คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 336 ฉันขาดแค่น้องสะใภ้
ตอนที่ 336 ฉันขาดแค่น้องสะใภ้
ลั่วหานขมวดคิ้ว เบาเสียงลงแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ “จะให้ฉันช่วยอะไรเหรอ?”
หลินซีเหวินใช้นิ้วลูบหน้าผาก “คืออย่างนี้ค่ะ หลงจื๋อเขาเข้าใจมาตลอดว่าฉันเป็นผู้หญิงบ้านนอก ถ้าเขาเกิดเห็นว่าฉันขับรถที่แพงอย่างนี้ละก็ เขาต้องสงสัยแน่ๆ เลยค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นที่ฉันพยายามหลอกเขามาทั้งหมดก็โป๊ะแตกสิคะ ดังนั้นไอดอลคะคุณช่วยร่วมมือกับฉันหน่อยได้ไหมคะ?”
ลั่วหานยักไหล่แล้วอย่างมีเลศนัย จากนั้นก็มองมาที่หลินซีเหวินด้วยสายตาที่น่าสงสัย “หมอหลินถ้าฉันช่วยเธอปิดบังน้องสามี……แล้วฉันจะได้อะไรตอบแทนหล่ะ?”
หลินซีเหวินแอบทำปากเป็นคำว่า “เชี่ย” จากนั้นก็หรี่ตามองมาที่เธอ “ไอดอลคะ เราสองคนสนิทกันขนาดนี้ไม่ใช่คนอื่นคนไกลสักหน่อย อีกอย่างไอดอลเองก็มีเพียบพร้อมหมดทุกอย่างแล้ว ฉันจะให้อะไรคุณได้หล่ะคะ?”
ลั่วหานใช้นิ้วเคาะๆ ไปที่แขน แล้วมองไปยังหลินซีเหวินที่กำลังร้อนรนอยู่ในรถด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์ “ทำไมจะไม่ขาดหล่ะ? ตอนนี้ฉันต้องการน้องสะใภ้อยู่พอดี คุณหมอหลินคิดว่าข้อเสนอนี้เป็นไงคะ?”
หลินซีเหวินกลืนน้ำลายดังเอื๊อกๆ แล้วยิ้มออกมาอย่างเกรงๆ “แฮๆๆ ไอดอลอย่าล้อกันเล่นอย่างนี้สิคะ แค่ให้ช่วยพูดโกหกนิดหน่อยเองถึงกับต้องเอาตัวเข้าไปแลก มันดูจะไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่นะคะ ไอดอลคะคุณช่วยฉันหน่อยนะคะ ขอร้องหล่ะ ฉันสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานไม่แอบอู้เลยค่ะ”
หลินซีเหวินยกมือขึ้นมาไหว้เป็นการใหญ่
ลั่วหานขำออกมา “ได้ๆ แค่ครั้งเดียวนะ”
พอหลงจื๋อเห็นทั้งสองคนกำลังกระซิบอะไรกันอยู่ เขารีบเร่งฝีเท้าเข้ามาทันที ร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาบดบังแสงแดดจนมิด “สาวบ้านนอก ออกมาอธิบายเดี๋ยวนี้เลยว่านี้มันเรื่องอะไรกัน?”
ลั่วหานมองดูท่าทางที่จริงจังของหลงจื๋อแล้วก็รีบพูดขึ้นว่า “ทำอะไรเนี่ยหลงจื๋อ? อย่ามาทำให้ผู้ช่วยของพี่ตกใจนะ”
หลินซีเหวินเปิดประตูแล้วลงจากรถ “นี่คุณชายรองหลงคุณต้องการอะไรคะ? จะเรียกค่าเสียหายเหรอ? ถ้าเงินหน่ะไม่มี มีแต่ชีวิตจะเอาไหม”
หลงจื๋อมองมาที่เธอแล้วมองไปที่รถอาวดี้A8คันนั้น “นี่รถคุณเหรอ?”
“ฮาๆ ฮา! นี่คุณชายรองหลงคะ คุณยกย่องฉันเกินไป! ถ้าฉันซื้อรถราคาแพงขนาดนี้ได้ฉันคงขึ้นสวรรค์ไปนานแล้วค่ะ” หลินซีเหวินดึงแขนเสื้อของลั่วหานใหญ่เลยเพื่อให้เธอช่วยพูดอะไรบ้าง
ลั่วหานพยักหน้าเห็นด้วย “รถคันนี้คุณหมอหลินไม่ได้ซื้อเองจริงๆนั่นแหละ พอดีคุณหมอหลินได้แฟนที่ฐานะดีใช้ได้คนหนึ่งเข้า ส่วนรถคันนี้แฟนของเธอก็เพิ่งซื้อให้เธอ สวยใช่ไหมหล่ะ?”
หลินซีเหวิน” ……”
นี่คุณกำลังพูดอะไรเนี่ย!
หลงจื๋อ “แฟนอย่างนั้นเหรอ? สาวบ้านนอกนี่คุณมีแฟนแล้วเหรอ? ไหนคุณบอกว่าชอบผู้ชายที่ชื่อถังจิ้นเหยียนไม่ใช่เหรอ? ไหนวันนั้นใครกันที่เมาจนไม่รู้เรื่องแล้ว………อุ๊บ!”
หลงจื๋อพูดยังไม่ทันจบหลินซีเหวินก็รีบเอามือมาปิดปากเขาทันที!
อ้า!! อ้า!! หลงจื๋อไอ้หน้าโง่!
สิ่งที่บังเอิญสุดๆ คือ ถังจิ้นเหยียนเองก็เพิ่งมาทำงานเหมือนกันพอเห็นข้างหน้ามีรถจอดอยู่หลายคันแถมมีคนยืนอยู่ด้วย เขาจึงอยากลงมาสอบถามสถานการณ์ดู และที่บังเอิญไปกว่านั้นก็คือพอเขาเดินเข้ามาก็ได้ยินสิ่งที่หลงจื๋อพูดเข้าพอดี แต่เขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลินซีเหวินที่หันหน้ามาทางถังจิ้นเหยียนก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ “คุณหมอถัง……สวัสดีค่ะ”
ดวงตาของหลงจื๋อเบิ่งกว้างในทันที ปากที่ถูกหลินซีเหวินปิดเอาไว้ก็พยายามอ้าอย่างเต็มที่ อะไรกัน ทำไมมันช่างบังเอิญอย่างนี้
พอลั่วหานเห็นถังจิ้นเหยียนที่กำลังเดินตรงเข้ามา เธอก็ทำตาเลิ่กลั่ก “สวัสดีค่ะ จิ้นเหยียน”
ถังจิ้นเหยียนพยักหน้าตอบ “สวัสดีครับ คุณหมอหลิน”
ฮาๆ ฮาๆ!
ฮาๆ ฮาๆ!
หลงจื๋อปัดมือของหลินซีเหวินที่ปิดปากเขาออก แล้วหันไปมองถังจิ้นเหยียน “คุณหมอถัง คุณได้ยินแล้วใช่ไหมครับ?”
ถังจิ้นเหยียนคิดว่าทำเป็นไม่ได้ยินน่าจะดีกว่า แล้วยิ้มด้วยความอ่อนโยนแบบที่ใครเห็นแล้วก็ต้องหลงใหล “ได้ยินว่าอะไรนะครับ? ผมเพิ่งลงจากรถ นี่ผมพลาดอะไรไปหรือเปล่าครับ?”
ลั่วหานแอบขำอย่างเงียบๆ เขานี่ช่างเป็นคนที่ฉลาดจริงๆ
หลินซีเหวินรีบเข้ามายืนแทรกระหว่างทั้งคู่ พอเธอเห็นถังจิ้นเหยียนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอยู่ๆ ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมาทันที เธอกำลังเขินอายโดยความเป็นสาวห้าวของเธอไม่มีเหลือให้เห็นเลย “ไม่มีอะไรค่ะ เราไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ! คุณหมอถังคะเราขึ้นไปกันเถอะ ฉันมีคำถามอยากถามคุณพอดีเลยค่ะ”
พอหลงจื๋อเห็นว่าหลินซีเหวินเจอหน้าถังจิ้นเหยียนแล้วดีใจยิ่งกว่าเจอหน้าพ่อแท้ๆ เสียอีก เขาก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที ว่าแล้วก็ยื่นมือไปคว้าแขนของเธอเอาไว้ “นี่สาวบ้านนอก ไปกินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อย”
หลินซีเหวินกัดฟันแน่น “คุณชายรองหลง ฉันกินไปแล้วค่ะ”
“ผมบอกเมื่อไหร่ว่าให้คุณไปกิน? ผมกินแต่คุณนั่งดู ผมยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยครับ”
หลินซีเหวินมองมาที่ลั่วหานด้วยสายตาที่วิงวอน……
ลั่วหานก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างยิ่ง “เพราะหลงจื๋อต้องรีบมาส่งฉันที่โรงพยาบาลเลยไม่ทันได้กินข้าวเช้า ส่วนหมอหลินเองก็น่าจะกินเยอะๆ หน่อย งานของฉันไม่ได้เร่ง ไม่ต้องรีบก็ได้”
หลินซีเหวิน “………”
ไอดอลคะ นี่คุณตั้งใจช่วยใครกันแน่เนี่ย?
พอสองคนนั้นจากไป ลั่วหานก็หันมาแซวถังจิ้นเหยียน “คุณได้ยินหมดแล้วใช่ไหมคะ? ความรู้สึกที่ผู้ช่วยของฉันมีให้กับคุณ”
“ผมรู้อยู่แล้วครับ”
“หือ? รู้อยู่แล้วเหรอคะ? เธอเคยสารภาพรักกับคุณแล้วเหรอ?”
ถังจิ้นเหยียนส่ายหน้า “มันออกจะชัดเจน เธอไม่ต้องบอกผมก็ดูออกอยู่แล้ว แต่สาวน้อยอย่างหมอหลินเนี่ยผมคบไม่ลงจริงๆ ครับ ฮาๆ”
หายากนะเนี่ยที่ถังจิ้นเหยียนจะมีอารมณ์ขันแบบนี้ ลั่วหานจึงพูดแซวเขาอีก “คุณเป็นเทพบุตรของโรงพยาบาลเราสาวๆ หลายคนต่างก็ชอบคุณ แน่ใจเหรอคะว่าจะไม่เลือกใครสักคนในนี้?
“กระต่ายยังไม่กินหญ้ารอบๆ โพรงเลยครับ ผมว่าไม่ดีกว่า ผมเอาใจสาวๆ สมัยนี้ไม่ค่อยเป็นด้วย เอาแต่ใจครับ”
ใช่สิ คนที่เขาชอบไม่ใช่สาวๆ พวกนั้นหรอก มันไม่เคยใช่เลย
ลั่วหานรีบกลับเข้าเรื่องเดิม “ฉันว่าหมอหลินกับหลงจื๋อก็ดูเหมาะสมกันดีนะคะ”
“ครับ ผมก็ว่าอย่างนั้น แต่เรื่องของความรักให้พวกเขาตัดสินใจเองจะดีกว่าครับ คนอื่นช่วยอะไรมากไม่ได้หรอกครับ” พูดจบทั้งคู่ก็ขับรถไปจอดที่ชั้นใต้ดิน จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์มาพร้อมกัน
“คุณหมอฉู่ สวัสดีค่ะ”
“คุณหมอถัง สวัสดีค่ะ……”
ทั้งคู่เดินมาพร้อมกันตรงทางเดิน มีคนทักทายเป็นพักๆ แล้วจู่ๆ ลั่วหานก็เดินช้าลง “จิ้นเหยียนคะ คุณพอมีเวลาว่างไหมฉันขอคุณเรื่องอาการของ หวังเถียนเถียนกับคุณหน่อยได้ไหมคะ?”
“อีกหนึ่งชั่วโมงแล้วกันครับ พอดีผมต้องไปตรวจคนไข้ก่อน”
“ได้ค่ะ ฉันจะรอคุณอยู่ที่ห้องทำงานนะคะ”
___
ตอนที่หลงเซียวมาถึงที่อเมริกาเวลาในท้องที่คือสี่ทุ่ม เพราะเครื่องบินดีเลย์จากเวลาที่ควรจะเป็นถึงสิบสองชั่วโมง
พอลงจากเครื่องบิน ผู้รับผิดชอบที่จะร่วมมือด้วยก็ได้มารออยู่ที่นอกสนามบินแล้ว เห็นหลงเซียวเดินมาแต่ไกล ชายที่สวมสูทสีดำเดินเข้ามารับกระเป๋าจากมือเขาไป
“ยินดีต้อนรับครับ คุณหลง”
หลงเซียวพยักหน้า “ทุกคนมาครบแล้วใช่ไหมครับ?”
ชายคนนั้นตอบกลับอย่างสุภาพ “ใช่ครับ มากันครบแล้ว แต่ว่าคุณหลงเพิ่งเดินทางมาถึง ไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อนดีไหมครับ?”
“ไม่เป็นไร ไปเลยครับ ผมค่อนข้างรีบ”
ชายคนนั้นไม่กล้าพูดอะไรอีก “ได้ครับ คุณหลงเชิญขึ้นรถครับ”
รถยนต์วิ่งไปบนถนนของนิวยอร์กด้วยความเร็วสูง หลงเซียวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วส่งข้อความออกไป
“ผมเดินทางมาถึงเมืองอันเป็นที่รักของคุณแล้วนะครับ ดังนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว”
ลั่วหานกับถังจิ้นเหยียนกำลังปรึกษาอาการของหวังเถียนเถียน มือถือบนโต๊ะสั่นไปทีหนึ่ง ลั่วหานมือหนึ่งถือใบสรุปผลส่วนอีกมือก็หยิบมือถือขึ้นมา
พอเห็นประโยคแรกที่หลงเซียวส่งมา ลั่วหานก็ทนไม่ไหวต้องขำออกมา เมืองอันเป็นที่รักอย่างนั้นเหรอ? ช่างเปรียบเปรยได้ตรงดีจริงๆ
ถังจิ้นเหยียนที่นั่งอยู่ตรงข้าม พอเห็นเธอกำลังขำออกมาอย่างสนุกสนาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตามเหมือนกัน
“ข้อความจากหลงเซียวใช่ไหมครับ?”
ลั่วหานเงยหน้าขึ้นมามองเขา “คุณรู้ได้ยังไงคะเนี่ย?”
“จากการแสดงออกของคุณเมื่อกี้ นอกจากเขาแล้วผมก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีใครที่สามารถทำให้คุณอารมณ์ดีได้แบบนี้”
ลั่วหานรู้สึกเกรงใจ นี่เหมือนฉันกำลังอวดความรักอยู่ใช่ไหมเนี่ย?
“เขาไปอเมริกาแล้วค่ะ……คือว่า เรามาพูดกันต่อดีกว่า”
ลั่วหานวางมือถือลงโดยไม่ได้ตอบกลับ
“ไม่ตอบเขาหน่อยเหรอครับ?”
“หือ? ไม่ค่ะ เขารู้ว่าฉันจะตอบว่าอะไร ที่สำคัญแค่เขาปลอดภัยก็พอแล้วค่ะ”
โอ้ แล้วเธอก็เผลออวดความรักออกมาอีกแล้ว
เขาเพิ่งพูดถึงเรื่องข้อความไป แล้วมือถือในกระเป๋ากางเกงของเขาก็สั่นขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาดู จากนั้นคิ้วของเขาก็กองเข้าด้วยกัน
ลั่วหานถาม “มีอะไรรึเปล่าคะ? คุณทำหน้าอย่างกับเจอศัตรูนับร้อยเลย”
“ผมเจอศัตรูเข้าแล้วจริงๆ ครับ”
“หรือว่าจะเป็นคุณตำรวจที่ชื่อเจิ้งซิ่วหยาใช่ไหมคะ? คนที่ทำให้คุณแสดงอาการได้ขนาดนี้ นอกจากเธอก็คงไม่มีใครอีกแล้ว”
“ใช่ เธอนั่นแหละครับ ยิ่งนับวันยิ่งไปกันใหญ่แล้ว ผมนี่นึกไม่ออกจริงๆ ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่”
พูดเสร็จถังจิ้นเหยียนก็ยื่นมือถือมาให้ลั่วหานดู
ลั่วหานก้มอ่านข้อความนั่น “นี่มันอะไรกัน เขาให้คุณทำอาหารให้เธอ แถมยังกำหนดเมนูเองอีก คุณกลายเป็นพ่อครัวใหญ่ไปตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”
ถังจิ้นเหยียนเอามือกุมขมับ รู้สึกปวดหัวจริงๆ “ไม่พูดถึงมันแล้ว ที่หลงเซียวไปอเมริกาในครั้งนี้ คุณคิดว่าเขาจะสามารถเชิญตัวอาจารย์ของคุณมาได้ไหมครับ?”
“ได้ค่ะ” เป็นคำตอบที่หนักแน่นมาก
“ทำไมหล่ะครับ? หลังจากที่อาจารย์ของคุณวางมือไปเขาก็ไม่เคยออกมาอีกเลย ผมว่ามันยากเอาการเลยนะครับ”
“เพราะว่าเขาคือหลงเซียว” คำตอบยังคงหนักแน่นเหมือนเดิม
ถังจิ้นเหยียน “………”
โอเค บทสนทนาไม่สามารถดำเนินต่อไปได้แล้ว
แล้วลั่วหานก็เลิกงานอย่างอารมณ์ดี ก่อนเลิกงานเธอยังแวะไปหยิบของบางอย่างมาจากห้องยาอีก
ตอนกลับมาถึงวิลล่าก็หกโมงครึ่งแล้ว เป็นเวลาที่ตระกูลหลงเตรียมอาหารพอดี
“พี่สะใภ้กำลังทำอยู่เหรอคะ? วันนี้มีอะไรกินบ้างคะ?”
โจวหยู่เช่นฝืนยิ้มออกมา “เธอเขียนเมนูไว้แล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันก็ทำตามที่เธอเลือกไว้นั่นแหละ”
ฮึ!
“พี่สะใภ้เหนื่อยหน่อยนะคะ”
โจวหยู่เช่นใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่ในห้องครัว รวบผมขึ้น ความงามหดหาย ใบหน้าขาวซีด “ไม่ เป็น ไร!”
ในอ่างล้างผักของห้องครัวมีพริกหลากสีถูกวางเอาไว้ ถ้าเผลอสูดหายใจลึกๆ อาจทำให้คนที่ดมเวียนหัวได้เลย
“พี่คะ ผักต้องล้างหลายๆ รอบหน่อยนะคะ ถ้าล้างไม่สะอาดอาจจะทำให้ท้องเสียได้นะคะ”
“คนใช้ล้างให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าเธอคิดว่ามันไม่สะอาดก็มาล้างเองสิ อยากล้างกี่รอบก็ล้างไป”
“ฉันไม่อยู่เกะกะพี่แล้วดีกว่า พี่เก่งจะตายทำเองอยู่แล้ว พี่ทำไปก่อนนะคะ”
เดินออกจากห้องครัว ลั่วหานก็นั่งอ่านนิตยสารหนังสือพิมพ์อยู่ที่ห้องโถง เนื้อหาในหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่มีแต่รูปใบหนึ่งที่ถูกขยายให้เด่นขึ้น มันเป็นรูปพรีเวดดิ้งของโม่หรูเฟยกับซุนปิงเหวิน
โม่หรูเฟยใส่ชุดเจ้าสาวนั่งอยู่กับพื้น ส่วนซุนปิงเหวินนั่งอยู่บนเก้าอี้ วันที่ของหนังสือพิมพ์คือวันนี้ แล้ววันที่ในรูปคือเมื่อวาน
ถ่ายพรีเวดดิ้งแล้วเหรอ ดูแล้วคงแต่งเร็วๆ นี้แน่
แต่ไม่รู้ว่างานแต่งงานของโม่หรูเฟยกับซุนปิงเหวินจะเป็นยังไงบ้าง ลั่วหานอยากรู้จริง!”
“ฮัดชิ่ว!!” จู่ๆ ก็มีเสียงจามออกมาจากในห้องครัว แล้วมันก็ดังขึ้นอีก
ลั่วหานเด็ดองุ่นออกมาชิ้นหนึ่งแล้วป้อนเข้าปากไป อาหารเสฉวนในเย็นวันนี้คงทำให้โจวหยู่เช่นต้องร้องไห้อยู่ในห้องครัวได้แน่ๆ
หลงจื๋อเดินผิวปากเข้ามา แล้วมีหลงถิงหลงเซิ่งกับหลงยี่เดินตามหลังมา หยวนชูเฟินเดินอยู่ข้างๆ หลงถิง นอกจากหลงจื๋อแล้วคนอื่นๆ ต่างก็แต่งตัวกันเป็นอย่างดี ดูแล้วคงเพิ่งกลับจากกิจกรรมอะไรสักอย่าง
“พี่สะใภ้ครับ ทำไมพี่ถึงกลับมาแล้วหล่ะครับ? หลังเลิกงานผมก็ตรงไปรับพ่อกับแม่ก่อน บ้าเอ๊ย……ผมลืมโทรหาพี่”
“ฉันนั่งแท็กซี่กลับมาเอง คืนนี้พ่อกับแม่มีงานเหรอคะ?”
หลงถิงกวาดตามองมาที่ฉู่ลั่วหาน แววตาเต็มไปด้วยความดูถูกและหมั่นไส้ “ใช่ มีกิจกรรม!”
ลั่วหานไม่ได้ใส่ใจอะไร “อ๋อ เหรอคะ”
หลงเซิ่งพูดขึ้น “ในเมืองหลวงแห่งนี้คนของตระกูลหลงมีกิจกรรมให้ไปร่วมเยอะ หลานสะใภ้ควรรู้ว่านะ”
ลั่วหานยังไม่ทันได้พูดอะไร หลงถิงก็แทรกขึ้นว่า “กิจกรรมของตระกูลหลง เธอจะรู้หรือไม่รู้ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย!”
“พ่อพูดถูกแล้วค่ะ ฉันเลยอยู่บ้านเป็นเพื่อนพี่สะใภ้นี่ไงคะ! ที่แท้งานกิจกรรมของตระกูลหลงมีข้อบังคับว่าห้ามสะใภ้ไปร่วมงานด้วย ฉันเพิ่งได้รู้วันนี้เลยนะคะเนี่ย”
“ฮัดชิ่ว!”
แล้วก็มีเสียงจามดังมาจากห้องครัวอีกครั้ง ห้องครัวอยู่ห่างจากห้องโถงค่อนข้างไกล หลังผ่านประตูมาหลายบานเสียงก็เบาลงเยอะ แต่ก็ยังฟังออกว่ามันเป็นเสียงของ โจวหยู่เช่น
หลงยี่รีบเดินเข้าไปทางห้องครัวทันที “เช่นเช่น คุณเป็นยังไงบ้าง? เกิดอะไรขึ้น? ทำไมมีพริกเยอะขนาดนี้เนี้ย!”
“ฮือๆ ฮือ! คุณคะ น้องสะใภ้ให้ฉันทำอาหารเสฉวน ตอนนี้ตาฉันบวมไปหมดแล้วค่ะ ฮือๆ ……”
แม่งเอ๊ย!
พอลั่วหานได้ยินเสียงร้องไห้งอแงของโจวหยู่เช่นมันก็ทำให้เธอขนลุกขึ้นมาเลย
พอหลงยี่เห็นว่าภรรยาของตัวเองถูกรังแก เขาก็วิ่งดุ่มๆ มาที่ห้องโถง ชี้มาที่ลั่วหานแล้วเริ่มตะโกนต่อว่า “ฉู่ลั่วหาน! เห็นอยู่ตำตาว่าเธอตั้งใจรังแกเช่นเช่น! จิตใจเธอมันทำด้วยอะไรห๊ะ!”
“พี่คะ พี่จะตะคอกใส่ฉันทำไมคะ? ฉันไปรังแกพี่สะใภ้ตอนไหน? พี่เอาอะไรมาพูดคะ!”
“ฮึ! เย็นนี้เธออยากกินอาหารเสฉวนใช่ไหม? ได้! เธอรอก่อน ดูสิว่าวันนี้เธอจะกินมันหมดได้ไหม แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!”