Long Live The Hokage - ตอนที่ 62 : แคว้นแห่งเหล็ก
นิยาย Long Live The Hokage
Chapter 62 : แคว้นแห่งเหล็ก
“อ้า ภูมิทัศน์ทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ…”
“แคว้นแห่งไฟ ไม่มีพื้นที่ที่เป็นหิมะเลยใช้ไหม? โทบิรามะ? ฮาชิรามะ?”
“ใช่ครับท่านปู่” โทบิรามะ พูด “แล้วเราก็ควรจะเดินทางให้เร็วกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเราคงไปถึงที่นั่นช้ากว่ากําหนด…”
“ใช่แล้ว เราควรทําแบบนั้นเพราะพวกท่านน่าเบื่อมาก…” มาซาฮิโกะถอนหายใจ
มาซาฮิโกะ , โทบิรามะและฮาชิรามะเดินทางมุ่งหน้าสู้แคว้นแห่งเหล็กเพราะการประชุม5คาเงะครั้งแรกจัดขึ้นที่นั่น
หนทางยังอีกยาวไกลและไม่มีอะไรเลยนอกจากหิมะสีขาวที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา
แคว้นแห่งเหล็ก เป็นชนชาติที่ไม่ธรรมดาเมื่อนานมาแล้วแคว้นแห่งนี้ได้ตกลง ที่จะพักรบกับแคว้นนินจาอื่นๆทําให้ตอนนี้พวกเขากลายเป็นแคว้นที่เป็นกลางและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดกองกําลังของ แควันนี้ไม่ใช่นินจาแต่เป็นซามูไรพวกเขามีวัฒนธรรมและกําลังทหารเป็นของตัวเอง
นี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สุดท้ายสําหรับซามูไรหลังจากที่ลัทธินินจาเริ่มแพร่หลายหลังจากฮาชิรามะเสนอให้จัดการประชุม 5 คนเงะ ขึ้นมาอีก 4 คาเงะก็เห็นด้วยทันทีและเสนอให้จัดการประชุมในแคว้นแห่งเหล็กนี้
ฮาชิรามะ เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ในฐานะคาเงะของโคโนฮะ โดยที่มีโทบรามะเป็นผู้พิทักษ์ของเขาสําหรับมาซาฮิโกะเขามาที่ แคว้นแห่งไฟนี้ด้วยจุดประสงค์อื่น…
หลังจากพวกเขามาถึงแควันแห่งเหล็กแต่ก็ไม่มีใครมาทักทายพวกเขานี่เป็นเพราะในปัจจุบันแคว้นแห่งนี้เกิดความสับสนอลหม่านเป็นอย่างมากขุนนางแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเจ้าชายยอมจัดกสารประชุม 5 คาเงะเพื่อเห็นแก่ความเป็นกลางเท่านั้นหากคาเงะ คาดหวังว่าจะได้รับการต้อนรับหรือการทักทายอย่างอบอุ่นนั้นเป็นเพียงความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงเท่านั้น
หลังจากที่เจ้าชายส่งฮาชิรามะและโทบิรามะไปยังห้องประชุมแล้วเขาก็ปล่อยให้พวกเขาอยู่ตามลําพัง
ในการประชุมครั้งนี้ 5 คาเงะ จะได้รับอนุญาตให้มีผู้ติดตามได้เพียง 1 คนเท่านั้นและมาซาฮิโกะก็คงจะไม่สามารถสงบสติได้หากเขาอยู่ในการประชุมยิ่งไปกว่านั้นคาเงะคาเงะก็เคยเห็นหน้าของ มาซาฮิโกะแล้ว…มันจะทําให้เกิดความอึดอัดใจสะเปล่า ๆ แม้ว่าการ ประชุม 5 คาเงะจะทําให้เขาได้รับแต้มการเข้าร่วมแต่เขาก็ไม่ต้องการเสี่ยงที่จะทําให้เกิดสงครามระหว่างซึนะกับโคโนฮะ
ดังนั้น มาซาฮิโกะ จึงเดินเที่ยวอยู่รอบๆห้องประชุมเขามองดู ซามูไรหลายคนที่สวมชุดเกราะหนักขณะที่เขาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตตัวเดียวที่มีสัญลักษณ์ตระกูลอุซึมากิอยู่ด้านหลังซึ่งทําให้เขารู้สึกอึดอัดแทนเล็กน้อย
หลังจากผ่านไปประมาณ 15 นาทีมาซาฮิโกะก็พบจุดหมายของเขาในที่สุดนั่นก็คือร้านช่างเหล็ก
“สวัสดีครับ ท่านต้องการอาวุธอะไรเหรอ?”
มาซาฮิโกะ เข้าไปในร้านและได้รับการต้อนรับอย่างรวดเร็วจากชายหนุ่มคนหนึ่ง
มาซาฮิโกะ มองไปรอบๆเขามองไปเห็นผนักของร้านที่มีดาบขนาดต่างๆแขวนโชว์อยู่เต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นทันโตะ(ดาบซามูไรสั้น) , คาตานะ , โอดาชิ (ดาบใหญ่) , นากินาตะ (ดาบคล้ายหอก)…
“น่าสนใจ! มีดาบหลายประเภทเหลือเกิน…แต่ฉันกําลังมองหาอาวุธที่ดีที่สุดของคุณ”มาซาฮิโกะทําตัวเหลือนลูกค้า VIP
ช่างตีเหล็กหยิบดาบเล่นหนึ่งออกมาจากกําแพงทันทีและพูดว่า“นี่คือดาบคาตานะที่ดีที่สุดในร้านของเรามันราคาเพียงแค่ 10,552…”
“ว้าว ดูดาบเล่มนี้สิ…” มาซาฮิโกะพูดขัดจังหวะขึ้นมาและหยิบมีดเล่มหนึ่งขึ้นมาดูจากนั้นเขาก็ลองเค้นคุณสมบัติจักระลมเข้าไปในมีดเล่มนั้น
“โอ๊ะ!” ทันทีที่จักระเริ่มไหลเข้าไปมี ดก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทันที
ใบหน้าของช่างตีเหล็กแข็งที่อทันทีเขารู้สึกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น “สงสัยมันไม่เหมาะสําหรับนินจาแต่…”
“อะนี่ 10,552 เรียวของคุณ” มาซาฮิโกะมอบเงินให้กับเจ้าของร้านต้องขอขอบคุณฮาชิรามะที่ติดการพนันทําให้เขากลายเป็นเศรษฐี “ที่นี่ก็เอาอาวุธที่ดีที่สุดของคุณให้ฉันได้แล้ว”
“นั่นดีที่สุดแล้ว…”
มาซาฮิโกะส่ายหัว“ร้านขายอาวุธร้านใหญ่ขนาดนี้ไม่มีอาวุธที่ดีเลยเหรอ?”
ช่างตีเหล็กกัดฟันแน่นจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหลังร้านหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ออกมาพร้อมกับดาบเล่นหนึ่งที่อยู่ในมือ
“ท่านเป็นนินจาใช้ไหม? ดาบเล่นนี้ใบมีดของมันถูกชุบด้วยแร่นจักระเหมาะสําหรับท่านฉันจะขายให้ในราคา
1ล้าน5แสนเรียวแต่อย่าบอกใครนะว่าท่านซื้อมาจากร้านฉันนะ”
“นั่นไงล่ะ มีอาวุธจักระเจ๋ง ๆจริง ๆ !” มาซาฮิโกะพูดอย่างร่าเริง หลังจากทั้งหมดนี่คือจุดประสงค์ของการเดินทางของเขา
ไม่นานมานี้เขาสังเกตเห็นว่าหนึ่งในดาวกระจายพิเศษของเขาหายไปหลังจากคิดว่ามันจะอยู่ที่ไหนเขาก็คิดว่ามัน น่าจะหายตอนที่เขาเดินทางไปยังแคว้นแห่งลมเขาพยายามใช้คาถาอันเชิญย้อนกลับแต่มันก็ไม่สามารถเรียกมันกลับคืนมาได้เพราะระยะทางที่ห่าง เกินไปเขาสันนิษฐานว่านักบวชคงจะเจอมันแล้วผนึกมันหรือทําลายมันทิ้งไป แล้ว และด้วยเหตุนี้เขาจึงมาที่แคว้นแห่งเหล็กแห่งนี้
มาซาฮิโกะ กําลังคิดอยู่ว่าเขาจะสามารถเอาดาบจักระออกไปได้อย่างไรโดยที่ไม่ให้คนอื่นรู้
“ทําไมฉันบอกคนอื่นไม่ได้ล่ะ?” มาซาฮิโกะคิดเรื่องนี้แล้วถาม
ช่างตีเหล็กลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็อธิบายว่า“ท่านนินจาท่านอาจไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของแคว้นเราในตอนนี้ตั้งแต่เราค้นพบแร่นจักระในแคว้นของเราซามูไรก็แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายฝ่ายแรกต้องการให้เราใช้ดาบแบบดั้งเดิมของพวกเขาอีกฝ่ายหนึ่งต้องการ ใช้งานแร่นําจักระรวมเข้ากับดาบของพวกเขา…”
มาซาฮิโกะ พยักหน้า “ถ้าอย่างงั้นแส ดงว่าเมืองนี้ถูกยึดครองโดยฝ่ายดั้งเดิม?แต่คุณก็ยังกล้าขายอาวุธจักระอีกเหรอ?”
ช่างตีเหล็ก ยิ้ม “เจ้านายของฉันเอาแร่ นําจักระมาได้จํานวนหนึ่ง จากนั้นฉันก็ดีมันออกมาเป็นดาบได้ 3 เล่ม 2 เล่มขายไปแล้วและเล่มสุดท้ายอยู่ในมือท่าน”
มาซาฮิโกะรู้สึกผิดหวังเพราะเหมือนว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้พูดโกหกและแผนการที่จะซื้อแร่เหล็กนําจักระของเขาก็ล้มเหลว
“เอาล่ะ ฉันจะเอาดาบเล่มนี้” มาซาฮิ โกะ ควักเงินจากกระเป๋าของเขาแล้วส่งให้ช่างตีเหล็กเขาคิดว่าบางที่เขาสามารถสกัดวัตถุดิบออกจากใบมีดเล่มนี้ได้โดยใช้ทักษะการตีเหล็กของเขา
หลังจากนั้น มาซาฮิโกะก็เดินไปดูร้านขายอาวุธร้านอื่น ๆ อีกหลายแห่งแต่เขาก็ไม่สามารถหาสิ่งที่เขาต้องการได้มาซาฮิโกะถอนหายใจด้วยความคิดที่ ว่าเขาอาจมาผิดที่
“เราจําได้ว่า มิฟูเนะก็ใช้ดาบจักระแสดงว่าในอนาคตฝ่ายสมัยใหม่จะได้รับชัยชนะเอาไว้เมื่อถึงเวลานั้นฉันจะสร้างดาวกระจายพิเศษสัก 108 อันไปเลย…”
แผนล้มเหลวและมาซาฮิโกะก็เดินกลับไปยังห้องประชุม 5 คาเงะ
“ถ้าจําไม่ผิด การประชุม 5 คาเงะครั้งนี้ใช้เวลาไม่นานรู้สึกว่าในการ์ตูนจะใช้เวลาประมาน 5 นาทีเอง…”มาซาฮิโกะยืนอยู่หน้าห้องสักพัก…
2 ชั่วโมงผ่านไปแล้ว นับตั้งแต่เขามา ถึงที่นี่…เขาได้แต่หวังว่า ฮาชิรามะจะออกมาในไม่ช้า
ในที่สุด 5 คาเงะ ก็ออกมาพร้อมกับผู้ติดตามของพวกเขาที่ละคน พวกเขาดูมีความสุขมาก
คนเดียวที่มีใบหน้าที่เศร้าหมองคือโทบิรามะดูเหมือนว่าฮาชิรามะ จะแสดงด้านตลกของเขาในห้องประชุมนั้น…
นอกจาก ฮาชิรามะกับโทบิรามะแล้วมาซาฮิโกะก็จผู้เข้าร่วมประชุมได้ เพียง 2 คนเท่านั้น หนึ่งในนั้นก็คือคาเสะคาเงะ รุ่นแรกที่มองมาทางเขาแต่ดูเหมือนว่าคาเสะคาเงะจะไม่สนใจเขามากนักดูเหมือนว่าคาเสะคาเงะจะจําเขาไม่ได้ท้ายที่สุดแล้วมันก็มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างอายุ 20 กับ 53
อีกคนที่มาซาฮิโกะ จําได้ก็คือท่านมูซึจิคาเงะรุ่น 2 ปัจจุบันเขาเป็นผู้ติดตามของซึจิคาเงะรุ่นแรก
“เราจําได้ว่าเขาชื่อมูร่างกายของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผลตั้งแต่แรกเลยเหรอ? เราคิดว่าเขาน่าจะถูกไฟไหม้เพ ราะ คาถาเดือดพล่านของมิซึคาเงะรุ่น 2 สะอีก! ไม่ใช่งั้นเหรอ?บางทีเขาอาจ โกหกและจริง ๆแล้วเขาอาจถูกไฟไหม้จากอุบัติเหตุตอนทําอาหารก็ได้มัง”
“ท่านปู่ เราไปกันเถอะ…” ฮาชิรามะเดินไปที่มาซาฮิโกะ และพูดด้วยความตื่นเต้น“การประชุมสุดยอดครั้งนี้ประสบความสําเร็จอย่างมากและเราก็สามารถสร้างพันธมิตรได้สําเร็จ”
“ท่านพี่ โปรดรักษาภาพพจน์ของท่านด้วยตอนนี้ความน่าเกรงขามในฐานะโฮคาเงะของท่านได้หายไปหมดแล้ว…” โทบิรามะดุฮาชิรามะแต่คนที่ได้รับสายตาที่เย็นชาของเขาคือมาซาฮิโกะ!
ในเวลานั้นมาซาฮิโกะรู้สึกงงเป็นอย่างมาก