Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 317 ชั้นหกที่น่าแปลกประหลาด
ตอนที่ 317 ชั้นหกที่น่าแปลกประหลาด
สถานรับเลี้ยงเด็กกําพร้ามีทั้งหมดหกชั้น ต้าฮ่วงเข้ามาจากบันไดทางด้านหลัง ถึงจะช้าหน่อย และไม่กล้าส่งเสียงดัง แต่ก็มาถึงชั้นบนสุดได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งสามผลักประตูบันไดเข้าไป มองไปรอบๆ พลางเดินไปบนทางเดินชั้นหกอย่างเงียบๆ
บนทางเดินไม่มีใครเลยสักคน แสงไฟมืดสลัวมาก เหนือประตูของประตูห้องทุกห้องบนทางเดินมีป้ายตําแหน่งติดที่ชัดเจนอยู่ ไม่ต่างจากห้องทํางานทั่วๆ ไป
“ย่องไปทางขวา” ต้าช่วงสั่งเพื่อนร่วมทีมก่อนจะก้มตัวพลางเดินแนบผนังทางฝั่งขวาแล้วและเดินตรงไป “ดูด้วยว่ามีกล้องวงจรปิดรึเปล่า”
“ฉันระวังตั้งนานแล้ว ที่นี่ไม่มีกล้องวงจรปิดหรอก” เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ด้านหลังเอ่ยปาก
“ดูแปลกๆ นะ” ต้าส่วงเดินไปด้วยและเอ่ยปากพูดไปด้วย “สถานรับเลี้ยงเด็กไม่ควรปล่อยปละละเลยขนาดนี้สิ นี่ไม่มีแม้แต่รปภ.เลยด้วยซ้ํา”
“ดูแล้วนี่คงเป็นองค์กรหลอกลวงอีกองค์กรหนึ่งสินะ” เพื่อนร่วมทีมเบะปาก “พวกมันยังกําลังคุยกันอยู่เลยว่าเด็กที่รับเลี้ยงไหม”
“เข้าไปสืบดูซะ!”
ทั้งสามพูดคุยกันไปด้วย และพากันเดินไปทางฝั่งขวา
ผ่านไปประมาณสิบวินาที ก็เดินไปเจอกับทางแยก ต้าส่วงลังเลอยู่สักพักก่อนจะเลือกไปทางขวาต่อ
ตลอดทั้งทาง ทั้งสามระวังรอบๆห้องทํางาน แต่กลับไม่ได้เห็นอะไรผิดปกติ ประตูของห้องทํางานทุกห้องถูกล้อกเอาไว้ เมื่อมองลอดหน้าต่างเข้าไป ก็มีข้าวของเครื่องใช้พร้อมทํางาน
พอเลี้ยวไปสองสามครั้ง ทั้งสามจึงเงยหน้าและเดินตรงก่อนจะเห็นว่าตัวเองมาถึงทางตันแล้ว และไม่มีห้องเดี่ยวพิเศษอะไร
“อาส่วง ทําไมฉันรู้สึกแปลกๆล่ะ?” เพื่อนร่วมทีมขมวดคิ้วขณะนั่งยองๆอยู่ข้างผนัง “นี่ มันเป็นห้องทํางานชัดๆ ไม่ได้มีห้องที่ไอ้สองคนนั้นบอกเลยสักนิด พวกมันโกหกเรารึเปล่า?”
“ไม่ใช่หรอก เหมือนว่าสองคนนั้นจะไม่ได้โกหก” ต้าฮ่วงตอบกลับอย่างแน่วแน่ “ความกลัวมันซ่อนไม่ได้นะ เมื่อกี้ตอนเราถามไอ้คนที่อายุเยอะหน่อย ถึงกับฉี่รดกางเกงเลยล่ะ”
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ?” เพื่อนร่วมทีมรู้สึกไม่เข้าใจ “นายดูนี่สิ มันไม่มีห้องส่วนตัวที่มันบอก เลยนะ”
“น่าแปลกจริงๆ” ต้าส่วงกลอกตาและในใจรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ “ถอยกลับไปก่อน เข้าห้องบันไดค่อยว่ากัน!”
ทั้งสามเป็นผู้ชํานาญที่ทํางานในสภาพแวดล้อมต่างๆ ตลอดทั้งปี ดังนั้นเมื่อเห็นว่ามีอะไรไม่สมเหตุสมผลตามที่คิดไว้ จึงรีบถอยหลังกลับทันที
ทั้งสามคนกลับไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เดินเข้าประตูบันได แต่ทันใดนั้นก็ได้เกิดเรื่องแปลกๆขึ้น เพราะประตูห้องบันไดถูกล็อก
ต้าฮ่วงกระตุกกลอนประตูไปถึงสองครั้งแต่ก็ยังเปิดไม่ออก “นายปิดประตูเหรอ?”
“ไม่นี่ ตอนข้ามาฉันก็เปิดมันทิ้งไว้นี่” เพื่อนร่วมทีมส่ายหน้า
“แต่นี่มันล็อกแล้วนะ”
“มันปิดเองมั้ง” เพื่อนร่วมทีมลองเดินไปเขย่ากลอนประตู “อยู่เงียบๆ เดี๋ยวฉันเปิดมันเอง!”
“นายทําให้มันเร็วๆ หน่อย!” ต้าช่วงหันหน้าไป มองทางเดินทั้งสองฝั่ง
เพื่อนร่วมทีมนั่งยองอยู่หน้าประตูพลางหยิบของแหลมคมออกมาจากกระเป๋าออกมา และทําการไขประตูที่ล็อกออก
ต้าฮ่วงหรี่ตามองไปรอบๆ ด้วยแววตาสงสัย “นี่ใช่ห้องบันไดที่เรามากันเมื่อกี้เหรอ?”
“ใช่” เพื่อนร่วมทีมพยักหน้า “ฉันจําทางได้ นายดูป้ายที่แขวนอยู่บนประตูนั่นสิ นั่นไม่ใช่ห้องทํางานของผู้อํานวยการหรอกเหรอ! ตอนที่เราออกมา ฉันจํามันไว้อย่างดี และจําไม่ผิดแน่นอน”
“ทําไมฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่ล่ะ” ต้าฮ่วงสายตาล่อกแล่ก
“ไม่ใช่ตรงไหน?” เพื่อนร่วมทีมถาม
ต้าช่วงตรวจดูทางเดินอีกครั้ง “สภาพแวดล้อมเหมือนกัน แต่ยังไงฉันก็รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติอยู่
“นายคิดมากไปรึเปล่า”
“แกร่ก!”
ในขณะที่ทั้งสองกําลังถกเถียงกัน เพื่อนร่วมทีมที่กําลังไขประตูอยู่ก็หันกลับมาพลางตะโกน “เปิดได้แล้ว”
“เร็วเข้า รีบไปเร็ว!” เพื่อนร่วมทีมสะกิดเร่งต้าฮ้วงก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตูเหล็กออก
“ฉันรู้แล้วว่าอะไรผิดปกติ” จู่ๆต้าช่วงก็ยืนนิ่งอยู่กับที่
“อะไรเหรอ?” เพื่อนร่วมงานหันกลับมาถาม
“แสงไฟผิดปกติ!” ต้าช่วงชี้ไปที่พื้น “พวกนายดูสิ แสงไฟของที่นี่ผิดปกติ มันสว่างกว่าที่ที่เราเข้าไปเมื่อกี้!”
“คงเป็นเพราะข้างนอกสว่างกว่าเมื่อกี้ล่ะมั้ง!” เพื่อนร่วมทีมเปิดประตู “รีบไปเถอะ!”
เมื่อสิ้นเสียง ประตูก็เปิดออกจากนั้นก็มีแสง ส่องมายังทางเดิน
ต้าช่วงหันกลับไปและมองเข้าไปข้างใน ทันใดนั้นเขาก็นิ่งอยู่กับที่ทันที
ตอนนี้ข้างในประตูไม่ใช่ห้องบันไดแล้ว แต่เป็นทางเดินที่ยาวและกว้างกว่า อีกอย่างก็ยังมีแสงไฟที่สว่างและบนพื้นก็มีพรมหนาๆอยู่ด้วย หน้าประตูห้องทุกห้องมีถังขยะสีทองวางอยู่ กําแพงทางเดินก็มีภาพเขียนสีน้ํามันกห้อยอยู่เต็มไปหมด
เพื่อนร่วมงานที่ยืนอยู่ข้างๆก็นิ่งไปทันที “ให้ตายเถอะ นี่ไม่ใช่ประตูห้องบันได!”
“เราเจอประตูลับเข้าแล้วล่ะ”
ต้าช่วงได้ยินแล้วจึงเดินไปข้างหน้า ชะโงกหน้าออกไปยังทางเดิน “พวกนายสองคนรอเดี๋ยวก่อน เดี๋ยวฉันเข้าไปดูเอง!”
พูดจบ ต้าส่วงก็เดินเข้าไปตรงทางเดินข้างในพลางนับก้าวเดินไปไม่กี่ก้าว แนบกําแพงด้านขวา และสอดส่องเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง
ชายชราคนหนึ่งสวมชุดนอนนั่งอยู่บนเตียง และกําลังให้สาวน้องร่างผอมอาบน้ําให้ตัวเองอยู่
แวบแรกที่ต้าฮ่วงเห็นฉากนี้ สมองก็ถึงกับมึนงง ครุ่นคิดสักพักแล้วถอยหลังกลับมาทันที “ที่นี่ก็คือที่สกปรก! มันไม่ใช่สถานรับเลี้ยงเด็กกําพร้าอะไรทั้งนั้น! ไปก่อนเถอะ ไปก่อน!”
“ชื่อเหมาจ่อต้องอยู่ที่นั่นแน่นอน!” เพื่อนร่วมทีมเอ่ยปากเตือน “ห้องส่วนตัวที่คนข้างล่างบอกมาต้องอยู่ที่นี่แน่นอน!”
“ไปกันก่อนเถอะ!” ต้าช่วงไม่ได้เลือกใช้วิธีที่อุกอาจ แต่กลับผลักเร่งเพื่อนร่วมงาน “เร็วเข้า!”
ทั้งสองเห็นสีหน้าที่ผิดปกติของต้าฮ่วงแล้ว ก็ไม่ได้ถกเถียงอะไร และรีบปิดประตูห้องบันไดทันที จากนั้นก็กําลังจะเดินตามต้าส่วงไป
“เอียด!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงไมโครโฟนดังขึ้นตรงทางเดิน
ต้าช่วงได้ยินก็นิ่งไป
“ปลดล็อกเป็นด้วยเหรอ?” ชื่อเหมาจื่อได้ยิน เสียงลําโพงดังขึ้น “เป็นช่างล่ะมั้ง?!”
ทั้งสามยืนอึ้งสักพัก ก่อนจะร่วมใจกันควักปืนออกมาและวิ่งหนีทันที
“หยุดเดี๋ยวนี้!” ชื่อเหมาจ่อตะโกน “ประตูบันไดอยู่ทางนั้น!” เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ซ้ายมือตะโกน
ต้าส่วงจ้องตาเขม็ง “มันตั้งใจทําป้ายเหมือนกันสองชุด เพื่อทําให้ตรวจสอบยากขึ้น! อย่าหาบันไดเลย หาหน้าต่างซะ!”
“แอ๊ด!”
เมื่อสิ้นเสียงก็มีเสียงเตะประตูดังมาจากข้างนอก และชายร่างกํายาสี่ถึงห้าคนก็พากันวิ่งออกมา
“ตึกตึกตึก!”
ในขณะเดียวกัน แสงไฟบนทางเดินก็สว่างขึ้นอีก!
ต้าฮวงไปถึงหน้าประตูห้องทํางานห้องหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพลางเตะประตูที่ล็อกและกําลังจะเข้าไปข้างใน ก็ได้ยินเสียงลําโพงดังขึ้นอีกครั้ง “หน้าต่างทุกบานทั้งหกชั้นมีตาข่ายกันขโมยทั้งหมด นายจะหนีได้ยังไง?!”
ทั้งสามนิ่งไป
“ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้น ชายสามคนเดินมาจากมุมทางเดินด้านซ้ายมือและทุกคนก็ถือปืนเอาไว้ในมือ
ต้าส่วงครุ่นคิดสักพักก่อนสีหน้าจะซีดเซียว “ออกไปไม่ได้แล้ว ปรับวิทยุสื่อสารให้หมด! เร็วเข้า!”
นอกห้อง
พี่เซียวรู้สึกแปลกใจจึงขมวดคิ้ว “แค่ไปสืบสถานรับเลี้ยงเด็กกําพร้า ต้องนานขนาดนี้เลยเหรอ?”