Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 327 การสอบสวน
ตอนที่ 327 การสอบสวน
ก่อนฟ้าใกล้สาง
ในห้องสอบสวนของหัวหน้าตํารวจเขตเฟิงหลิน ผู้กํากับและหัวหน้าทีมมากับตํารวจอีกสี่นายนั่งลงจ้องหน้าอาเซียว
“คุยกันหน่อยได้ไหม?” ผู้กํากับรถามหลังจากจุดบุหรี่
“การต่อสู้นี้ไม่ใช่เรื่องเล็กเลยนะ” อาเซียวยิ้ม “คนเก่าคนแก่เหล่านั้นค่อนข้างมีอิทธิพล”
“นายทําแบบนี้เพื่ออะไรล่ะ?” กัปตันถาม
“ก็เพราะเงิน แค่ต้องการเงิน” อาเซียวที่ถูกใส่กุญแจมือส่ายหน้าอย่างเชื่องช้า “ปล่อยฉันไปเถอะ นี่มันบ้ากันไปใหญ่แล้ว และข้อมือฉันก็ระบมไปหมด”
“ลองคิดว่าที่นี่คือถิ่นของนายดูไหม? ทําตัวสบายๆเถอะ”
“ฟังนะ ฉันอยากพักผ่อน แต่จะพูดยังไงดีล่ะ?” อาเซียวแสร้งทําเป็นพูดตามน้ําไปแต่เขากําลังคิดที่จะรับมืออยู่ตลอด
ก่อนเจ้าหน้าที่ตํารวจจะลุกขึ้นไป เขาก็ช่วยคลายกุญแจมือทั้งสองให้อาเซียว
“พวกนายหาฉันเจอได้ยังไง?” อาเซียวถามพลางเอียงคอคลายกล้ามเนื้อ “ฉันว่าฉันไม่ได้พลาดอะไรนะ”
“นี่นายต้องการถามอะไรฉันกันแน่?!”
“แค่บอกแนวทางให้รู้ก็ได้ ไม่งั้นฉันคงไม่กล้าพูดอะไรหรอก ฮ่าฮ่า!” อาเซียวหัวเราะเบาๆ
“นายไม่พูดแล้วใครมันจะพูดล่ะจริงไหม?” หัวหน้าทีมด้วยใบหน้าบูดบึง “มาถึงที่นี่ยังคิดว่าจะซ่อนอะไรได้อีกเหรอ?”
“คนที่ฉันพามาก็ตายไปหมด พวกเขากล้ามาทําร่วมกับฉันแสดงว่าทุกคนก็เตรียมใจไว้แล้ว” อาเซียวพูดต่อ “และฉันมีพรรคพวกอยู่นอกเขต ถ้ามีใครกล้าขายความลับล่ะก็ พวกนั้นจะฆ่าสมาชิกในครอบครัวของคนนั้นทั้งหมด”
ทุกคนขมวดคิ้วเพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นจริงหรือเท็จ
หัวหน้าทีมเอื้อมมือไปสะกิดขาตํารวจคนนั้น เพื่อเตือนว่าถ้ายังไม่เข้าใจอะไรก็อย่าพูดมาก
หลังจากนั้น เขาก็หยุดพูด “มาพูดเรื่องสําคัญดีกว่า”
“เรื่องสําคัญอะไร?”
“ตัวประกันจากสถานเลี้ยงเด็กนั่นล่ะ?” หัวหน้าขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าอยู่กับพวกนายเหรอ?”
“พรรคพวกของฉันคนหนึ่งและตัวประกันถูกยิง พวกเขาเลยมาได้แค่ครึ่งทาง” อาเซียวพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันก็ทุกข์ใจกับเรื่องนี้อยู่ ถ้าตัวประกันยังไม่ตายฉันก็คงไปนั่งนับเงินสบาย พวกนั้นตายไม่มีเหลือฉันก็ไม่อยากพูดอะไรแล้ว”
“ไร้สาระ! แล้วไอ้เรื่องที่นายส่งข้อความมาก่อนโดนจับนั่นล่ะ…ทําเพื่อแจ้งกับใคร?!” หัวหน้าตะโกนถาม “ฉันพูดถึงตัวประกันนะ!”
“ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่รึไงว่า ตัวประกันถูกทิ้งไว้ ตั้งแต่ครึ่งทางน่ะ” อาเซียวขมวดคิ้ว “เสือน้อยตัว นั้นก็เป็นแค่ลูกน้องคนหนึ่ง มันไม่เกี่ยวอะไรกับตัวประกันเลย”
“ถ้าตายแล้ว บอกฉันทีได้ไหมว่าศพนั้นถูกฝังอยู่ที่ไหน?”
“ให้ซาลาเปาฉันสักครั้งก่อน แล้วจะบอก ฮ่า ฮ่า” อาเซียวหัวเราะ
หัวหน้าชักสีหน้าหงุดหงิด
“ตอนนี้ฉันบอกไม่ได้ว่าเขาถูกฝังไว้ที่ไหน” อาเซียวหันหน้า “เพื่อนอีกสองสามคนเข้ามาในชางจีเพื่อช่วยฉัน ตอนนี้ฉันพูดไม่ได้ มันจะทําให้คนอื่นซวย”
“ตอนนี้เพื่อนของนายไม่สําคัญแล้ว สิ่งสําคัญคือการพิสูจน์ว่าตัวประกันตายจริงๆ หรือไม่ และเราก็ต้องการไปดูศพ”
“นายอยากเห็นก็ไปหาเอาสิ” อาเซียวเงยหน้า มองอย่างเย็นชาก่อนตะโกน “ฉันอยากกินซาลาเปา!”
หลังจากสิบนาที
หัวหน้าหน่วยเดินออกมาจากห้องสอบสวนก่อน ผู้กํากับจะเดินมาถาม “เจ้านั่นเป็นไงบ้างละ?”
“เจ้านี่พูดแต่เรื่องไร้สาระ ไม่ยอมบอกอะไรดีๆเลย” หัวหน้าส่ายหัว
“ล็อกตําแหน่งเสือน้อยที่รับข้อความได้ไหม” ผู้กํากับถามอีกครั้ง
“มีการเรียกร้องจากฝ่ายทหารแล้ว พวกเขาบอกว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือของเสือน้อยอยู่ๆก็หายไป” หัวหน้าส่ายหัว
ผู้กํากับถามหลังจากคิดอยู่นาน “นายคิดว่าชื่อเหมาจ่อยังมีชีวิตอยู่ไหม?”
“ผมมองกลุ่มพวกนี้ไม่ออกจริงๆ คนแก่สองคนนั้นก็เหมือนจะตายไปแล้ว” หัวหน้าคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ชื่อเหมาจ่อกับเพื่อนหมอนั่นอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการยิง ดังนั้นพวกเขาจึงมีโอกาสสูงที่จะหนีและถูกฆ่า อีกอย่าง ถ้าซื่อเหมาจ่อยังมีชีวิตอยู่ ผมก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าทําไมคนกลุ่มนี้ถึงไม่พาเขาไปด้วย ถ้ามีตัวประกันอยู่ด้วย โอกาสหนีก็มีมากขึ้นจริงไหม?”
ผู้กํากับได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกท้อแท้ “แต่ถ้าซื่อเหมาจอตาย ทําไมไอ้หมอนี่ถึงไม่รู้ที่ฝังศพ”
“เฮ้อ! ไม่มีข้อมูลเป็นประโยชน์เลย” หัวหน้าทีมกระซิบ “ตามที่เขาบอก อาเซียวคนนี้ตามจับเขาเป็นการส่วนตัว และสัญญาว่าจะให้เงินเขาห้าหมื่นหยวนเพื่อช่วยเขาหลบหนีจากช่างจี”
“เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น หรือเราควรจะถามเขาก่อนเกิดเหตุการณ์”
“ต้องถามก่อนเกิดเหตุ”
“สถานการณ์ของชื่อเหล่าจือจ่าคิดว่าไง?” ผู้กํากับถามอีกครั้ง
“ผู้ต้องสงสัยบอกว่าชื่อเหมาจ่อถูกสังหารและทิ้งไว้ครึ่งทาง เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส” หัวหน้าพูดอย่างละเอียด “ฉะนั้น ผมไม่คิดว่าหมอนั่นจะโกหก”
“คดีนี้มันดูแปลกชอบกล” ผู้กํากับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็ไม่คิดอะไร
“ใช่ มันแปลกๆ” กัปตันอธิบายอย่างรวดเร็ว “คนกลุ่มนี้คงไม่ไปสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าเพื่อเงินอย่างเดียวแน่นอน ทําไมกันนะ?”
“กลุ่มคนลักพาตัวสามารถคิดเรื่องใหญ่แบบนี้ ล่วงหน้าได้ไหม แล้วไอ้ค่าจ้างห้าหมื่นหยวนนี่มัน อะไรกัน?” หัวหน้าส่ายหัว “มันไม่มีเหตุผลเลย”
“อืม” หลังจากพยักหน้าเขาก็ตัดสินใจได้ทันที “นายไปดําเนินการสถานการณ์ทางทหาร ให้พวกGขาล็อกเบาะแสอีกชุดหนึ่งทันที”
บริเวณในเมืองซึ่งเจียง
เฉินอวี่ยืนกระวนกระวายอยู่ในห้องก่อนส่ง ข้อความถึงเฒ่าตง “ลุง ฉันยังไม่ได้รับข้อความเลย”
หลังพักหนึ่ง เฒ่าตงก็ตอบกลับมา “ฉันถามคนที่เพิ่งเป๋ยเกี่ยวกับความคืบหน้าแล้ว พวกนั้นบอกว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ กระบวนการอาจช้าลง”
“งั้นฉันติดต่อไปหาพวกนั้นได้เลยมั้ย?”
“ไม่ได้ รอให้พวกเขาติดต่อกลับเท่านั้น เพราะเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น” เฒ่าดงกระซิบ “นายวางใจได้ ไม่น่าจะมีปัญหาร้ายแรงอะไร เพราะยังเดินหลบซ่อนตามแผนได้อยู่”
“โอเค”
หลังจากฉินอวี่พยักหน้าเขาจึงวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ขณะนั้นเองเปลือกตาด้านขวาก็กระตุกสองครั้ง