The Soul Purchasing Pirate - บทที่ 322: นึกว่าจะตายซะแล้ว!
S.PP: บทที่ 322: นึกว่าจะตายซะแล้ว!
ท้องทะเลพลิ้วไหวไปตามสายลมฝูงปลาต่างก็กําลังกระโดดขึ้นมาเนื้อผิวน้ํา
“ฟุ่ม!”
เมื่อร่างของพวกมันตกกระทบลงไปในท้องทะเลน้ําทะเลมากมายก็ได้สาดกระเซ็นขึ้นมาบนท้องฟ้า
ท้องฟ้าในวันนี้ช่างขาวใสบริสุทธิ์
แต่ในทันใดนั้นเอง
“บูมม!”
เสียงคํารามต่ําของปืนใหญ่ได้ทาลายบรรยากาศที่เงียบสงบลงไปในทันที กลิ่นเขม่าควันต่างก็ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งท้องฟ้า
ดูเหมือนว่าเป้าหมายของกระสุนปืนใหญ่พวกนั้นจะเป็นรูทดราก้อน
“รุนแรงกันจังเลยนะ!”
โรแกนได้กล่าวพร้อมกับแสยะยิ้มออกมา
ในเวลาเดียวกันนั้นเองวิถีสวรรค์ก็ได้กระโดดขึ้นไปกลางอากาศพร้อมกับมองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา
ทันใดนั้นเองเขาก็ได้ถูกล้อมรอบเอาไว้ด้วยห่ากระสุนปืนใหญ่โดยที่มีร่างของเขาอยู่ตรงจุดศูนย์กลาง “ชินระเท็นเซย์!” (ข่ายเทพพิชิตฟ้า)
ในตอนนั้นเองแรงผลักที่มองไม่เห็นก็ได้แผ่กระจายออกมาจากร่างของวิถีสวรรค์
“บูมม!”
กระสุนปืนใหญ่ระลอกแรกที่สัมผัสกับแรงผลักของวิถีสวรรค์นั้นได้ระเบิดออกมาในทันที หลังจากนั้นเสียงระเบิดก็ได้ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องพร้อม กับท้องฟ้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง
ในตอนนั้นเองวิถีสวรรค์ที่ยืนอยู่อย่างสง่าท่ามกลางเปลวเพลิงก็ได้ทิ้งตัวลงมาที่รูทดราก้อน
เมื่อลงมาถึงดาดฟ้าเรือเขาก็ได้กวาดตามองไปที่เรือรบด้วยสายตาที่เย็นชาพร้อมกับยกมือขวาของเขาขึ้นมาและเล็งไปที่เรือรบ
บนดาดฟ้าเรือของเรือรบเหล่าทหารเรือนั้นต่างก็กําลังตกตะลึง
“ยิ่งเข้าไปอีก!”
ดูเหมือนว่าพวกเขานั้นต้องการที่จะกําจัดพวกโรแกนให้ได้จริงๆ
“บูมม!”
กระสุนปืนใหญ่จํานวนหนึ่งได้ถูกยิงออกมาอีกครั้งพวกมันได้ฉีกกระชากอากาศและพุ่งเข้าไปหารูทดราก้อน
ในตอนนั้นเองวิถีสวรรค์ก็ได้กล่าวออกมาว่า
“ชินระ เท็นเซย์!” (ข่ายเทพพิชิตฟ้า)
ในตอนนั้นเองพลังอํานาจของวิถีสวรรค์ก็ได้ทําการทําลายกระสุนปืนใหญ่ที่พุ่งเข้ามาแต่มันก็ยังไม่ได้จบลงแต่เพียงทํานั้นด้วยพลังอํานาจขอ งมัน มันได้พุ่งตรงไปยังเรือรบสองลําที่อยู่ในบริเวณนั้นในทันที
“บูมม!”
ดวงตาของเอ็มเมนต้าได้หดแคบลงในทันทีในตอนนี้เรือรบทั้งสองลํานั้นได้ถูกทําลายไปแล้วด้วยพลังอํานาจที่บ้าคลั่งของวิถีสวรรค์
เพียงพริบตาเดียวเรือรบทั้งสองลําของเขาก็ได้ถูกทําลายลงในทันที
เหล่าทหารเรือต่างก็มองไปที่เรือทั้งสองลําด้วยความหวาดกลัว
บนดาดฟ้าเรือรูทดราก้อน
“โมอา โมอา,ร้อยเท่า!”
ลูกปัดสีดําที่อยู่ในมือของวิถีเดรัจฉานได้ถูกขว้างออกไปในอากาศและในตอนนั้นเองความเร็วของมันก็ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างพรวดพราด เพียง พริบตาเดียวกระสุนปืนใหญ่ที่หลงเหลืออยู่บนท้องฟ้าก็ได้จางหายไปจนหมดสิ้นพร้อมกับพุ่งเข้าไปหาเรือรบอีกสองลําในทันที
ในตอนนั้นเองเอ็มเมนต้าก็ได้เงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าด้วยความงุนงงและหวาดกลัว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆนับตั้งแต่ที่เขาเปิดฉากโจมตีอีกฝ่ายเขาก็ได้เสียเรือรบไปสี่ลําแล้วในตอนนี้เขาเหลือเรือรบเพียงแค่ลําเดียวเท่านั้น และนั่นก็คือลําที่เขายืนอยู่!
“ใคร? พวกเขาเป็นใครกัน?”
“ใครก็ตามที่มีพลังอํานาจมากมายขนาดนี้ไม่มีทางเป็นรุกกี้อย่างแน่นอน!”
ในตอนนั้นเองมือทั้งสองข้างที่ถือกล้องส่องทางไกลของเขาก็ถึงกับสั่นเทา เพราะสิ่งที่เขาเห็นนั่นคือใบหน้าของโรแกนที่กําลังยกยิ้มมาทาง
เขา
“ฉันรู้สึกคุ้นหน้าเขามาก..”
“แต่ว่าเขาเป็นใครกัน?”
หลังจากนั้นเขาก็สังเกตเห็นใบหน้าของวิถีสวรรค์และวิถีเดรัจฉานแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นเป็น ของจริง แต่คนที่เขารู้สึกคุ้นหน้าที่สุดก็คือชายหนุ่มที่เขาสังเกตเห็นเป็นคนแรก
ในขณะที่เอ็มเมนต้ากําลังใช้ความคิดอย่างหนักในตอนนั้นเองวิถีเดรัจฉานก็ได้ทําการประสานอินอย่างรวดเร็วพร้อมกับปลดปล่อยคาถาอัญเชิญออกมาและสิ่งที่ถูกอัญเชิญออกมาก็คือจ้าวทะเลที่มีความยาวกว่า 100 เมตร แต่ในตอนนั้นเองจู่ๆเอ็มเมนต้าก็ได้อ้าปากขึ้นมาพร้อมกับดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตกตะลึง
“จําได้แล้ว!”
“ก๊าซซซ!”
จ้าวทะเลได้ส่งเสียงคํารามลั่นออกมาพร้อมกับมุ่งหน้าเข้าไปหาเรือรบ เมื่อเห็นดังนั้นเหล่าทหารเรือที่อยู่บนเรือรบต่างก็รู้สึกหวาดกลัวและตื่นตระ หนก แต่จ้าวทะเลตนนั้นไม่ได้ลงมือทําอะไรแต่อย่างใดมันทําเพียงแค่ยืดตัวให้ตัวของมันเองเป็นทางเดินให้กับโรแกนเท่านั้น
ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้กระโดดลงไปบนตัวของจ้าวทะเลพร้อมกับก้าวเดินไปข้างหน้าที่ละ ก้าว
เพียงสิบก้าวโรแกนก็ได้มาถึงตรงหน้าของเอ็มเมนต้า
เมื่อเห็นดังนั้นเหล่าทหารเรือก็ได้กําชับอาวุธในมือแน่นด้วยความหวาดกลัว แต่โรแกนนั้นทําเพียงแค่กระโดดขึ้นไปบนเรือรบด้วยความนิ่มนวล
พร้อมกับร่างของเหล่าทหารเรือที่ล้มลงไปบนพื้นเหลือไว้เพียงแค่เอ็มเมนต้าคนเดียวเท่านั้น
“กลัวงั้นหรอ?”
โรแกนได้มองมาที่เอ็มเมนต้าพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา
“โกลดี,โรแกน! แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน!?”
เอ็มเมนต้าได้กล่าวออกมาด้วยความตกตะลึงพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับโจรสลัดผู้เป็นตํานานเขาก็ไม่สามารถสะกดข่มความกลัวภายในจิตใจเอาไว้ได้อีกต่อไป
ในขณะเดียวกันนั้นเองภายในใจของเขาก็ได้ปรากฏธงสีดําผืนหนึ่งโบกสะบัดไปมาตามสายลม
ถึงว่าทําไมฉันถึงนึกไม่ออกเป็นเพราะธงโจรสลัดที่เป็นเอกลักษณ์และไม่เหมือนใครนั้นของ พวกเขา!
เอ็มเมนต้าได้กําหมัดแน่นด้วยความกังวล
“ดูเหมือนว่านายจะประหลาดใจมากเลยงั้นสินะที่ได้มาเจอฉันในที่แบบนี้”
โรแกนได้ยกยิ้มขึ้นมาและจ้องมองไปที่เอ็มเมนต้าด้วยสายตาที่เป็นปกติ
แต่เอ็มเมนต้านั้นรู้สึกราวกับว่าเขากําลังถูกจ้องมองโดยจ้าวทะเลขนาดยักษ์มันทําให้ขนทั่วทั้งร่างของเขาลุก
“นี่มันจะน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!”
“โจรสลัดที่ยิ่งใหญ่แบบแกมาทําอะไรที่นี่”
เอ็มเมนต้าได้กล่าวออกมาด้วยความตื่นตระหนก
ตัวตนแบบเขามาอยู่ที่นี่ทําไมกัน!? ตัวตนแบบเขาควรที่จะไปอยู่ในโลกใหม่ไม่ใช่หรือไงกัน?
นี่มันจะรังแกกันเกินไปแล้ว!
“ฉันก็แค่มาจัดการธุระบางอย่างเท่านั้น”
โรแกนได้กล่าวตอบออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบาก่อนที่เขาจะเหลือบไปมองที่เรือรบทั้งสองด้านที่ถูกจมลงไปในท้องทะเล
“ขอโทษด้วยนะ,ที่ฉันจมเรือรบของนายไปแต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่หน่าพวกนายเล่นยิงปืนใหญ่มาใส่พวกฉันก่อนเอง”
เมื่อได้ยินคําพูดของโรแกนร่างของเขาก็ถึงกับสั่นสะท้านด้วยความไม่เต็มใจแต่เขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
ในตอนนั้นเองเขาก็ได้เหลือบไปเห็นว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของชายหนุ่มได้จางหายไปแล้วแต่สิ่งที่ถูกแทนที่ก็คือความรู้สึกอึดอัดที่อยู่ในใจของ
เขา
แรงกดดันของผู้ชายคนนี้จะน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว!
“ที่ฉันมาหานายก็เพราะว่าฉันมีเรื่องอยากจะให้นายช่วยสักหน่อย”
“อะไร?”
เอ็มเมนต้าได้กล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย
เมื่ออยู่ต่อหน้าแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวของอีกฝ่ายเขาจึงไม่กล้าที่จะกล่าวปฏิเสธออกมาแต่อย่างใด
“ช่วยไปบอกให้พวกกองทัพเรือและโลกใบนี้รู้ที่ว่าฉันกลับมาแล้ว!”
โรแกนได้ยกยิ้มและกล่าวออกมาด้วยความเย่อหยิ่ง
หลังจากนั้นเขาก็ได้หมุนตัวและก้าวเดินออกไปก่อนที่ร่างของเขาจะจางหายออกไปอย่างรวดเร็ว
เอ็มเมนต้าได้ก้มลงมามองที่กําปั้นพร้อมกับกัดฟันแน่นในตอนนั้นเองรูทดราก้อนก็ค่อยๆจางหายไปและเมื่อรูทดราก้อนจางหายไปอย่างสมบรูณ์เขาก็ได้ถอนหายออกมาด้วยความโล่งอกพร้อมกับทิ้งตัวลงบนดาดฟ้าเรือ
“เฮ้ออ!”
“นึกว่าจะต้องตายซะแล้ว!”