำลังค้นหาบางสิ่ง "ดูเหมือนว่าเจ้าจะเชื่อนางมากเลยนะ ข้ายังไม่เคยเห็นนางขอความช่วยเหลือจากใคร และข้าก็ไม่รู้ด้วยว่านางจะเก่งกาจสักแค่ไหน รู้แค่ว่าร่างกายของนางนั้นบอบบาง หากได้พบกับศัตรูที่ร้ายกาจเกรงว่าจะลำบากน่ะสิ"
หญิงยอดฝีมือนางนั้นก็คือหนิงเชียน หนิงเชียนได้ยินดังนั้นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ "ขอท่านอ๋องโปรดวางพระทัยเถิดเพคะ แม้ว่าองค์หญิงจะไม่มีกำลังภายใน มีเพียงทักษะการต่อสู้เล็กๆน้อยๆ แต่ในตัวนางก็มีอาวุธลับแฝงอยู่มากมาย อย่างน้อยๆหนึ่งในนั้นก็คือยาพิษเพคะ"
จิ้งอ๋องได้ฟังแล้วนั่งเงียบ ครู่หนึ่งจึงลุกขึ้น "จับตาดูการเคลื่อนไหวของชางเอ๋อร์เอาไว้ มีข่าวอะไรจงรีบมารายงานข้า"
หวังซุ่นและหนิงเชียนน้อมรับคำสั่ง จิ้งอ๋องผลักประตูเดินออกไปด้านนอก มุ่งหน้าไปทางพระราชวัง หยุนชางหายตัวไป เรื่องนี้แม้จะเป็นความลับ แต่ฮ่องเต้นั้นทรงทราบอยู่แล้ว จิ้งอ๋องต้องไปกราบทูลรายงานให้ฮ่องเต้ทรงทราบสถานการณ์ล่าสุด
"ของมาถึงแล้ว เปิดประตู" หยุนชางได้ยินเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอกรถม้า นางตั้งใจสังเกตสถานการณ์ จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงเปิดประตู และมีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมา "มากันแล้วหรือ? นายท่านกำลังรออยู่ในห้องหนังสือ พวกเจ้าพาคนไปไว้ที่ห้องด้านข้างของจวนกันก่อน"
หยุนชางนึกทวนเส้นทางต่างๆที่ตนเองเคยผ่านมาและตั้งใจเปรียบเทียบกับแผนที่ที่หนิงเชียนได้เคยให้ไว้ ตอนนี้ก็คงจะอยู่แถวๆด้านทิศตะวันออกของพระราชวัง
หยุนชางรู้สึกได้ว่าแสงจากภายนอกสาดส่องเข้ามาภายในมากขึ้น และดูเหมือนว่าม่านหน้าต่างของรถม้าจะถูกเปิดออก นางถูกคนอุ้มออกไป เมื่อเดินมาได้สักพักก็วางนางลง
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงเสียงหนึ่งพูดขึ้นมาว่า "นี่คือนางหรือนี่ องค์หญิงหยุนชางเป็นเด็กผู้หญิง แล้วเหตุใดตอนนี้จึงแต่งกายเป็นเด็กผู้ชายเสียเล่า?"
พูดจบ ก็มีเสียงคนเดินเข้ามา ฟังดูแล้วมีมากกว่าหนึ่งคน จากนั้นมีคนนำแผ่นหนังบางๆที่คลุมหน้าของหยุนชางออกไป
"ใช่แล้ว เป็นนางจริงๆ เมื่อครั้งที่นางยังเล็กๆ ข้าไม่ค่อยอยากจะมองหน้านางสักเท่าไร ตอนนี้นางกลับงามขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก หน้าตาของนางยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนเสด็จแม่ของนาง" เสียงเดิมที่เอ่ยขึ้นก่อนหน้านี้พูดขึ้นมาอีกครั้ง หยุนชางฟังเสียงของเขาและพยายามคาดเดาว่าคนผู้นี้คือใคร คนผู้นี้ตนคงจะไม่เคยรู้จัก เพราะตนเชื่อมั่นว่าความจำของตนนั้นดีเลิศ เมื่อได้ฟังเสียงคนที่ตนรู้จักก็จะรู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของผู้ใด จะว่าไป คนผู้นี้เพิ่งจะพูดว่าเคยเห็นตนมาตั้งแต่ตนยังเล็กๆ หยุนชางพยายามคิดว่าเขาคือใครกันแน่ ตอนที่ตนเองยังเด็กก็ไม่ค่อยได้ออกนอกวัง เห็นทีจะเป็นคนที่เคยเข้าวังมาก่อน แต่ข้อมูลนี้ก็มีขอบเขตที่กว้างเกินไปจนมิอาจคาดเดาได้โดยง่าย
"อีกประเดี๋ยวไปเชิญนางเข้ามา ตอนนี้คนที่นางต้องการตัวก็พามาให้นางได้แล้ว นางจะจัดการเช่นไรก็ขึ้นอยู่กับนาง แต่ว่าเมื่อเรื่องนี้เสร็จสิ้น นางจะต้องฟังคำของพวกเรา หากนางขัดขืนข้าจะไม่ยอมนางเป็นอันขาด แม้ว่านางจะไม่อยากทำ แล้วผู้ที่อยากทำจะมีอยู่มากก็ตาม แต่เพราะนางรูปโฉมงามสง่าจึงอยากที่จะเลือกนาง เจ้าเองก็คงจะรู้ว่านางนั้นมิได้สำคัญที่สุดจนไม่อาจหาผู้ใดมาแทนได้" ชายผู้นั้นกล่าวอย่างใจเย็น
มีเสียงขานรับดังขึ้นปิดท้าย "ขอรับ นายท่าน ข้าน้อยจะไปเชิญคุณหนูมาที่นี่ขอรับ"
บทสนทนาจบลงเพียงไม่นาน ก็มีเสียงพูดขึ้นมาว่า "คุณหนูขอรับ นายท่านมีเรื่องต้องการพบคุณหนูอยู่ที่ห้องข้างจวน เชิญคุณหนูขอรับ"
"ให้นางเข้ามา" เสียงชายที่กำลังรออยู่พูดขึ้นอย่างเยือกเย็น
หลังจากนั้นก็มีเสียงคนเดินเข้ามา เสียงเดินนั้นได้หยุดลงที่ข้างหูของหยุนชาง หยุนชางได้ยินเสียงเบาๆของลมหายใจที่คนผู้นั้นสูดเข้าปอดและหายใจออกด้วยความเปรมปรีดิ์ จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะอย่างดีอกดีใจ "ฮ่าๆ สุดท้ายแล้วนางก็ต้องตกอยู่ในกำมือข้า นึกไม่ถึงเลยว่า คนเช่นนางจะต้องมาเจอกับเรื่องเช่นนี้ ฮ่าๆๆๆ……"
ผ่านไปชั่วครู่ เสียงหัวเราะจึงหยุดลง หยุนชางได้ยินเสียงชายคนก่อนหน้าพูดขึ้นว่า "สิ่งที่เจ้าขอ ข้าทำตามสำเร็จแล้ว สิ่งที่ข้าขอจากเจ้าเจ้าก็อย่าลืมเสียล่ะ หาไม่ เจ้าเองก็รู้ว่าข้าไม่ใช่คนใจดี"
ความเงียบงันปกคลุมไปทั่วห้อง ไม่นานหญิงสาวก็เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่แน่นิ่ง "ท่านพ่อโปรดวางใจ ข้าได้รับปากท่านแล้ว ไม่มีทางกลับคำเด็ดขาด"
"พวกนางอยู่ในกำมือของเจ้าแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล อีกสักพักแม่ของเจ้าจะพาเจ้าออกไปข้างนอก เจ้าไปเตรียมตัวเถอะ" ชายผู้นั้นกล่าว
หญิงสาวรับคำด้วยความยินดี "ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ" พูดจบก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินห่างออกไป
หยุนชางรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกจ้องมองจากสายตาคู่หนึ่ง หลังจากนั้นสายตาคู่นั้นจึงหันไปมองทางอื่น หยุนชางได้ยินเสียงสั่งการ "ลงกลอนประตูให้เรียบร้อย"
ดูเหมือนว่าทุกคนจะออกไปกันหมดแล้ว หยุนชางได้ยินเสียงประตูถูกลงกลอน หยุนชางพยายามสัมผัสบรรยากาศโดยรอบ ดูเหมือนจะไม่ได้ยินเสียงลมหายใจของผู้ใดแล้ว หยุนชางจึงค่อยๆลืมตาขึ้น ทันทีที่แสงสว่างกระทบเข้ามาในดวงตา ตนเองนึกไม่ถึงเลยว่า ผู้ที่บงการเรื่องการลักพาตัวตนมานั้นแท้ที่จริงแล้วก็คือนาง……หญิงงามใจโฉด เวินหยูอวี้
ชายเมื่อครู่นี้ เวินหยูอวี้เรียกเขาว่าท่านพ่อ แสดงว่าเขาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากรองเจ้ากรมมหาดไทยเวินหยุนชิง เวินหยุนชิง คิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะเป็นคนร้ายซ่อนลึกถึงเพียงนี้
แต่ว่า หยุนชางไม่เข้าใจเลยจริงๆ ตนเคยทำอะไรให้เวินหยูอวี้โกรธแค้น ตนเคยพบนางก็เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น หยุนชางครุ่นคิดอย่างหนักแต่ก็คิดไม่ออกเลยว่ามีสิ่งใดบ้างที่ทำให้นางเคียดแค้นตนและยอมลงทุนทำได้ถึงเพียงนี้
แต่ประเดี๋ยวก่อน เมื่อครู่นี้ที่สองพ่อลูกสนทนากัน เหมือนว่าเวินหยุนชิงต้องการให้เวินหยูอวี้ทำอะไรบางอย่าง เวินหยูอวี้มีข้อเรียกร้องหนึ่งอย่าง เวินหยุนชิงจึงต้องลักพาตัวตนมาอยู่ที่นี่
ในเมื่อรู้ตัวคนร้ายที่ลักพาตัวตนมาแล้ว ตนก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป หยุนชางครุ่นคิด นางสังเกตไปรอบๆก็เห็นว่าที่ที่ตนอยู่ในขณะนี้น่าจะเป็นห้องเก็บฟืน หยุนชางเอนกายไปบนกองหญ้าแห้ง มีเพียงผ้าผืนเดียวปูรองอยู่เบื้องล่าง
หยุนชางยกมือขึ้นมาตรงหน้าแล้วเป่ามือของตน ไม่มีเสียงใดๆเกิดขึ้น จากนั้นไม่นาน ด้านนอกของประตูก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้น ประตูถูกเปิดออก ผู้ที่เข้ามานั้นคือกลุ่มสายลับที่คอยดูแลหยุนชาง หยุนชางจ้องมองไปที่พวกนาง "จงไปหาเด็กสาวที่มีความสูงใกล้เคียงกับข้ามา 1 คน ให้หนิงเชียนแปลงโฉมนางให้เหมือนกับข้าในตอนนี้ คนที่พวกท่านหามา หากเป็นที่ต้องตาต้องใจของเวินหยุนชิงได้ก็จะเป็นการดี"
กลุ่มสายลับพยักหน้าแล้วจากไป หยุนชางถอนหายใจแล้วเดินออกมา นางค่อยๆก้าวย่างจนกระทั่งออกมาจากสถานที่เมื่อครู่ได้สำเร็จ