ไหงอยู่ดี ๆ มาเป็นไฮเอลฟ์ในเกม แถมยังมีคนบูชาฉันด้วยล่ะคะ !! - ตอนที่ 3: กลายเป็นเทพธิดาไปแล้วล่ะค่ะ
- Home
- ไหงอยู่ดี ๆ มาเป็นไฮเอลฟ์ในเกม แถมยังมีคนบูชาฉันด้วยล่ะคะ !!
- ตอนที่ 3: กลายเป็นเทพธิดาไปแล้วล่ะค่ะ
หลังจากส่งจูน่าจังกลับหมู่บ้านไปแล้ว ฉันก็เดินกลับเข้าไปในป่าเพื่อหาที่อยู่ต่อค่ะ รู้สึกว่าถ้าหากตามจูน่าจังไปที่หมู่บ้านด้วยจะเกิดเรื่องลำบากใจขึ้นแน่ๆเลยค่ะ เพราะงั้นกลับมาอยู่ในป่าตอนแรกน่าจะสบายใจกว่าและดูเหมือนว่าตอนอยู่ในป่า Passive skill ของไฮเอลฟ์จะทำงานด้วย
นอกจากจะสื่อสารกับธรรมชาติได้แล้วยังได้รับสกิล ‘พลังงานธรรมชาติ’ นั่นก็คือ ฟื้นฟู HP,MP อัตโนมัติ ถึงจะเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวค่ะ แม้ว่าฉันจะมีสกิลสายรักษาอยู่แล้วก็เถอะ แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ในป่ามันสบายใจกว่ามาก ๆ หรือเพราะตอนนี้ฉันเป็นไฮเอลฟ์กันนะ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันแน่ใจแล้วแน่ ๆ ค่ะว่าที่ที่ฉันอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ในเกมอีกต่อไปแล้วถึงจะมีมอนเตอร์แบบเดียวกันกับในเกมก็ตาม หลังจากใจเย็นแล้วคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วคงจะคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ฉันไม่สามารถออกเกมได้ มีคนที่เหมือน NPC มีชีวิตจริงๆขึ้นมา ไม่มีหน้าต่างเกมต่าง ๆ และอะไรหลายๆอย่าง ทำให้แน่ใจอย่างแน่นอนว่านี้ไม่ใช่เกมแต่เป็นโลกจริง ๆ แต่คิดว่าคงจะเป็นโลกที่เหมือน Fantasy Garden ไม่มีผิดแน่ ๆ ถึงจะหาสาเหตุที่มาที่นี่ได้ยังไง ก็คงจะเสียเวลาเปล่าเพราะฉันเองก็ไม่รู้ค่ะ
เอาเถอะค่ะ ตอนนี้คงต้องหาที่อยู่อย่างน้อยก็ให้นอนผ่านวันนี้ไปได้ก่อน เมื่อเดินดุ่ม ๆ เข้าไปในป่าได้สักพักก็เหมือนจะได้ยินเสียงคุณต้นไม้ในหัวอีกแล้วว่า ‘ มานี่สิ ๆ ‘ เฮ้อยังไงก็ไม่ชินนะคะแบบนี้ เหมือนตัวเองกำลังหลอนจากการใช้ยาแก้แพ้เลยค่ะ แต่ด้วยความสามารถของไฮเอลฟ์ก็คงต้องยอมรับสินะคะ แต่ก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสียหรอกนะคะ เสียงของธรรมชาติยังสามารถบอกทั้งแหล่งอาหารและเหตุการณ์ต่าง ๆ ในป่าได้อีกด้วยจึงอุ่นใจได้
” ว่าแต่จะให้ฉันเดินไปถึงไหนกันคะเนี่ย ” บ่นพึมพำในขณะที่เดินไปด้วยเพราะว่าเดินมากว่า10 นาทีแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะถึงจุดที่เสียงในหัวเรียกไปหาเลย
‘ ใกล้แล้ว ๆ ‘ เหมือนจะรู้ว่าฉันบ่นนะคะเนี่ย เอาเถอะยังไงก็ไม่มีอะไรในหัวอยู่แล้ว สู้ทำตามเสียงไปก่อนก็แล้วกันค่ะ หลังจากเดินมาต่ออีกประมาณ 5 นาทีก็เห็นเข้ากับต้นไม้ที่ใหญ่เอามากๆ ขนาดลำต้นใหญ่พอ ๆ กับพื้นที่บ้านเดี๋ยวทั้งหลังเลยค่ะ แถมยังสูงมากด้วยถ้าให้เดาน่าจะสูงประมาณ 15-20 เมตรได้ เป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เห็นมาในป่านี้เลยค่ะ
แต่จุดสังเกตแรกที่ฉันเห็นก็คือทำไมถึงมีประตูและหน้าต่างอยู่ที่ต้นไม้ต้นใหญ่แบบนั้นกันคะ นี่มันหรือว่าจะเป็นบ้านต้นไม้ที่เคยเห็นในนิทานแฟนตาซีอะไรทำนองนั้นกันคะ แต่ว่าเป็นบ้านต้นไม้ที่ดูให้ความรู้สึกว่าเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติมากเลยค่ะ และดูเหมือนจะมีหลายชั้นด้วยเพราะดูได้จากหน้าต่างที่ติดอยู่เหนือประตูขึ้นไปอีกประมาณ 2-3 บาน
ยังไม่หมดแค่นั้นแถมด้านข้างยังมีเหมือนถ้ำไม่สิอุโมงค์เลยค่ะไม่รู้เอาไว้ทำอะไรเหมือนกัน
‘ ที่นี่แหละ ๆ ‘
เหมือนเสียงในหัวจะอยากให้ฉันมาที่นี่สินะคะ เหมือนกำลังรู้ว่าฉันกำลังหาที่ซุกหัวนอนก็เลยพามาที่นี่สินะ
” ขอบคุณมากเลยค่ะ ” พูดขอบคุณออกไปแบบลอย ๆ ถ้าคนอื่นมาเห็นคงจะคิดว่าฉันบ้าแน่ ๆ ค่ะ แต่ทำไงได้อุตส่าห์ช่วยพามาถึงบ้านต้นไม้ให้ทั้งทีนี่คะ แต่ก่อนอื่นบ้านนี้ไม่ใช่ว่ามีเจ้าของหรอกหรือคะ ไม่ต้องคิดให้ยุ่งยากเดินไปเคาะประตูถามเลยดีกว่าค่ะ
‘ ก๊อก ๆ ‘ ” มีใครอยู่ไหมคะ ” เคาะประตู 2 ครั้งก่อนจะเอ่ยเสียงถาม แต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับมา ได้ยินแต่เสียงแต่ต้นไม้ใบหญ้าที่โดนลมพัดเท่านั้น หรือจะไม่มีคนอยู่จริงๆ อาจจะไม่มีเจ้าของมานานแล้วด้วยค่ะ เอาเป็นว่าขอถือวิสาสะเข้าไปล่ะนะคะ
‘ เอี๊ยดด ‘ เสียงประตูที่เหมือนจะไม่มีการใช้งานมานานทำให้ฝืดนิดหน่อย แต่ก็เปิดออกได้ไม่ยากมากนักถึงแม้ว่าไฮเอลฟ์จะยังสเตตัสต่ำกว่าเผ่าอื่นก็ตาม แต่ก็ยังพอมีสเตตัสพละกำลังอยู่บ้างนะคะ
หลังจากเปิดประตูออกก็พบว่าข้างในมีลักษณะเป็นบ้านจริงๆด้วย มีเครื่องใช้ต่าง ๆ อยู่ครบเพียงแต่เต็มไปด้วยฝุ่นที่เกาะเหมือนไม่มีคนใช้มานานแล้ว แต่เหมือนอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะทำจากไม้ไม่ก็หิน เลยไม่ค่อยเสื่อมสภาพเท่าไหร่ แต่มองไม่ค่อยจะเห็นเลยล่ะค่ะ เพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้วแถมบ้านต้นไม้นี้ก็ต้นใหญ่จนเกิดร่มเงาบังแสงไปจนเกือบหมดเลยค่ะ พอคิดว่าจะใช้อะไรเป็นแสงสว่างเหมือนพวกไฟฉายได้บ้างไหมก็นึกออกพอดี ในเกมมีเวทย์สามัญอยู่นิคะ
เวทย์สามัญคือเวทย์ที่คนทั่วไปไม่ว่าจะเผ่าไหนก็ใช้ได้ทั้งนั้น ส่วนมากจะเป็นเวทย์ที่เน้นใช้งานทั่วไปในประจำวันในเกมไม่ได้มีความสามารถด้านโจมตีอะไร เช่นการเสกน้ำเพื่อเอาไว้ดื่มหรือไม่ก็ล้างสิ่งสกปรกให้กับอาวุธ แต่ที่ฉันกำลังจะใช้คือ เวทย์ ‘แสง’ ค่ะ เป็นเวทย์ที่เวลาลงดันเจี้ยนจะขาดไม่ได้เลยเพราะดันเจี้ยนส่วนมากจะอยู่ในถ้ำไม่ก็สถานที่ที่ไม่มีไฟเช่นพวกปราสาทเก่าแก่หรือเมืองร้างใต้สมุทรอะไรแบบนั้น ทำให้เวทย์ ‘แสง’ ถูกใช้งานบ่อยที่สุดในเกมเลยก็ว่าได้ค่ะ
” แสง ” หลังจากร่ายเวทย์โดยการเอ่ยคำสั้น ๆ ก็มีดวงแสงขนาดเท่าลูกบอลสีเหลืองนวลจาง ๆ ให้ความสว่างแต่สบายตามาก ไม่แสบตาหรือปวดตาเลย
เมื่อได้แสงสว่างจากเวทย์ ‘แสง’ แล้วก็มองไปรอบ ๆ ตัวบ้าน คราวนี้เห็นชัดเจนทุกอย่างเลยค่ะ ของใช้ต่างๆ เรียกว่าครบเลยก็ว่าได้ ทั้งโต๊ะอาหาร ช้อน ส้อม หรือตู้เก็บกับข้าวเองก็ตาม ฉันลองเดินเข้าไปข้างในตัวบ้านก็เห็นบันไดทางขึ้นไปชั้นสองพอลองเดินขึ้นไปก็พบห้องที่คาดว่าเป็นห้องนอนค่ะ มีเตียงก็จริงแต่ไม่มีฟูกแฮะด้านข้างของเตียงมีหน้าต่างบานใหญ่ที่เห็นตั้งแต่ตอนอยู่หน้าบ้าน
หลังจากเดินตรวจสภาพบ้านต้นไม้อยู่ประมาณ 15 นาทีก็คิดว่าสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ค่ะ แต่คงต้องทำความสะอาดก่อนแน่ ๆ เพราะมีแต่ฝุ่นทั้งนั้นเลยค่ะ แต่ว่าโชคดีที่มีเวทย์สำหรับใช้ทำความสะอาดโดยเฉพาะค่ะ
ปกติแล้วในเกมผู้เล่นจะไม่มีการอาบน้ำกันแต่จะใช้เวทย์ ‘ชะล้าง’ เพื่อทำความสะอาดร่างกายกัน เพราะในเกมนั้นจะมีมอนเตอร์ที่จะพ่นของเหลวต่าง ๆ ใส่ผู้เล่นได้ ถึงในเกมจะไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไรแต่อาจจะติดดีบัฟเช่น ลดความเร็ว หรือ ลดการต้านทาน ลงได้ทำให้ต้องคอยชะล้างตัวละครอยู่เสมอ ๆ
และเวทย์ ‘ชะล้าง’ นี้เองก็สามารถใช้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อีกด้วยแต่จะไม่สามารถซ่อมแซมอาวุธที่เสียหายได้ทำได้แต่ทำความสะอาดเท่านั้นค่ะ
” งั้นเริ่มเลยละกันค่ะ ! ” พอเริ่มพูดเหมือนประกาศสงครามกับความสกปรกแล้วก็เริ่มร่ายเวทย์รัว ๆ เนื่องจากเป็นไฮเอลฟ์เผ่าที่มี MP สูงที่สุดในเกมจึงไม่ต้องห่วงเรื่อง MP จะหมด อีกทั้งยังมีสกิล Passive ที่คอยฟื้นฟู MP อัตโนมัติด้วยแล้วยิ่งสบายบรือค่ะ !
อีกอย่างเวทย์ ‘ชะล้าง’ ก็ใช้ MP น้อยอยู่แล้วแม้แต่ผู้เล่นที่เล่นสายโจมตีกายภาพที่ MP น้อยก็ยังใช้ได้หลายครั้งแบบชิว ๆ ค่ะ
ทำความสะอาดผ่านไปประมาณ 40 นาที ก็เหมือนจะสะอาดทั้งบ้านเลยล่ะค่ะ เนื่องจากไม่ใช่การทำความสะอาดด้วยแรงของตัวเองทำให้ไม่เหนื่อยอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้มีปัญหาอย่างหนึ่งคือฉันไม่มีฟูกนอนค่ะ แต่โชคดีที่มีโซฟาอยู่ในห้องนั่งเล่นชั้นล่างน่าจะนอนตรงนั้นไปพลาง ๆ ก่อน
ถือว่าวันนี้พอแค่นี้ดีกว่ารู้ตัวอีกทีก็มืดแล้วค่ะ ถึงจะไม่รู้ว่ากี่โมงแล้วก็ตามแต่ตอนนี้อยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย รีบนอนแล้วตื่นเช้าจะดีกว่า คิดได้แบบนั้นก็ร่ายเวทย์ ‘ชะล้าง’ ใส่ตัวเองเพื่อให้สะอาดเหมือนพึ่งจะอาบน้ำมาหมาด ๆ และก็นอนลงที่โซฟาที่ห้องนั่งเล่น โซฟาเหมือนข้างในจะเป็นนุ่นนะคะเนี่ย แต่เหมือนจะถูกห่อหุ้มด้วยผ้าไม่ใช่หนัง ผ้าที่น่าจะทำจากวัสดุของใยไม้ธรรมชาติให้สัมผัสที่กำลังดีไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไปด้วยค่ะ
เหมือนจะไม่มีผ้าห่มด้วยค่ะ เอาไว้ค่อยหาวันพรุ่งนี้แล้วกันค่ะ วันนี้ขอทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วปล่อยสติไหลไปตามก้อนเมฆก่อนแล้วกันนะคะ
.
.
เช้าวันถัดมาแทนที่จะได้ยินเสียงนกร้อง จิ๊บ ๆ เหมือนครั้งที่มาวันแรกหรือเสียงต้นไม้ใบหญ้าที่ถูกสายลมโบกพัดแต่วันนี้กลับเป็นเสียงอื่นแทนค่ะ เป็นเสียงเหมือนคนเลยค่ะ ใช่คนนั่นแหละค่ะไม่ใช่แค่คนเดียวหรือสองคนแต่เหมือนจะหลายสิบคนเลยค่ะ
สงสัยจังเลยค่ะว่าทำไมถึงได้มีเสียงคนเยอะแยะแบบนี้กลางป่ากันได้นะ ในระหว่างที่เดินขยี้ตาไปดูที่หน้าประตูก็เห็นเหมือนกลุ่มคนที่อยู่หน้าบ้านต้นไม้ประมาณ 10-20 คน ผ่านกระจกตรงประตู
” เอ๊ะ ! นี่มันอะไรกันคะเนี่ย ! ” ความตกใจที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวเล่นเอาความง่วงเมื่อกี้เหมือนเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยค่ะ ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ บางคนเหมือนจะถือถาดที่เต็มไปด้วยดอกไม้และผลไม้ต่าง ๆ อยู่ด้วยเหมือนเวลาเราเอาไปถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์เลยค่ะ
อ่ะ.. เดี๋ยวก่อนนะคะ จะว่าไปเมื่อวานนี้ตอนที่บอกลาจูน่าจัง
‘ เดะหนูจะไปบอกคนในหมู่บ้านเรื่องท่านโนเอลนะคะ!!! จะเอาของมาถวายให้แน่นอนเลยค่ะ!! ‘
เอ๋ !!!?? ยะ- อย่าบอกนะว่าเพราะจูน่าจังงั้นเหรอคะ ! แต่มันก็คิดได้ทางเดียวนี่คะ นึกว่าจะมาแค่คนเดียวซะอีกไหนเล่นพามาทั้งตระกูลแบบนั้นกันล่ะคะเนี่ย ไม่ค่ะ ต้องดูให้แน่ใจอีกที คราวนี้มองอย่างตั้งใจผ่านหน้าต่างของประตูบ้านต้นไม้แล้วก็เห็นร่างเล็กๆ ของเด็กผู้หญิงน่ารักผมสีน้ำตาลที่เจอเมื่อวานนี้ อยู่หน้าสุดของกลุ่มคนพวกนั้นเลยค่ะ
ชัว !! จูน่าจังนั่นเองค่ะ ! ไหงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะคะ ยังไงก็เถอะคงต้องออกไปถามว่ามาทำอะไรกันก่อนค่ะ เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็ใช้เวทย์ ‘ชะล้าง’ ให้กับตัวเองอีกรอบหนึ่งเมื่อมั่นใจว่าสะอาดเรียบร้อยดีแล้วก็เปิดประตูโผล่หน้าออกไปทันใดนั้นเอง
” โอ้ววว !! ช่างงดงามอะไรถึงเพียงนี้ !! ”
” นี่มันเทพธิดาชัด ๆ เลยนี่นา !! ”
” เป็นอย่างที่ยัยหนูจูน่าบอกจริง ๆ ด้วย มีเทพธิดาผู้อ่อนโยนอาศัยอยู่ในป่าใกล้ ๆ เราด้วยหรือนี่ !! ”
” แม่ครับ ในที่สุดผมก็เจอแล้วครับ เทพธิดาที่แม่บอกเอาไว้ตอนเด็ก ”
เหล่าเสียงชื่นชมกล่าวออกมาอย่างตื้นตันใจ บางคนถึงกับน้ำตาไหลแล้วยกพนมมือไหว้กันเลยทีเดียว
นะ..นี่มันอะไรกันคะเนี่ย ! ไหงทุกคนถึงได้คุกเข่าแถมยังหนมมือไหว้ฉันกันรัว ๆ แบบนั้นกันล่ะคะ ในระหว่างที่ฉันกำลังตกใจและทำตัวไม่ถูกอยู่นั้น จูน่าจังก็เดินช้า ๆ มาอยู่ตรงหน้าฉันแล้วคุกเข่าลง
” ท่านโนเอล เมื่อวันก่อนขอบพระคุณมากนะคะที่ช่วยชีวิตฉันไว้ ฉันจึงได้นำไปบอกกล่าวกับคนในหมู่บ้านและนำของมาถวายเพื่อเป็นการตอบแทนค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่พาคนมาได้เท่านี้ บางคนในหมู่บ้านก็ไม่เชื่อเรื่องที่หนูพูดน่ะค่ะ “
เดี๋ยว ๆ ๆๆ ! ก่อนนะคะ นี่คิดจะพามามากกว่านี้อีกงั้นเหรอคะ !
” เอ่อ..คือว่า ” ในขณะที่กำลังจะเอ่ยถามนั้นเอง
” เห้ย ! ท่านเทพธิดากำลังจะให้โอวาทแล้ว เงียบ ๆ ไอ้พวกบ้า ! ”
” โอ้ว จะได้สดับฟังเสียงของท่านเทพธิดาแล้วหรือนี่ อ๊ะ! ไม่สิต้องรีบจดแล้ว ”
…. ชักจะตามไม่แล้วซะแล้วล่ะค่ะ เหล่าชาวบ้านที่อยู่หน้าฉันตอนนี้เหมือนจะเห็นฉันเป็นเทพธิดาไปเรียบร้อยแล้ว แถมพอจะพูดบางคนถึงกับเตรียมกระดาษขึ้นมาเพิ่มจดบันทึกกันเลยทีเดียว งืออออ.. แบบนี้ทำยังไงดีล่ะคะเนี่ย!
” จะ-จูน่าจัง นะ-นี่มันอะไรกันเหรอคะ ? ” พยายามถามสิ่งที่ต้องการคำตอบมากที่สุดทันที
” หนูมาเพื่อขอบคุณแล้วก็ถวายอาหารและดอกไม้ให้กับท่านโนเอลค่ะ ” เพื่อขอบคุณสินะ ก็เข้าใจอยู่หรอกค่ะ แต่ทำไมถึงมาเป็นลัทธิกันแบบนี้ได้ละคะ
” งะ-งั้นเหรอคะ ขอบคุณนะ ” ไม่รู้จะทำตัวยังไงดีเลยพูดขอบคุณแบบติด ๆ ขัด ๆ
” โอ้ววว !! ไพเราะอะไรเช่นนี้ ”
” หะ เห้ย พวกใจเย็นๆ อย่าพึ่งเป็นลมไปสิ ”
” ฉันจะไม่มีวันแคะหูอีกตลอดชีวิตเลย ! ”
นี่ฉันควรทำยังไงกับสถานการณ์ตรงนี้ดีคะ …. นี่มันเกินกว่าหัวสมองน้อย ๆ ของฉันจะรับไหวแล้วนะคะ !
งือออ…..
รู้ตัวอีกทีฉันก็โดนบูชาเป็นเทพธิดาไปแล้วล่ะค่ะ
.
.
.