คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 284 ตายไปคนหนึ่งแค่นั้นเอง
ตอนที่ 284 ตายไปคนหนึ่งแค่นั้นเอง
การประชดของไป๋เวยนั้นจ่อจงและตรงไปตรงมา ไม่ไว้หน้ากู้เยนเซินแม้แต่นิด การแสดงออกบนใบหน้าที่เยือกเย็นและเย่อหยิ่งของเธอนั้นมักจะยั่วยุดูหมิ่นและเย็นชาอยู่เสมอ
สิ่งนี้ทำให้กู้เยนเซินที่เป็นจุดเด่นในโลกของผู้หญิงอยู่เสมอนั้นรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง เขาปิดโน๊ตบุ๊คลง จัดชุดสูทของเขาให้เรียบร้อยและยิ้มอย่างกับจีบสาว เดินมาถึงตรงหน้าของไป๋เวย และยกมือข้างหนึ่งจับกรอบประตูไว้ ร่างกายส่วนบนย่อลงเล็กน้อย เพื่อกักขังไป๋เวยไว้ในร่างกายของตนเอง เวลาที่ก้มลงนิ้วมือก็ค่อยๆจับประตูไว้"ประธานไป๋ ฉันรู้สึกว่าคุณเหมือนจะชอบการผจญภัย เห็นได้ชัดว่าคุณเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญมาก ฉันชอบผู้หญิงที่กล้าหาญ โดยเฉพาะผู้หญิงที่กล้าหาญต่อหน้าฉัน"
ไป๋เวยยกนิ้วมือขึ้นมายิ้มหนึ่ง นิ้วมือที่เรียวยาวแตะไปที่เน็คไทของกู้เยนเซิน และเลื่อนลงมาทีละนิด"ประธานกู้ ฉันเป็นคนกล้าหาญจริงๆ แต่เวลาของฉันมีอยู่อย่างจำกัด ฉันจะไม่เสียเวลากับจอมเจ้าชู้อย่างคุณหรอก ในเมื่องานของประธานกู้เสร็จแล้ว นั้นเราเจอกันพรุ่งนี้"
ไป๋เวยพูดเสร็จก็สะบัดหน้าเดินจากไปด้วยขาที่เรียวยาว สักพักหนึ่งผ่านไปคนก็หายไปจากจุดสิ้นสุดของทางเดิน
เหลือกู้เยนเซินยังคงทำท่าเดิมอยู่ เขาคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้ หลังจากคนเดินไปไกล เขาจึงยืนตัวตรงขึ้นมา มองไปดูทิศทางที่ผู้หญิงหายตัวไป และหงายมุมปากปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา"ไป๋เวย ผู้หญิงคนนี้สนุกอยู่"
——
เมื่อลั่วหานออกมาจากห้องผ่าตัดก็เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ได้เห็นข้อความที่ยังไม่ได้อ่านบนโทรศัพท์
"ฉันรอคุณอยู่ที่ลานจอดรถ คืนนี้เราเจอกันหน่อย?"
คนที่ส่งข้อความมาเป็นไป๋เวย เวลาที่ส่งมาเป็นครึ่งชั่วโมงก่อน
ลั่วหานมองไปดูท้องฟ้านอกหน้าต่าง ท้องฟ้ามืดครึ้มเล็กน้อย ไม่เห็นแสงดาวและแสงจันทร์ ราวกับฝนใกล้จะตก
ลั่วหานเป็นห่วงว่าไป๋เวยกลับไปแล้ว จึงโทรกลับไป แต่คาดไม่ถึงว่าเสียงดังขึ้นทีเดียวก็มีคนรับสายแล้ว
"ลั่วลั่ว งานเสร็จหรือยัง?"
"คุณยังไม่กลับหรือ?"
"ยัง ฉันกำลังรอคุณอยู่"
"โอเค ฉันจะมาหาคุณเดี๋ยวนี้"
ลั่วหานเดินเร็วมาก ถังจิ้นเหยียนที่ต้องการปรึกษาการดูแลผู้ป่วยภายหลังผ่าตัดกับเธอนั้นยังตามขึ้นมาไปทัน เพียงต้องเห็นว่าเธอเข้าไปในลิฟต์
หลินซีเหวินกลับเดินไปต่อหน้าของถังจิ้นเหยียน"คุณหมอถัง มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?ฉันสามารถฝากบอกให้คุณได้"
ถังจิ้นเหยียนยิ้มออกมา มีความเหนื่อยล้าจากการผ่าตัดปรากฏบนใบหน้าที่สง่างามของเขา"ไม่มีอะไร เลิกงานแล้วกลับมาเถอะ"
ลั่วหานมาถึงลานจอดรถ ไป๋เวยได้กดแตรรถ
"ลั่วลั่ว ขึ้นรถ"
หลังจากขึ้นรถของไป๋เวยแล้ว ลั่วลั่วถามอย่างแปลกใจ"ดึกขนาดนี้ยังมาหาฉันอีก มีเรื่องเร่งอะไรหรือเปล่า?"
ลั่วลั่วจับหน้าผากไว้ รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย โดยเฉพาะดวงตา เจ็บแสบบ่อยมาก ช่วงนี้การผ่าตัดค่อนข้างเยอะ เธอแยกร่างไม่ค่อยได้
ไป๋เวยเห็นหน้าตาที่ดูเหนื่อยของเธอ ก็ส่ายหน้าและพูดว่า"จริงๆแล้วคุณสามารถเลิกทำงานนี้ได้ หรือสามารถให้งานของตนเองลดน้อยลง เพราะยังไงตอนนี้คุณก็เป็นไข่มุกในฝ่ามือของหลงเซียวแล้ว ทำไมต้องให้ตนเองเหนื่อยขนาดนี้ล่ะ?"
ลั่วลั่วพิงหลังเก้าอี้และหลับตาเพื่อพักผ่อน"สิ่งที่ฉันทำนั้นไม่ใช่งาน เป็นเรื่องที่ช่วยชีวิตคนอื่นและสร้างบุญกุศลให้แก่ตนเอง"
ไป๋เวยเห็นด้วยกับคำพูดของเธอ"โอเค ฉันว่าทีหลังคุณคงต้องยุ่งงานทุกๆวันแหละ เอ๊ะ ฉันมาหาคุณ เพื่อที่จะให้คุณดูสิ่งนี้ ฉันว่าคงต้องให้คุณดูหน่อย"
ลั่วหานรับรูปภาพกองหนึ่งจากมือเธอมา และเปิดไปดู ดวงตาที่เจ็บแสบในเมื่อกี้นี้เหมือนมีพลังรวมตัวมา สว่างขึ้นมาราวกับไฟฉาย"มาจากที่ไหน?"
ลั่วหานมองไปดูรูปภาพ เห็นได้ชัดว่าเป็นรูปที่แอบถ่าย มีของฉู่ซีหราน โม่หรูเฟย หยวนชูเฟินและฟู่เหวินฟาง ล้วนผ่านการปลอมตัวอย่างเรียบง่ายหรือเกินจริง พวกเธอล้วนได้พบกับคนบางคน กลุ่มคนที่ปรากฏตัวไม่ได้ต้องซ่อนตัวอย่างลึกลับ
"สิ่งนี้ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ฉันรู้ว่าคุณจะชอบ แต่คุณจะใช้ยังไงฉันก็ไม่ทราบแล้ว……"เมื่อพูดถึงสิ่งนี้ เธอมองไปที่ลั่วหาน ถอนหายใจออกมาและพูดอย่างเป็นห่วง"ลั่วหาน เรื่องหลายเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ฉันคิดไม่ออกว่าทำไมคุณจะทำแบบนี้"
ลั่วหานเก็บรูปภาพลงมากระเป๋า"อะไร?"
ไป๋เวยพูดออกมาตรงๆ"ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าโม่หรูเฟยเป็นคนที่ลักพาตัวคุณไป และก็รู้ว่าเธอเคยทำร้ายคุณไปหลายครั้ง ในเมื่อตอนนี้คุณมีโอกาสสามารถทำให้เธอตายในคุกได้ แต่ทำไมถึงปล่อยเธอไปโดยเอาทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของเป็นบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปสิ่งแลกเปลี่ยน? "
"ผู้หญิงที่เลวร้ายเช่นนี้ไม่สมควรที่จะให้อภัยอีก คุณใจอ่อนทำไมล่ะ?คุณไม่กลัวว่าจะเป็นการปล่อยเสือกลับป่าหรือ?ไม่กลัวทีหลังเธอจะมากัดคุณอีกหรือ?พูดตรงๆนะ เมื่อเห็นวิดีโอบนเน็ตถูกลดทิ้งไป ฉันไม่เข้าใจจริงๆ และก็โกรธด้วย"
ดวงตาของลั่วหานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม"สิ่งที่โม่หรูเฟยกระทำต่อฉัน เพียงพอที่จะทำให้เธอตายไปนับร้อยครั้งแล้ว แต่ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถให้เธอตายได้ ถ้าเธอตายไปแล้ว นั้นความคิดเห็นของผู้คนที่มีต่อฉันก็จะไม่เป็นอย่างที่เห็นในตอนนี้แล้ว"
"ตอนนี้?คุณหมายความว่า คนบนโซเชียลที่กำลังสนับสนุนคุณ ปกป้องคุณ และเยาะเย้ยโม่หรูเฟยอยู่หรือ?"
"ใช่ เนื่องจากฉันให้อภัยกับโม่หรูเฟย จึงสามารถได้รับการสนับสนุนจากคนบนโซเชียล และนี่ก็เป็นผลประโยชน์ต่อการฟื้นตัวของบริษัทฉู่ซื่อ เมื่อก่อนเนื่องจากการใจอ่อนของฉันเกือบจะทำให้บริษัทฉู่ซื่อต้องล้มละลาย ตอนนี้ฉันจะประคองมันขึ้นมา นี่เป็นส่วนหนึ่ง"
"อีกส่วนหนึ่งก็คือ ฉันมีหุ้นของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปอยู่ในมือ ก็สามารถช่วยเหลือเขาได้ ไม่ว่าทีหลังเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร เขาล้วนจะไม่ตกในสถานการณ์ที่ตะลีตะลาน"
เสียงของลั่วหานช้าลงเรื่อยๆ น้ำเสียงค่อนข้างจะทุ้มต่ำ แต่ก็มีพลังมากพอ เพียงแค่สิ่งที่เธอพูดนั้น ไป๋เวยไม่ค่อยเข้าใจได้
"คุณหมายความว่าหลงเซียวหรือ?เขาจะพบสถานการณ์แบบนั้นได้ยังไงล่ะ?เขาเป็นตั้งหลงเซียวนะ เป็นเทพเจ้าแห่งวงการธุรกิจ"
ลั่วหานถอนหายใจออกมา"เทพเจ้า?ในโลกนี้มีแต่คน ขอให้เป็นคนล้วนต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ไม่ถึง ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าจะราบรื่นตลอดชีวิตล่ะ?'
อย่างเช่นคุณพ่อของเธอ พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา และอย่างเช่นคนเก่งทั้งหมดที่ล้มละลายลงในชั่วข้ามคืน
เธอจะอยู่เบื้องหลังเพื่อสนับสนุนเขา และจะเป็นคนที่สามารถปกป้องเขาได้ตลอดเวลา
ไป๋เวยรู้สึกสับสนมาก แต่ในที่สุดก็เลือกที่จะตามใจเธอ"โอเค ส่วนเรื่องของโม่หรูเฟย……คุณคิดจะจบลงเพียงเท่านี้หรือเปล่า?"
"เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว การที่ได้รับหุ้มของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป เป็นเพียงขั้นตอนเล็กของฉัน สิ่งที่โม่หรูเฟยทำต่อฉัน ฉันจะทำคืนมันทุกอย่าง พอถึงเวลาที่บริษัทฉู่ซื่อฟื้นตัวขึ้นมา……"
คำพูดของเธอพูดเพียงครึ่งเดียว และไม่อธิบายต่ออีก
ไป๋เวยพูดว่า"แล้วสิ่งที่หยวนชูเฟินกับหลงถิงทำต่อคุณ……คุณจะปล่อยไปเช่นนี้เลยหรือ?แม้ว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ของสามีคุณ แต่ท่าทีที่พวกเขาปฏิบัติต่อคุณนั้นน่าหมั่นไส้จริงๆ"
ลั่วหานนวดขมับไว้ สำหรับสิ่งนี้ เธอค่อนข้างจะหัวโต"หลงถิงดูถูกฐานะทางครอบครัวของฉัน อยากจะไล่ฉันออกไปจากตระกูลหลงอย่างสิ้นเชิง สิ่งนี้ฉันโกรธขรึมมาก แต่ว่า……"ลั่วหานถอนหายใจออกมาเบาๆ"ยังไงเขาก็เป็นคุณพ่อของหลงเซียว"
"แม่ง!คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นคุณพ่อของเขาหรือ?ใช้ความสุขของลูกชายเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเพื่อหาผลประโยชน์ ไอ้เหี้ย!ฉันอยากจะยิงเขาให้คุณจังเลย!"
ไป๋เวยโกรธจนใช้มือทุบไปที่พวงมาลัย ทุบไปทีละครั้งอย่างรุนแรง
แต่ลั่วหานกลับยังมีสติอยู่"เมื่อก่อนฉันรู้สึกด้อยค่ามากต่อหน้าหลงเซียว ดังนั้นคำพูดของหลงถิงจึงสามารถทำลายฉันได้ แต่ตอนนี้ไม่เป็นแบบนี้อีกแล้ว แถมฐานะของหลงถิงยังช่วยฉันได้อีก"
"คุณ……มีแผนแล้วหรือ?"
"ใช่แล้ว ส่วนเรื่องของหยวนชูเฟิน สิ่งที่ฉันอยากรู้มากกว่าก็คือ ตกลงเธอไม่พอใจฉันตรงไหน ทำไมถึงไม่อยากให้ฉันอยู่กับหลงเซียว ผู้หญิงคนนี้ มีความลับอยู่ในตัว คนบนรูปภาพนี้อาจจะสามารถให้เบาะแสแก่ฉันได้"
ไป๋เวยฟังถึงตอนนี้ ถือได้ว่ารู้เรื่องไปส่วนมากแล้ว แต่เธอยังรู้สึกว่าไม่พอใจ"ลั่วลั่ว ฉันไม่อยากได้เห็นพวกเขาปฏิบัติต่อคุณอย่างก้าวร้าว ไม่อยากให้คนที่ทำลายคุณยังสามารถมีชีวิตอย่างสบายต่อ และยังมีเกาหยิ่งจือคนนั้นอีก คนแบบนั้นทำไมคุณถึงไม่ฆ่าไปแล้ว เหลือไว้เพื่ออะไร?"
ลั่วหานเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา ชี้ไปวันที่บนนั้น"ห่างจากงานหมั้นของโม่หรูเฟยยังมีอยู่สิบวัน พอถึงเวลานั้นความสงสัยและความหงุดหงิดของคุณทุกอย่าง ฉันล้วนจะให้คำตอบคุณ"
"โอเค!นั้นฉันรออีกสิบวัน ตอนนี้มันดึกมากแล้ว ฉันส่งคุณกลับบ้านเถอะ คุณอย่าขับรถเลย"
"เออ"
เมื่อพูดถึงสิ่งนี้ โทรศัพท์ของลั่วหานก็ดังขึ้นมา ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอเป็นหลงเซียว ไป๋เวยแกล้งทำเป็นว่าไม่เห็น และหันหน้าไปอีกข้างหนึ่ง
"ฉันอยู่กับไป๋เวย คืนนี้เธอส่งฉันกลับไป คุณไม่ต้องมารับฉันแล้ว"
ลั่วหานพูดสถานการณ์ของตนเองออกมาหมดอย่างชัดเจน รู้สึกว่าไม่เหลือให้คุณหลงถามบ้างเลย
ดังนั้น คุณหลงก็ตอบตามคำพูดของเธอ"โอเค"
รถออกจากลานจอดรถ ไป๋เวยหัวเราะออกมา"มีผู้ชายอย่างหลงเซียวสนับสนุนอยู่ อย่าไปว่าเลยแค่จะฆ่าโม่หรูเฟยคนเดียว แม้กระทั่งจะให้ตระกูลโม่และตระกูลเกาล้มละลายไป มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายอยู่ ลั่วลั่ว คุณสามารถลองดูได้"
ลั่วหานเหมือนมีความสนใจบางอย่างเกิดขึ้น จึงพูดว่า"เกาหยิ่งจือมีร้านขายเครื่องประดับหลายร้านอยู่ที่เมืองหลวง คุณว่าถ้าร้านพวกนี้หายไปในชั่วข้ามคืน จะเกิดอะไรขึ้นมา?"
"คุณหมายความว่า จะซื้อมาหมดหรือ?"ช่วงนี้ไป๋เวยค่อนข้างคุ้นเคยกับธุรกรรมขนาดใหญ่ของลั่วหาน
ลั่วหานกลับส่ายหน้า"ซื้อมา?สิ่งของของเกาหยิ่งจือฉันยังไม่ยอมจะจับเลย ฉันเชื่อว่าคุณสามารถหาคนไปทุบร้านนี้ได้ ทุบให้สะอาดหน่อย อย่าให้ฉันได้เห็นสิ่งที่ไม่อยากเห็น"
ไป๋เวยรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที"ได้!เมื่อได้ยินคุณพูดแบบนี้ ทำไมฉันรู้สึกว่าคุณเหมือนเป็นการกลั่นแกล้งพวกเขาอยู่ หลังเล่นจนเบื่อแล้วค่อยฆ่าตาย"
"จะพูดความจริงออกมาทำไมล่ะ คุณหนูไป๋สุดที่รัก"
"ฮ่าๆ!"
ฝนตกลงมาอย่างที่คิด รถสีดำเคลื่อนที่อยู่บนถนน ฝนตกลงมาอย่างรุนแรง ในที่สุดรถก็มาถึงด้านนอกวิลล่าภายใต้การขับอย่างเชี่ยวชาญของไป๋เวย
ยังไม่ทันได้ลงรถก็เห็นมีคนใส่ชุดอยู่บ้านยืนถือร่มสีดำบนขั้นบันได รูปร่างที่เรียวยาวหล่อเหลาเช่นนั้น แม้จะถูกบังด้วยฝนที่หนัก แต่ยังคงสวยงามจนไม่สามารถย้ายตาออกได้
หลงเซียวดึงประตูรถออก และปกป้องหัวของลั่วหานในอ้อมอกของตนเอง เพื่อไม่ให้เธอได้โดนฝน จากนั้นก้มลงพูดอย่างเหินห่าง"ขอบพระคุณมากคุณหนูไป๋"
ไป๋เวยพยักหน้าแล้วยิ้ม"ไม่เป็นไร"
ลั่วหานพูด"ดึกขนาดนี้แล้ว คืนนี้คุณก็พักผ่อนที่นี่เถอะ พรุ่งนี้ค่อยกลับ"
"ฉัน?"ดวงตาที่สง่างามของไป๋เวยยิ้มอย่างคลุมเครือ"ถ้าฉันอยู่คงไม่เหมาะนะ?ในโลกสองต่อสอง ถ้ามีอีกหนึ่งคนคงจะกลายเป็นเป้าให้ยิง"
แถมเมื่อกี้ได้เห็นสีหน้าของหลงเซียว ถ้าเธออยู่จริงๆ นั้นอนาคตคงต้องซวยแน่ๆ
ไม่ได้พูดอะไรมาก รถของไป๋เวยได้หายตัวในท่ามกลางของฝน
หลงเซียวจับไหล่ของลั่วหาน รู้สึกเป็นห่วงการทำงานหนักของเธอ"เหนื่อยมากใช่ไหม?"
"เมื่อกี้นี้เหนื่อยจริง แต่พอได้เห็นคุณ ฉันก็ไม่เหนื่อยแล้ว"เธอชิดไปใกล้อ้อมอกของเขา รอยยิ้มของเธอมีความพึ่งพาซ่อนอยู่
แต่หลงเซียวหลับขมวดคิ้วขึ้นมา"ฉันได้เตรียมอาหารมื้อดึกให้คุณ ฉันจะกินด้วยกับคุณ"
"โอเค!"
ฝนตกหนักมาก ลมและฝนพัดพาเข้ามาในหน้าต่าง ลมยามเย็นที่สดชื่นพัดจนในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นดอกไม้ที่หอม
พอดีในเวลานี้ โทรศัพท์ของหลงเซียวดังขึ้นมา
ลั่วหานเงยหน้ามองไปที่เขา"ทำไมไม่รับโทรศัพท์?"
หลงเซียวคว่ำโทรศัพท์ลง ไม่ไปดู"กินข้าวก่อน"
ลั่วหานรู้สึกว่าดึกขนาดนี้แล้วคนที่ยังกล้าโทรมาให้หลงเซียว ต้องมีเรื่องเร่งด่วนแน่นอน ดังนั้นหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา ได้เห็นเบอร์ที่เป็นโทรศัพท์บ้าน
"ฉันรับสายแทนคุณ"
เขาไม่ได้แสดงวาจาท่าทางใดๆ ลั่วหานเลยใส่รหัสโทรศัพท์และกดแฮนด์ฟรี เธอยังไม่ทันได้พูด อีกฝั่งหนึ่งกลับพูดอย่างเร่งรีบ
"คุณหลง เฉียวซีตายแล้ว!"
ตะเกียบในมือของลั่วหานเกือบจะหล่นลงไปในชาม แต่ในสายตาของคนฝั่งตรงข้ามไม่มีสิ่งใดปรากฏอยู่ แถมยังพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า"รู้แล้ว"
พอพูดเสร็จก็วางสายทันที
ลั่วหานกลืนน้ำลายเข้าไป"เฉียวซีตายแล้ว คุณไม่ถามสถานการณ์บ้างหรือ?"
หลงเซียวใช้แขนยาวข้ามโต๊ะไปแตะศีรษะของเธอ"คนที่ไม่สำคัญคนหนึ่ง อย่าส่งผลต่ออารมณ์ในการรับประทานอาหาร"
"เออ?ตายไปแล้วคนหนึ่ง สำหรับคุณนั้นมันไม่สำคัญ คุณหลงใจใหญ่หรือเกิน"
ได้ยินข่าวคนตายตอนที่ฝนตกหนัก ลั่วหานรู้สึกค่อนข้างไม่สบายใจ เพราะไม่นานนี้ยังมีชีวิตอยู่อย่างดี แต่ทันใดนั้นก็ตายไปแล้ว จึงรู้สึกว่าค่อนข้างจะยอมรับไม่ได้
"เธอสมควรที่จะตายไปนานแล้ว ทุกๆวันที่เธอมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ล้วนเป็นเพราะภรรยาของฉันใจดีมอบให้ แต่ภรรยาของฉันใจดีเกินไป ในที่สุดพระเจ้ายังทนไม่ไหวเลย"