Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 380 ประชันไหวพริบ
ตอนที่ 380 ประชันไหวพริบ
“ฟูฟิว!”
ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่เป็นคนสุดท้ายหลบเลี่ยงการโจมตีจากสัตว์อสูรปีศาจ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้พักหายใจ,มีมีดสีดําปรากฏขึ้นที่หลังของเขา,แทงทะลุไปที่หัวใจ
พลังชีวิตของผู้บ่มเพาะพลังคนนั้นเชือดแห้งไปอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาเปิดกว้างด้วยความตกใจ เขาระวังตัวมาโดยตลอด,แต่เขาถูกลอบโจมตีได้อย่างไร?
“ปะ ปะ!”
อูซ่างฉวนหักคอผู้บ่มเพาะพลังคนนั้นและค่อยๆดึงมีดของเขาออกมา เขากล่าวอย่างเฉยเมย “หลังจากที่เจ้าไปเกิดใหม่ อย่าได้มาเจอเข้ากับข้าอีก”
เมื่อสัตว์อสูรปีศาจที่ชีวิตคิดอยู่บนเส้นด้ายเห็นว่าเป้าหมายของมันหายไป,ดวงตาสีแดงของมันก็จดจ้องไปที่อูซ่างฉวนในทันที
อูซ่างฉวนยิ้ม,และมือซ้ายของเขาเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบา เงาของเขาบนพื้นพลันเปลี่ยนกลายเป็นเส้นสายสีดํานับไม่ถ้วนบินขึ้นมา
“ซิ่ว! ซิ่ว! ซิ่ว!”
เส้นสีดําเหล่านี้ราวกับเป็นลูกศพที่เฉียบคม พวกมันแบกพลังอันแข็งแกร่งขณะที่ยึดสัตว์อสูรปีศาจตนนั้นติดเอาไว้กับกาแพง,ไม่ปล่อยให้มันขยับเขยื่อน
หยางเหวินรู้ว่าการต่อสู้จบลงแล้ว เขาร้องตะโกนค่ารามศึกและผลักเซียวเฉินถอยกลับไปด้วยฝ่ามือของเขาจากนั้น,เขาหนิตรงไปที่ประตู
เซี่ยวเฉินหลบหลีกฝ่ามือจู่โจม เดิมทีเขาคิดจะวอแวติดกับฝ่าตรงข้าม แต่อย่างไรก็ตาม เขาพักจังหวะไป
เซี่ยวเฉินชะลอจังหวะลงและไล่ตามหลังหยางเหวิน,รักษาระยะห่างสองเมตร
“คิดหนี?!” ร่างของอูซ่างฉวนเปลี่ยนเป็นเงาสีดําและยืดออก ทันใดนั้น,เขาขัดขวางทางออกและเปลี่ยนกลับมาเป็นร่างปกติของเขา
“ปัง!”
อูซ่างฉวนและหยางเหวินแลกเปลี่ยนฝ่ามือกัน คลื่นกระแทกทําให้ห้องมุมบัติสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง
อูซ่างฉวนถอยกลับไปเพียงก้าวเล็กๆ แต่อย่างไรก็ตาม,หยางเหวินเคลื่อนถอยหลังไปห้าหกก้าวก่อนที่จะตั้งตัวได้ เห็นชัดว่าอช่างเหวินแข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้ของเขา
“เจ้าใช้จานวนคนข่มเหงข้าเมื่อก่อนหน้านี้ เข้ามาอีกสิ,เจ้าขยะ!”
ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องบาดหมางระหว่างคนทั้งสองนอกจากนั้น,อุซ่างฉวนยังพลาดท่าและถูกฝ่ายตรงข้ามทําให้ขายหน้า
ในตอนนี้อูซ่างฉวนไม่ได้ออมกําลัง เขาใช้พลังเต็มกําลังของเขาและซัดหยางเหวินล่าถอย ขณะที่หัวเราะอย่างชั่วร้าย
“ฟุ ฟิว!”
เส้นกระบี่แสงวูบผ่านอูซ่างฉวน;มันเป็นเซี่ยวเฉินที่กําลังเข้ามาช่วยเหลือ อช่างฉวนทั้งเราะอย่างเย็นชา,ช่างโง่เขลาแม่ว่าเขากําลังจะต้องตาย แต่เขาก็ยังอยากที่จะช่วยเหลือข้า
การแสดงออกของอูซ่างฉวนไม่เปลี่ยนแปลง เขาหัวเราะและกล่าว “สหายน้อย,นอกจากสมบัติภายในห้องนี้แล้ว พวกเราจะแบ่งทรัพย์สินของคนเหล่านี้อย่างเท่าเทียมกัน หลังจากนั้นพวก เราจะมีโอกาสที่จะเข้าไปในห้องโถงใหญ่ช่วยข้าจัดการกับคนผู้นี้ก่อน”
เซียวเฉินส่งกระบี่หนาแน่นออกไป ในจังหวะเดียวกัน,เขาขยับระยะหว่างระหว่างตัวเขาและอุซ่างฉวนอย่างเงียบเชียบขณะที่เขาทําลายฝ่ามือวายุของหยางเหวิน
เซี่ยวเฉินยกเท้าขวาของเขาขึ้นเล็กน้อยและยิ้มขึ้นเบาๆ “ข้าขอขอบคุณล่วงหน้า,ผู้เฒ่า”
“ฮ่าฮ่า! ไม่จําเป็นต้องมากพิธีนี้เป็นสิ่งที่เจ้าควรได้รับ…อก,เจ้า…”
“ปัง!”
ก่อนที่อูซ่างฉวนจะได้กล่าวจบ,เซี่ยวเฉินพลันส่งลูกเตะไปที่กรามล่างของเขา เขาร่วงลงไปในอากาศ
ลูกเตะนี้ไม่ได้เพียงหนักแน่น,แต่มุมและจังหวะของมันยังแม่นยํา ขณะที่อูซ่างฉวนลดการป้องกันลง,เซี่ยวเฉินก็ลงมือ
เป็นที่ประหลาดใจของอุซ่างฉวนในทันที เขาไม่คาดคิดว่าเซียวเฉิน,ผู้ที่ดูโง่เขลาและไร้เดียงสาจะลอบโจมตีเข้ามาอย่างฉับพลัน
ในจังหวะนั้นเอง,หยางเหวินตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบสนอง
หยางเหวินใช้โอกาสของเขาอย่างเต็มที่และซัดออกไปพร้อมกับเซี่ยวเฉิน เขาชกหน้าอกของอูซ่างฉวนและส่งตัวลอยไปในอากาศ
“บูม! บูม!”
เสียงทุ้มลึกดังออกมาจากร่างของอุซ่างฉวน อวัยวะภายในของเขาแตกสลายและกระอักเลือ ดออกมาคําใหญ่ก่อนที่จะชนเข้ากับกําแพงอย่างแรง
“ดี…ดี…มือกระบี่ชุดขาว…ข้า,อูซ่างฉวน,จะจดจําเจ้าไว้ รอข้าก่อน” อางฉวนกล่าวอย่างชั่ว ร้ายขณะที่เขาดินรนอยู่กับพื้น
อูซ่างฉวนเปลี่ยนเป็นเงาอีกครั้งและยึดตรงไปที่ทางออกพยายามจะหลบหนีเขาได้ใช้ออ กทักษะเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดอีกครั้ง
“ปัง!”
เสียงระเบิดรุนแรงดังออกมาจากห้องสมบัติ เสียงลมกระพื่อดังผ่านห้องที่กว้างขวาง,ก่อตัว เป็นพายุหมุน
ทั้งเซี่ยวเฉินและหยางเหวินไม่มีใครไล่ตามดูซ่างฉวนที่บาดเจ็บ พวกเขาใช้แรงเต็มกําลังพุ่ง เข้าใส่กัน
ทั้งสองถอยกลับไปคนละสองสามก้าว หยางเหวินยึดมือของเขาอยู่ครู่หนึ่ง;เขารู้สึกชาเล็กน้อ ย เขาคิดกับตัวเอง ,ก่าปั้นนี้มีพลังหนึ่งแสนกิโลกรัม
เซียวเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย “นอกเสียจากพลังปราณของเจ้าที่หนาแน่นกว่าข้า,พลัง กายภาพ,สภาวะ,และทักษะบ่มเพาะพลังของเจ้าไม่อาจเทียบกับข้า ทักษะยุทธที่เจ้าเรียนมีความ คล้ายคลึงกับข้า,ทักษะยุทธระดับปฐพีขั้นสูงสุด เจ้าหยิบไปหนึ่งกล่องและไปได้อย่าได้คิดมาก ไปกว่านั้น”
หยางเหวินนิ่งอึ้งไปอยู่นาน เขาไม่คาดคิดว่าผู้เยาว์ผู้นี้จะสงบและเยือกเย็นได้เพียงนี้
การวิเคราะห์ของเซียวเฉินถูกจุด;ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขากล่าวมา ไม่สงสัยว่าทําไมเขาถึง ปั้นหัวอูซ่างฉวนได้ราวกับอยู่ในกํามือ
“เจ้าเป็นผู้กล้ารุ่นเยาว์อย่างแท้จริง ข้า,หยางเหวิน,ยอมรับความพ่ายแพ้” หยางเหวินไม่มัวเสียเวลาและหยิบกล่องสีทองไปหนึ่งกล่องจากนั้นเขาปลดแหวนมิติจากสหายของเขาและกําลังจะจากไป
เซี่ยวเฉินปลดปล่อยฉีฆ่าฟันของเขาทั้งหมดออกมา บัลลังก์สีแดงของเขาสันเพิ่มอย่างต่อเนื่อง สภาวะแห่งการฆ่าล้างอันบริสุทธิ์กดลงบนตัวของหยางเหวิน
“ข้ากล่าวว่าให้เจ้าเอาแหวนมิติไปได้?” น้ําเสียงเย็นชาของเซี่ยวเฉินดังขึ้นพร้อมกับเจตนาฆ่าฟัน
หัวใจของหยางเหวินสั่นระรัว สภาวะแห่งการฆ่าล้างอันบริสุทธิ์นี้ราวกับภูเขาทั้งลูกกําลังกดลงบนหัวของเขา เจตนาฆ่าฟันทําให้เขายากที่จะหายใจเข้าออก
ผู้เยาว์ผู้นี้สําเร็จสองสภาวะนอกจากนั้น มันยังเป็นสภาวะแห่งการฆ่าล้างที่ยากจะเข้าใจ
คิดได้ดังนี้ ยอมปล่อยความตั้งใจของเขาและรีบจากไปพร้อมกับกล่องสมบัติกล่องเดียวเขาเกรงว่าเขาจะไม่อาจรักษาชีวิตเอาไว้ได้หากยังมัวอ้อยอิ่ง
เซี่ยวเฉินสลายสภาวะแห่งการฆ่าล้างของเขา เมื่อเขาเห็นหยางเหวินจากไป,เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก เขากล่าวอย่างเฉยเมย “สภาวะแห่งการฆ่าล้างนี่ไม่ธรรมดา มันสามารถไล่ระดับขอบเขตกษัตริย์ไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ”
เซี่ยวเฉินร่วมทางกับอูซ่างฉวนมาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม,เขารู้สึกว่ามันราวกับเป็นเวลากว่าครึ่งเดือน;ทําให้เขาเหนื่อยล้า
สงครามประสาทประลองปัญญาเช่นนี้,เซี่ยวเฉินยังไม่คุ้นชิน อย่างไรก็ตาม,เขาจําเป็นต้องเรียนรู้โลกใบนี้ มิฉะนั้น,การเอาชีวิตรอดในโลกใบนี้จะยากยิ่ง
โชคดี,ที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี:เรื่องคลี่คลายลงได้ ทุกอย่างเป็นไปตามการควบคุมของเซียวเฉิน
เซี่ยวเฉินรีบจัดการกับลมหายในสุดท้ายของสัตว์อสูรปีศาจตนนั้นก่อนที่จะดึงเอาแก่นกลางปีศาจของมันออกมา จากนั้นเขาจดจ่อสายตาไปยังกล่องสีทองที่เหลืออีกสองกล่อง เขาไม่รู้ว่าสมบัติที่ชั้นสิบห้าจะทําให้เขาประหลาดใจได้หรือไม่
เซี่ยวเฉินสูดหายใจเข้าลึกจากนั้นเขาค่อยๆเดินตรงไปที่กล่องทางด้านซ้าย เหมือนกับกล่องก่อนหน้านี้ ไม่มีกับดัก
หินวิญญาณระดับกลางเรียงรายอยู่ในกล่องสมบัติขนาดใหญ่ เป็นเพราะมันมีมากมายมหาศาล,พลังงานจิตวิญญาณพวยพุ่งออกมาในจังหวะที่เขาเปิดกล่อง
ใบหน้าของเซี่ยวเฉินเต็มไปด้วยความปิติยินดี เขายิ้มเบาๆและกล่าว “นี่แหละ,มีอยู่ในนี้อย่างน้อยสองพันก้อน ผลประโยชน์ดีงามไม่แปลกในที่การฆ่าฟันจึงได้รุนแรงนัก”
เซียวเฉินนับจํานวนหินวิญญาณอย่างละเอียดและพบว่ามันเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้ มีหินวิญญาณระดับกลางทั้งหมดสามพันก่อนจํานวนค่อนข้างมาก
เซี่ยวเฉินกวาดหินวิญญาณเข้ามาในอหวนห้วงจักรวาลของเขา จากนั้น,เขาก็จดจ่อสนใจไปที่อีกกล่องที่เหลือเขาไม่รู้ว่าจะกล่องนี้จะมีอะไรทําให้เขาประหลาดใจ
“แอด…!”
เซียวเฉินเปิดกล่อง,ส่งเสียงแอดดังออกมากล่องใบใหญ่ว่างเปล่ายกเว้นแต่มีถุงมือสีดําวางอยู่ที่มุมกล่อง
ถงมืออันนี้ปกคลุมไปด้วนฝุ่นและดูเก่าแก่อย่างยิ่งเซียวเฉินหยิบมันออกมาอย่างสงสัยและปัดฝุ่นออกเบาๆ
ฝนฟังหายไป,เซี่ยวเฉินตรวจสอบถุงมือนี้อย่างละเอียดมันดูเรียบๆ;ไม่มีการประดับตกแต่ง
ถุงมืออันนี้ยังบางมาก,บางพอๆกับชิ้นเสื้อผ้าในตอนที่เซี่ยวเฉินสัมผัสมันรู้สึกได้ถึงความเย็นแต่ไม่เหมือนกับเหล็ก
ความอ่อนนุ่มของวัสดุรู้สึกสบายอย่างไม่น่าเชื่อ
ถุงมือคู่นี้น่าจะเป็นสมบัติลับจากกระแสพลังของมัน, พวกมันก็น่าจะเป็นสมบัติลับระดับชั้น ยอดเช่นกันเหมือนกับเกราะในที่ข้าสวมใส่อยู่
เซี่ยวเฉินลบเครื่องหมายจากเจ้าของคนก่อนและค่อยๆประทับเครื่องหมายขอบเขาลงไปถุงมือคู่นี้เป็นถุงมือแบบครึ่งนิ้ว;ในตอนที่เขาสวมมัน,นิ้วของเขาครึ่งนึ่งโผล่ออกมา
เซี่ยวเฉอนรู้สึกคันเล็กนเอยที่หงังมือของเขาก่อนที่มันจะจางหายไป จากนั้น,เขากํามือและชกออกไปในอากาศเบาๆ
เซี่ยวเฉินตกตะลึงที่พบว่าความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้นไปอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ เมื่อรวมกับเสื้อคลุมวายุใส,ทั้งหมดเป็นสามสิบเปอร์เซ็นต์
เซี่ยวเฉินมองไปที่ถุงมือสีดําและกล่าวขึ้นเบาๆ “ถุงมือคู่นี้เพิ่มความเร็วโจมตีของเขา รองเท้าก้าววายุเพิ่มความเร็วเคลื่อนไหวเสื้อคลุมวายุใสเพิ่มความเร็วโดยรวมทั้งหมด นี่หมายถึงข้ามีชุดสมบัติลับที่เพิ่มความเร็วสําหรับตอนนี้”
เซี่ยวเฉินกล่าว่าเขารวบรวมได้ครบชุดสําหรับตอนนี้ก็เพราะขณะที่ผู้บ่มเพาะพลังเพิ่มขอบเขตพลังของพวกเขา,สมบัติลับระดับต่จะให้ผลลดน้อยลง ในตอนที่เขาเลยผ่านระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง,ของเหล่านี้จะไม่ส่งผลกับเขามากมายอีกต่อไป
เซี่ยวเฉินอาจจะรู้สึกยินดีสําหรับยี่สิบเปอร์เซ็นต์ในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม,ในตอนที่เขากลายเป็นระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง,มันจะเหลือเพียงสิบเปอร์เซ็นต์
ถึงตอนนั้น,เซียวเฉินจะต้องใช้สมบัติลับระดับกลาง อย่างไรก็ตาม,สมบัติลับระดับกลางหายากเป็นอย่างยิ่ง:มันยากที่จะได้รับมาสักชิ้นหนึ่ง
เซายวเฉินรวบรวมความคิดของเขาและวางมือขวาของเขาลงบนด้ามกระบี่ เขาจดจ่อไปกับตัวเองและมองตรงไปเขาตั้งใจจะทดสอบสมบัติลับชิ้นนี้
“ปะ ปะ!”
เซี่ยวเฉินชักกระบี่เงาจันทร์และใช้วาดกระบออกมาอย่างรวดเร็ว;เขาขึ้นไปแตะความเร็ว 3 มัคในทันที
อากาศฤดที่ชัดราวกับเป็นผิวน้ํา ในตอนที่เซียวเฉินคืนกระบกลับเข้าฝัก,อากาศที่ถูกฉีกค่อยๆไหลกลับเข้าด้วยกัน
ก่อนหน้านี้ เซี่ยวเฉินต้องใช้แรงเต็มกําลังและผลาญพลังปราณจํานวนมาหเพื่อที่จะไปแตะความเร็ว 3 มัคด้วยวาดกระบี่
ด้วยถุงมือสีดํา,เซี่ยวเฉินผลาญพลังปราณเพียงเล็กน้อยและวาดกระบก็แตะความเร็ว 3 มัคอย่างง่ายดาย
สมบัติลับ…สมบัติลับ…ไม่สงสัยว่าทําไมผู้คนถึงได้บ้าคลั่งกับพวกมันนัก พวกเขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมด,ฆ่าฟันผู้อื่นเพื่อให้ได้มันมา สมบัติลับดีๆเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสําหรับผู้บ่มเพาะพลัง
เซียวเฉินสงบอารมณ์ของเขาและหยิบแหวนมิติจากสองผู้บ่มเพาะพลังบนพื้นขึ้นมา อย่างไรก็ ตามเมื่อเขาตรวจสอบด,เขาได้มาเพียงหนึ่งพันหินวิญญาณระดับกลางที่เหลือเป็นหินวิญญาณระดับต่ําที่ไม่มีประโยชน์สําหรับเขา
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็ไม่บ่นอะไรกับโชคพิเศษที่เขาได้รับมา เซี่ยวเฉินยิ้มๆและเดินหน้าต่อไป
เสียงการต่อสู้ในชั้นสิบห้าค่อยๆหยุดลง เห็นชัดว่าคนอื่นๆก็ได้เก็บกวาดในชั้นสิบห้าไปแล้วเรียบร้อย
“ปัง!”
ขณะที่เซียวเฉินกําลังครุ่นคิด เกิดเสียงดังขึ้นมาจากข้างหน้า เสียงร้องน่าสังเวชดังขึ้นมาติกๆกันมันเป็นเสียงสังเวชเสียดหูอย่างไม่มีที่เปรียบ