Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 326 เรื่องใหญ่
ตอนที่ 326 เรื่องใหญ่
หลังจากได้ยินเสียง ชายวัยกลางคนจึงเงยหน้าขึ้นทันที “เวรแล้ว!”
“พริบๆๆ”
เฮลิคอปเตอร์พัดกระพือในอากาศพุ่งออกจากกําแพงโซนพิเศษพร้อมกับส่องไฟสว่างจ้า
“เกิดอะไรขึ้น?!” อาเซียวตะโกนถามขณะจ้องมองอย่างตะลึง “พวกลาดตระเวนรึเปล่า?”
“หลบก่อน! พิงกําแพงไว้…เร็วเข้า!” ชายวัยกลางคนโบกมือและตะโกนให้ซ่อนตัว
ทุกคนรีบวิ่งเข้าหากําแพงใกล้ตัวหลังได้ยินคํานั้น หันหลังแนบชิดกับผนังพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจจับของอีกฝ่าย แต่เฮลิคอปเตอร์ก็บินโฉบไปที่รั้วข้างหน้า
อาเซียวเห็นว่าทุกอย่างเริ่มผิดปกติเขาก็สบถด่าด้วยความโกรธ “ช่อนทําบ้าอะไรวะ อีกฝ่ายเหมือนรู้อยู่แล้วว่าเราอยู่ที่นี่”
“ไอ้เวรนี่! แกเป็นคนบอกพวกมันเหรอ?!” ชายไว้หนวดคว้าคอเสื้อของชายวัยกลางคน
ชายวัยกลางคน หันไปมองเฮลิคอปเตอร์อย่าง งุนงงก่อนตะโกนกลับมา “จะบ้าเรอะ?! ถ้างั้นฉันพาพวกนายไปที่โล่งๆไม่ดีกว่ารึไงวะ?!”
ชายไว้หนวดตะลึง
“นายมันไม่ค่อยน่าเชื่อ ต้องมีใครสักคนบอกตําแหน่ง” ชายวัยกลางคนชี้อาเซียวและคนอื่น
“ไม่ใช่เราแน่” อาเซียวไม่มีเวลาจะอธิบาย เขารีบโบกมือแล้วตะโกน “วิ่งเข้าไปในป่า!”
หลังสิ้นเสียง ทุกคนที่กําแพงไม่มีอะไรต้องพูดอีกต่างก็วิ่งไปในป่าข้างหน้า
เสียงไมโครโฟนดังขึ้นในอากาศทันที มีบางคนตะโกนใส่เครื่องขยายเสียงที่ติดอยู่ข้างเฮลิคอปเตอร์ “พวกข้างกําแพงหมอบลงกับพื้นเดี๋ยวนี้”
ทุกคนวิ่งไปข้างหน้าต่อโดยไม่สนใจคําสั่งนั้นเลย
“ฉันจะพูดอีกครั้ง ทุกคนหมอบลงกับพื้นเดี่ยวนี้”
ทุกคนยังคงตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปในป่า
“ยิ่งเตือนพวกมัน!” นักบินผู้ช่วยตะโกนกลับไปทางคนควบคุมปืนกล
“ปัง! ปัง! ปัง!”
เสียงปืนกลบนเฮลิคอปเตอร์กราดยิงอย่างรวดเร็ว วิถีกระสุนที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเป็นแสงสีส้มพุงลงกับพื้นด้วยความรุนแรง
ในพื้นที่ข้างหน้าทุกคนประมาณหกเมตร หิมะและพื้นดินถูกกระสุนกระทบกระจายขึ้นไปทั่วบริเวณแทบไม่มีช่องทางฝ่าไปได้เลย
อาเซียวเห็นอํานาจการยิงตรงหน้าของอีกฝ่าย เขาก็รู้สึกหมดหวังในทันที
มนุษย์ตัวเปล่าจะฝ่าเฮลิคอปเตอร์แบบนี้ไปได้หรือไม่?
และปืนพกเล็กๆ จะสามารถทําลายเฮลิคอปเตอร์ได้หรือเปล่า?
“หยุดวิ่ง นี่คือเครื่องบินประจําการที่ฐานฝึก” ชายวัยกลางคนยกมือห้ามทุกคนไว้ทันที “ขืนวิ่งไปต่อ เราตายกันหมดแน่”
ชายไว้หนวดเห็นว่าเฮลิคอปเตอร์เปิดฉากยิงอย่างรุนแรงขนาดนี้ เขาก็หมดแรงทันทีร่างกายก็ทรุดลง “จบแล้ว เราหนีไปไม่ได้ ทําไมกัน ทั้งๆที่เราได้รับข่าวความคืบหน้าตลอดทาง
“หมอบลงสิวะ!” เฮลิคอปเตอร์บินหมุนวน ขณะที่นักบินผู้ช่วยตะโกนสั่ง
อาเซียวกําหมัดแน่นพลางหมอบลงกับพื้นทันที เขาพูดอย่างดุดันใส่ชายวัยกลางคน “อย่าเพิ่งขัดขืน ไม่งั้นนายจะยิ่งตายเร็วขึ้น”
วัยกลางคนตกตะลึง
“ยังคิดเรื่องบ้านั้นอยู่อีกเหรอ!” อาเซียวพูดด้วยความกังวล “ไปแจ้งข่าวที่ฮ่งเจียง ทุกคนทําเสร็จแล้ว”
“ฉัน…ฉันรู้” ชายวัยกลางคนพยักหน้า
“ไปเถอะ อยู่ให้ห่างจากพวกเรา” อาเซียวกระตุ้น
ชายวัยกลางคนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนทําตามที่อาเซียวพูดทันที
หลังจากชายวัยกลางคนแอบคลานออกไป อาเซียวก็ก้มนอนราบกับพื้น “ฟังฉันนะ หลังจากที่เราถูกจับ อย่าได้พูดอะไรไม่ว่าอีกฝ่ายจะทําอะไรก็ตาม เรารู้แค่ว่าชื่อเหมารือกับต้าฮวงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตระหว่างทางมิฉะนั้นเราทุกคนจะต้องซวย”
“ใช่ ซื้อเหมาจ่อคือกุญแจสําคัญ แค่บอกว่าเขาตายแล้ว เรายังมีโอกาส” ชายไว้เคราเห็นด้วย
“การลักพาตัวซื้อเหมาจ่อทําไปเพื่อเงิน บอกพวกนั้นว่าเขาจับตาดูเขามาเป็นเวลานานแล้ว” อาเซียวพูดต่อไป “และเราบังเอิญเข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กนั่น”
“เข้าใจแล้ว”
“เข้าใจแล้ว”
อาเซียวตะโกนอีกครั้ง “นอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดออกไปและทําลายมัน เร็วเข้า!”
หลังจากพูดจบ อาเซียวก็แอบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เตรียมส่งจดหมายถึงฉินอวี่แต่หลังจากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเขาก็ชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนใจส่งข้อความแบบหมายเลขแทน “เสือน้อย ไม่ต้องตอบกลับมา มีบางอย่างผิดปกติ และศพทั้งสองก็ถูกกําจัดไปแล้ว”
ในอาคารของบริษัทการค้าในเมืองชางจี
หัวหน้าหลี่จู่เห็นพนักงานกวักมือเรียก เขาก็ถามอีกฝ่ายทันที “เกิดอะไรขึ้น?”
“บริษัทการสื่อสารได้แบ่งเครือข่ายการสื่อสารให้แล้ว เราคิดว่าเจ้าของแหล่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือหมายเลขสามสิบสามเป็นผู้ต้องสงสัย” พนักงานคนนั้นพูดอย่างมืออาชีพ “และตอนนี้เฮลิคอปเตอร์บินไปหาพวกนั้นอีกฟากหนึ่งเรียบร้อยครับ”
“พูดง่ายๆ ก็คือเมื่อกี้มีตัวเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมกับแหล่งสัญญาณหมายเลขสามสิบสามใช่ไหม?”
“ครับ ประมาณสิบวินาทีที่แล้ว โทรศัพท์เครื่องนี้ส่งข้อความมาว่า”เสื้อน้อย ไม่ต้องตอบกลับมา มีบางอย่างผิดปกติ และศพทั้งสองก็ถูกกําจัดไป” พนักงานตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“พวกอันธพาลเหล่านี้มีความสามารถใน การต่อต้านการลาดตระเวนไหมนะ?” หัวหน้าหลี่ฉู่พูดอย่างงุนงง “แจ้งหน่วย g|-315 ให้เคลื่อน ไปตรวจแหล่งที่มาของสัญญาณเพื่อดูว่ามีการตอบสนองหรือไม่”
“ได้ครับ” พนักงานพยักหน้า “ผมจะให้หอคอยออกคําสั่งไปยัง gl-315”
หัวหน้าหลี่ยืนกอดอกขณะจ้องไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ “นี่ก็คงเหมือนอันธพาลกระจอกทั่วไปล่ะมั้ง”
ภายในกําแพงโซนพิเศษ
ต้าส่วงมองโทรศัพท์อย่างว่างเปล่าก่อนจะส่ายหัว
เขาเพิ่งได้ยินว่ามีเฮลิคอปเตอร์บินลาดตระเวนอยู่ แต่คิดว่ามันจะไปหาอาเซียวและคนอื่น
เขาตกใจและโกรธมาก แต่ตอนนี้เขาต้องสงบสติตัวเอง
ข้อความสุดท้ายจากอาเซียวหมายความว่าอย่างไร?
เสือน้อย? นี่คือชื่อคนที่ไม่มีอยู่จริง
ศพทั้งสองนั้นน่าจะเป็นเรื่องโกหกที่แต่งไว้ล่วงหน้า และคําว่า “อย่ามาตอบ” มันคืออะไรกันแน่
หลังจากครุ่นคิดนานกว่าสิบวินาที ต้าฮ่วงก็เริ่มเข้าใจความหมายของอาเซียว
ศพทั้งสองนั้นก็คือไม่มีอยู่จริง พวกเขาแยกตัวออกมา อาเซียวเลยต้องทําแบบนี้เพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าเขากับซื้อเหมาจ่อตายไปแล้ว…อีกฝ่ายจะได้ไม่ต้องตามล่าเขา
อาเซียวคงหนีไปไหนไม่ได้แล้ว แต่ทําไมเขาถึงใช้โทรศัพท์มือถือพูดเรื่องนี้? เขาไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะคาดคั้นเขารึไง?
หลังครุ่นคิดอยู่นาน ต้าฮวงจึงล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง เพื่อนําซิมการ์ดออกมาหัก ก่อนจะโยนทิ้งไป
แล้วฉันควรจะไปที่ไหนต่อ?
ฉันต้องกบดานที่ช่างจีถ้ารีบกลับไปตอนนี้ ก็ไปหาความตายดีๆ นี่เอง
ต้าส่วงชะงักไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้ามองไปยังทางชายวัยกลางคนและคนอื่นเพิ่งจากไป
ในเวลาเดียวกัน
หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์วิ่งวนอยู่พักหนึ่ง รถออฟโรดหลายคันก็พุ่งออกมาจากทางออกจากประตู และทหารจํานวนมากพร้อมอาวุธครบมือลงมากดทุกคนไว้กับพื้น
อาเซียวถูกมัดโดยคนสี่คน ชายหนึ่งในนั้นก็ตะโกนบอกทุกคน “ไม่อยากโดนหนัก พวกนายก็สามารถให้ความร่วมมือกับเราได้”
ในฮ่งเจียง
หลังจากฉินอวและหลินเหนียนเลยกลับมาถึงบ้านเลขที่แปดสิบแปด พวกเขาไม่รู้สึกง่วงแต่อย่างใด ทั้งสองทําแค่จ้องนาฬิกาเพื่อรอฟังข่าวอยู่บนเตียง