ไหงอยู่ดี ๆ มาเป็นไฮเอลฟ์ในเกม แถมยังมีคนบูชาฉันด้วยล่ะคะ !! - ตอนที่ 19: เหมือนฉันกำลังจะมีรูปปั้นแล้วล่ะค่ะ
- Home
- ไหงอยู่ดี ๆ มาเป็นไฮเอลฟ์ในเกม แถมยังมีคนบูชาฉันด้วยล่ะคะ !!
- ตอนที่ 19: เหมือนฉันกำลังจะมีรูปปั้นแล้วล่ะค่ะ
(ฝั่งป้อมปราการเดธวอลเลย์)
” เอ๋ !? คนคนนั้นอยู่ที่เมืองนี้ด้วยเหรอครับ ! ” นักผจญภัยหนุ่มจากกลุ่มเหยี่ยวสีน้ำเงินที่นั่งฟังมาโดยตลอดขึ้นเสียงถามอย่างตกใจกับคำที่นายกของเมืองนี้ได้พูดออกมาอย่างเก็บอาการไม่อยู่กับกิลด์มาสเตอร์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
” ข่าวไปถึงเร็วเหมือนเคยเลยนะ ” กิลด์มาสเตอร์หันไปพูดกับนายกที่ตอนนี้นั่งกอดอกพลางหลับตาลงอยู่อย่างเงียบ ๆ
หากพูดถึงนักผจญภัยระดับ S แล้วละก็แน่นอนว่าย่อมไม่มีใครที่จะสามารถรู้ที่อยู่หรือตำแหน่งที่แน่นอนของพวกเขาได้เลย แม้แต่บางคนยังไม่เคยเห็นเจอหรือเห็นหน้าเลยด้วยซ้ำมีเพียงนักผจญภัยระดับสูงที่เคยร่วมงานด้วยกันไม่ก็ระดับกิลด์มาสเตอร์เท่านั้นที่จะรู้จักนักผจญภัยระดับ S ได้ ยิ่งที่อยู่หรือตำแหน่งยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทราบ
ด้วยความที่นักผจญภัยระดับ S ที่อิสระถึงระดับนั้น แม้แต่กิลด์ก็ยังไม่สามารถบังคับนักผจญภัยเหล่านี้ได้ทำให้ตัวจนของนักผจญภัยระดับ S เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าตัวยุ่งยากไม่ต่างไปจากภูตผีเลยก็ว่าได้ บางคนที่มักจะทำเฉพาะงานที่ตนสนใจ บางคนที่กว่าจะโผล่หน้าออกมาสักครั้งก็ล่อไป 5 ปี จนคนคิดว่าหายสาบสูญไปแล้ว และหนึ่งในนั้นคือผู้ที่ได้ชื่อว่าอาวุโสที่สุดในบรรดานักผจญภัยระดับ S ปราชญ์แห่งดาบ เค็นโซ
ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบุรุษที่แตกฉานในวิชาดาบอย่างถ่องแท้ ไม่มีใครทราบอายุที่แท้จริงของผู้อาวุโสคนนี้ได้แต่คาดเดากันไปต่างๆ นานา แต่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 ปี และแน่นอนว่านักผจญภัยผู้นี้ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นดวอร์ฟ (คนแคระ) นั่นเอง แม้จะเป็นเผ่าคนแคระที่ตัวเล็กแต่นั่นเป็นเพียงรูปลักษณ์เท่านั้น ซึ่งทุกคนที่เป็นนักผจญภัยรู้จักกันดี แม้แต่เหล่าทหารอัศวินของอาณาจักรก็เช่นกัน การที่นายกรัฐมนตรีเมืองนี้ทราบถึงการมาถึงของเค็นโซนั่นเรียกได้เป็นข้อมูลที่มีค่าอย่างยิ่ง
” จริงอยู่ที่ข้าเองก็ได้รับข่าวการมาถึงของหมอนั่นแต่ว่าตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนของเมืองเหมือนกัน หรือจะอยู่นอกเมืองก็ไม่อาจทราบได้ ” กิลด์มาสเตอร์ที่ช่วยตอบแทนนายกให้กับความสงสัยของหนุ่มนักผจญภัยเหยี่ยวน้ำเงิน
” ถ้าอย่างนั้นเราให้ท่านเค็นโซมาช่วยอีกแรงกันเถอะครับ ” หนุ่มทหารที่ยืนอยู่ข้างหลังนักรบเกราะสีเงินที่เป็นผู้บัญชาการก็ได้ออกความเห็นที่ไม่ว่าใครก็ต่างคิดแบบเดียวกันออกมา
” พอจะเป็นไปได้บ้างหรือเปล่า ? ” ผู้บัญชาการทหารเกราะสีเงินเอ่ยถามกิลด์มาสเตอร์ที่กำลังกอดอกครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ
” เราลองติดต่อไปแล้วแต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับ ” กิลด์มาสเตอร์พูดออกมาเรียบ ๆ อาจเป็นเพราะได้ลองติดต่อไปก่อนแล้ว พอไม่ได้รับการตอบกลับจึงไม่อยากจะเอาความหวังลม ๆ แล้ง ๆ พูดขึ้นมาในที่ประชุม
” เรื่องค่าใช้จ่ายทางฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเองยังไงก็ฝากด้วยล่ะ” นายกรัฐมนตรีที่ดูจะมีความหวังเสนอความรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยไม่เสียดาย ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีของเมืองที่มีชีวิตประชาชนมากมายกำลังตกอยู่ในอันตรายละก็ไม่ว่าราคาจะมากมายเพียงใดก็ไม่อาจหวั่นไหวได้
.
.
.
ท่ามกลางเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่านไม่ว่าจะพ่อค้าแม่ค้าหรือชาวเมืองลูกเล็กเด็กแดง ที่ไม่อาจรู้ได้ว่าอีกไม่กี่วันจะเกิดการบุกครั้งใหญ่ของมอนสเตอร์จำนวนมาก ภาพบรรยากาศที่ดูสนุกสนานและเต็มไปด้วยความสุขนั้นมีเฒ่าชราตัวเล็กคนหนึ่งกำลังเดินอยู่ราวกับกำลังหลงทางหาจุดหมายไม่เจอ ทำได้เพียงแต่ถามทางจากกลุ่มเด็กน้อยที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน
” ขอโทษนะไอ้หนู พอจะรู้ไหมว่ากิลด์นักผจญภัยไปทางไหนเหรอ ” เฒ่าชราที่ใช้ไม้เท้าค้ำยันร่างกายเล็ก ๆ ถามเด็กหนุ่มวัย 12 ขวบที่กำลังเล่นกับพวกเด็ก ๆ ที่อายุน้อยกว่าราวกับเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม
” เอ๊ะ กิลด์นักผจญภัยเหรอ อยู่ใกล้ ๆ ลานน้ำพุกลางเมืองน่ะปู่ ” เด็กหนุ่มตอบพลางชี้ออกไปอย่างร่าเริงพร้อมหันหน้าออกไปทางที่ตนชี้ แต่แล้ว..
” เอ๊ะ อ้าว … คุณปู่เมื่อกี้หายไปไหนแล้วอะ ” จู่ ๆ พอหันกลับมาคุณปู่ที่ตัวเล็กก็ไม่อยู่เสียแล้ว เหล่าเด็ก ๆ นี่หันหน้าถามกันอย่างกับว่าต้องการคำตอบว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยสายตาระดับคนทั่วไปไม่อาจจะมองเห็นการเคลื่อนไหวของเฒ่าชราผู้นี้ได้ ทันทีที่ได้ฟังเด็กหนุ่มบอกทางก็ได้เริ่มขยับขาออกวิ่งทันที แต่ด้วยความเร็วระดับเหนือมนุษย์ทำให้ดูราวกับหายตัว
” เอ… น้ำพุกลางเมือง ๆ ? ” เฒ่าชราที่ตอนนี้กำลังมองหาน้ำพุกลางเมืองตามที่เด็กหนุ่มบอกแต่ดูเหมือนจะกำลังหลงทางอีกตามเคย ไม่ว่าจะหันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นน้ำพุที่ว่านั่นเลย
( เอาอีกแล้วหรือนี่ ข้าหลงทางอีกแล้ว เฮ้อ… )
แม้จะได้ชื่อว่าปราชญ์แห่งดาบที่ผู้คนต่างยกย่องว่าเป็นนักดาบมือหนึ่งของโลก แต่ข้อเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปราชญ์เฒ่าผู้นี้คงหนีไม่พ้นการหลงทิศหลงทางสุดจะบรรยาย การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วจนเรียกได้ว่าตาของคนทั่วไปไม่อาจมองทันและความชราที่ยิ่งทำให้ประสาทสัมผัสทางการรับรู้ทิศทางเสื่อมถอยด้วยเหตุผลสองประการนี้เองทำให้ปราชญ์แห่งดาบผู้นี้ไม่เคยมีใครได้พบเห็นตัวหรือแม้จะตามตัวของเขาทัน
ทั้งชีวิตที่อุทิศตนให้กับการขัดเกลาวิชาดาบมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี อายุขัยที่ยาวนานกว่าชีวิตของมุนษย์ทั่วไปนับเป็นโชคอย่างหนึ่งของเค็นโซที่สามารถฝึกฝนต่อได้อย่างที่คนทั่วไปไม่สามารถทำได้ จนในที่สุดตนก็ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแม้แต่ แม่ทัพผู้บัญชาการสูงสุดอย่างกาเฮริสก็ไม่อาจเทียบได้
” กำลังมองหาอะไรอยู่เหรอคะ ” หญิงสาวร้านขายดอกไม้ที่มองเห็นคุณปู่ชราผู้ที่ยืนอยู่หน้าร้านของตนอย่างกับคนแก่ที่โดนหลานเอามาทิ้ง อดไม่ได้ที่จะมองดูอยู่เฉย ๆ จึงได้เข้าไปไถ่ถาม
” ข้ากำลังหากิลด์นักผจญภัยน่ะแม่หนู ” เท็นโซที่เห็นถึงน้ำใจเด็กสาวที่เป็นห่วงตนที่เหมือนจะหาทางไปต่อไม่เจอ ได้ตอบไปอย่างขอความช่วยเหลืออย่างอับจนหาทาง
” เอ๋ ? แต่นี่มันอยู่อีกฝั่งของเมืองเลยนะคะ ” เด็กสาวที่เหมือนจะตกใจที่คุณปู่คนนี้ถามหากิลด์นักผจญภัยทั้งที่อยู่คนละฝั่ง
” อย่างงั้นหรอกเหรอ ขอโทษนะแม่หนูช่วยพาข้าไปหน่อยจะได้หรือเปล่า ” เค็นโซที่ขอร้องออกมาราวกับคนหมดหมดอาลัยตายอยากเพราะรู้ตัวเองดีว่าหากเดินไปด้วยตัวเองทั้งวันก็คงไม่ถึงที่หมายเป็นแน่
” ก็ได้อยู่หรอกนะ แต่ฉันขอค่านำทางหน่อยแล้วกันนะคะ ” เด็กสาวตอบรับคำขอของเฒ่าชราพร้อมกับยื่นข้อเสนอให้ราวกับไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือออกไป
” โฮะ ๆ ๆ เอาอย่างนั้นก็ได้ ” เค็นโซหัวเราะออกมาอย่างชอบใจก่อนจะเดินไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับเด็กสาว
เมื่อเดินมาได้ประมาณ 10 นาทีก็มาถึงที่หมาย ตึกสูง 2 ชั้นที่สร้างจากไม้ทั้งหลังอย่างสวยงาม มีป้ายเขียนเอาไว้ว่า ‘กิลด์นักผจญภัย’ ข้างหน้ามีประตูไม้ขนาดเล็ก 2 บานที่ใช้วิธีผลักโยกเยกไปมา รวมทั้งมีโต๊ะหลายตัวและคนนั่งอยู่มากมายอยู่หน้าตึกของกิลด์นักผจญภัย เมื่อเค็นโซรู้ว่าที่แห่งนี้คือจุดหมายของตนจึงได้ตอบแทนเด็กสาวไปเป็นเงินจำนวนหนึ่งที่แม้แต่เด็กสาวก็อ้าปากค้างแต่ก็รับไว้อย่างดีใจ แล้วก้าวเท้าเข้าไปในกิลด์อย่างเรียบ ๆ
” เฮ้ย ๆ ! ตาแก่ที่นี่ไม่ใช่บ้านพักคนชรานะเว้ย มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยไป ! ” นักผจญภัยหนุ่มที่มีกล้ามเป็นมัด ๆ สวมเกราะเบาที่โชว์ให้เห็นถึงกล้ามเนื้ออันสวยงามที่ฝึกมาเป็นอย่างดี ใบหน้าที่ดูโหดและหยาบกร้านที่มีหนวดและเคราดกดำอยู่อย่างหนาแน่นพูดยั่วยุเมื่อเห็นคนเฒ่าชราเดินเข้ามาในกิลด์
” โฮะ ๆ ๆ เด็กสมัยนี้ช่างแข็งแรงกันจริง ๆ เลยนะ ” เค็นโซที่ประเมินร่างกายของนักผจญภัยที่เข้ามาหาเรื่องตัวอย่างไม่ใส่ใจกับคำพูดแต่กลับชื่นชมร่างกายที่ดูล้ำบึกนั่นอย่างเปิดเผย
” หา !? นี่กำลังกวนประสาทข้าอยู่หรือไงตาแก่ ! ” นักผจญภัยเคราดำที่เห็นว่าเฒ่าชราผู้นี้ไม่สนใจคำพูดของจนเกิดความโมโหขึ้นมาบนใบหน้าแดงก่ำ จนเผลอออกหมัดตรงดิ่งไปยังเฒ่าชราตัวเล็กที่เตี้ยกว่าตนมากราวกับเด็กเล็กก็ไม่ปาน เสียงดังเหล่าคนมุงดูอยู่กำลังสังเกตสถานการณ์อย่างไม่วางตากับเหตุการณ์ตรงหน้า ถ้ามองดูเผิน ๆ อาจจะคิดได้ว่านักผจญภัยกำลังรังแกคนแก่ก็เป็นได้ แต่แล้วเสียงต่อมาที่ทำให้คนทั้งกิลด์ได้อึ้งตาค้างเหมือนกันก็คือ…
” โฮะ ๆ ๆ เจ้าเคลื่อนไหวดีนี่ แต่ออกจะเสียเปล่าไปหน่อยนะ ” เฒ่าชราที่ตัวเล็กยังกับเด็กยืนอยู่บนไหล่ของนักผจญภัยที่พุ่งเข้ามาต่อยพร้อมกับชักดาบที่ซ่อนอยู่ในไม้เท้าออกมาจ่อที่คอของนักผจญภัยเคราดำจนมีหยดเลือดไหลออกมาเล็กน้อย เหงื่อที่ผุดออกมาจากร่างกายที่กำลังสั่นกลัวพร้อมทั้งร่างกายที่แข็งทื่อไปเป็นที่เรียบร้อยเป็นเครื่องยืนยันถึงความต่างชั้นของทั้งคู่ได้อย่างชัดเจน
ภาพที่เหล่าคนมุงดูไม่อาจทำความเข้าใจได้สะท้อนในสายตาหลายสิบคู่ ความตกตะลึงจนเกิดความเงียบทั่วทั้งกิลด์นักผจญภัยไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจที่เข้าหูให้ได้ยิน เพราะหากกะพริบตาเพียงครู่เดียวก็อาจจะตามเหตุการณ์ไม่ทันอีกครั้งเป็นแน่
” กะ-กะ-แกเป็นใครกันแน่ ตะ-ตาแก่ ” เสียงที่สั่นกลัวสุดขั้วหัวใจที่เวลานี้มีคมดาบจ่ออยู่ที่คอเปล่งออกมาอย่างกับคำติดอ่าง แต่แล้วความหวั่นใจที่ได้ประสบเมื่อครู่ก็ผ่อนคลายลงเมื่อคมดาบที่ว่าถูกเอาออกจาอค่อที่ตอนนี้มีรอยเฉือนเล็ก ๆ พอมีเลือดหยด
” โฮะ ๆ ๆ ก็แค่ตาแก่ที่ผ่านทางมาก็เท่านั้นแหละ ” เสียงตอบกลับที่ดูไม่ทุกข์ร้อนและร่าเริงไม่สมกับวัยของผู้ที่เปล่งเสียงพูดออกมา เมื่อสิ้นเสียงหายไปแรงกดทับเบา ๆ ของนักผจญภัยเคราดำก็รู้สึกหายไป แน่นอนว่าร่างเล็ก ๆ ของเฒ่าชราก็หายไปเช่นกัน รู้สึกตัวอีกทีก็ลงมาอยู่บนพื้นตามปกติตรงหน้าของนักผจญภัยเคราดำที่ตอนนี้ล้มนั่งหงายหลังไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
‘ เฮ้ย ! เอาจริงดิ ! มองตามไม่ทันสักนิด ! ‘
‘ ปราบเจ้าหมีทมิฬได้อย่างสบาย ๆ เลยด้วย ‘
‘ ตาแก่นั่นเป็นใครมาจากไหนกันวะ ! ‘
เสียงที่ดังรอบข้างที่มีหลากหลายอารมณ์ปะปนกันไป ทั้งตกใจ ชื่นชม และหวาดกลัว ใครจะคิดว่าเฒ่าชราตัวเล็กอย่างกับเด็กที่แม้ขนาดเดินจะใช้ไม้เท้าค้ำยันร่างกายตัวเองจะสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วถึงขนาดนี้เท่านั้นยังไม่พอ ยังสามารถเอาดาบไปจ่อคอนักผจญภัยเคราดำที่เป็นระดับ B ได้อย่างสบาย ๆ อีกด้วย เมื่อเสียงที่ดังเอะอะแผร่กระจายอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ประตูไม้เล็ก ๆ สองบานของกิลด์นักผจญภัยก็เปิดอีกครั้งพร้อมกับการมาถึงของกลุ่มคนประมาณ 4-5 คน และหนึ่งในนั้นคือกิลด์มาสเตอร์
” มาถึงก็ก่อเรื่องเลยงั้นเหรอ ตาเฒ่าเค็นโซ ” กิลด์มาสเตอร์ที่พอจะเดาสถานการณ์ต่าง ๆ ออกจากหลาย ๆ อย่างตรงหน้าไม่ว่าจะร่างของนักผจญภัยเคราดำที่ตอนนี้ล้มไปนั่งกองที่พื้นในสภาพหวาดกลัวพร้อมทั้งเลือดที่ไหลออกมานิด ๆ จากบริเวณคอ ไหนจะสีหน้าของคนที่มุกดู ต่าง ๆ ก็เช่นกัน
” โฮะ ๆ ๆ ข้าก็แค่เล่นด้วยนิดหน่อยเท่านั้นเอง ” เค็นโซที่หัวเราะอย่างชอบใจราวกับได้เจอคนรู้จักมาเนิ่นนาน แน่นอนว่าทั้งกิลด์มาสเตอร์และเค็นโซต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งคู่เคยทำงานร่วมกันมาก่อนตั้งแต่ที่สมัยกิลด์มาสเตอร์เริ่มมาเป็นนักผจญภัยเมื่อ 40 ปีก่อน เค็นโซที่ตอนนั้นก็กลายเป็นตำนานไปแล้ว
” เอ๊ะ!? ปู่คนนี้คือนักผจญภัยระดับ S ท่านเค็นโซ ปราชญ์แห่งดาบคนนั้นเหรอครับ! ” นักผจญภัยหนุ่มกลุ่มเหยี่ยวสีน้ำเงิน ที่เดินตามหลังกิลด์มาสเตอร์ตกอกตกใจยกใหญ่เนื่องจากไม่คิดว่าจะได้เจอผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานเร็วขนาดนี้
ไม่ใช่แค่กลุ่มเหยี่ยวสีน้ำเงินที่ตกใจ แม้แต่เหล่านักผจญภัยที่มุงดูทั้งหลายรวมทั้งพนักงานกิลด์ทุกคนต่างก็ตกใจไม่คิดว่านักผจญภัยที่ได้ชื่อว่าตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่แถมยังหาตัวจับได้ยากที่มีน้อยคนจะเคยเห็นและรู้จักจะมายืนอยู่ตรงหน้าของตน กระทั่งนักผจญภัยเคราดำที่ตอนนี้หน้าซีดอย่างหนัก เนื่องจากคิดว่าตนไปหาเรื่องผิดคนเข้าซะแล้วได้แต่อ้าปากสั่น งัก ๆ อย่างคนเสียสติ
” โฮะ ๆ ข้าเองก็พอจะมีชื่อกับเขาบ้างเหมือนกันสินะเนี่ย ” เค็นโซที่เห็นปฏิกิริยารอบข้างแล้วพยักหน้าราวคิดเหตุผลที่ทุกคนต่างอยู่ในอาการดังกล่าวได้ หัวใจออกมาอย่างชอบใจพลางลูบเคราสีขาวขึ้นลงไปมา
” ให้ตายสิ เอาเถอะในเมื่ออยู่ที่นี่แล้วก็ถือว่าช่วยได้เยอะ ” กิลด์มาสเตอร์ถอนหายใจกับท่าทีของเค็นโซที่ไม่เคยเปลี่ยนไปตลอดหลายสิบปีที่ตนได้รู้จักเฒ่าชราผู้นี้แฝงไปด้วยความคิดถึงในช่วงเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน
” โฮะ ๆ ๆ เหมือนจะมีเรื่องร้ายแรงสินะ ” เค็นโซที่เหมือนจะรู้ว่ากิลด์มาสเตอร์ต้องการจะพูดอะไร ฉายแววความตึงเครียดออกมาทางแววตาและสีหน้าแม้น้ำเสียงและคำพูดจะดูสนุกก็ตาม
.
.
.
ทุกท่านคะ ตอนนี้ฉันกำลังนึกย้อนไปถึงเวลาที่ได้เรียนวิชาศิลปะสมัยมัธยมที่ผ่านมานานแต่ความทรงจำก็ไม่ได้หายไปไหน ภาพของหุ้นที่มีเฉพาะส่วนหัวและหน้าอกที่ว่างอยู่ข้างหน้าห้องพร้อมกับอาจารย์วิชาศิลปะที่มีจุดเด่นคือหัวล้านที่ใส่วิกปิดบังเอาไว้ และฉันกับเพื่อน ๆ ทุกคนจะต้องสเก็ตภาพของหุ้นตรงหน้า แน่นอนว่าฉันไม่อยากจะบอกว่าตัวเองห่วยแตกเรื่องศิลปะขนาดไหน แม้แต่รูปหมาแมวง่าย ๆ ฉันก็วาดให้ออกมาเป็นเอเลี่ยนได้ค่ะ
ทำไมฉันถึงยกเรื่องศิลปะขึ้นมาน่ะเหรอคะ ? ก็เพราะตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในสถานการณ์เหมือนตอนเรียนวิชาศิลปะยังไงละคะ !! แต่เปลี่ยนตำแหน่งเท่านั้นเอง ฉันไม่ใช่คนวาดค่ะ แต่ฉันมายืนเป็นแบบให้กับชาวบ้านที่กำลังมุงวาดรูปของฉันอย่างบ้าคลั่งค่ะ ! แล้วทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้กันละเนี่ย !
ขอทวนความจำย้อนกลับไปก่อนหน้านี้สักครู่นะคะ ! หลังจากที่ทานอาหารกับพวกคุณวิเวียนเสร็จแล้วฉันก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อดี จะให้กลับป่าเลยก็ไม่มีอะไรทำเหมือนเดิมเลยคิดว่าจะลองเดินเล่นในหมู่บ้านดูแน่นอนว่ามีเจ้าลัทธิตัวน้อยจูน่าจังคอยนำทางให้ค่ะ คุณวิเวียนที่ตอนแรกอยากจะมาด้วยแบบหัวชนฝาก็ต้องอดไปเนื่องจากโดนคุณโยฮันห้ามเอาไว้เพราะงานบ้านหลายอย่างยังไม่เสร็จ
พอเดินถึงบริเวณย่านการค้าก็พบกับคุณเฮเลนที่เจอกันในงานเลี้ยงวันก่อน ยังดูภูมิฐานและเป็นหญิงแกร่งเช่นเคยค่ะ ชุดประโปรงยาวสีดำทั้งตัว และผมสีดำเงางามและใบหน้าที่ดูจริงจังเหมาะกับคำว่าประธานบริษัทมาก ๆ เลยค่ะ เห็นแบบนั้นฉันก็เลยลองเข้าไปทักทายดู
” สวัสดีค่ะ คุณเฮเลน ” ไม่รู้ฉันที่เข้าไปทักทายถูกเวลาหรือเปล่านะ เพราะเหมือนคุณเฮเลนจะเหมือนกำลังพูดคุยอยู่กับพวกพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายราวกับกำลังประชุมเล็ก ๆ กัน
” อ้าว ท่านโนเอลร่า สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ฉันรับใช้หรือเปล่าคะ ? ” แล้วไหงฉันต้องคนมารับใช้ด้วยละคะเนี่ย ฉันก็แค่ทักทายตามปกติเท่านั้นเองนะคะ !
” เปล่าค่ะ พอดีว่ามาเดินเล่น ได้จูน่าจังช่วยนำทางให้น่ะค่ะ ” ฉันที่พูดแล้วหันไปทางหนูน้อยผมสีน้ำตาลข้าง ๆ จูน่าจังที่ยกกำปั้นเล็ก ๆ ทุบอกอย่างภาคภูมิใจพร้อมเชิดหน้าขึ้นฟ้า เหมือนจะเป็นท่าประจำของจูน่าจังไปสะแล้วค่ะ แบบนั้นระวังโตขึ้นมาจะปวดหลังเอานะคะ
” ตายจริง งั้นเหรอคะ ” คุณเฮเลนอมยิ้มไปกับท่าทางของจูน่าจังที่น่ารักน่าชัง
” กำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ ? ” ฉันที่ถามออกไปเพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลาทำงานของคุณเฮเลนหรือเปล่า จะได้รีบไสหัวไปไม่ให้รบกวนยังไงละคะ !
” พอดีว่ากำลังประชุมกันเรื่อง มีคนเข้ามาในหมู่บ้านน้อยลงน่ะค่ะ ” คุณเฮเลนที่ตอบกลับเหมือนกำลังห่อเหี่ยว อาจจะเพราะกำลังหาทางแก้ไขปัญหาที่ตอนนี้ยังคิดไม่ตก ฉันที่ทำหน้าเหมือนสงสัยออกไปทำให้คุณเฮเลนอธิบายทันทีราวกับไม่ต้องรอให้ฉันถามค่ะ
” พักหลังมานี้ ทั้งพ่อค้าเร่หรือคนที่เข้ามายังหมู่บ้านลดน้อยลงไปน่ะค่ะ ทำให้เศรษฐกิจในหมู่บ้านไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะหมู่บ้านของเราไม่ค่อยมีจุดเด่นอะไรด้วย ตอนนี้ก็เลยกำลังคิดหาทางแก้ปัญหากันค่ะ ” อย่างนี้นี่เอง จะว่าไปจำนวนคนในหมู่บ้านก็เหมือนจะน้อยจริง ๆ ที่ได้ฟังจากคุณโยฮันมาเหมือนว่าปกติหม่บ้านโคลินจะมีพ่อค้าเร่มาเดือนละ 2 ครั้ง ส่วนนักท่องเที่ยวหรือนักผจญภัยก็ไม่ค่อยจะมี เพราะเป็นหมู่บ้านที่เรียกได้ว่าติดชายแดน แถมไม่มีจุดเด่นอะไรอีกด้วย
ในระหว่างที่ฉันกำลังคิดตามคุณเฮเลนอยู่นั้นเสียงของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าก็ต่างกระซิบกันอย่างเมามัน แต่มันดังเกินกว่าคำว่ากระซิบแล้วล่ะค่ะ เรียกได้ว่ากำลังเม้าท์มอยกันสนุกเลยต่างหาก คงไม่ต้องพูดถึงว่าหัวข้อที่สนทนากันก็คือฉันค่ะ
‘ นี่ ๆ เธอดูสิวันนี้ท่านเทพธิดาโนเอลร่าก็ยังงดงามเหมือนเคยเลยว่าไหม ‘
‘ ให้ตายสิ ความงดงามนั่นทำความเรื่องเครียด ๆ เมื่อกี้ปลิวหายไปเลย ‘
‘ การที่ได้เจอท่านเทพธิดาวันนี้ เหมือนจะมีโชคดีเกิดขึ้นแน่ ๆ ‘
หา ? ไหงเป็นงั้นล่ะคะเนี่ย ตัวฉันที่เคยยืนเฉย ๆ จะทำให้คนอื่นโชคดีได้ยังไงกันคะเนี่ย ! ไม่ได้ ๆ ต้องทำเป็นไม่ได้ยินค่ะ เอาเป็นว่าตอนนี้มีสมาธิอยู่กับเรื่องของคุณเฮเลนก่อนดีกว่า
” งะ-งั้นลองหาแลนด์มาร์คหรืออะไรทำนองนั้นในหมู่บ้านดีไหมคะ ? ” ฉันที่ทำเป็นเมินเสียงสรรเสิญข้างหลังคุณเฮเลนเลยเสนอความคิดแบบง่าย ๆ ออกไปเพื่อที่จะรีบให้การสนทนาไปต่อได้อย่างไม่มีสะดุดค่ะ
” แลนด์มาร์คงั้นเหรอคะ ? ” คุณเฮเลนเหมือนจะสงสัยในคำพูดของฉันได้แต่เอียงคอพลางเอามือจับแก้ม
” ก็ บะ-แบบว่า พวกสถานที่สวย ๆ หรือสิ่งก่อสร้างที่ดูยิ่งใหญ่จนที่ถ้าหากพูดถึงหมู่บ้านโคลินละก็ต้องนึกถึงสิ่งนั้นเป็นอย่างแรกน่ะค่ะ ” ฉันที่ลองแนะนำพลางยกนิ้วชี้ขึ้นมาอารมณ์เหมือนผู้ชี้แนะเลยค่ะ แต่ก็เป็นแค่ความคิดพื้น ๆ ที่ไม่รู้จะได้ผลหรือเปล่าถ้าหากคุณเฮเลนไม่เก็บไปคิดจริงจังจะขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ
” แบบนี้นี่เอง แบบนั้นอาจจะทำให้คนอยากจะเข้ามาที่หมู่บ้านเพื่อมาดูแลนด์มาร์คก็ได้สินะคะ ” อาเระ ? ไหงคุณเฮเลยถึงได้กำลังครุ่นคิดอย่างเป็นจริงเป็นจังแบบนั้นล่ะคะเนี่ย ! ฉันแค่แนะนำมั่ว ๆ ไปเองนะคะ อย่าเอาความคิดมือสมัครเล่นแบบฉันไปคิดจริงจังแบบนั้นสิคะ !
” สมกับที่เป็นท่านเทพธิดาโนเอลร่าจริง ๆ ขอรับ ” ในระหว่างที่ฉันคิดว่ากังวลกับท่าทีของคุณเฮเลนอยู่นั้นเสียงผู้ชายที่เคยได้ยินก็แววเข้ามาในหูค่ะ และนั่นคือคุณอีวานนั่นเอง
” คะ-คุณอีวาน สวัสดีค่ะ ” ฉันที่ทักทายออกไปอย่างเป็นมิตรแต่ด้วยความทรงจำเมื่อตอนงานเลี้ยงเลยแอบ ๆ มีความระแวงอยู่นิดหน่อยค่ะ
” โอ้วว !! จำชื่อของผมได้ด้วยงั้นเหรอครับ !!! อยากที่คิดท่านเทพธิดาโนเอลร่าชั่งประเสริฐจริง ๆ เลยครับ ! ”
นั่นไงละคะ ! ว่าแล้วเชียว ก็เป็นเพราะอีแบบนี้นั่นแหละค่ะ ฉันเลยไม่อยากจะทักแต่ถ้าหากทำเมินก็ดูจะเสียมารยาทจนเกินไป คราวหลังฉันคงต้องพยายามปรับความคิดของสมาชิกใหม่ของลัทธิสะแล้วค่ะ แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนจะไม่เคยได้ผลเลยแถมยิ่งกลายเป็นไปเพิ่มความศรัทธามากกว่าเดิม
” แต่ว่าหมู่บ้านของเราก็ไม่ได้มีสถานที่หรือสิ่งก่อสร้างที่พอจะดึงดูดผู้คนได้เลยค่ะ อาจจะเป็นปัญหาจากจุดนี้ก็ได้ ”
คุณเฮเลนที่เหมือนจะพาฉันกลับมาสู่ความเป็นจริงพูดขึ้นเหมือนว่าจะคิดได้ว่าคำแนะนำของฉันมันอาจจะช่วยไม่ได้ แฮะ ๆ ก็แน่ละ ฉันแต่ออกความเห็นมั่ว ๆ ก็เท่านั้นเองนะคะ
” งั้นก็สร้างขึ้นมาก็ได้นิคะ !! ” เสียงเล็ก ๆ ของเจ้าลัทธิตัวน้อยของฉันดังขึ้นมาเรียกเอาความสนใจของทุกคนไปรวมอยู่ที่เด็กหญิงน่ารักผมสีน้ำเงิน ที่ตอนนี้ยิ้มอย่างมีนัย
” สร้างงั้นเหรอ จูน่าเธอหมายความว่าไง ” คุณเฮเลนที่สงสัยกับคำพูดของเจ้าลัทธิตัวน้อยเอ่ยถามออกมาอย่างต้องการคำตอบที่อาจจะช่วยเปลี่ยนสถาการณ์ตรงนี้ก็เป็นได้
” ก็ถ้าหากหมู่บ้านเราไม่มีก็สร้างขึ้นมาใหม่ก็ได้นิคะ !! ” จูน่าจังตอบกลับอย่างร่าเริงตามประสาเด็ก 7 ขวบ ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่พูดมันง่ายนะคะ จะให้สร้างสถานที่สวย ๆ ขึ้นมาคงจะยากน่าดูแถมยังต้องใช้เงินอีกด้วย
” ก็จริงนะ ว่าแต่จะสร้างอะไรที่พอจะดึงดูดผู้คนได้ละ ” คุณอีวานทำไมไปคิดตามเป็นจริงเป็นจังกับจูน่าจังแบบนั้นล่ะคะ จะสร้างแลนด์มาร์คขึ้นมาใหม่เลยงั้นเหรอ ? แบบนั้นมันบ้าบิ่นเกินไปแล้วค่ะ !
” แน่นอนสิ่งที่สวยงามยิ่งใหญ่ที่จะสะกดทุกสายตา จะเป็นอะไรไปได้นอกจาก รูปปั้นของท่านโนเอลไงคะ !!!!! ”
ห๊ะ !? จูน่าจังเมื่อกี้ว่าไงนะคะ ฉันไม่ได้ฟังอะไรผิดไปใช่ไหม ทำไมจู่ ๆ หวยมันถึงมาตกลงที่รูปปั้นของฉันได้ล่ะ เดี๋ยว ๆ แบบนี้อย่าว่าแต่เรียกคนได้เลยค่ะ จะทำให้เปลืองงบประมาณเปล่า ๆ ไม่ได้ ๆ
” จะ-จูน่าจังคือว่านะ- ” ต้องรีบปฏิเสธโดยด่วน แต่เหมือนว่าฉันจะช้าไปแล้วค่ะ ทันใดนั้น
” อย่างนี้นี่เอง ! รูปปั้นของท่านเทพธิดาโนเอลร่าละก็ไม่ว่าใครก็จะต้องหลงใหลอย่างแน่นอน สมแล้วหัวหน้า !! ”
แล้วทำไมคุณอีวานต้องไปเห็นดีเห็นงามกับจูน่าจังด้วยล่ะ !! แล้วหัวหน้างั้นเหรอ เมื่อกี้พูดว่าหัวหน้าใช่ไหม นี่สรุปแล้วจูน่าจังมีกี่ตำแหน่งกันคะเนี่ย ! หมู่บ้านนี้โดนเด็กอายุ 7 ขวบยึดครองไปแล้วงั้นเหรอคะ !? ไม่สิยังเหลือคุณเฮเลนอยู่ถ้าเป็นคุณเฮเลนละก็ต้องคัดค้านอย่างแน่นอนค่ะ ความหวังอยู่ที่คุณเฮเล-
” นั่นสินะคะ ดิฉันเองก็เห็นด้วยค่ะ ถ้าหากเป็นรูปปั้นที่ถอดแบบมาจากท่านเทพธิดาโนเอลล่ะก็ ต้องเป็นแลนด์มาร์คที่แม้แต่เมืองหลวงได้แต่อิจฉาแน่นอนค่ะ แบบนี้จะต้องเรียกคนเข้ามาได้มากมายแน่ เศรษฐกิจก็จะรุ่งเริงแน่นอนค่ะ ! ”
คุณเฮเลนคะ !!!!!! ทำไมความหวังสุดท้ายของฉันถึงได้ตกกระไดพลอยโจนเข้าร่วมกับพวกลัทธิคลั่งฉันได้กันละคะเนี่ย เจ้าควรจะต่อต้าน ไม่ใช่เข้าร่วมนะคะ !!
” เข้าใจแล้วงั้นข้าจะไปเรียกจิตรกรหรือพวกที่วาดรูปได้มาเดี๋ยวนี้แหละ ! ” หยุด !!! หยุดก่อนค่ะคุณอีวาน อย่าพึ่งใส่เกียร์หมาวิ่งไปแบบนั้นสิคะ !
ไหงมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้อีกแล้วละคะเนี่ย !! ฉันก็แค่หวังดีออกความเห็นเท่านั้นเองนะคะ แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปสะทุกทีเลยละ ฮืออ….
.
.
.
.