Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 397 หนีหงอู่ นักเขียนเนื้อเพลงระดับแนวหน้า
- Home
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 397 หนีหงอู่ นักเขียนเนื้อเพลงระดับแนวหน้า
หลังจากแปลงโฉมหลินเยวียนใหม่ทั้งหมด ในที่สุดหลินเซวียนก็ปล่อยหลินเยวียนไป แถมยังอุตส่าห์ไปส่งถึงหน้าประตูสตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์
“แบบนี้สิถึงจะเข้ากับหน้าตานาย เอาละ เข้าบริษัทไปได้แล้ว”
ระหว่างที่หลินเยวียนลงจากรถ หลินเซวียนก็มองประเมินเขา ก่อนจะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ แผนการแปลงโฉมน้องชายสำเร็จ
“…”
หลินเยวียนรีบหลบภัย เดินจ้ำเข้าบริษัท
บรรดาหญิงสาวแผนกต้อนรับซึ่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์เห็นหลินเยวียน ก็รีบยกมือขึ้นปิดปาก แววตาทอประกายระยับ
จนกระทั่งหลินเยวียนแตะบัตรขึ้นตึกไป พวกเธอถึงได้สติ
“สุดหล่อคนเมื่อกี้คือตัวแทนหลิน?”
“เหมือนจะใช่นะ…”
“ทำไมถึงรู้สึกว่าหล่อกว่าตัวแทนหลิน?”
“ฉันก็คิดเหมือนกัน เหมือนมีออร่า…”
“รู้สึกว่าจะเปลี่ยนสไตล์เสื้อผ้า แล้วก็ตัดผมด้วย?”
“โอ้มายก้อด กรุบกริบอะไรเบอร์นั้น!”
“พี่สาวสิ้นแล้ว!”
“ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ไปอีก รีบไปบอกในกลุ่มเร็ว!”
“…”
หญิงหนึ่งในนั้นแอบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดเข้ากลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า ‘เซี่ยนอวี๋สตาร์ไลท์แฟนคลับ’
นี่เป็นกลุ่มแช็ตภายในสตาร์ไลท์ สมาชิกทุกคนเป็นผู้หญิง
สถานะของสมาชิกแต่ละคนมีตั้งแต่แผนกต้อนรับส่วนหน้าไปยังระดับหัวหน้า รวมทั้งสิ้นเกือบสองร้อยคน
หญิงสาวแผนกต้อนรับส่งข้อความเข้าไปในกลุ่ม
จ้าวเหยียนแผนกต้อนรับ ‘ตัวแทนหลินเข้าบริษัทแล้ว วันนี้แต่งตัวหล่อมากกๆๆๆๆๆๆๆ!’
กลุ่มนี้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอย่างกะทันหัน
แผนกบุคคลเสี่ยวหลิว ‘ตัวแทนหลินของพวกเรายังต้องแต่งตัวอีกเหรอ’
แผนกทรัพยากรจางซิน ‘อมก บังเอิญเจอตัวแทนหลินในลิฟต์เมื่อกี้ เขาแต่งตัวหล่อจริงๆ หล่อแบบหมายเอาชีวิต เอาไปเลยค่า ให้ฟรีไม่คิดเงิน!’
แผนกภาพยนตร์เสี่ยวฉิน ‘เธอบังเอิญเจอตัวแทนหลินจริงเหรอ? ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ ฉันเห็นเธอที่หน้าลิฟต์หลายรอบแล้วนะ’
แผนกประชาสัมพันธ์หวังเสี่ยวอ้าย ‘ไม่ ฉันจินตนาการไม่ออกว่าสามีฉันจะหล่อกว่านี้ไปได้…’
แผนกต้อนรับหลี่เจวียน ‘น่าเสียดายที่วันนี้ฉันไม่ได้ไปทำงาน เสียเปรียบพวกจ้าวเหยียน พอไม่ได้เจอตัวแทนหลิน แล้วรู้สึกว่าอาหารเช้าไม่ค่อยมีรสชาติเลย’
พรึบๆๆ
ข้อความในกลุ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จู่ๆ หม่าหลิงหลิงจากแผนกประพันธ์เพลงชั้นเก้าส่งข้อความเข้ากลุ่มแช็ต
‘ตัวแทนหลินมาแล้ว ช่วยด้วย หล่อกินคนไปอีกแม่ แผนกประพันธ์เพลงทั้งชั้นอึ้งไปเลย มีบางคนเกือบจำไม่ได้ว่านี่คือตัวแทนหลิน ตอนไม่แต่งตัว ตัวแทนหลินเป็นอุดมคติของโลกมนุษย์ พอแต่งตัวขึ้นมาเท่านั้นแหละ กลายเป็นเทพเจ้าลงมาจุติ!’
ในกลุ่มรู้สึกอิจฉาขึ้นมาทันที
หม่าหลิงหลิงทำงานอยู่ที่แผนกประพันธ์เพลงชั้นเก้า ปกติแล้วมีโอกาสได้เจอตัวแทนหลินมากที่สุด
ขณะนั้น
สำนักงานบริหารทั่วไป ซึ่งก็คือพนักงานหญิงในฝ่ายบริหารส่งข้อความเข้าไปในกลุ่ม ‘บริษัทจะเปลี่ยนอุปกรณ์สำนักงานในห้องทำงานของตัวแทนแผนกประพันธ์เพลง’
‘กฎเดิม จัดสรรให้ชั้นเก้าก่อน!’
‘จัดสรรอุปกรณ์ที่ดีที่สุดให้เซี่ยนอวี๋!’
‘หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการหน่อยค่ะ’
‘วางใจได้ค่ะ เรื่องนี้แผนกเรากำลังรับผิดชอบอยู่ ฉันจะไปดูว่าทำยังไงได้บ้าง’
‘…’
ในกลุ่มมักจะพูดคุยกันเรื่องหลินเยวียนเป็นปกติ
แต่หลินเยวียนกลับไม่รู้เลยว่าในบริษัทมีองค์กรเช่นนี้อยู่
หลังจากที่เขาเดินเข้าไปในห้องทำงาน กู้ตงชงชาให้เขา จากนั้นก็ยืนอยู่ด้านข้าง
หลินเยวียนเงยหน้าถาม “มีอะไรหรือเปล่าครับ”
กู้ตงกระแอมครั้งหนึ่ง “คุณจะได้เรียกฉันได้ทุกเมื่อที่ต้องการไงคะ”
“เดี๋ยวผมต้องการผมเรียกเองครับ”
หลินเยวียนก้มหน้าอ่านเอกสาร
กู้ตงจนใจ ทำได้เพียงเดินออกไป ก่อนจะเดินออกไปยังจ้องมองหลินเยวียนอีกหลายครั้ง ราวกับว่าถ้าไม่มองจะรู้สึกเสียดาย
……
ความสนใจซึ่งมาจากรอบตัวแลดูจะมากกว่าปกติแล้ว แต่หลินเยวียนปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ถึงอย่างไรเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต เพียงแต่บรรยากาศในตอนนี้อบอุ่นขึ้นมาสักหน่อย
ผ่านไปไม่นาน
อู๋หย่งรุดมา
เมื่อเข้าไปเห็นหลินเยวียน เขาก็ชะงักไป ก่อนจะเอ่ยว่า “คนอย่างตัวแทนหลินเดินตามถนนไม่มีแมวมองมาทาบทามบ้างหรือ?”
หลินเยวียนตอบ “วันนี้นั่งรถมาครับ”
อู๋หย่ง “…”
ถ้าไม่นั่งรถมาแล้วจะเป็นยังไง?
เขาไม่ได้ถาม และไม่จำเป็นต้องถาม
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
หลินเยวียนรู้ว่าโดยทั่วไปอู๋หย่งมาหาตนเพราะมีเรื่อง
อู๋หย่งรีบอธิบาย “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ แค่อยากจะถามว่าจะปล่อยข่าวออกไปเลยไหมว่าคุณจะเข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียนเดือนธันว่า ตอนนี้ราชาราชินีเพลงและพ่อเพลงหลายคนประกาศแล้วว่าจะเข้าร่วม…”
หลินเยวียนบอก “งั้นประกาศเลยก็ได้ครับ”
มีโอกาสโปรโมตล่วงหน้านับว่าเป็นเรื่องดี
อู๋หย่งพยักหน้า กล่าวต่อ “ทางเฟ่ยหยางเองก็ประกาศว่าจะเข้าร่วมชาร์ตเพลงเดือนธันวา น่าจะตั้งใจมาเจอคุณ ถึงยังไงเขาก็เคยแพ้คุณติดต่อกันมาถึงสองครั้ง บวกกับคำวิจารณ์ในเน็ต เลยอาจจะรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่คนแต่งเพลงให้เขาในครั้งนี้คืออาจารย์อิ่นตง…”
“ครับ”
หลินเยวียนรู้ว่าบนอินเทอร์เน็ตวิจารณ์ว่าอย่างไร
เขาเองก็เคยได้ยินมุกลูกคนรองตลอดกาล
ความสามารถในการสร้างมุกล้อเลียนของชาวเน็ตนั้นแข็งแกร่งเหลือเกิน ทั้งสามตัวตนของเขาเองก็คงมีมุกเหล่านี้เหมือนกันใช่ไหมล่ะ? แม้แต่ตัวตนที่มีชื่อเสียงในแง่บวกมากที่สุดอย่างเซี่ยนอวี๋ ระยะนี้ก็ยังกลายเป็นเจ้าแก่ที่ชาวเน็ตเรียกกันติดปาก เพราะภาพยนตร์เรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูทำร้ายจิตใจผู้ชมมากเกินไป
ส่วนอิ่นตง…
เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว อิ่นตงเคยร่วมงานกับเฟ่ยหยาง และพ่ายแพ้ให้กับตน เพราะฉะนั้นไม่เพียงเฟ่ยหยางที่ไม่พอใจ อิ่นตงเองก็คงอยากประลองกับเซี่ยนอวี๋อีกครั้งเช่นกัน
“จริงสิ”
อู๋หย่งลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความกังวล “ไม่ได้เป็นแค่ความร่วมมือระหว่างเฟ่ยหยางกับอิ่นตง ครั้งนี้พวกเขายังเชิญนักเขียนเนื้อเพลงชื่อดังอย่างอาจารย์หนีหงอู่มาด้วย ก็คือคนที่บอกในหนังสือพิมพ์วรรณศิลป์ว่าความสามารถด้านการประพันธ์เพลงของคุณเหนือกว่าด้านการเขียนเนื้อเพลงน่ะครับ”
หนีหงอู่?
หลินเยวียนรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง
ชื่อเสียงอันลือเลื่องของอาจารย์หนีหงอู่คนนี้ หลินเยวียนก็เคยได้ยินมาบ้าง
แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเคยวิพากษ์วิจารณ์ความสามารถการเขียนเนื้อเพลงของตน หลินเยวียนไม่เคยใส่ใจเรื่องนี้
เขารู้จักชื่อของหนีหงอู่ ก็เพราะอีกฝ่ายเก่งมากจริงๆ
หนีหงอู่เป็นชาวฉู่ ทว่าก่อนที่ฉู่โจวจะผนวกรวม นักประพันธ์เพลงระดับแนวหน้าของฉินโจวเดิมมักจะให้หนีหงอู่เขียนเนื้อเพลงให้กับบทเพลงของตน จะเห็นได้ว่าสถานะของหนีหงอู่ในแวดวงการเขียนเนื้อเพลงนั้นสูงเพียงใด
ต้องเข้าใจว่า ฉินเป็นมาตุภูมิแห่งดนตรี
มณฑลฉินเดิมนั้นเต็มไปด้วยนักประพันธ์เพลงฝีมือดี
ทว่าหนีหงอู่ในฐานะชาวฉู่ กลับได้รับการยอมรับจากมาตุภูมิแห่งดนตรีตั้งแต่ก่อนผนวกรวมดินแดน คำอธิบายเรื่องนี้ก็ชัดเจนอยู่แล้ว
“เห็นได้ชัดว่าพวกเฟ่ยหยางไม่ได้มาเล่นๆ”
อู่หย่งชำเลืองมองหลินเยวียนด้วยความกังวล “ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเพลง ทำนองเพลง หรือแม้แต่การขับร้อง พวกเขาก็ใช้ไลน์อัปที่แข็งแกร่งที่สุด”
“แข็งแกร่งจริงด้วย”
หลินเยวียนพยักหน้าอย่างยอมรับ
อู๋หย่งจนปัญญา ตัวแทนหลินฟังไม่ออกถึงความหมายโดยนัยของสิ่งที่เขาพูดจริงๆ
“ครั้งนี้ตัวแทนหลินยังเขียนเนื้อร้องกับทำนองเอง ด้านนี้ผมไม่กังวล แต่ผมได้ยินมาว่านักร้องที่คุณเลือกคือเจียงขุย เสี่ยงเกินไปหรือเปล่าครับ”
“เจียงขุยร้องไม่ดีเหรอครับ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ประเด็นหลักคือคู่แข่งเป็นถึงราชาราชินีเพลง เบื้องหลังยังมีทีมงานฝีมือชั้นครู ผมกลัวว่าเจียงขุยจะตามระดับของตัวแทนหลินไม่ทัน…”
หลินเยวียนอธิบาย “เจียงขุยเก่งมากนะครับ”
อู๋หย่งลังเลอยู่สักพัก ท้ายที่สุดแล้วก็พยักหน้า เขากลัวว่าถ้าตนยังโน้มน้าวต่อไป ตัวแทนหลินจะนึกครึ้มโพล่งออกมาว่า
‘งั้นผมเปลี่ยนเป็นซุนเย่าหั่วแล้วกัน’
ถึงแม้ซุนเย่าหั่วจะถูกตัวแทนหลินดันจนได้เป็นนักร้องแถวหน้า แต่อู๋หย่งคิดว่าถ้าเทียบกันเรื่องความสามารถแล้ว เจียงขุยเหนือชั้นกว่าอยู่สักหน่อย
ถึงอย่างนั้นอู๋หย่งแทบจะจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆ ว่าเจียงขุยจะต่อกรกับคู่แข่งระดับราชาราชินีเพลงเหล่านั้นอย่างไร
เวลาสองทุ่มในคืนนั้น
บัญชีทางการของสตาร์ไลท์ก็ออกประกาศว่าเซี่ยนอวี๋จะเข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียนในเดือนธันวาคม
ขณะนี้เดือนพฤศจิกายนยังไม่จบลง
แต่เมื่อหลายคนเห็นประกาศว่าเซี่ยนอวี๋จะเข้าร่วมสังเวียนในเดือนธันวาคม ก็พลันได้กลิ่นควันจากความดุเดือดของเดือนธันวาคมขึ้นมาทันที
……………………………………………………..