คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 318 ซุนเจียลี่ติดกับ
ตอนที่ 318 ซุนเจียลี่ติดกับ
ลั่วหานยิ้มนิ่งเฉยอย่างเสแสร้ง แววตายังคงเย็นชาและนิ่งๆไม่เปลี่ยน“อย่างแรก บอกมาว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของคุณคือใคร แล้วก็คุณจะต้องมาเป็นพยานต่อหน้าสาธารณะด้วย”
หวังเค่ยแววตาสับสนสักพัก ในหัวเกิดการตีกันอย่างรุนแรง หลังจากนั้นอยู่นานในที่สุดก็พยักหน้า“ได้ ผมเป็นพยานให้ได้ ขอแค่คุณรับประกันว่าจะรักษาอาการป่วยของลูกสาวผมให้หาย”
ลั่วหานพยักหน้า “อันนี้คุณวางใจได้เลย ขอแค่เป็นพยาน ฉันจะรีบไปรับลูกสาวของคุณกลับมาอย่างเร็วที่สุด แล้วเตรียมห้องผู้ป่วย อุปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์ที่ดีที่สุดให้กับเธอ รอจนได้โอกาสที่เหมาะก็จะทำการผ่าตัดให้เธอ”
สีหน้าของหวังเค่ยกลับดูระแวดระวัง ไม่ค่อยเชื่อคำพูดของฉู่ลั่วหานสักเท่าไร“ผมจะเชื่อคุณได้ยังไง? ตอนนี้ผมก็เป็นเหมือนเนื้อปลา พวกคุณเป็นเหมือนมีด เหอะๆ ถ้าพวกคุณคิดจะกลับคำพูดขึ้นมาล่ะ ผมเอาชีวิตของลูกสาวผมมาเสี่ยงไม่ได้หรอกนะ”
สายตาเย็นชาของลั่วหานค่อยๆยิ้มให้กับเขา ยิ้มอย่างใสสะอาดยิ้มอย่างสว่างสดใส“คุณหวัง ต้องมีแรงเฮือกสุดท้าย มันถึงจะมีความเชื่อมั่น แรงเฮือกสุดท้ายของคุณก็คือหลักฐานที่อยู่ในมือของฉันตอนนี้ แต่คุณอย่าลืมล่ะ ในเมื่อพวกเรามีวิธีที่จะพาคุณเข้ามาได้ ก็ต้องมีวิธีที่จะตามหาตัวคนที่คุณไม่ยอมพูดถึงออกมาให้ได้อยู่ดี พวกเราสามารถตรวจสอบว่าคุณแอบเจาะเข้ามาในระบบได้ คุณนึกว่าพวกเราจะตรวจไม่ได้จริงๆเหรอว่าคนที่คอยจ่ายเงินอยู่เบื้องหลังคือใคร?”
ลั่วหานพูดขึ้นอย่างง่ายๆสบายๆ สายตามองไปที่หน้าของเขา วิธีการที่ฉลาดหลักแหลมทำทีเป็นอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างเห็นได้ชัด
ไฟโกรธที่หวังเค่ยระเบิดออกมาเมื่อตะกี้ ในตอนนี้ต่อให้อยากระเบิดออกมาอีก ก็ระเบิดไม่ออกแล้ว ได้แต่กัดฟัน“พูดเวิ่นเว้อเกินจริง!”
ลั่วหานจับมือของหลงเซียว ยิ้มอย่างสวยงาม“เพราะฉันมีความสามารถเพียงพอ อีกอย่าง……”
ลั่วหานเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว หยิบรูปขึ้นมาหนึ่งใบ เด็กผู้หญิงที่หันหน้ามามองกล้อง ยิ้มอย่างน่ารักและใส่ซื่อ เผยให้เห็นถึงฟันขาวสะอาด ความใสซื่อบริสุทธิ์บนใบหน้าราวกับดอกไม้ในต้นฤดูใบไม้ผลิ“ถ้าเกิดคุณเข้าคุกไป แล้วลูกสาวของคุณจะทำยังไง? ภรรยาเก่าของคุณทอดทิ้งเธอไปเรียบร้อยแล้ว เงินที่คุณไว้ที่โรงพยาบาลจะช้าจะเร็วยังไงก็ต้องใช้หมดอยู่ดี ที่สำคัญที่สุดก็คือ ลูกสาวที่ไม่เห็นพ่อจะมีสภาพจิตใจแบบไหน?”
เบ้าตาของหวังเค่ยเริ่มมีน้ำตาคลออยู่ช้าๆ ค่อยๆเอ่อขึ้นมาจนเห็นได้ชัด ภาพที่เห็นข้างหน้าเป็นรางๆ เขามองเด็กที่น่ารักน่าเอ็นดูในรูป ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้“ได้……ผมสัญญากับคุณ ผมจะเป็นพยาน แล้วยังมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรอีก คุณพูดมาเถอะ”
หลงเซียวที่ขมวดคิ้วในตอนนี้เริ่มค่อยๆคลายออก มองดูภรรยาที่กำลังเจรจากับหวังเค่ยด้วยรักและชื่นชม ตอนนี้ในใจของเขาอบอุ่นราวกับดอกท้อที่กำลังเบ่งบานในเดือนเมษายน ภรรยาของเขาช่างทำให้คนที่เห็นแล้วต้องขยี้ตามองด้วยความประหลาดใจจริงๆ
ลั่วหานพูดขึ้น“ตะกี้ฉันดูประวัติอาชญากรรมของคุณแล้ว ถึงแม้ว่าคุณจะชำนาญในการเจาะเข้าไปขโมยข้อมูลของบริษัทต่างๆ
ถึงขนาดที่เจาะเข้าไปในองค์กรของMBKได้ แต่ว่า MBKตัดทิ้งไปได้เลย อีกหลายบริษัทที่เหลือ แค่ฉันช่วยคุณจัดการนิดหน่อย พวกเขาก็จะไม่ดำเนินคดีกับคุณ ส่วนMBKก็จะไม่ถือสาเอาความกับสิ่งที่คุณทำเมื่อในอดีตที่ผ่านมาเช่นกัน ข้อแลกเปลี่ยนแบบนี้ คุณพอใจไหม?”
ในตาที่ยังคงมีน้ำตาคลออยู่ของหวังเค่ยในตอนนี้ก็เต็มไปด้วยความสงสัยและสับสนอย่างไม่ได้ตั้งใจ“คุณจะช่วยผมขนาดนี้เลยเหรอ?”
ลั่วหานหันไปมองหลงเซียว พร้อมกับถามขึ้น“คุณสามีวันนี้ฉันขอใช้อำนาจในตำแหน่งของคุณหน่อยได้ไหม?”
หลงเซียวพยักหน้าอย่างตามใจ“เชิญคุณภรรยาตามสบาย ไม่จำเป็นต้องปรึกษาผม”
เหล่าบรรดาคนที่ยืนฟังบทสนทนาข้างใน จากข้างนอกหน้าต่าง ในตอนนี้ทั้งหมดหันมองหน้ากัน เจิ้งซิ่วหยาอ้าปาก พูดตำหนิขึ้น“ให้ตายสิ!นี่มันเมื่อไรกันแล้วยังจะแสดงความรักอย่างออกหน้าออกตากันแบบนี้อยู่อีก? เหมือนกับไม่เคยเจอหน้ากันอย่างนั้นแหละ!”
หวางเทาพูดยิ้มๆ“หลงเซียวปฏิบัติต่อภรรยาของเขา……เป็นอย่างที่คิดไว้เลย!”
เจิ้งซิ่วหยามองเขาด้วยท่าทางรังเกียจ“เป็นอย่างที่คิดอะไร? ถ้าบกพร่องทางคำศัพท์ล่ะก็ อย่าพูดจะดีกว่า”
ลั่วหานได้รับอนุมัติจากหลงเซียวแล้ว จึงพูดขึ้น“ฉันเป็นตัวแทนท่านประธานของMBKขอสัญญาว่าจะไม่ดำเนินคดี บริษัทอื่นก็จะไม่ถือสาเอาความคุณ อีกทั้งยังจะให้คุณรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดด้วย แต่ข้อแลกเปลี่ยนคือ หลังจากที่คุณออกไปแล้วต้องไปทำงานที่บริษัทของฉัน หลังจากนี้เป็นต้นไปต้องคอยบริการฉันเท่านั้น แถมต้องรับปากด้วยว่าจะไม่หักหลังฉัน”
หวังเค่ย“……”
คนทั้งหมดข้างนอกหน้าต่าง“……”
มีเพียงแค่หลงเซียวคนเดียวที่ยิ้มอย่างนิ่งๆ ยกปากขึ้นสูงไม่ได้พูดอะไร
หวังเค่ยไม่อยากที่จะเชื่อเนื้อหาที่ตัวเองได้ยิน ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นกะทันหันและเร็วเกินไป เขาไม่ทันได้คิดไตร่ตรองเลย!ไม่ได้ทำความเข้าใจเลยแม้แต่น้อย!
ลั่วหานพูดเสริม“เงินกู้เพื่อซื้อบ้านในเมืองหลวงของคุณส่วนใหญ่ยังคืนไม่หมด ฉันอยากให้คุณซื้อบ้านที่เมืองหลวง หวังว่าหลังจากที่ลูกสาวร่างกายฟื้นฟูดีแล้วจะได้กลับใช้ชีวิตในประเทศ จากนั้นก็เล่าเรียนในประเทศ มีชีวิตที่ปกติเหมือนกับลูกของคนอื่น ถ้าคุณต้องการแบบนี้ ฉันสามารถช่วยคุณได้ ให้ฉันจัดการเอง ฉันไม่มีทางเอาเปรียบคุณแน่นอน”
หวังเค่ยปากสั่นๆ ข้อแลกเปลี่ยนที่ลั่วหานให้เขามันล่อตาล่อใจอย่างมาก ดีจนไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธ“ทำไมถึงทำขนาดนี้ จริงๆคุณไม่จำเป็นต้อง……”
“ใช่ ฉันไม่ต้องทำขนาดนี้เลยก็ได้ จริงๆแล้ววิธีที่จะทำให้คุณเปิดปาก ไม่ได้มีแค่วิธีเดียว แต่ฉันรู้สึกว่าพ่อที่ยอมเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายเพื่อลูกสาว โดยธรรมชาติแล้วไม่ใช่คนเลว ฉันเชื่อในตัวคุณหวัง ดังนั้นหวังว่าคุณจะเชื่อในตัวฉันเช่นกัน”
ข้อเสนอที่ดีไร้ที่ติแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่สมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้
ชนะกันทั้งสองฝ่าย
ดังนั้นหวังเค่ยยอมรับข้อแลกเปลี่ยนของลั่วหาน“ได้ คุณให้พวกเขาเข้ามาเถอะ ผมจะให้ปากคำเดี๋ยวนี้ล่ะ”
ลั่วหานพยักหน้า“รบกวนคุณหวังด้วย”
ออกจากห้องสอบสวน ลั่วหานก็ตัวอ่อนทันที ถูกหลงเซียวเข้ามากอดอยู่ในอ้อมแขนไว้แน่น“ลั่วลั่ว คุณนี่ช่าง……ทำให้ผมประหลาดใจจริงๆ คุณรู้ไหม?”
ลั่วหานเอนๆหัวขณะที่ในอ้อมกอด“คุณหลง คุณกอดฉันขนาดนี้ ฉันจะหายใจไม่ออกแล้ว”
หลงเซียวคลายลง แล้วสางผมของเธอ“คุณนี่หัวแหลมจริงๆ หัวแหลมกว่าผมอีกนะเนี่ย สามีขอคารวะเลย”
ลั่วหานถอนหายใจ“ฉันเชื่อว่าความรักที่พ่อคนหนึ่งมีให้ลูกเป็นความรักที่ใสบริสุทธิ์ แม้ว่าวิธีการจะมีผิดพลาดไปบ้าง แต่บางครั้ง เราก็ต้องต้อนให้คนค่อยๆถอยหลังจนตรอกไปทีละก้าวๆ”
“ขอบคุณนะ”จู่ๆหลงเซียวก็พูดประโยคนี้ขึ้นมา
ลั่วหานเงยหน้าขึ้นมาด้วยความแปลกใจ มองใต้คางที่เป็นเหลี่ยมคมชัดพร้อมกับพูดขึ้น“ขอบคุณอะไร?”
หลงเซียวเดินโอบเธอออกจากสถานีตำรวจ“ขอบคุณที่คุณบอกผมให้รู้ว่า เวลาจัดการกับเรื่องอะไรสักเรื่องไม่จำเป็นหยาบคายรุนแรงเสมอไป บางทีเดินอ้อมๆอาจจะดีกว่า”
——
“ปล่อยฉัน!!พวกแกปล่อยฉันนะ!!ฉันไม่ได้ฆ่าคน!ฉันไม่ได้ทำ!ไม่ใช่ฉัน!!”
เสียงร้องตะโกนของซุนเจียลี่ดังก้องบ้านวิลล่าของตระกูลซุนอย่างเจ็บปวดหัวใจ ตามด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา ซุนเจียลี่ถูกเหล่าตำรวจพาขึ้นไปบนรถ
ส่วนซุนปิงเหวินที่นอนอยู่ในห้องชั้นสองทำได้แค่เอามือกุมศีรษะไว้แน่น!
“อุบัติเหตุในการรักษาที่แสนจะโกลาหลวุ่นวายเมื่อสองวันก่อนได้สิ้นสุดลงแล้ว ความจริงคือซุนเจียลี่ หมอแผนกโรคหัวใจของโรงพยาบาลหวาเซี่ยวางแผนที่จะใส่ร้ายคุณฉู่ลั่วหาน
แอบจ้างแฮกเกอร์ให้ไปขโมยวิดีโอจากกล้องวงจรปิด เพื่อให้คนได้แอบเข้าไปในโรงพยาบาลแล้วฉีดยาพิษให้กับผู้ป่วย……แฮกเกอร์ยอมรับสารภาพต่อความผิดของตัวเอง โรงพยาบาลก็ตรวจสอบได้ว่าก่อนที่จะเสียชีวิตมีคนเห็นบัตรทำงานของซุนเจียลี่แฝงเข้ามาภายในของโรงพยาบาล……”
“เรื่องการฆ่าคนตายที่สะเทือนใจคนอยู่ช่วงหนึ่งได้ถูกคลี่คลายลงแล้ว คดีการฆ่าคนตายของซุนเจียลี่คนบงการเปิดศาลเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ คนจากทุกภาคฝ่ายล้วนแต่รอดูทีท่า ส่วนตัวตนที่แท้จริงของซุนเจียลี่ก็ถูกเปิดเผยออกมา เป็นน้องสาวของซุนปิงเหวิน เป็นทายาทลูกสาวของบริษัทซุนซื่อ ตอนนี้ เพราะว่าเรื่องการฆ่าคนตายที่โหดร้ายน่ากลัว ทำให้หุ้นของบริษัทซุนซื่อตกฮวบลงในภายชั่วข้ามคืน……”
“อุบัติเหตุทางรถยนต์ของซุนปิงเหวินยังไม่ทันได้สงบลง ตอนนี้น้องสาวก็เข้าคุกอีก บุคคลวงในต่างมีอคติเชิงลบกับอนาคตในภายภาคหน้าของบริษัทซุนซื่อ……”
ข่าวแพร่กระจายไปทั่ว เกิดความวุ่นวายโกลาหลไปทั่วทุกหนแห่ง ตระกูลซุนได้ขึ้นไปอยู่หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่เป็นเรื่องที่มันไม่ได้น่ายินดีเลยแม้แต่นิดเดียว
เจิ้งซิ่วหยาเปิดหนังสือพิมพ์ในมือ นั่งไขว้ขาอ่านหนังสือพิมพ์ในสถานีตำรวจ“โม่หรูเฟยทุ่มเทเอาใจใส่ดูแลซุนปิงเหวิน ไม่ห่างไปไหนราวกับเป็นภรรยาตัวอย่าง”
อ่านจบเธอก็ยิ้มๆ ก้มลงไปหยิบแก้วชาขึ้นมา“เหล่าสหาย โม่หรูเฟยนี่เป็นแม่และภรรยาที่ดีจริงๆ?”
หวางเทายัดส้มเข้าไปในปาก คดีถูกคลี่คลายแล้ว พวกเขาก็เลยดีใจสุดๆ ถึงแม้ว่ากระบวนการในการสอบสวนคดีนี้ สองสามีภรรยาของตระกูลหลงคู่นั่นจะได้เครดิตไปมากกว่าครึ่งก็ตาม
“เป็นภรรยาที่ดีหรือไม่ไม่รู้ แต่ก่อนหน้านี้โม่หรูเฟยก็เคยเข้าไปกินข้าวแดงแกงร้อนในสถานกักกันมาอยู่สักพักหนึ่งแล้ว คุณก็คิดๆเอาแล้วกันว่าจะดีสักแค่ไหนกันเชียว?”
เจิ้งซิ่วหยาหรี่ๆตา กลืนน้ำชาลงไปในลำคอ“โม่หรูเฟยก็เคยเข้าคุกเหมือนกันเหรอ?”
หวางเทาในปากมีส้มอยู่ ยัดเข้าไปเต็มสองแก้ม“ใช่ๆ ไม่ใช่แค่โม่หรูเฟย……เอ้อ ใช่แล้ว เกาหยิ่งจือคุณรู้จักไหม? เป็นหมอของโรงพยาบาลหวาเซี่ยเหมือนกัน ตอนนี้อยู่ในคุกที่ชานเมืองตะวันตก ขายอวัยวะของคน……เธออยู่ในคุกมาหลายปีแล้ว แต่เหมือนกับหลงเซียวจะประกันให้นะ อีกห้าหกปีเธอก็น่าจะออกมาได้แล้ว แต่……ออกมาก็แก่หงำเหงือกแล้วล่ะ จุ๊ๆ”
โรงพยาบาลหวาเซี่ยมีผู้คนมากมาย ล้วนแต่เป็นคนมีความสามารถ
เจิ้งซิ่วหยากลืนน้ำลาย“เกาหยิ่งจือ? ไม่รู้จัก”
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ข้างๆคนหนึ่งลากเก้าอี้มานั่ง“ผมรู้ข่าวซุบซิบมาหนึ่งข่าว เกี่ยวกับเกาหยิ่งจือ แฟนของผมเป็นนางพยาบาลของโรงพยาบาลหวาเซี่ย เขาบอกว่าเกาหยิ่งจือชอบหมอคนหนึ่งที่นามสกุลถัง หมอคนนั้นชอบหมอฉู่ เกาหยิ่งจือเลยอยากที่จะทำร้ายหมอฉู่ แต่ผลที่ได้……หมอฉู่คือใครล่ะ? เธอเป็นถึงผู้หญิงของหลงเซียวเชียวนะ!ดังนั้น……คุณดูสิ อาการหึงหวงไม่ใช่ว่าจะไปแสดงเมื่อไรที่ไหนก็ได้นะ”
เจิ้งซิ่วหยากระพริบตาอย่างเจ้าเล่ห์“หมอสกุลถังที่คุณพูดถึง คงไม่ได้ชื่อว่าถังจิ้นเหยียนหรอกใช่ไหม?”
“ใช่ใช่!คนนี้แหละ ฝีมือทางการแพทย์ใช้ได้เลยนะ หน้าตาก็หล่อ แฟนของผมเอาแต่ชมเขาให้ฟังทั้งวัน เล่นเอาผมหึงไม่น้อยเลย!”
เจิ้งซิ่วหยาคว้าเอาส้มในมือของหวางเทามากิน แล้วเคี้ยวอย่างช้าๆ“เหอะๆ โลกนี้มันแคบจริงๆ หมุนไปหมุนมาเจอแต่คนรู้จัก”
หวางเทามือว่างเปล่า หันมองเธอ แล้วมองมือตัวเอง อึ้งไปหนึ่งวินาที
คนที่เหลือมองเธอ“คุณไปรู้จักกับใคร?”
เจิ้งซิ่วหยาปัดๆใยสีขาวของส้มที่อยู่บนมือ“หัวหน้าหวางฉันเพิ่งทำงานเสร็จจนหมดแล้ว ดังนั้นช่วงบ่ายขอพักผ่อนนะ”
“ตอนบ่ายต้องทำคดีลักทรัพย์!”หวางเทาพูดตะคอกขึ้น
“เรื่องเล็กน้อย พวกคุณจัดการกันเองได้ ฉันต้องจัดการธุระใหญ่โตของฉันสักหน่อย”
พูดจบ เจิ้งซิ่วหยาก็คว้ากุญแจรถเดินออกจากสถานีตำรวจไปอย่างเท่ๆ ธุระใหญ่โตของเธอ แน่นอนว่าเป็นธุระที่สำคัญที่สุด ยังมีอะไรที่สำคัญไปกว่าการกินข้าวอีก?
เธอต้องเอาเชฟของเธอกลับคืนมาให้ได้!
พายุลูกใหญ่สงบลงแล้ว หลังจากที่โรงพยาบาลหวาเซี่ยผ่านความวุ่นวายต่างๆนานาไปแล้ว ก็ได้สร้างมีชื่อเสียงในด้านของความมีเมตตากรุณาอย่างยิ่งใหญ่อยู่ท่ามกลางจิตใจของประชาชนในเมืองหลวง
โดยเฉพาะเรื่องความใจกว้างของหลงเซียวต่อคนที่ก่อเหตุ ทำให้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ดีจากผู้คนทุกๆฝ่ายในสังคม
คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรต่างก็พากันบอกว่าหลงเซียวเป็นNorman Bethuneท่ามกลางเหล่านักธุรกิจ
แต่คนที่รู้เรื่อง ในใจรู้ดีว่าหลงเซียวเป็นนายทุนที่ชอบใช้อำนาจหลายๆรูปแบบเพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเอง!
ถังจิ้นเหยียนพลิกหน้าหนังสือพิมพ์ ดูคำชื่นชมสรรเสริญของหลงเซียว แล้วก็ยิ้มปากกว้าง“เป็นหลงเซียวอย่างที่คิดไว้ ฝีมือเยี่ยมมาก”
“ก๊อกๆ!”
ประตูห้องทำงานถูกคนเคาะสองครั้ง ถังจิ้นเหยียนพูดขึ้น“เข้ามา”
เจิ้งซิ่วหยายืนกอดอกพิงขอบประตู“ฮาย เชฟถัง เลิกงานกี่โมง?”