記憶喪失の俺には、三人カノジョがいるらしい . ตัวผมคนเดิมก่อนที่จะความจำเสื่อมนั้น ดูเหมือนว่าจะมีแฟนสาวอยู่สามคนครับ - ตอนที่ 2.1 ดูเหมือนว่าจะมีแฟนสาวอยู่สามคนครับ แฟนสาวสามคน 1
- Home
- 記憶喪失の俺には、三人カノジョがいるらしい . ตัวผมคนเดิมก่อนที่จะความจำเสื่อมนั้น ดูเหมือนว่าจะมีแฟนสาวอยู่สามคนครับ
- ตอนที่ 2.1 ดูเหมือนว่าจะมีแฟนสาวอยู่สามคนครับ แฟนสาวสามคน 1
บทที่ 2.1 แฟนสาวสามคน 1
เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ผมใช้ชีวิตในฐานะซานาดะ ยูกิ ความจำเสื่อมนี่มันน่าพิศวงจริง ๆ เพราะถึงการรับรู้ของผมจะยังคลุมเครือไปบ้าง แต่ก็รู้สึกแล้วว่าร่างที่กำลังใช้ชีวิตอยู่นี้คือตัวของผมเอง
แต่เอาจริง ๆ การที่ความทรงจำหายไปเนี่ย ก็ทำให้ผ่อนคลายขึ้นมาเหมือนกันนะ
เพราะไม่รู้เรื่องราวในอดีต ก็เลยไม่ต้องมากังวลอะไร
จิตใจเปล่า ๆ ที่ยังไม่โดนย้อมแบบนี้ ไม่ได้หามากันง่าย ๆ ด้วย
ไม่รู้เป็นเพราะรากฐานแนวคิดของมนุษย์ที่ชื่อซานาดะ ยูกิพยายามจะคิดบวกกับภัยร้ายอย่างความจำเสื่อมอยู่หรือเปล่า แต่ความคิดอันสดใหม่นี้มันใหญ่โตขึ้นในใจผมขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรให้เศร้าเลย สมองส่วนไหนของผมพังไปแล้วหรือเปล่านะ
คุณหมอบอกไว้ว่า [เป็นสัญญาณที่ดี] ด้วยสิ เพราะงั้นเลยอยากเก็บความรู้สึกแบบนี้ไว้เป็นเป้าหมายในการรักษาละนะ ในหนึ่งอาทิตย์นี้ผมใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับการสำรวจมนุษย์
วิธีการก็แค่ออกไปดูผู้ป่วย หมอ พยาบาลแล้วก็ญาติคนไข้ที่ผ่านไปผ่านมาตรงทางเดินเท่านั้นเอง
สำหรับคนที่สูญเสียความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ไปแบบผม แค่ดูคนผ่านไปมาก็ได้ข้อมูลน่าสนใจมาไม่น้อยเลยละ
และหลังจากที่สำรวจผู้คนมาเป็นเวลานาน ก็ได้ผลสรุปออกมาอย่างนึง
คือตอนนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมายืนอยู่ตรงหน้าผม
[ถ้าวันนี้ตรวจไม่เจออะไรผิดปกติละก็ อีกเดี๋ยวก็คงจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ]
[อื้อ คิดว่าอีกไม่นานก็น่าจะไปโรงเรียนได้แล้วด้วย]
แฟนของผมที่มาเยี่ยม มินาโตะ อาสึกะก็ยิ้มออกมา
แฟนสาวผมสีทองยาวสว่างเหมือนกับแสงอาทิตย์ ทั้งสวยงามและเป็นประกาย
มินาโตะ อาสึกะเป็นคนน่ารัก
เป็นคนที่มีสมดุลระหว่างความเป็นสาวแกลและความใสซื่อได้อย่างเข้ากันดี เรียกว่าน่ารักได้อย่างเต็มปากเลย
พอได้อยู่กับแฟนสาวที่อย่างกับหลุดมาจากนิตยสารกันสองต่อสองในห้องผู้ป่วยแบบนี้เนี่ย ก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันนะ
ดูเหมือนอาสึกะจะไม่รู้สึกถึงความคิดแปลก ๆ ของผมก็เลยชวนคุยต่อ
[นอกจากเรื่องความจำเสื่อม สุขภาพอย่างอื่นก็ไม่มีปัญหาด้วย ถ้ายูกิจะกลับไปโรงเรียนละก็ คงมีคนที่ดีใจอยู่บ้างละนะ]
[คงมีคนดีใจงั้นเหรอ จริง ๆ คิดว่าก็น่าจะป็อปอยู่สมควรเลยนะ ตัวฉันเนี่ย]
[มั่นใจจริงนะ แต่ก็นะ อย่างน้อย ๆ ก็มั่นใจได้ว่าไม่มีพวกที่อิจฉานายแน่นอน]
[อะ อา เป็นงั้นสินะ! …..แต่ก็กังวลจังเลยว่าทุกคนจะชอบเราไหม]
พอผมแสดงท่าทางกังวลให้เห็น อาสึกะก็เข้ามาหยิกผม
[…มีฉันอยู่ด้วยทั้งคนก็ดีแล้วนี่นา ไม่พอใจอะไรเหรอ?]
…….ว่าแล้วเชียว น่ารักสุด ๆ เลยนี่นา
ตาสีฟ้าที่สบกันนั้นโตขึ้นเล็กน้อย การได้สบตากับเพศตรงข้ามที่รุ่นเดียวกันนี่พลังทำลายล้างสูงจริงนะ
เหมือนตัวเราเองจะจำได้ว่าชอบอะไรแบบไหนนะ แต่ความรู้สึก “ชอบ” ที่มีนี้เป็นแบบไหนตอนนี่้ยังไม่เข้าใจเลย
แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องที่ตัวตนของอาสึกะเป็นคนสำคัญ เรื่องนี้กำลังเติบโตอยู่ในใจไม่ผิดแน่
[ว่าแล้วเชียว ดูเหมือนจะยังกังวลเรื่องชีวิตในโรงเรียนอยู่จริง ๆ ด้วย]
[นั่นก็ จะบอกว่าไม่กังวลเลยก็คงจะโกหก แต่เดี๋ยวมันก็จะเข้าที่เข้าทางเองแหละ]
[…จริงด้วยสินะ เดี๋ยวก็เข้าทีเข้าทางเอง ฉันเองก็จะคอยเป็นกำลังด้วยนะ]
อาสึกะมองผมด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนที่จะเข้ามาลูบแก้มของผม
ถึงจะความจำเสื่อมก็ไม่กลัว
และเจ้าของสาเหตุที่ทำให้คิดแบบนั้น ต้องขอบคุณอาสึกะที่อยู่ตรงหน้านี้จริง ๆ
คนที่เข้าใจสถานการณ์ของผม อยู่ข้าง ๆ ผม แค่เพียงคนคนเดียวที่อยู่ตรงนี้ก็ทำให้ความรู้สึกต่างไปออกไปแล้ว
เพราะคุณพยายาบาลที่ดูแลผมคงจะตามไปดูแลถึงโรงเรียนไม่ได้ เพราะฉะนั้นการมีคนที่รุ่นเดียวกันอยู่ทำให้สบายใจขึ้นเยอะ
แต่ก็อย่างที่คิดไว้ ความไม่สบายใจที่อยู่ในอกยังคงคุกรุ่นอยู่ไม่หายไป
คนที่ความทรงจำระหว่างมนุษย์หายไปแบบผม แค่นี้ทำให้สถานการณ์ตอนนี้ดูต่างออกไปมากแล้ว
เพราะในช่วงสัปดาห์มานี้ถ้าไม่นับอาสึกกะก็ไม่มีเพื่อนหรือคนในครอบครัวมาเยี่ยมกันสักคนเลย
คนที่จะต้องจำยอมอยู่ในโรงพยาบาลอันกว้างใหญ่คนเดียวอย่างผมนั้น ก็มีอาสึกะนี่แหละที่ทำให้ความเหงานั้นคลี่คลายไป
เอาจริง ๆ ก็แอบคิดว่าจะมีคนมาเยี่ยมกันเยอะ ๆ เหมือนกันน่ะนะ
[ขอบคุณมากเลยนะ]
พอได้พูดขอบคุณออกไป อาสึกะก็พยักหน้าแล้วตอบ
[อื้ม เป็นเรื่องธรรมดาน่า]
เหมือนจะรู้เลยว่าเราคิดอะไรอยู่ เธอก็เลยเก็บคำพูดบางอย่างเอาไว้ และแทนที่ด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยนของเธอ