คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 408 คุณหลง อย่าลืมภรรยาร่วมทุกข์ร่วมสุขของคุณนะ
ตอนที่ 408 คุณหลง อย่าลืมภรรยาร่วมทุกข์ร่วมสุขของคุณนะ
แสงไฟกะพริบบนเวทีกระทบกับแก้วไวน์เป็นประกายแวววาว
งานเลี้ยงสวมหน้ากากในคืนนี้ดำเนินมาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย
“ทุกท่านที่เดินทางมาในวันนี้ คาดว่าคงจะรู้สึกประหลาดใจในเรื่องของประธานมูลนิธิอยู่ไม่น้อย หึๆ ฉันขอบอกตามตรงว่าบัดนี้ฉันและสามีได้ส่งต่อมูลนิธิให้แก่ลูกสาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในคืนนี้เธอจะขึ้นมาทักทายกับพวกเรา”
หลังสิ้นเสียงลง ผู้คนก็พากันพูดซุบซิบขึ้น
“คุณหนูบ้านตระกูลหลิน?”
“คุณหนูที่ถูกเลี้ยงมาโดยไม่ให้สื่อภายนอกเข้าสัมภาษณ์ตลอดเวลาที่ผ่านมาน่ะเหรอ? ไม่จริงน่า? คุณนายหลินจะเปิดตัวเธอแล้วงั้นเหรอ?”
“คุณหลินยืนกรานไม่เปิดเผยสมาชิกครอบครัวไม่ใช่เหรอ?เขาให้ความสำคัญกับความลับของคนในครอบครัวมากนี่นา แล้วตามปกติคุณหลินก็ไม่ออกไปไหนมาไหนด้วย”
“ได้ยินมาว่าคุณหนูหน้าตาสวยงามมากเหมือนนางสาวไทยเลย ไม่รู้ว่าวันนี้จะได้เห็นหน้าจริงๆของเธอไหม”
ด้านล่างเวทีพากันวิจารณ์ไปต่างๆนานา เสียงดังทวีขึ้นเรื่อยๆ ดังอยู่นานจึงค่อยๆสงบลง
น่าสงสารจริงๆที่ต้องมาใส่ชุดหลินซีเหวิน เพื่อไม่ให้หลงจื๋อจำเธอได้ เธอจึงต้องยืนอยู่ด้านหลังห่างไกลผู้คน
หลินซีเหวินหลับตาลง เห้อ เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ แม่จ๋าแม่……นี่แม่จะเชือดหนูหรือไง!
โชคดีที่เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าทัน
เธอขยับหน้ากากให้เข้าที่ ท่องกับตัวเองว่าพูดน้อยๆ พูดน้อยๆ! ห้ามหลุด! ห้ามรั่ว!
คุณนายหลินมองไปยังฝูงชนแล้วยิ้มพูดต่อว่า “ขอบอกตามตรงว่า ในคืนนี้ฉันเองก็ไม่รู้ว่าลูกสาวฉันคือคนไหน เหอะๆ ทุกท่านล้วนงดงามเหมือนกันหมด ฉันหวังว่าสุภาพสตรีทุกท่านจะเป็นลูกสาวฉันหมดทุกคนเลยนะคะ”
“ฮ่าๆๆๆ!” เสียงหัวเราะจากคำพูดของคุณนายหลินดังขึ้น
ต่อจากนั้นคุณนายหลินก็พูดขึ้นว่า “ซีซี ขึ้นมาเถอะ มาหาแม่”
หลินซีเหวินหายใจเข้าลึกๆ ไม่รู้ว่าจะเป็นหรือจะตาย เอาเป็นว่าสู้ไปก่อนแล้วกัน!
เป็นไงเป็นกัน!!!
เธอเดินขึ้นไปบนเวลาที ทีละก้าวๆด้วยท่าทีสง่างาม……
หลงจื๋อมองไปรอบๆสี่ทิศ แปลกจริง สาวบ้านนอกนั่นไปเข้าห้องน้ำทำไมนานจริงๆ หรือว่าจะหนีไปแล้ว?
เขายังไม่ได้ถามอะไรเธอเลย เธอจะหนีไปอย่างนี้เหรอ?
หรือว่าแอบเข้ามาในงานและถูกจับได้กัน?
เด็กโง่เอ๊ย!
คุณนายหลินยืนอยู่บนเวทีด้วยท่าทางที่สง่างาม มองไปทางลูกสาวของเธอที่เดินตรงมายังเวที รอยยิ้มของเธอค่อยๆเพิ่มขึ้น สมบัติที่เธอเก็บไว้มาตลอดหลายปีได้ถูกเปิดเผยภายใต้สายตาของสาธารณชนในที่สุด
คุณหนูตระกูลหลิน ผู้สืบทอดคนเดียวของตระกูล ที่จริงควรจะได้รับความยกย่องนับถือจากผู้คนมากมาย แต่กลับต้องไปอยู่ในโรงพยาบาลเล็กๆ กลับไปอยู่ในห้องผ่าตัดเล็กๆ ที่ผ่านมาช่างลำบากจริงๆ!
คุณนายหลินคิดเช่นนั้น เธอก็ยิ้มออกมาอย่างชื่นบาน วินาทีที่ลูกสาวของเธอเดินขึ้นมา ก็เป็นที่ดึงดูดสายตาผู้คนมากมาย!
หลินซีเหวินเดินมาทีละก้าวพร้อมดึงชายชายกระโปรงขึ้นมาเล็กน้อย เธอขมวดคิ้วอยู่หลังหน้ากากด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
แสงไฟเคลื่อนไปอย่างช้าๆตามจังหวะการเดินของหลินซีเหวิน ลำแสงอันเจิดจ้าส่องไปที่ร่างเรียวบางของเธอ หน้ากากสีทองส่องกระทบกับไฟเป็นประกายวิบวับ ชุดสีขาวยาวเผยให้เห็นเส้นโค้งเว้าตามสัดส่วนรูปร่างสง่างาม กระโปรงยาวพลิ้วไหว ทุกย่างก้าวทุกการเคลื่อนไหวสดใสและสูงส่ง
การฝึกฝนที่ดีและท่าทางที่สมบูรณ์แบบ เปลี่ยนพฤติกรรมเธอเหมือนเป็นคนละคน!
ลั่วหานมองดูหลินซีเหวินที่บนเวทีตอนนี้ แล้วอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง เหมาะสมกับเป็นคุณหนูตระกูลหลินจริงๆ บุคลิกเช่นนี้คาดว่าคนธรรมดาทั่วไปคงทำไม่ได้แน่ๆ
ในที่สุดหลินซีเหวินก็เดินขึ้นไปบนเวที เธอเดินไปหยุดข้างๆคุณแม่ แล้วคล้องแขนแม่ของเธอเบาๆกระซิบว่า “แม่คะ เหลือความลับไว้ให้ผู้คนสงสัยกันบ้าง งานการกุศลครั้งหน้าค่อยใช้หน้าตาหนูดึงดูดผู้คน ครั้งนี้ให้พวกเขาเห็นรูปร่างก็พอแล้วค่ะ”
คุณนายหลินพยักหน้า “อืม ฉลาดมาก ความคิดแบบนี้ก็มีแต่ลูกนี่แหละที่คิดได้? เอาละ วันนี้เราจะไม่เปิดเผยหน้าตา แต่ลูกน่าจะพูดกับทุกคนเอง”
หลินซีเหวินพยักหน้า ขั้นแรกสำเร็จแล้ว เยี่ยมมาก!
เธอนำมือจับไมโครโฟน แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไพเราะชัดเจน เสียงจากลำโพงเปลี่ยนเสียงเธอไปอีกเสียงหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด
“สวัสดีค่ะแขกผู้มีเกียรติที่เดินทางมาร่วมงานทุกท่าน ก่อนอื่นขอขอบพระคุณที่สละเวลามาร่วมงาน……”
เป็นประโยคที่ได้ยินกันทั่วไปในงาน หลินซีเหวินเลี่ยงที่จะพูดย้ำชื่อของตัวเองออกมา เธอหัวเราะว่า “เนื่องจากวันนี้เป็นงานเลี้ยงสวมหน้ากาก จึงต้องอนุญาตทุกท่านให้ดิฉันสวมหน้ากากไว้ งานเลี้ยงการกุศลในครั้งหน้าดิฉันจะเปิดเผยหน้าตาแก่ทุกท่านได้เห็น เมื่อถึงเวลานั้นขอทุกท่านอย่าลืมมาร่วมงานนะคะ!”
ลั่วหานยิ้มขึ้น เจ้าเด็กนี่ ฉลาดไม่เบา
คนด้านล่างเวทียังไม่ยอมแพ้ มีคนตะโกนขึ้นมาว่า “คุณหนูหลิน อย่างน้อยก็บอกชื่อกับพวกเราหน่อยได้ไหม?”
หลินซีเหวินไม่รู้จะทำยังไง สถานการณ์บีบบังคับเหลือเกิน “ทุกท่านรู้แล้วไม่ใช่เหรอคะ? ซีซีคือชื่อของฉัน แน่นอนว่าหากทุกท่านจะเรียกชื่อภาษาอังกฤษของฉันก็ได้ค่ะ ฉันชื่อwendy หากท่านใดอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของดิฉัน ก็อย่าลืมติดตามมูลนิธิของเรานะคะ!”
เหอะ!!
จะฟังยังไงก็คือต้องการรับบริจาคไม่ใช่เหรอ?
ลั่วหานยกนิ้วให้ เธอคิดออกมาได้ยังไงกัน!?
หลงจื๋อขมวดคิ้ว แม้เขาไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่ก็สงสัยว่าทำไมเสียงของคุณหนูหลินกับสาวบ้านนอกนั่นช่างคล้ายกันจริงๆ?
แต่ว่า สาวบ้านนอกนั่นไม่ได้ใส่ชุดนี้
ก็แค่บังเอิญเหมือนกันเหรอ?
แต่ชายที่อยู่ใกล้ๆบาร์เหล้าสวมหน้ากากสีทองชุดสีน้ำเงินที่ยืนถือกิ๊บติดผมอยู่นั้น กลับยิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัย
หลินซีเหวินพูดจบก็เดินลงจากเวที และพยายามเดินฝ่าฝูงชนไปท่ามกลางเสียงตบมือและปิดฉากลงอย่างสง่า
เธอทิ้งปริศนาเอาไว้ และทำให้ผู้คนอยากรู้มากขึ้น
แน่นอนว่าถ้าอยากเห็นหน้าจริงๆของเธอ คงต้องลงทุนหน่อยแล้ว
คงไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายได้ดีกว่าคำว่า ขายหน้าตาอีกแล้ว
หลินซีเหวินรีบตรงไปห้องน้ำทันที
เห้อ……เกือบตายแล้วเรา!
หวังจะว่าหลงจื๋อจะเอาไม่ออกนะ
เมื่อเธอหยิบมือถือออกมา หลินซีเหวินก็สีหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าหลงจื๋อโทรมาหาเธอเป็นสิบสาย
ลั่วหานเองก็แอบเข้ามาที่ห้องน้ำ เมื่อเดินเข้ามามือถือของเธอก็สั่นขึ้น
หลงเซียวโทรมา
ลั่วหานถอดหน้ากากออก เหงื่อเม็ดโตบนใบหน้าของเธอซึมออกมา เมื่อสักครู่เธอเพิ่งจะปาดเหงื่อด้วยความลุ้นกับหลินซีเหวิน ตอนนี้ต้องมาปาดเหงื่อด้วยเรื่องของตัวเองอีกแล้วเหรอ
หลงเซียวนั่งอยู่ในรถด้วยท่าทางผ่อนคลายแต่ยังสง่างามไร้ที่ติ “ที่รักครับ อยู่ไหนเอ่ย?”
เมื่อได้ยินเสียงของหลงเซียว ลั่วหานก็ผ่อนคลายลง เธอพิงไปที่ประตูแล้วพูดว่า “คุณหลงคะสองวันมานี้ความจำเสื่อมฉับพลันเหรอ เลยลืมว่ามีภรรยาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขอยู่แดนไกล?”
แววตาอ่อนโยนของหลงเซียว เอ่ยต่อไปว่า “ครับผม คุณหมอฉู่ โรคนี้จะแก้ได้ยังไงนะ?”
ลั่วหานกัดปากตัวเองเบาๆ เธอมองไปที่ผนังห้องน้ำลายดอกไม้แล้วตอบไปว่า “ฉันเป็นหมอรักษาโรคหัวใจ ว่าแต่คุณหลงมีหัวใจเหรอคะ?”
หลงเซียวเปลี่ยนมือข้างที่ถือโทรศัพท์ แล้วพูดว่า “อืม……น่าจะไม่มี เพราะหัวใจของผมมอบให้ผู้หญิงที่ชื่อว่าลั่วหานไปหมดแล้ว หรือว่า ผมจะเอาคืนมาดีนะ?”
ลั่วหานหัวเราะและพูดออกมาว่า “อะไรที่ให้ไปแล้วจะเอาคืนได้ยังไง? ฉันไม่ให้หรอกค่ะ!”
“ครับ” เขาตอบสั้นๆง่ายๆได้ใจความ “คุณอยู่ที่ไหน?ทำไมเสียงดังจัง”
“ฉันมางานเลี้ยงการกุศลที่ตระกูลหลินจัดค่ะ แม่ของหลินซีเหวินจัดขึ้น ก่อนหน้านี้ตระกูลหลินไม่เคยจัดงานเลยไม่ใช่เหรอคะ? ฉันว่ามันแปลกๆนะ”
หลงเซียวขมวดคิ้วเช่นกัน บัดนี้การวางเกมของเมืองหลวงได้เปลี่ยนไป หลงถิงร่วมมือกับผู้ถือหุ้นหลายๆคนตัดสิทธิ์ของเขาลง คาดว่าตระกูลหลินคงจะรู้เรื่องนี้แล้ว
ตระกูลหลิน…..น่าจะไม่ใช่ตระกูลที่รับมือได้ง่ายๆ
“อย่าไปคิดมากเลยครับ เล่นให้สนุกละกัน แล้วก็อย่ากลับดึก กลับถึงแล้วโทรหาผมด้วย”
“ค่ะ คุณก็เหมือนกันนะ อ้อ จัดการเรื่องต่างๆเรียบร้อยดีไหมคะ?”
หลงเซียวครุ่นคิดแล้วตอบว่า “ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ อาจต้องรออีกสองสามวันถึงจะได้กลับ คิดถึงผมเหรอ?”
“อืม……ฉันเพียงแค่ต้องการคุณราบรื่น”
ฟ้าเป็นพยานได้ เธอต้องการแบบนั้นจริงๆ
หลงเซียวเงียบไปและพูดออกมาว่า “เอาคำว่าราบรื่นทิ้งไป บางทีผมอาจจะกลับเร็วกว่าเดิมก็ได้”
ลั่วหาน “……”
ฉันต้องการคุณราบรื่น……ราบรื่นตัดทิ้งไป……
เมื่อรู้ตัวว่าถูกแซวเสียแล้ว จึงพูดว่า “ฉันวางสายแล้วนะคะ บ๊ายบายคุณชายหลง”
และลั่วหานก็วางสายไปจริงๆ
เมื่อหวังเจี้ยนเห็นว่าเขาคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วจึงพูดอย่างระมัดระวังว่า “ท่านประธานครับ วันพรุ่งนี้มี……”
“พรุ่งนี้ประชุมกี่โมง?”
“ตอนเช้าสิบโมงถึงเที่ยง ตอนบ่าย……”
หลงเซียวพยักหน้าตอบรับ “ประชุมช่วงบ่ายพรุ่งนี้ย้ายมาเป็นวันนั้นสี่ทุ่ม ให้ค่าโอทีสามเท่า จองตั๋วรอบบ่ายโมงบินเมืองหลวง พรุ่งนี้หกโมงต้องถึงเจียงเฉิง”
“ครับ ท่านประทาน”
วันพรุ่งนี้ ภรรยาของเขาจะออกรายการ ในฐานะสามี เขาจะไม่ไปได้ยังไง?
หลินซีเหวินกัดฟันแน่น “คุณชายรองหลงคะ ฉันไม่ไหวจริงๆ!คุณกลับไปก่อนนะ ไม่ต้องรอฉันเลย…..โอ๊ย! ถ้าคุณไม่วางสายฉัน……ไม่ออก เอาละ ฉันจะพยายามต่อไปนะ คุณจะไปทำอะไรก็ทำ!”
หลงจื๋อ “……”
เหอะๆ! สาวบ้านนอกคุณนี่มันจริงๆเลย!
หลินซีเหวินวางสายจากหลงจื๋อ ในที่สุดก็กำจัดเขาไปได้แล้ว!
เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าลั่วหานอยู่ด้านนอก “อ้าวไอดอล คุณก็รีบเหมือนกันเหรอ?”
ลั่วหานเอามือถือใส่กระเป๋า “ฉันรีบร้อนทั้งนอกและใน จะชดเชยฉันยังไง?”
หลินซีเหวินหัวเราะแบบบ้าๆ “ผู้มีพระคุณคะ ขอบคุณเป็นอย่างสูงที่เข้ามาช่วย ฉันจะชดใช้ด้วยร่างกาย!”
“ไม่ต้องเลย …… อ้อ! ปวดท้องไม่ใช่เหรอ?”
“เอิ่ม……ไอดอลคะ ลงเรือไปแล้วกลับลำไม่ได้นะสิ”
ลั่วหานยิ้ม “เปลี่ยนชุดกันไหม? ฉันอยากกลับแล้ว พรุ่งนี้อัดรายการ ฉันยังไม่ได้เตรียมคำพูดเลย”
ตาย!ตายแน่!
“โอ้! ฉันลืมไปเลย!พรุ่งนี้เธอจะออกรายการนี่นา แต่ว่าท่านประธานจะมาไหม?”
ลั่วหานส่ายหัว “เขายังทำธุระไม่เสร็จ คาดว่าน่าจะกลับมาไม่ทัน”
แม้จะบอกกับตัวเองว่าให้ปล่อยวาง แต่……ในใจเธอก็ยังแอบผิดหวัง