[LN] ใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าผมมีเลิฟคอมเมดี้ในชีวิตจริงไม่ได้ - ตอนที่ 21
“…สถานการณ์ไม่เป็นไปอย่างที่คิดอีกแล้ว”
ณ ห้องประชุม M ที่ไม่ค่อยมีคน
ตรงที่นั่งปกติของผมที่อยู่ด้านใน ผมจ้องไปยังบันทึกมิตรภาพที่อยู่บนแท็บเล็ตด้วยอาการมึนงง
ทั้งการกระทำของคุณคิโยซาโตะก็ดี การกระทำของโทคิวะก็ดี เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสิ่งผิดปกติที่ไม่ได้อยู่ในข้อมูลที่ผมรวบรวมมา
“ถ้าเกิดเป็นการนัดหมายกะทันหันฉันก็เข้าใจอยู่หรอก… แต่เป็นไปได้ด้วยเหรอที่ทั้งสองคนจะถูกนัดหมายพร้อมกันน่ะ… ก่อนอื่นเลย ไอ้กลุ่มที่ว่ามานั้นมันหมายถึงกลุ่มอะไร”
จากการวิเคราะห์ของผม คุณคิโยซาโตะไม่ได้สังกัดอยู่กับกลุ่มไหนและไม่ได้ไปเที่ยวกับใครเป็นประจำ ด้วยเหตุนี้ผมจึงสร้างกลุ่มที่มีความสัมพันธ์แบบกึ่งบังคับโดยการปลอมฉลากขึ้นมา
อย่าบอกนะว่าจู่ๆ เขาก็ไปสร้างกลุ่มเพื่อนสนิทขึ้นมากะทันหัน แต่วี่แววมันอยู่ที่ไหน
“ไม่สิ ถ้าเกิดมีการเคลื่อนไหวแบบนั้นเราก็น่าจะรู้ไปแล้วนี่นา… อีกทั้งเรายังได้เพิ่มปริมาณการหาข้อมูลไปแล้วด้วย ทำไมเราถึงยังไม่เข้าใจอีกกันนะ…”
อย่าบอกนะว่า…การหาข้อมูลของเรามีข้อบกพร่อง
“อ๊า ไม่รู้ด้วยแล้ว!”
ผมโยนแท็บเล็ตลงบนโต๊ะด้วยความหงุดหงิด
เมื่อเห็นการกระทำดังกล่าวอุเอโนะฮาระก็ได้ร้องออกมาดัง “เฮ้อ”
“ก็บอกว่าให้ใจเย็นๆ ไง บางทีพวกเขาอาจจะสื่อสารกันโดยตรงผ่านแอปส่งข้อความก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นเราก็ไม่มีทางรู้เลยใช่ไหมล่ะ”
“ก็ใช่ แต่ว่า…”
ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงว่าการกระทำของคุณคิโยซาโตะเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้เลย ลงท้ายมันก็เป็นเหมือนกับต้นซากุระตอนนั้น ที่ผมไม่สามารถอธิบายด้วยข้อมูลที่รวบรวมมาได้
ผมกำหมัดแน่น ก่อนจะรู้ตัวมือของผมก็มีเหงื่อออกจนเกิดความไม่สบายใจ
“ให้ตายสิ จะรีบแพนิคไปถึงไหน คิดอย่างใจเย็นหน่อยสิ ใจเย็นๆ น่ะ”
“ปล่อยฉันเถอะ”
ผมตอบอุเอโนะฮาระไปแบบสั้นๆ และเรียบๆ
เมื่อเห็นการตอบสนองของผม อุเอโนะฮาระก็ได้เอียงหัวและทำหน้าครุ่นคิดด้วยเหตุผลบางอย่าง
“…มีอะไร”
“…เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่นายคงไม่ได้คิดปล่อยมันทิ้งเอาไว้แบบนี้ใช่หรือเปล่า”
สุดท้ายอุเอโนะฮาระก็ไม่ได้อธิบายอะไร และใช้น้ำเสียงตามปกติเร่งให้ผมพูดต่อไป
…อา นั่นสินะ
ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องทำสิ่งที่ทำได้เท่านั้น
“เพราะคราวนี้ ทำให้ได้รู้ว่าเขาติดต่อกับคนอื่นอยู่ด้วย บางทีแล้วเราอาจจะพบเบาะแสบางอย่างใกล้ๆ นี่ก็ได้ เพราะงั้นอันดับแรกก็ต้องลองหาดูว่าเขาติดต่อกับกลุ่มไหนบ้าง จากนั้นค่อยลองไปตรวจสอบจากที่นั่น”
“แล้ววิธีการแบบเป็นรูปธรรมล่ะ”
“เก็บข้อมูลนอกสถานที่…อันนั้นคงทำไม่ได้เพราะเป็นวันหยุดยาว ดูเหมือนว่าคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเก็บข้อมูลจากบนโต๊ะแทน…”
ไม่แน่ว่าบางทีรูปที่คนโพสลงโซเชียลอาจจะมีคำบอกใบ้ถึงการติดต่อกันก็ได้
ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเป้าหมายบ้าง ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องติดตามบัญชีทั้งหมดที่เป็นไปได้
ดูเหมือนว่ามันจะเป็นงานที่ค่อนข้างหนัก…แต่ผมก็ไม่มีสิทธิ์บ่น
ตราบใดที่มีโอกาสเป็นไปได้ เราก็ควรจะคว้ามันไว้
“ถ้าเกิดได้รู้ว่าเขามีการติดต่อกับคนอื่นมาก่อน ไม่แน่ว่าเราอาจจะมองเห็นบางอย่างจากข้อมูลในอดีตก็ได้… เราเองก็ต้องการตรวจสอบให้แน่ใจด้วย …ซึ่งก็หมายถึงกำหนดสำรวจบันทึกสถานที่ช่วงวันหยุดยาวก็คงต้องเลื่อนไป…”
ในขณะที่ผมกำลังพึมพำกับตัวเองอยู่ อุเอโนะฮาระก็ได้เข้ามาขัดจังหวะ
“ว่าแต่ แล้วฉันต้องทำอะไรล่ะ”
“หืม เรื่องนั้น…”
จะว่าไปแล้ว เราก็ยังไม่ได้สอนวิธีเก็บข้อมูลจากบนโต๊ะให้เธอไปเลย
ทว่ามันเป็นงานที่มีรายละเอียดสูงและซ้ำซากยิ่งกว่าการเก็บข้อมูลภาคสนามด้วยซ้ำ แถมยังอาจจะต้องใช้ความรู้เฉพาะด้านเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลจำเพาะ ถ้าเกิดเราต้องสอนเธอตั้งแต่เริ่มต้น บางทีแล้ววันหยุดยาวมันอาจจะสิ้นสุดไปก่อนก็เป็นได้
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องนี้ฉันจะเป็นคนทำเอง ส่วนเธอไปสนุกให้เต็มที่กับช่วงโกลเด้นวีคเถอะ”
“อา เข้าใจแล้ว”
ถึงจะบอกไปแบบนั้นแต่นี่มันก็อุเอโนะฮาระนี่เนอะ บางทีแล้วอาจจะไม่มีสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็ได้
แต่นี่มันก็เป็นวันหยุดยาวด้วย ไม่แน่ว่าเธออาจจะมีแผนไปเที่ยวกับเพื่อนคนอื่นแบบที่ผมเห็นเมื่อครั้งก่อนก็ได้ ยังไงซะบริษัทของเราเป็นบริษัทสีขาว เพราะงั้นต้องทำให้แน่ใจว่าพนักงานของเราได้ใช้วันหยุดของตัวเองไปอย่างเหมาะสม
อื้ม… ผมรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากได้กำหนดนโยบายของบริษัท
เมื่อตัดสินใจเสร็จผมก็ได้เดินหน้าต่อ
“เอาละ วันนี้พอได้แล้ว ถ้าเกิดมีความคืบหน้าฉันจะแจ้งให้เธอทราบนะ”
“อื้ม… เข้าใจแล้ว”
ผมยัดแท็บเล็ตลงไปในกระเป๋าและลุกขึ้นจากที่นั่ง
“นี่ นากาซากะ”
ในขณะที่ผมกำลังเดินไปเก็บถาด อุเอโนะฮาระก็ได้ทักผมจากด้านหลัง
“…นายไม่เป็นไรแน่นะ”
ผมหันหลังกลับไปเมื่อได้ยินคำพูดเป็นห่วงซึ่งหาได้ยากและไม่มีการเหน็บแนม
ใบหน้าของอุเอโนะฮาระยังคงไร้อารมณ์เหมือนเคย …แต่ผมแน่ใจว่าเธอกำลังเป็นห่วงผม
ผมยิ้มให้แล้วก็พยักหน้ากลับ
“อา การเก็บข้อมูลจากบนโต๊ะเป็นทักษะเฉพาะของฉันอยู่แล้ว พักผ่อนให้สบายและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเถอะนะ”
“…เหรอ”
อุเอโนะฮาระตอบมาเพียงเหรอแค่สั้นๆ
หลังจากนั้นเราก็ได้ออกไปจาก ‘ห้องประชุม M’ และเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว