Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - ตอนที่ 285 ลูเซียน นักดนตรีที่เคารพนับถือ
- Home
- Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา
- ตอนที่ 285 ลูเซียน นักดนตรีที่เคารพนับถือ
ห้องโถงของ ‘สมาคมนักดนตรี’ นั้นยิ่งใหญ่ แต่ก็เงียบสงบ ไม่ว่าที่ไหน ‘สมาคมนักดนตรี’ ก็มักจะเป็นสถานที่ที่เงียบสงบที่สุดในบรรดาสมาคมวิชาชีพ เนื่องจากนักดนตรีและผู้เล่นดนตรีส่วนใหญ่ยุ่งกับเครื่องดนตรีประเภทต่างๆ รวมถึงการฝึกวงดนตรี การซ้อม การมองหาแผ่นเพลงในห้องสมุด และอื่นๆ ดังนั้นน้อยคนนักที่จะมาสมาคมในตอนเช้า
นอกจากนี้สมาคมนักดนตรีก็ควรจะเป็นสถานที่ที่เงียบสงบเพื่อให้นักดนตรีจดจ่อกับงานดนตรีของพวกเขา
หญิงสาวสองคนที่อยู่ด้านหลังแผนกต้อนรับดูดีและน่ารัก ตอนนี้นางรู้สึกกังวลเล็กน้อยที่จะพูดคุยกับแฮงค์ ผู้รับผิดชอบงานประจำวันของสมาคม แฮงค์กำลังแนะนำสุภาพสตรีแสนสวยคนหนึ่งให้กับพวกนาง
หญิงสาวอายุประมาณยี่สิบปี นางมีผมสีดำยาวน่าประทับใจ และมีใบหน้าที่งดงาม อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดึงดูดสายตาผู้คนมากขึ้นก็คือหมาป่าสีขาวตัวใหญ่ที่ดูเรียบร้อยและฉลาดที่นั่งอยู่ข้างนาง
“ท่านหลุยส์ เราจะถามนักดนตรีคนอื่นๆ ว่าพวกเขาสนใจดนตรีธรรมชาติหรือไม่ และหากเราพบอะไร เราจะแจ้งให้ท่านทราบโดยเร็วที่สุด” เด็กสาวคนหนึ่งที่ชื่อ พอลลี ผู้ที่นับถือนักดนตรีหน้าใหม่
ท่านหลุยส์เป็นที่อิจฉาของหลายๆ คนที่มีความฝันด้านดนตรีรวมถึงสาวพนักงานต้อนรับ นางเกิดในตระกูลขุนนางและยังแสดงความสามารถทางดนตรีตั้งแต่อายุยังน้อยมาก ด้วยมรดกที่เธอได้รับและเงินที่ได้จากการเล่นดนตรี ทำให้นางซื้อน้ำยาเวทมนตร์ และปลุก ‘พร’ ที่ทำให้นางใกล้ชิดกับสัตว์และธรรมชาติมากขึ้น ‘พร’ ที่แปลกประหลาดนี้ทำให้ทักษะการเล่นของนางดีขึ้น และไม่เหมือนใคร ดังนั้นนางจึงทำให้ตัวเองโด่งดังในเทศกาลดนตรีนี้
แต่สำหรับพอลลี คนที่นางชื่นชมจริงๆ คือ ท่านเอเลน่า ท่านเอเลน่าเริ่มเป็นพนักงานต้อนรับเหมือนกับพวกนาง นางก็กลายเป็นนักดนตรีจากการพยายามอย่างหนัก และตอนนี้นางก็ทำเงินได้ดี
หลุยส์ยิ้ม และพูดอย่างสุภาพ “ขอบคุณ แนวเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘พระแม่แห่งสรรพสิ่ง’ นั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดาใน ‘อัลโต้’ แม้แต่ท่านแฮงค์ก็ยังไม่รู้ว่าเรามีนักดนตรีที่ผสมผสานความคิดบางอย่างลงไปบ้างไหม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าสองคนในตอนนี้ กรุณาถามนักดนตรีของข้าด้วยความระมัดระวัง ขอบคุณมาก”
ในเวลานี้เอง ชายหนุ่มหน้าตาดีที่สวมชุดสูทสีดำ และโบว์ เดินเข้ามาในห้องโถงผ่านประตูกระจกตามด้วยเหล่านักดนตรี และผู้เล่นนักดนตรี
พอลลีทำงานที่นี้มาหนึ่งปีแล้ว แต่นางไม่เคยพบกับชายหนุ่มหน้าตาดีที่เดินอยู่ด้านหน้า ในขณะเดียวกันนางก็รู้จักนักดนตรี และผู้เล่นนักดนตรีหลายคนที่ติดตามเขาอยู่ แต่อย่างไรก็ตามพอลลีรู้สึกว่าใบหน้าของชายหนุ่มค่อนข้างคุ้นเคย
แฮงค์หันกลับมา เขาดูสับสนในครั้งแรก จากนั้นรอยยิ้มขนาดใหญ่ก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา “ยินดีต้อนรับกลับมา ท่านอีวานส์!”
“ท่านอีวานส์?!” พอลลีกับหญิงสาวคนอื่นรู้ได้ทันทีว่าชายคนนี้เป็นใคร พวกเขาเห็นทักษะการกำกับเพลง และการเล่นเปียโนแนวใหม่ของของท่านอีวานส์ ในเทศกาลดนตรีใน ‘อัลโต้’ เมื่อสามปีที่แล้ว หญิงสาวสองคนนั้นยังเด็กมากในเวลานั้น แต่พวกเขายังจำความสง่างามและพรสวรรค์ของ ท่านอีวานส์ ได้
“อรุณสวัสดิ์ ท่านแฮงค์” ลูเซียนยิ้มและพยักหน้า หลังจากสามปีที่ผ่านมาท่านแฮงค์ดูเหมือนจะสุภาพกับเขามากขึ้นและกระตือรือร้นมากขึ้น
เมื่อลูเซียนเดินไปที่แผนกต้อนรับ พอลลีกับผู้หญิงคนอื่นก็ทำความเคารพเขาอย่างตื่นเต้นและสุภาพ “อรุณสวัสดิ์ ท่านอีวานส์”
“อรุณสวัสดิ์ ท่านอีวานส์” หลุยส์ทักทายด้วยเช่นกัน
เด็กสาวที่อายุยังน้อยต่างก็ใช้เวลาช่วงวัยรุ่นกับดนตรีของลูเซียน ดังนั้นความตื่นเต้นของพวกเขาจึงสามารถจินตนาการได้
ลูเซียนยิ้มอย่างสุภาพ เขามองไปที่หมาป่าสีขาวที่มีหูชี้ขึ้นและพูดว่า “ท่านต้องเป็นท่านหลุยส์ ข้าได้ยินคนพูดถึงเพลง และดนตรีของท่าน และข้าก็ได้ยินเพลงของท่านด้วย เยี่ยมมาก…”
ลูเซียนให้วงดนตรีของโรงแรมเล่นเพลงที่เป็นที่นิยมในมื้อค่ำที่ผ่านมา แน่นอนว่าเฉพาะเพลงที่ไม่ต้องใช้ซิมโฟนีทั้งวงในการแสดง
“ท่านอีวานส์ ถ้ายังมีอะไรอีกมากมายให้ต้องเรียนรู้” ใบหน้าของหลุยส์แดงก่ำ สำหรับนักดนตรีสาวคำพูดชมเชยจากนักดนตรีที่ยอดเยี่ยมอย่าง ลูเซียน นั้นมีความหมายต่อนางอย่างมาก แน่นอนว่ามันเป็นกำลังใจที่ดี และก็สามารถมีส่วนช่วยในการพัฒนาทางอาชีพของนางได้เป็นอย่างมาก
หลังจากทักทายไปรอบๆ ลูเซียนก็ถามพอลลี และหญิงสาวคนอื่น “ยินดีที่ได้รู้จัก ข้าขอทราบได้ไหมว่าอาจารย์ของข้า ท่านวิคเตอร์ และท่านคริสโตเฟอร์ อยู่ที่นี่ในวันนี้หรือไม่”
หลังจากจบการแสดงครั้งสุดท้าย คริสโตเฟอร์ก็กลายเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของสมาคม
“แน่ แน่นนอน… ท่านอีวานส์…” พอลลีพูดอย่างตะกุกตะกัก “ตอนนี้ ท่านวิกเตอร์เป็นผู้อำนวยการสมาคม เขามีหลายสิ่งหลายอย่างให้ทำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากงานเทศกาลดนตรี เขาทำงานในห้องสำนักงานมาระยะหนึ่งแล้ว ท่านคริสโตเฟอร์ก็อยู่ที่นี่ด้วย เร็วๆ นี้ดูเหมือนว่าเขาจะมีแนวเพลงใหม่บ้าง”
ลูเซียนพยักหน้าเล็กน้อย ไม่น่าแปลกใจที่นาตาชาขอให้เขามาสมาคมก่อน นางต้องรู้ว่า ท่านวิคเตอร์ และท่านคริสโตเฟอร์อยู่ที่นี่
ลูเซียนยังตรวจสอบว่าเฟลิเซีย และเอเลน่ามาที่นี่ในวันนี้หรือไม่ ได้คำตอบก็คือไม่ ดังนั้นลูเซียนจึงเดินไปที่สำนักงานของท่านวิกเตอร์บนชั้นสามภายใต้คำแนะนำของแฮงค์
ระหว่างทางก็มีนักดนตรีที่ลูเซียนรู้จักทักทายเขาด้วยความเคารพ
ก่อนที่ลูเซียนจะออกจากอัลโต้ ไม่ว่าลูเซียนจะสร้างความสำเร็จขนาดใหญ่เพียงใด สำหรับนักดนตรีและผู้เล่นดนตรีที่เป็นพยานถึงความยากจนที่เขาประสบมาก่อนว่าลูเซียนนั้นเป็นเด็กยากจนที่เริ่มสะสมขยะ และทำงานในห้องสมุด แต่ทันใดนั้นเด็กยากจนก็กลายเป็น ‘เศรษฐี’ ในชั่วข้ามคืน
อย่างไรก็ตามหลังจากสามปีที่ผ่านมาความสามารถของลูเซียนไม่ได้ตกต่ำเหมือนอัจฉริยะส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมเพียงครั้งเดียวในชั่วข้ามคืน เพลงใหม่ของเขาโดยเฉพาะ ‘โซนาต้าแสงจันทร์’ ซึ่งเป็นที่รู้จักในเพลงเปียโนที่น่าประทับใจที่สุด และยังคงได้รับความสำเร็จอย่างมาก
ความจริงที่ว่า ลูเซียน อยู่ห่างจาก ‘อัลโต้’ เป็นเวลาสามปีทำให้ผู้คนมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับจินตนาการ ดังนั้นเมื่อลูเซียนกลับมา ผู้คนก็ยังเคารพเขาในฐานะนักดนตรีที่ยอดเยี่ยมตัวจริง ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในโลกแห่งดนตรี!
พอลลี กับเด็กสาวคนอื่นๆ มองลูเซียน และแฮงค์เดินออกไปทางด้านหลัง หลังจากที่พวกเขาเดินขึ้นไปชั้นบน พอลลีก็จับใบหน้าของนางด้วยมือทั้งสองข้าง และพูดกลับหญิงสาวคนอื่นอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านอีวานส์ สง่างามยิ่งกว่าที่ข้าคิดไว้! ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเขานำดนตรีแบบไหนกลับมา!”
…
“สมเป็นท่านคริสโตเฟอร์” ลูเซียนคุยกับแฮงค์อย่างสบายๆ เมื่อพวกเขาใกล้จะถึงชั้นสาม “เขายังประพันธ์…”
แฮงค์พยักหน้า “แม้ว่าท่านคริสโตเฟอร์จะแสดงการแสดงเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ความหลงใหลในการแต่งเพลงของเขายังคงอยู่ จากคำพูดของเขา น่าจะเรียกว่า ‘ที่ไหนมีชีวิตที่นั่นก็มีเพลง’ หลังจากได้ยินเสียงร้องประสานเสียงอันไพเราะในเทศกาลดนตรีท่านคริสโตเฟอร์ก็ต้องการแต่งเพลงด้านศาสนา แต่ท่านรู้ไหมว่าในบรรดางานเพลงทางศาสนาที่มีอยู่มากมาย มันยากที่จะทำให้เพลงของท่านโดดเด่น ตอนนี้ท่านคริสโตเฟอร์ก็ยังติดปัญหานี้อยู่”
ก่อนที่ลูเซียนจะนำแนวโน้มด้านแนวเพลงออกสู่สาธารณชน ดนตรีด้านศาสนาได้กลายเป็นแก่นแท้นิรันดร์ของ ‘อัลโต้’ หลังจากที่พระคาร์ดินัล ชาร์ลี ที่หนึ่ง ได้สร้างมาตรฐานของนักร้องประสานเสียงขึ้นมา ลูเซียนเชื่อว่าสถานะของดนตรีทางศาสนาจะยังคงไม่ถูกสั่นคลอน และงานเพลงชิ้นเอกจำนวนมากแทบจะไม่ถูกท้าทาย
“แนวดนตรีทางศาสนา…” ลูเซียนพยักหน้าที่เต็มไปด้วยความคิด
ในไม่ช้าลูเซียน และแฮงค์ก็มาถึงที่หน้าประตูสำนักงานของวิกเตอร์
“ท่านอาจจะต้องเคาะประตูด้วยตัวเองก่อน… เพื่อให้ท่านวิกเตอร์ประหลาดใจ” แฮงค์แนะนำ
ลูเซียนเห็นด้วยและเคาะประตูเบาๆ
จากนั้นเขาก็รออยู่หน้าประตู ด้วยความสามารถการฟังที่เฉียบคมของเขา ลูเซียนก็ได้ยินว่า วิกเตอร์
กำลังเดินมาที่ประตูอย่างช้าๆ
ท่าทางของ ท่านวิกเตอร์ ยังคงเหมือนเดิมซึ่งยังไม่เคยเปลี่ยนไปเลยหลังจากเขากลายมาเป็นผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการส่วนใหญ่มักจะถามอยู่หลังประตูก่อนเพื่อดูว่าใครกำลังมาหา และตัดสินใจอีกครั้งว่าต้องการที่จะเปิดประตูหรือไม่
ประตูเปิดออกช้าๆ ใบหน้าของวิคเตอร์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนักในช่วงสามปีที่ผ่านมา เคราหนวดสีดำ ผมหยักโศกสีดำ และดวงตาสีฟ้า ชายคนหนึ่งที่อายุของเขาไม่ได้เหมือนกับหนุ่มน้อยที่เปลี่ยนรูปร่างของเขาตลอดเวลา และก็ไม่เหมือนกับชายที่มีอายุมากกว่าห้าสิบปี
วิกเตอร์มีจิตวิญญาณที่ดี ความเศร้าโศกที่เขาเคยมีตอนนี้กลับกลายเป็นความสงบ อาจเป็นเพราะความสำเร็จของ ‘ซิมโฟนีแห่งรัก’ ทำให้จิตวิญญาณของเขาสงบสุข
เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า วิกเตอร์มองดูสับสนในครั้งแรก จากนั้นเขาก็ตรวจสอบชายหนุ่มตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ราวกับว่าจะทำให้แน่ใจชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้านี้เป็นตัวจริง
จากนั้น วิกเตอร์ ก็ยื่นมือขวาออกมาวางไว้เหนือไหล่ด้านขวาของลูเซียน จากนั้นก็ตบที่ไหลของลูเซียน และพูดกับเขาด้วยเสียงเบาๆว่า “เจ้ากลับมาแล้ว… ดี… เจ้ากลับมาแล้ว”
แม้ว่าเสียงของเขาจะยังคงสงบนิ่ง แต่น้ำเสียงก็สามารถบอกได้ว่าวิกเตอร์ตื่นเต้น และมีความปิติยินดี จากมือที่อยู่บนไหล่ของเขา
ลูเซียนรู้สึกถึงอารมณ์ที่แท้จริงจากมือที่สั่นเทา และคว้าไหล่ของเขาอย่างหนัก เมื่อใจของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง และความสุขอันขมขื่น ท่วงทำนองที่ลูเซียนแต่งมานานก็เสร็จสมบูรณ์
ดนตรีที่แท้จริงมาจากความรู้สึกที่แท้จริง
……………