I Was Kidnapped By The Strongest Guild - ตอนที่ 36 ผู้เชี่ยวชาญกระต่ายมีเขา (3)
ชเวจินฮยอกยิงลูกบอลเหล็กไปที่เป้าชั่วคราวที่ทำจากหิน
ความแม่นยำของเขาดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเห็นได้ชัดแบบวิต่อวิ หลังจากที่ลองพยายามเพียงแค่กี่ครั้ง
ถึงแม้จะไร้ซึ่งมานา ความสามารถทางกายภาพตามธรรมชาติของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมชเวจินฮยอกที่ไร้ซึ่งมานาถึงได้ต่อกรกับกระต่ายมีเขาได้ทีเดียวถึงหกตัว
“เราไปหาคนอื่น ๆ กันดีไหม?”
“เอาสิ แล้วเธอพอจะรู้ไหมว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน?”
“พอรู้ ที่เนินเขาตรงนั้นมีกลิ่นเลือด…”
“ถ้างั้น เราก็ไปดูกันเถอะ”
ชเวจินฮยอกเป็นคนนำทาง ส่วนฉันเป็นคนตาม
ที่จริงแล้วฉันอยากเป็นคนนำทาง แต่ชเวจินฮยอกยืนกรานว่านักสู้ระยะไกลควรอยู่ด้านหลัง เพราะงั้นฉันก็เลยกลายเป็นคนตาม
‘เดี๋ยวนะ?’
ตอนนี้ชเวจินฮยอกก็เป็นนักสู้ระยะไกลด้วยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?
ในขณะที่ฉันกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ฉันก็ชนเข้ากับหลังของชเวจินฮยอกที่จู่ ๆ ก็หยุดเดิน
“โอ๊ย”
คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ คนนำทางจะหยุดเดิน
คงจะมีปัญหาสักอย่างเกิดขึ้น
ฉันพยายามมองไปรอบ ๆ หลังของชเวจินฮยอกเพื่อประเมินสถานการณ์ แต่เขากลับเอามือปิดตาของฉันไว้เพื่อไม่ให้ฉันมองเห็น
“ไม่เห็นจะดีกว่า”
“ทำไมล่ะ…?”
“ก็แค่ดีกว่า”
ชเวจินฮยอกบังคับให้ฉันกลับหลัง จากนั้นพวกเราก็เริ่มเดินลงเขาที่พวกเราเพิ่งปีนขึ้นมา
กลิ่นฉุนของเลือดทำให้ฉันคาดเดาได้ว่าอาจมีศพอยู่ที่เนินเขา
“มีคนตายงั้นเหรอ…?”
“ใช่ ไว้พวกเราค่อยมาจัดการศพทีหลัง ตอนนี้ชีวิตของพวกเราต้องมาก่อน”
“อ่า…”
มีคนตายจริง ๆ ด้วย
ในฐานะคนที่สู้ในดันเจี้ยนระดับต่ำซึ่งมีอัตราการตายที่ต่ำ นี่ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าตกตะลึงสำหรับฉันไม่น้อยเลย
“ลงไปข้างล่างกันเถอะ จะดีที่สุดถ้าไม่เห็นสิ่งนั้น”
“โอเค…”
มานาคืออะไรกันแน่ ทำไมมันถึงทำให้ผู้คนไร้พลังได้ถึงขนาดนี้?
ฉันรู้สึกว่างเปล่าอย่างอธิบายไม่ได้ในขณะที่ฉันลงเขาพร้อมกับชเวจินฮยอก
“…ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้ว ไร้ซึ่งมานา เราก็ไม่สามารถบอกตำแหน่งของเราได้”
“ไม่มีของอย่างเช่นปืนพลุเหรอ?”
“มีสิ แต่พวกมันทั้งหมดคืออุปกรณ์เวทย์มนตร์ ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ไร้มานา”
สมเหตุสมผล
ในโลกใบนี้ การสูญเสียมานาก็เท่ากับตาย
‘จะทำยังไงดี?’
เราจะหาผู้คนในดันเจี้ยนที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าและป่าไม้ได้ยังไง?
ในขณะที่มองไปรอบ ๆ เพื่อหาวิธีแก้ปัญหา ฉันก็พบกับหินหลายก้อนที่กลิ้งอยู่บนพื้น
‘พวกมันคือหินเหล็กไฟ’
ฉันกำลังสงสัยว่าถ้าหากเอามันมาผสมเข้ากับน้ำในไฟแช็คที่ฉันเอามา มันก็น่าจะใช้แทนพลุส่งสัญญาณได้
ฉันหยิบหินเหล็กไฟขึ้นมาหลายก้อนและเดินเข้าไปหาชเวจินฮยอก
“คุณช่วยใช้หนังสติ๊กยิงสิ่งนี้ได้ไหม? มันจะดีที่สุดถ้าคุณยิงมันขึ้นฟ้าในแนวตั้ง
“คุณช่วยใช้หนังสติ๊กยิงสิ่งนี้ได้ไหม? มันจะดีที่สุดถ้าหากคุณยิงมันในแนวตั้งให้ได้มากที่สุด”
“ยิงขึ้นฟ้าเหรอ?”
“ใช่ ฉันมีความคิดดี ๆ อยู่ ยิงมันขึ้นฟ้าให้เหมือนกับพลุ”
“ก็ได้ ฉันจะลองดู”
ชเวจินฮยอกหยิบหินเหล็กไฟและยิงพวกมันขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยหนังสติ๊ก
หินเหล็กไฟที่ชุ่มไปด้วยน้ำมันพุ่งทะยานขึ้นฟ้า
เมื่อหินเหล็กไฟขึ้นไปถึงจุดสูงสุด ฉันก็ยิงธนูออกไป
ตุ้บ!
หัวลูกศรเหล็กชนเข้ากับหินเหล็กไฟที่ชุ่มไปด้วยน้ำมัน ก่อให้เกิดประกายไฟขึ้นที่น่านฟ้า
การยิงไฟแบบนี้ขึ้นฟ้าจะต้องดึงดูดคนอื่น ๆ ได้อย่างแน่นอน
“ทำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เลยไหม?”
“เรื่อย ๆ เลย นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว”
ชเวจินฮยอกและฉันยังคงยิงไฟขึ้นสู่น่านฟ้า
และในที่สุดก็มีคนมาหาเราในตอนที่ยิงครั้งที่เจ็ด
“คยออุล…!”
ยอรึมและจองยูนา พร้อมกับนักผจญภัยคนอื่น ๆ ก็เดินเข้ามาหาเรา
รูปลักษณ์ที่สะอาดของพวกเขาทำให้ฉันรู้สึกโล่งอก และหางของฉันก็กระดิกโดยไม่ได้ตั้งใจ
“คยออุล! เธอมาทำอะไรในสถานที่ที่มันอันตรายแบบนี้!”
“ฉ-ฉันขอโทษ ฉันเป็นห่วงคุณที่ไม่กลับมา…”
“แต่ถึงอย่างนั้น…!”
หางของฉันหยุดแกว่งเมื่อโดนคำตำหนิของยอรึม
ฉันปิดปากเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
หลังจากนั้นชเวจินฮยอกก็ก้าวเข้าไปที่ด้านหน้าของยอรึม
“อย่าด่าเธอนักสิ เธอมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเรานะ”
“เธอมาเพื่อช่วยเราเหรอ…?”
“ใช่ เธอจัดการกับกระต่ายมีเขาได้โดยที่ไม่มีมานาได้ดีกว่าพวกเรา”
“…ฉันเข้าใจจุดประสงค์ของนาย แต่คยออุลเป็นแค่เด็ก”
ยอรึมมองมาที่ฉัน ราวกับกำลังสงสัยในความสามารถในการล่ากระต่ายมีเขาของฉัน
ถ้าหากเป็นร่างกายเดิมของฉัน ฉันก็คงไม่มีคำโต้แย้งใด ๆ กับข้อสงสัยนั้น แต่ไม่ใช่กับร่างกายของฉันในปัจจุบัน
ระหว่างทางมาที่นี่ ฉันล่ากระตายมีเขาได้เป็บสิบ ๆ ตัว
ดูเหมือนว่าฉันจะต้องอภิปรายให้เธอฟังเรื่องกระต่ายมีเขาที่เป็นทั้งชีวิตของฉัน
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
“แสดงว่า จุดอ่อนของกระต่ายมีเขาคือดวงตาและเขาใช่ไหม?”
“ใช่ เพราะหนังถูกปกคลุมไปด้วยมานา ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดเจาะเข้าไปได้”
เพื่อพิสูจน์เรื่องนั้น ฉันจึงยิงธนูไปที่กระต่ายมีเขาที่อยู่ตัวเดียวในระยะไกล
ตุ้บ!
ลูกศรที่ราวกับจะแทงทะลุหนังเข้าไปกลับกระเด็นไปจากขนสีขาวของกระต่าย
ไม่ใช่ว่าหนังของมันหนาเกินไป แต่เป็นเพราะมีมานาคอยป้องกันอยู่ต่างหาก
จี๊ด—!
กระต่ายยกหูขึ้นด้วยความตกใจ
ก่อนที่มันจะเห็นพวกเราและพุ่งเข้ามา ฉันก็รีบเล็งลูกศรอีกอันไปที่ดวงตาของมันทันที
ตุ้บ!
ลูกศรเหมือนกัน แรงเท่ากัน แต่ผลลัพธ์กลับต่างกัน
จองยูนาที่เฝ้าดูอยู่อย่างเงียบ ๆ ก็ปรบมือของเธอ
“มานาของกระต่ายมีเขามีความพิเศษในเรื่องของการได้ยินเสียง แถมพวกมันยังเปลี่ยนมานาที่ควรเอาไว้ใช้ปกป้องดวงตาไปไว้ที่หูด้วย”
“คุณรู้อยู่แล้วเหรอว่ามันคือจุดอ่อน?”
“ม-ไม่เลย พี่ไม่คิดว่ามันเป็นจุดอ่อนด้วยซ้ำไป ก็แบบว่า ใครจะไปหาจุดอ่อนของกระต่ายมีเขากันล่ะ?”
สมเหตุสมผล
นักผจญภัยที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
“แล้วทำไมเขาถึงเป็นจุดอ่อนล่ะ?”
“เขาเปรียบเสมือนเกราะที่ชดเชยมานาที่ขาดไป พวกมันใช้ความแข็งของเขาแทนที่จะเป็นมานาในการปกป้องส่วนหัวของพวกมัน”
“แสดงว่า ถึงแม้เขาจะแข็งแต่มันก็หักได้เพราะเขาไม่มีมานาใช่ไหม?”
“ใช่ แถมยังมีเส้นประสาทกระจุกอยู่ตรงส่วนนั้นด้วย เพราะงั้นถ้าเราทำลายมันได้อย่างถูกต้อง มันก็จะตายทันที แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยากที่หัก”
งั้นเหรอ
ครั้งนี้ ฉันปรบมือให้จองยูนาถึงแม้เสียงจะไม่ดังเท่ากับที่เธอตบก็ตาม
“เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบางมาก”
“ใช่ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกมันคือมอนสเตอร์ระดับต่ำที่สุด”
ยอรึมและจองยูนาแลกเปลี่ยนรอยยิ้มที่น่าอึดอัดใจซึ่งกันและกัน อาจจะเป็นเพราะพวกเธอเกือบจะถูกฆ่าโดยมอนสเตอร์ที่ระดับต่ำที่สุด
เฮ้อ
ยอรึมถอนหายใจเฮือกใหญ่อยู่ตรงกลางกลุ่มและมองไปรอบ ๆ
“ทุกคนได้ยินแล้วใช่ไหม? เล็งไปที่ตาและที่เขาจากระยะไกลคือวิธีจัดการที่ง่ายที่สุด”
“แต่ถึงเราจะรู้จุดอ่อนแล้ว แต่ถ้าหากไร้ซึ่งมานา ความแม่นยำก็จะลดน้อยลง แถมที่นี่ กระต่ายมีเขารวมกลุ่มเป็นร้อย ๆ ตัว”
“ใช่เลย เหตุผลที่พวกเราวิ่งหนีก็เป็นเพราะว่าพวกเราไม่สามารถเผชิญหน้ากับพวกมันที่มีอยู่อย่างมากมายได้”
“ใช่เลย เหตุผลที่เราหนีก็เป็นเพราะเราเผชิญหน้ากับพวกมันที่อยู่กันเป็นมากโขไม่ได้”
“อืม…”
ยอรึมกอกอกแล้วหันหน้ามามองฉัน
สายตาของเธอจ้องไปที่คันธนูที่อยู่ในมือฉัน
“คยออุลช่วยยิงกระต่ายมีเขาทั้งหมดได้ไหม?”
“ได้ ฉันฝึกยิงธนูโดยที่ไม่ใช้มานามาเยอะมาก”
ฉันนึกถึงวันที่ฉันทำลายเต็นท์ในวันที่ฉันฝึกยิงธนูเป็นครั้งแรก และเหตุการณ์ในตอนนั้นก็นำฉันไปสู่การฝึกยิงธนูโดยที่ไม่หวังพึ่งมานา
ถึงแม้ว่าจะไม่มีมานา แต่ความสามารถทางกายภาพของมนุษย์สัตว์ก็ยังคงสูงกว่ามนุษย์ทั่วไป ทำให้ฉันสามารถยิงธนูได้ราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญ
“ถ้างั้น เรามาทำให้คยออุลกลายเป็นตัวยิงหลักกันเถอะ…”
ยอรึมเริ่มวาดแผนบนพื้นด้วยไม้ที่เธอหยิบมาจากที่ไหนสักแห่ง
เมื่อไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่านี้ พวกเราทุกคนจึงตกลงที่จะทำตามแผนของเธอ
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
นักผจญภัยประมาณยี่สิบคนแบ่งบทบาทกัน
ผู้ที่มีฝีเท้าอันว่องไวก็จะรับหน้าที่ในการล่อกระต่ายมีเขา ในขณะเดียวกัน ผู้ที่มีความสามารถในการโจมตีระยะไกลก็จะทำหน้าที่ยิงอาวุธจากบนต้นไม้
ตุ้บ!
ฉันยิงธนูออกไปสิบดอกและฆ่ากระต่ายมีเขาได้สิบตัว
นักผจญภัยที่อยู่ถัดไปจากฉันที่เพิ่งจัดการกระต่ายมีเขาไปสองตัวก็พูดขึ้น
“น่าทึ่งมาก ฉันยิงธนูออกไปตั้งสามสิบดอก แต่โดนแค่สองดอกเอง”
“ฉ-ฉันฝึกยิงโดยไม่ใช้มานา…”
ความชื่นชมที่อยู่ในสายตาของนักผจญภัยที่มีความสามารถสูงทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด
ด้วยความเขินอาย ฉันจึงมองลงไปที่พื้นและเห็นยอรึมออกคำสั่งกับนักผจญภัยที่เกาะต้นไม่อยู่
“ทีมต่อไป โปรดรวบรวมลูกธนูด้วยค่ะ”
นักผจญภัยที่มีทักษะในการปีนป่ายก็ลงมาจากต้นไม้เพื่อรวบรวมลูกศร
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งดูพวกเขาจากบนต้นไม้ ผู้หญิงที่ดูเหมือนว่าจะเป็นนักเวทย์ก็เดินเข้ามาหาพวกเราจากระยะไกล
“ยอรึม! ฉันพบเงื่อนไขในการเคลียร์ดันเจี้ยนแล้ว!”
“จริงเหรอ?”
“ใช่! ในแต่ละครั้งที่ฆ่ากระต่ายมีเขา เกตที่พาออกไปข้างนอกจะขยายขึ้นเล็กน้อย จากการคำนวนของฉัน เราแค่ต้องฆ่าเพิ่มอีก 217 ตัวเท่านั้น!”
อีก 217 ตัว
เนื่องจากฉันต้องจัดการให้ได้มากกว่าครึ่ง ดังนั้นฉันจึงต้องฆ่าพวกมันอีก 150 ตัวด้วยตัวเอง
แขนของฉันปวดไปหมดจากการยิงมากเกินไป
เมื่อรู้สึกว่าเริ่มตึงแล้ว ฉันจึงนวดปลายแขน
ทันใดนั้น นักผจญภัยที่มีฝีเท้าอันว่องไวที่ซึ่งมีหน้าที่ล่อกระต่ายมีเขาก็วิ่งกลับมาหาเราพร้อมกับกรีดร้อง
เขากำลังถูกกระต่ายมีเขาไล่ เป็นกระต่ายที่ใหญ่ยิ่งกว่ากระต่ายมีเขาอย่างน้อยสิบเท่า
“ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย!”
ในขณะที่เขายื่นมือมาทางเรา…
ฉันก็สังเกตเห็นกล้ามเนื้อส่วนขาของกระต่ายมีเขายักษ์เกร็งตัวขึ้น
“อ๊ะ”
มันกำลังจะกระโดด
มันกำลังจะพยายามกระโดดแทงผู้ชายคนนั้นด้วยเขาของมันใช่ไหม?
ก่อนที่ฉันจะได้คิดเสร็จ ฉันก็ยิงธนูออกไป
เป้าหมายของฉันไม่ใช่กระต่ายมีเขายักษ์ แต่เป็นผู้ชายที่วิ่งมาหาเราเพื่อขอความช่วยเหลือ
หวืด!
ลูกธนูถูกยิงออกไปอย่างรวดเร็วและแทงทะลุเสื้อผ้าของผู้ชายคนนั้นเพื่อบังคับให้เขาล้มลงกับพื้น
ทันใดนั้นผู้ชายคนนั้นก็ล้มลงบนพื้น
และในขณะนั้น
บูม!
เขาอันมหึมาของกระต่ายมีเขายักษ์ก็ผ่านร่างของผู้ชายที่ล้มอยู่ไป
ถึงแม้จะตัวใหญ่ แต่กระต่ายก็เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ
“อะไรน่ะ…?”
“ฉันอ่านการเคลื่อนไหวของมันไม่ออกเลย…”
กระต่ายมีเขาตัวใหญ่เท่าหมูป่า
ดูเหมือนว่าบอสมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนกระต่ายมีเขาจะปรากฏตัวออกมาแล้ว
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━