Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 284 ลุกขึ้นมาให้หมดฉันจะถอดเสื้อ
ตอนที่ 284 ลุกขึ้นมาให้หมดฉันจะถอดเสื้อ
รองผู้กำกับยืนอยู่บนแท่นพูดทว่าความจริงแล้วก็ไม่รู้ว่าจะกล่าวอย่างไรเช่นกันเพราะเขาไม่ทราบว่าเมื่อคืนที่เฉินป้อถูกทุบจนขาขาดทั้งสองข้างจะเกี่ยวข้องกับคนที่เซ็นใบเสร็จคนนั้นหรือไม่ฉะนั้นเขาจึงไม่กล้าเสี่ยง“ตอนนี้ไม่มีใครอยู่หรอกเขาไปคุยธุรกิจต่างประเทศ”
“เหอะๆ”พอท่านผู้บังคับบัญชาได้ยินในใจจึงเริ่มมั่นใจมากขึ้น“เขาไปคุยธุรกิจที่ไหนเหรอ?”
“เพิ่งเปย”รองผู้บังคับบัญชาตอบกลับเสียงเบา“เขาไปจับคนน่ะ”
“ไปจับคนที่เพิ่งเป๋ยใช่ไหม?”ท่านผู้บังคับบัญชาชี้อีกฝ่ายก่อนจะตะโกนเสียงดัง“โอเคนายบอกว่าเพิ่งเปยใช่ไหม?งั้นฉันเชื่อนายละกันเรามาตกลงกันหน่อยดีกว่าฉันจะพาคนมารอนายอยู่ที่นี่จากนั้นให้ยามรักษาการณ์ไปพิสูจน์ถ้าฉันผิดจริงนายจะทำอะไรก็ได้แต่ถ้าเขาเป็นคนทำเรื่องนี้จริงก็ถือว่าผู้กำกับอย่างพวกนายอำพรางคดีพวกลูกน้องนับพันคนของฉันต้องไม่ยอมแน่นอน”
“แกพูดเกินไปหน่อยรึเปล่าเรื่องระบบตำรวจแบบนี้ต้องให้แกมาชี้นิ้วสั่งด้วยเหรอ?!แกอยากจะตรวจสอบคดีก็ไปกองพิสูจน์คดีโน่นให้พวกตำรวจออกหมายสั่งแล้วฉันจะให้ความร่วมมือกับการตรวจสอบ”รองผู้อำนวยการพูดอย่างเด็ดขาด
“บอกฉันไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกแผลที่หลังของเขาเจ็บแค่เจ็ดถึงแปดวันก็หายแล้วฉันรอให้ตำรวจออกหมายจับไม่ได้หรอก”ท่านผู้บังคับบัญชาเห็นว่าอีกฝ่ายถ่อมตัวจึงแข็งข้อขึ้นอีกครั้งก่อนจะชี้ไปที่พื้น“วันนี้ฉันจะต้องเจอกับคนคนนี้ให้ได้”
“นายเป็นใครมาจากไหนฉันให้ความร่วมมือไม่ได้หรอกนะ”รองผู้อำนวยการชี้ไปที่ประตูพลางตะโกน“เอามันออกไปเดี๋ยวนี้!”
“แอ๊ด!”
ผู้บังคับบัญชาเปิดกรุอาวุธทันใดนั้นเขาก็ยกแขนขึ้น
“ปัง!”
เสียงปืนดังลั่น
ในลานใหญ่เงียบลงทันทีท่านผู้บังคับบัญชาปืนขึ้นยักคิ้วพลางตะโกน“ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อมีเรื่องหรอกนะเฉินป๋อเป็นเพื่อนร่วมรบกับฉันมาหลายปีวันนี้กลับถูกใครหน้าไหนไม่รู้มาทำร้ายจนขาหักฉันก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาฉันขอเตือนอีกรอบหนึ่งนะวันนี้ฉันต้องเจอคนที่เซ็นใบเสร็จคนนั้นถ้ามันไม่ออกมาฉันก็จะจัดการตามคดีและจะจัดการเป็นพิเศษเลยล่ะฉันไม่เชื่อหรอกว่าสุดท้ายจะไม่มีทหารผู้เป็นรั้วของชาติคนไหนออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมกับคนที่พกปืนด้วยกันอย่างเรา”
เหล่าทหารที่อยู่ด้านล่างเวทีคนส่วนใหญ่ต่างไม่รู้เรื่องอะไรฉะนั้นพอท่านผู้บังคับบัญชาเล่าเรื่องราวคร่าวๆให้ฟังพวกเขาจึงถูกปลุกระดมขึ้นทันทีจากนั้นทุกคนก็พากันยกปืนขึ้น “ส่งตัวคนมา!”
“ส่งคนมา!”
ภายในทีมนั้นหัวหน้าเป็นใหญ่สำหรับเหล่าทหารแล้วคำสั่งจากหัวหน้ามีผลต่อพวกเขามากที่สุดแม้แต่ระบบกฎหมายในพื้นที่ก็ไม่มีทางสู้ได้
เมื่อรองผู้อำนวยการเห็นอีกฝ่ายทนไม่ไหวและไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะถ้าพวกเขาคุมเข้มขึ้นมาจริงๆเรื่องนี้คงจัดการได้ยากแน่ถ้าบังคับขู่เข็ญพวกเขาแล้วสุดท้ายกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นจนเบื้องบนรู้เข้าแล้วถ้ารู้ว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้กำกับจะทำอย่างไร?แล้วใครจะสามารถมารับผิดชอบเรื่องนี้ได้?
“ส่งตัวคนมา!”
“รีบส่งตัวคนมาซะ!”
เหล่าทหารยังคงตะโกนโห่ร้องกัน
ท่านผู้บังคับบัญชามองไปที่สีหน้าของรองผู้อำนวยการจากนั้นก็รีบหันไปพูดกับหัวหน้าทหาร“ให้คนในห้องโทรหาคนในทีมแล้วอธิบายสถานการณ์ที่นี่ให้ฟังเพื่อให้พวกเขาช่วยสถานการณ์ตอนนี้เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายจะไม่บอกคงไม่ได้แล้วถ้าเราต้องคอตกกลับไปคงจะสูญเปล่าเข้าใจไหม?”
“แน่ใจเหรอท่านผู้บังคับบัญชา?”
“นายยังดูไม่ออกอีกเหรอว่ารองผู้อำนวยการคนนี้มันยอมแล้วคนที่ทำร้ายเฒ่าเฉินเมื่อคืนก็คือพวกมัน”ท่านผู้บังคับบัญชาตอบกลับ“ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็ต้องจับตัวคนร้ายให้ได้!”
“เข้าใจแล้ว”นายทหารพยักหน้าก่อนเอามือล้วงโทรศัพท์ออกมา
รองผู้อำนวยการยืนอยู่บนแท่นและครุ่นคิดอยู่นานจากนั้นจึงหันกลับไปพูดกับฟูเสี่ยวหาว“ไปเรียกฉินอวี่มาเร็วเข้า!”
“เอ่อ”ฟูเสี่ยวหาวนิ่งอึ้งก่อนจะหันตัวเดินจากไป
“ตึกตึก!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากห้องโถงหลักฉินอวี่กับแมวเฒ่ากำลังเดินออกมา
รองผู้อำนวยการเห็นทั้งสองแล้วก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะส่งสายตาให้กับแมวเฒ่าเพื่อบอกให้เขาออกไป
“ชินสือ”เหมือนว่าแมวเฒ่าจะไม่เข้าใจความหมายของฝ่ายตรงข้ามจึงยิ้มพลางเดินตรงไป“ข้างล่างโวยวายอะไรกัน?ฉันอุตส่าห์จะนอนพักสักหน่อย”
เมื่อรองผู้อำนวยการเห็นแมวเฒ่าเดินมาจึงโมโหพลางตะโกนด่าทันที“นายออกมาทำไม?!”
“ไม่เป็นไรฉันรู้อยู่แล้ว”แมวเฒ่าเกาไปที่จมูก“เราควรทำยังไงก็ทำเถอะที่นายบอกมาเดี๋ยวฉันจัดการเอง”
ถึงแม้รองผู้อำนวยการจะไม่เข้าใจว่าแมวเฒ่ากำลังเล่นอะไรอยู่แต่เห็นเขาตอบตัวเองแบบนี้ในใจจึงรู้สึกมั่นใจขึ้นทันที
“หยุดโวยวายกันได้แล้ว!”รองผู้อำนวยการตะโกนเสียงดังก่อนจะยื่นมือไปดึงแมวเฒ่ามา“พวกนายบอกให้ส่งตัวคนออกมาไม่ให้เหรอ?ได้สิเขากลับมาพอดีเลยพวกนายถามเถอะ”
ท่านผู้บังคับบัญชาได้ยินคำนี้แล้วจึงเงยหน้ามองไปที่เวทีและพอเสี่ยวชกวาดตามองไปเห็นรูปร่างและความสูงของแมวเฒ่าแล้วก็อึ้งนิ่งทันที
“เขาคือหลี่ฟูกุยเหรอ?”ท่านผู้บังคับบัญชาชี้ไปที่แมวเฒ่า
แมวเฒ่าก้มหน้าพลางล้วงบัตรประจำตำแหน่งออกมาพลางยกมือขึ้นกอดอก“ใช่ฉันเองฉันเป็นคนเซ็นใบเสร็จที่นายถืออยู่เองทำไมเหรอ?”
เสี่ยวชได้ยินแล้วก็อึ้งทิ้งไปทันที
ท่ามกลางฝูงชนฉินอวี่มองเสี่ยวชีด้วยแววตามืดมนพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย
หลายนาทีผ่านไป
ฉินอวี่กำลังคุยโทรศัพท์กับจูเวยอยู่ในอาคาร“ฮัลโหล?”
“มีอะไร?”
“นายไม่ได้อยู่ที่หน่วยเหรอ?”
“ไม่นี่ฉันออกมาสืบคดีน่ะ”
“นายเคยใส่ชุดฝึกที่อยู่ในรถของฉันไหม?”ฉนอรี่ถาม
“ไม่เคยนะฉันจะใส่ไปทำไมวะ?”จูเวยส่ายหน้า“ฉันยังมีอยู่ในตู้เสื้อผ้าอีกตั้งสองชุด!”
“โอเคไม่มีอะไรแล้ว”ฉินอวรีบวางสายทันทีในตอนที่กำลังจะวิ่งขึ้นไปชั้นบนอีกครั้งก็เจอแมวเฒ่ากำลังเดินโซเซเข้ามา
“ข้างนอกโวยวายอะไรกันเหรอ?”แมวเฒ่าขมวดคิ้ว
“แกใส่ชุดของฉันใช่ไหม?”ฉินอวี่ตะคอกถาม
แมวเฒ่านิ่งไป“ชุดเหรอ?ชุดอะไร?”
“ชุดที่ฉันใส่เอาไว้ในกระโปรงหลังรถ”ฉินอวี่พูดเตือน
แมวเฒ่านึกย้อนอยู่ครู่หนึ่ง“ออเคยใส่สิ!วันก่อนฉันใส่เสื้อไหมพรมของนายตอนที่เราย้ายสินค้ากันไงฉันไม่มีเสื้อใส่นายเลยคลุมให้ฉัน”
“ฉันเกือบจะถูกนายฆ่าตายแล้ว”ฉินอวี่กัดฟันด่าพลางเอื้อมมือไปคว้าคอของแมวเฒ่าและบังคับให้เขาลงไปชั้นล่าง“เรื่องมันเป็นแบบนี้นายฟังนะเดี๋ยวตอนออกไปก็พูดแบบนี้”
บนเวทีของสำนักงานตำรวจ
“ได้ยินว่าบนตัวของคนร้ายมีแผลใช่ไหม?”แมวเฒ่าหันตัวกลับมาก่อนจะถอดเสื้อออกอย่างทะมัดทะแมงจากนั้นก็ถูกเสื้อขนสัตว์ออกมาคลุมตัวให้เหลือแค่แผ่นหลัง“แกดูสิว่าที่หลังฉันมีแผลไหม?”
ท่านผู้บังคับบัญชาอึ้งทิ้งพลางเงยหน้ามองไปทางเสี่ยวชี
“จะดูพวกกันกับเป้าอีกไหม?”แมวเฒ่าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี“ไม่เป็นไรวันนี้ฉันยอมแก้ผ้าออกไปเต้นข้างนอกเลยแล้วเดี๋ยวฉันจะตบหน้าพวกแกเรียงคนให้ดู”“เกิดอะไรขึ้น?!”ผู้บังคับบัญชาหันไปถามเสี่ยว
“ไม่ใช่สิเขาไม่ใช่คนเดียวกันกับคนเมื่อคืนนี้นี่”เสี่ยวชีเหงื่อแตกเต็มหน้าผาก“รูปร่างส่วนสูงก็ไม่ใช่แล้วท่านผู้บังคับบัญชาท่านให้ผมเข้าไปดูคนหน่อยสิเราต้องหาคนคนนั้นเจอแน่นอน”
“แกใช้สมองพูดหน่อยนะ!”ท่านผู้บังคับบัญชาโมโห“นี่เป็นบ้านแกไงแกยังมีหน้ามาเลือกอีกเหรอ?!”