My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 555
อั่ก !
ลั่วเปียวเปิดปากและกระอักเลือดคำโตออกมา ใบหน้าของเขาซีดเซียวและกระดูกบางส่วนหัก ทำให้เขาไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คือนอนบนพื้นราวกับสุนัขตาย
เขาจ้องมองใบหน้าของฉิงเฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาหวาดกลัวชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อคนนี้มาก เขาเป็นคนที่ทรงพลังมากที่สุดเท่าที่หลิวเปียวเคยเห็นมา แค่เพียงหมัดเดียวก็ทำให้เขาหมดสภาพและบาดเจ็บสาหัส
“หมายเลข 999 สกายวูฟ ชนะได้ 10 คะแนน !” กรรมการที่เป็นชายวัยกลางคนประกาศผลการแข่งขันออกมา
ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็เลือดร้อนขึ้นหลังจากได้ยินการประกาศผลจากกรรมการ ความบ้าคลั่งปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้ชมหลายๆคน
“ไอ้บัดซบลั่วเปียว ! เขาแพ้สกายวูฟง่ายๆแบบนี้ได้ไง ? ข้าแทงข้างมันเป็นแสนๆ !”
“เวรเอ้ย ฉันไม่คิดเลยว่าสกายวูฟจะแข็งแกร่งจนสามารถอัดลั่วเปียวน็อคได้ภายในหมัดเดียว”
“ข้าเกลียดแกสกายวูฟ !”
ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างก็โกรธเกรี้ยว บางคนก็เริ่มด่าทอลั่วเปียว ขณะที่บางคนก็สาบแช่งสกายวูฟ
ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะไม่พอใจ แต่คิงคองและเสือดำกลับมีความสุข
“ท่านปู่หลี่แข็งแกร่งยิ่งนัก ! เขาสามารถเอาชนะลั่วเปียวได้อย่างง่ายดายด้วยหมัดเดียวเท่านั้น” คิงคองกล่าวด้วยความชื่นชมอย่างมาก
เสือดำพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ นายท่านมีความแข็งแกร่งมาก แม้แต่ฉันเองก็ยังไม่มั่นใจว่าจะรับหมัดของเขาได้ไหม อย่าว่าแต่ลั่วเปียวเลย”
คิงคองและเสือดำเดินกลับไปหาชายอ้วนเจ้าของโต๊ะพนันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความยินดี เนื่องจากอัตราการเดิมพันของสกายวูฟคือ 10 ต่อ 1 นั่นก็หมายความว่าพวกเขาแทงไปแสนหยวนได้กลับมาล้านหยวน !
ใบหน้าของชายอ้วนเปลี่ยนเป็นดูไม่จืดราวกับญาติเสีย เขาเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ไม่รู้ว่าสกายวูฟจะแข็งแกร่งขนาดนี้ เป็นเหตุผลที่เขาตั้งอัตราเดิมพันไว้สูง น่าเสียดายที่สกายวูฟชนะ
“เถ้าแก่ จ่ายมาได้แล้ว พวกเราแทงถูก พวกเราลงไปคนละแสนหยวนคูณด้วยสิบ หมายความว่าพวกเราจะได้เงินทั้งหมดสองล้านหยวน” คิงคองกล่าวด้วยเสียงหัวเราะขณะมองหน้าเจ้าของโต๊ะพนัน เสียงของเขาบ่งบองถึงความสะใจเป็นอย่างมาก
เป็นที่รู้กันดีว่าคิงคองหาเงินได้แค่ล้านหยวนสมัยที่เขาเป็นหัวหน้าแก๊งค์อันธพาลมาตั้งนาน แต่ตอนนี้เขาหาเงินได้หนึ่งล้านหยวนภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที !
“เอ้า จ่ายมาเร็วๆสิเถ้าแก่ ไวๆด้วย” เสือดำกล่าว เขาไม่ค่อยพอใจเจ้าของโต๊ะพนันคนนี้เท่าใดนัก เนื่องจากเจ้าของโต๊ะดูหมิ่นเจ้านายของเขาและเย้ยหยันว่าฉิงเฟิงจะต้องแพ้อย่างแน่นอน
เจ้าของโต๊ะผู้น่าสงสาร เขานับเงินจ่ายให้คิงคองและเสือดำคนละล้านหยวนด้วยอาการที่เหมือนจะร้องไห้ ผู้คนรอบๆต่างก็มองด้วยความอิจฉา
“สกายวูฟ คุณได้เอาชนะลั่วเปียวแล้ว ตอนนี้คุณมีสองทางเลือก ข้อแรกคือสู้ในแมชท์ต่อไป เรากำหนดไว้ว่าทุกๆวันจะสามารถสู้ได้ 10 ครั้ง ส่วนข้อที่สองคือหยุดไว้แค่นี้และกลับไปพัก” กรรมการกล่าวกับฉิงเฟิงด้วยรอยยิ้ม
ฉิงเฟิงตอบโดยไม่ลังเลว่า “ต่อเลย ฉันจะสู้ต่อจนกว่าจะครบโควต้าสิบครั้งนั่นแหละ”
เขาคิดจะสู้ต่อไปจนถึงสิบครั้ง เนื่องจากลิมิตของอารีน่าแห่งนี้ให้เพียงแค่สิบครั้งต่อวัน
เขาจะสู้ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ที่ 1 เพื่อบีบให้เฮลคิงออกมาเจอกับเขา !
กรรมการพยักหน้า เขาไม่แปลกใจกับทางเลือกของฉิงเฟิง เขารู้ว่าแทบทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้อยากจะเอาชนะ และพวกเขาส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะสู้ต่อไปเรื่อยๆหลังจากชนะแล้ว ฮีโร่ลิสเป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับนักสู้ทุกคนในหัวเซี่ย
“รอบต่อไปหมายเลข 999 สกายวูฟ พบกับหมายเลข 630 โจวชวง” กรรมการประกาศคู่ต่อสู้ในรอบต่อไปทันที
ปรากฏชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับแท่งเหล็กในมือ ชายคนนี้ดูมีอายุราวๆสามสิบปี เขามีใบหน้าเรียว ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่น แววตาของเขาเปล่งประกายออกมาอย่างไม่ธรรมดา ซึ่งทำให้เขาดูโดดเด่นกว่าคนปกติทั่วไป
“โจวชวงนี่นา !? เซอร์ไพรส์มากเลย รอบนี้เป็นโจวชวงผู้ชนะ 5 รอบติดต่อกัน !”
“ใช่เลย เขาโคตรเทพยามที่มีอาวุธคู่กายในมือ เขาสามารถน็อคคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว”
“ถึงแม้โจวชวงจะแข็งแกร่ง แต่สกายวูฟดูแล้วก็ไม่ธรรมดา เอาวะ รอบนี้ข้าแทงข้างสกายวูฟก็แล้วกัน !”
“ไม่มีทางหรอก ข้าว่าโจวชวงชนะแน่ เขามีอาวุธด้วย”
ผู้คนรอบๆต่างก็พูดคุยกันอย่างดุเดือด บางคนอยู่ข้างสกายวูฟ บางคนอยู่ข้างโจวชวง
ในส่วนของโต๊ะพนันของชายอ้วน เขาได้มีบทเรียนจากการต่อสู้ของสกายวูฟเมื่อรอบที่แล้ว ดังนั้นเขาเปลี่ยนอัตราเดิมพันเป็น 3ต่อ 1 ส่วนผีพนันคนอื่นๆที่กระเป๋าฉีกจากรอบที่แล้วก็ได้บทเรียนเช่นกัน มีบางส่วนย้ายไปแทงข้างสกายวูฟ
“น้องชาย นายแข็งแกร่งพอตัว แต่ก็ยังห่างไกลจากการเป็นคู่มือของข้า” โจวชวงกล่าวอย่างหยิ่งผยอง ขณะที่ชี้ไปที่ฉิงเฟิงด้วยแท่งเหล็กในมือ
ฉิงเฟิงขมวดคิ้ว ความประหลาดใจพาดผ่านดวงตาของเขา เขาถามว่า “อารีน่านี้ใช้อาวุธได้ด้วยหรือ ?”
“ใช่ ที่นี่ใช้อาวุธได้ แล้วแต่นายจะเลือก” โจวชวงกล่าวอย่างไม่แยแส
ฉิงเฟิงพยักหน้าเข้าใจ ตอนแรกเขาคิดว่าอารีน่าจะจะวัดกันที่ความแข็งแกร่งทางกายภาพเท่านั้น เขาไม่รู้ว่าสามารถใช้อาวุธได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้คิดจะใช้กริชประจำตัวของเขา
“งั้นฉันจะใช้แค่มือข้างเดียวสู้กับคุณก็แล้วกัน” ฉิงเฟิงกล่าวหลังจากมองไปที่โจวชวง
“ไอ้ลูกหมาเอ้ย ! แกกล้าหยามหน้าข้างั้นเหรอ ?” รูปลักษณ์บนใบหน้าของโจวชวงเปลี่ยน ความโกรธปรากฏขึ้นในตาของเขา
เป็นที่ทราบกันดีว่าโจวชวงค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองทะเลตะวันออก แต่ตอนนี้เขาถูกเด็กใหม่หยามหน้า เรื่องนี้ทำให้เขาหงุดหงิดมาก
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น รีบเข้ามาและเริ่มได้แล้ว อย่าทำให้ฉันเสียเวลา” ฉิงเฟิงมองไปที่โจวชวงเขาและพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ เขารู้สึกว่าชายคนนี้ช่างพูดมากนัก เขามาที่นี่เพื่อแข่งขันไม่ได้มาฟังเขาร้องเพลง
ใบหน้าของโจวชวงเปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกหงุดหงิดกับการพูดจาของฉิงเฟิง เขาตัดสินใจที่จะใช้พลังเต็มที่และมอบบทเรียนให้แก่ชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองคนนี้
วูบ !
โจวชวงเคลื่อนไหวและพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงทันที แท่งเหล็กที่อยู่ในมือของเขาวาดเป็นเส้นโค้งและกำลังจะลงเอยที่ศีรษะของฉิงเฟิง
การโจมตีนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความเร็วที่เหลือทิ้งไว้แค่เพียงเงาเท่านั้น มันทำให้อากาศโดยรอบสั่นไหว และตามมาด้วยเสียงดังสนั่น
“โอ้ว เป็นการโจมตีที่รุนแรงน่าเหลือเชื่อมาก” ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็ตกใจ โดยเฉพาะผู้ที่แทงข้างโจวชวงก็รู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ตราบเท่าที่โจวชวงเอาชนะสกายวูฟได้ พวกเขาก็จะรับเละ
ฉิงเฟิงกางนิ้วมือออกสองนิ้วเพื่อตอบโต้กับแท่งเหล็กหนาที่กำลังฟาดลงมา
กึง !
นิ้วมือทั้งสองของฉิงเฟิงหนีบตรึงแท่งเหล็กของโจวชวงที่ฟาดลงมาไว้แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้มันกระทบศีรษะเขา
โอ้ พระเจ้า ! นี่เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า ? เขาใช้สองนิ้วบล็อกแท่งเหล็กได้ ?
ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็ตกใจมาก ปากของพวกเขาอ้ากว้างจนสามารถยัดไข่เข้าไปได้ทั้งฟอง พวกเขาตกใจเป็นอย่างมาก เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงห้ารอบที่ผ่านมาโจวชวงเอาชนะคู่ต่อสู้ทุกคนด้วยแท่งเหล็กที่ทรงพลังของเขา
อย่างไรก็ตาม อาวุธคู่กายของเขากลับถูกหยุดไว้ได้อย่างง่ายดายด้วยนิ้วมือของสกายวูฟ ซึ่งมันเกินความคาดหมายของทุกคน