เอ่อ...ขอโทษนะ แต่แกจะขโมยสกิลแบบนี้ไม่ได้นะ - ตอนที่ 178 : เมดร้อนๆ
“ การประชุมวิสามัญครั้งที่ 1 หัวข้อเรื่อง การปรับปรุงพื้นที่อโคจร เอาล่ะ งั้นเริ่มเลยนะ ”
“ เจ้าค่ะนายท่าน ”
“ ค่ะ? ”
ในเช้าวันถัดมา ท่ามกลางแสงพระอาทิตย์ที่กำลังสาดส่องขึ้นจากทิศตะวันออก แสงนั้นส่องเข้ามาภายในห้องของมาร์ ที่นอกจากจะมีตัวของเขาแล้ว ก็ยังมีหญิงสาวในชุดเมดทิเรียที่กำลังสวมแว่นพร้อมกับเตรียมจะจดทุกสิ่งที่นายท่านของเธอพูด
และสำหรับอีกคน หญิงสาวที่ไม่ค่อยได้โผล่มาเจอนายท่านของเธอบ่อยนัก แอนนา เมดลำดับที่ 1 ของเหล่าพี่น้องเมด เธอเป็นคนที่ทำงานด้านการคุมทหารกับพนักงานภาคพื้นทั้งหมด ทำให้ชีวิตแสนจะวุ่นถึงขนาดที่ไม่สามารถไปตัดผมหรือจัดทรงดีๆได้
สภาพก็เลยจากผมที่เคยยาวปัดไปข้างเดียว ก็ตัดทิ้งจนสั้น แล้วเสื้อผ้าที่ใส่ก็เป็นชุดพ่อบ้านที่ดูเรียบร้อยน้อยกว่าปกติเธอเคยใส่ แต่ว่านอกจากเรื่องทรงผมเสื้อผ้าก็มีหน้าตาของเธอที่เด็กลงเล็กน้อย จากการที่ทำงานโดยไม่เครียดนั้นแหล่ะ
“ ก่อนอื่นขอเริ่มพูดถึงการไปสำรวจสถานที่ก่อนก็แล้วกัน เห้ออ ว่างไงดีล่ะ อึดอัด ไม่เป็นระเบียบ วุ่นวาย แถมสกปกรกอีก ร้านที่พอจะนั่งได้แล้วถึงเกณฑ์ก็มีแค่ร้านเดียวเองด้วย… ”
มาร์พูดออกมาด้วยท่าทางเซ็งๆ ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะตัวของเขาพึ่งจะได้ไปยืนยันมา จากการใช้การปลอมตัวเป็นมาเร่นั้นแหล่ะ นิยามของมาเร่ในหัวของมาร์นั้นก็คือ คุณหนูสาวสวยวัยละอ่อนที่หนีเที่ยวแถมใจแตกจนเป็นกบฎครอบครัว
ในความทรงจำของมาเร่…มาร์นั้นแหล่ะ ภาพในตอนนั้นมันเละเทะไปหมด เขาไม่ได้เดินเพียงบนถนนกับทั้งสามคนนั้น เขายังคอยจับมานาเพื่อระบุตัวตนของคนที่อยู่ในที่แห่งนั้นตอนแรกก็เพื่อความปลอดภัยทว่าพอนานเข้า นานเข้ามันก็กลายมาเป็นเรดาร์แทนและก็เห็นอะไรที่เละเทะยิ่งกว่า
ผู้คนที่เมานอนเกลื่อนถนน นอนเป็นซากในมุมมืด โสเภณีมีอยู่แม้แต่ในตรอกซอกซอยลึกเข้าไปหลายชั่วตึกและผู้คนก็เวียนใช้บริการอย่างไม่สนโรคเลย ไหนจะกลุ่มคนที่เคลื่อนที่ไปมาเป็นจำนวนมากอีก
“ …นี้ยังไม่รวมเรื่องที่หลบมุม หลบซ่อนอีกนะ ว่าไงล่ะมีใครเสนอทางแก้อะไรไหม? ”
“ เจ้าค่ะ ตามที่นายท่านกล่าวมา ดิชั้นเห็นว่าหากเป็นปํยหาระดับนั้นเราควรจะ ทุบ ทำล.. ”
“ เดี๋ยว หยุดเลยนะทิเรีย ”
ในขณะที่ทิเรียจะเสนอแนวทางการแก้ไขนั้น แอนนาก็พูดขัดขึ้นมาพร้อมกับมองไปยังทิเรียด้วยสายตาที่ดุดันสมกับเป็นตัวของเธอ สายตานั้นชัดเจนว่าแอนนาไม่เห็นด้วย “อย่างยิ่ง” กับแนวทางที่ว่า
“ ชั้นเข้าใจนะว่าอยากจะกำจัดปัญหาให้หมดไป แต่ว่าขืนทำแบบสุดโต่งอย่าง เอาออกไปให้หมดเนี่ยจะวุ่นวายนา ”
“ ขอเหตุผลด้วยค่ะแอนนา ”
" สมกับเป็นฝ่ายบัญชีจังเลยน้า ก็ง่ายๆเลยทิเรีย พวกใช้แรงงาน พวกนักพจญภัย หรือไอพวกคนนอกนั้นน่ะ มันต้องการแหล่งบรรเทิง ซึ่งอย่าลืมล่ะว่าพวกเราไม่ได้เข้าไปสร้างสถานบรรเทิงแบบที่มีในยูโทเปียเลย ทั้งโรงหนัง ทั้งร้านเกม
ทุกอย่างที่เมืองคนนอกมันเลยยังเป็น [วัฒนธรรมหาทำ] แบบเก่า แบบที่พึ่งกับเหล้า กับการพนัน และ เซ็กส์ ซึ่งถ้าเราไปบั่นทอนหรือเอาออกมากเกินไปโดยไม่คิดจะใส่อะไรไปเพิ่ม ผลที่ตามมาก็คือความไม่พอใจอย่างถึงที่สุดเลยล่ะนะทิเรีย "
ใช่…แอนนานั้นมองออกและทำให้เธอขัดทิเรีย แล้วก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่แอนนาจะรู้ไปไกลขนาดนั้น เดิมทีก่อนจะมาอยู่กับมาร์เธอเคยมีประสบการณ์ในกองทัพมาก่อน และเธอรู้ดีว่าการที่ไปทำอะไรอย่างการตัดแหล่งระบายอารมณ์ของพวกคนที่ทำงานแนวทหาร นักพจญภัย มันก็มักจะจบด้วยความวุ่นวายเสมอ
“ แอนนาพูดถูกแล้วล่ะนะทิเรีย เราจะไปกวาดให้ไม่เหลือเลยไม่ได้ แต่จะปล่อยให้มีมากมายและวุ่นวายแบบนี้เองก็ไม่ได้เช่นกัน ”
มาร์เองที่ได้รับฟังการสนทนาของทั้งสอง เขาก็เห็นด้วยกับแอนนา เพราะตัวของเขาเองก็เข้าใจดีว่าการที่ขาดแหล่งบรรเทิงที่บรรเทาความทุกข์กับความน่าเบื่อมันก่อความโกรธ ความน่างุดหงิดขนาดไหน
“ นายท่านคะ ตัวของดิชั้นขอเสนอให้ มีการออกระเบียบระเบียบใหม่ดูดีหรือเปล่าคะ แบบเดียวกับที่เคยทำแค่เปลี่ยนจากอาวุธมาเป็นอาคารกับที่อยู่แทนค่ะ ”
“ อ่า แบบนั้นเองสินะ ถ้างั้นก็เอาเป็น ระเบียบขอใบอนุญาตเปิดกิจการพิเศษละกัน คิดว่าไงล่ะทิเรีย? ”
“ ถ้าจะกำหนดให้เป็นเช่นนั้นก็ดีนะเจ้าคะ เพราะว่าทางตัวหน่วยของดิชั้นเองจะได้มีข้อมูลและควบคุมได้ ดังนั้นการออกระเบียบนี้ก็ตั้งเป้าหมายไว้ที่ ให้รู้ว่าที่ไหนทำอะไรและจำกัดไม่ให้มีการขยายเยอะเกินไปนะเจ้าคะ ”
“ อืม ตามนั้นแหล่ะทิเรีย ”
ทิเรียนั้นก้มหัวตอบรับคำสั่งของนายท่านทันที ซึ่งนั้นก็ทำให้เธอเริ่มลงมือทำการหยิบเอาแผนที่ของเมืองคนนอกเปิดออกผ่านจอฉายภาพลอยกลางอากาศ ก่อนจะเริ่มลงมือลงตำแหน่งของอาคารที่เปิดในเขตอโคจรนั้นอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่สวยงามมาก แต่ก็เข้าใจได้
" ถ้าเช่นนั้นขดิชั้นก็สามารถกำหนดให้ได้ง่ายๆด้วยการแบ่งสถานที่เหล่านี้ออกเป็นตามสามสัญลักษณ์เหล่านี้เจ้าค่ะ
กลุ่มแรก แก้วเบียร์ เป็นร้านเกี่ยวกับเครื่องดื่ม เป็นโซนว่าด้วยการนั่งดื่ม เหล้า บาร์ เบีย์ โฮส นั่งดริ๊ง อะไรจำพวกนี้ซึ่งจะจำกัดไว้ที่ 16 ร้านเท่านั้นเจ้าค่ะ
กลุ่มสอง ชิพ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการพนัน สำหรับคนนอก คงไม่มีปัญหาอะไรมาก ผนวกกับ พลเมืองมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้านในอยู่แล้ว ดิชั้นเห็นว่าจะแบ่งให้ร้านเหล่านี้ไปแทรกอยู่ข้างๆ กลุ่มแรก โดยจะมีทั้งหมดเพียง 3 แห่งเท่านั้น ทั้งหมดเพื่อไม่ให้การพนันเกิดขึ้นเยอะเกินจนบอนทำลายเมืองคนนอกเจ้าค่ะ
สุดท้ายคือ หัวใจชมพู ร้านเกี่ยวกับการบริการทางเพศต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและเป็นระเบียบ สถานที่รูปแบบนี้จึงควรมีเพียง 6 ที่ ซึ่งแต่ละที่ต้องห่างกันอย่างน้อย 2 ช่วงตึกเจ้าค่ะ "
“ อ่า ตามนั้นเลย อ้อ…ใช่ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไอรูปแบบร้านประเภทสุดท้ายช่วยเพิ่มการลงทะเบียน “โสเภณี” ลงไปด้วยนะ ”
อย่างไรก็ตามมาร์ก็เหมือนจะยังมีเรื่องที่ต้องการอีก เขาจึงพูดเสริมขึ้นมาเช่นนั้น ซึ่่งไอการที่เขาบอกว่าจะให้ลงทะเบียน “โสเภณี” ที่ว่า มันก็ทำให้ทิเรียกับแอนนาหันมามองตัวของเขาด้วยสายตาสงสัย มาร์ก็ยิ้มแล้วเริ่มอธิบายทันที
“ ก็…โสเภณีเหล่านี้ ผมกะว่าถ้ามีการระบุตัวตนชัดเจน ก็จะได้รับการตรวจร่างกายกับรักษาพยาบาลฟรี พร้อมกับมีสวัสดิการที่ดีจากทางยูโทเปียเช่นที่พักอะไรพวกนี้ อนึ่งคือมองง่ายๆว่าคนเหล่านี้ต้องคอยรับ อารมณ์ลูกค้า ซึ่งอาจจะอันตรายหรือมีโรคร้ายอยู่ ดังนั้นพวกเธอหรือเขาที่เสี่ยงอยู่เพื่อผลประโยชน์ของพวกเรา อย่างน้อยก็ควรได้รับรางวัลบ้างล่ะนะ ”
“ นั้นสินะคะนายท่าน ถ้าเช่นนั้นดิชั้นก็ขอเพิ่มเติมด้วยหรือเปล่าคะ? ”
“ ว่ามาสิแอนนา… ”
“ ค่ะ ดิชั้นอยากเพิ่มการส่งกองทหารรักษาความสงบเรียบร้อยเข้าไปตรวจเป็นระยะระยะด้วยได้หรือเปล่าคะนายท่าน? ”
คำถามนั้นมาร์ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากหันไปยิ้มให้กับทิเรีย และเธอเองที่เห็นเช่นนั้นก็ก้มหัวรับทราบทันที ส่วนตัวของมาร์ก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังประตูทางออกห้องอย่างช้าๆ
“ เดี๋ยวผมไปส่งยูเรย์กลับไปเรียนต่อที่โอดุนยาก่อนนะ ไม่เกิน สองสัปดาห์คงกลับมาแล้ว ดังนั้น…แอนนากับทิเรียฝากจัดการงานให้เสร็จด้วยล่ะ ”
“ เจ้าค่ะนายท่าน ”
“ รับทราบค่ะ!! ”
……
…
“ ประกาศเว้ย!! ประกาศ!! ฟังซะไอพวกคนนอกที่เข้ามาอยู่ในดินแดนนี้!! ”
ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่สาดส่อง ณ ใจกลางพื้นที่อโคจร บัดนี้หญิงสาวในชุดสูทสีดำที่มีกระบองด้ามดาบทรงกระบอกสีดำสองด้ามที่เอวของเธอและตัวของเธอนั้น แอนนา…กำลังยืนอยู่ โดยรอบๆกายก็มีเหล่าชายหญิงมากหน้าหลายตาในเครื่องแบบลายพรางสีเขียว ทุกคนล้วนสวมชุดเกราะ สวมอุปกรณ์ครบถ้วน ที่สำคัญไม่มีใครเลยที่ไม่ถือปืน
“ วันนี้ ข้าในฐานะตัวแทนฝ่ายรักษาคงความสงบของยูโทเปีย ได้รับสั่งให้ทำการปรับปรุงเขตอันแสนโสโครกนี้ ดังนั้นเริ่มง่ายๆเลยว่าใครมีสิทธิไม่มีสิทธิ วิธีก็เอ้า!! เริ่ม!! ”
ทันใดนั้นเหล่าทหารของยูโทเปียก็เริ่มเดินหน้าไปยังบริเวณหน้าตึกแต่ละตึก พร้อมกับตั้งแถวเป็นหมวดหมู่เรียบร้อยและมีระเบียบ ท่ามกลางการจับตามองของผู้คนในเขตนี้และเจ้าของอาคารเหล่านั้น
“ ใช่ อย่างที่พวกแกเห็น วันนี้ทหารของพวกเราจะเข้าตรวจเพื่อเตรียมปรับปรุงพื้นที่ทั้งหมด คนที่ผ่านก็จะได้รับสิทธิเปิดร้านพร้อมรับทะเบียนอนุญาตที่มีจำกัด โดยไม่ต้องเสียสักเครดิต ส่วนใครที่ไม่ผ่านล่ะก็…ต้องคุยกันสักหน่อยล่ะนะ ”
หมดคำพูดของแอนนา ทหารก็เข้าตรวจทุกร้านทันที การเข้าตรวจนี้เพื่อหาการซุกซ่อนของต้องห้ามหรือของที่ผิดกฎระเบียบของยูโทเปีย อันได้แก่ … ของสามประเภทต่อไปนี้
เริ่มจากยาเสพติด สิ่งนั้นมาร์เกลียด เกลียดมันมากๆ แต่ก็แปลกที่เขาก็ดันไม่ได้เกลียดทั้งหมด อาทิเช่น อัญโอชา(กัญชา) ในบ้านเกิดชาติก่อนของเขา ไอสิ่งนี้มันเสรีพอตัวถึงขนาดที่ร้านกาแฟก็มีขาย เขาจึงไม่รู้สึกว่าเป็นภัยนัก ทำให้ในยูโทเปียอนุญาตไว้ แต่ก็มีข้อจำกัดเช่นกันว่าถ้าเสพจนสร้างความเสียหายก็ต้องรับผิดชอบในอัตราที่สูงกว่าความจริง
ดังนั้นยาเสพติดต้องห้ามก็จะมีอาทิเช่น ยาเสริมกำลังที่ต้องเสพตลอด ยากระตุ้นร่างกายที่ไม่ได้ออกโดยกิลล์นักผสมยา ยาสูบประเภทที่ไม่ได้รับการรับรองจากสมาคมยาสูบและไม่ได้ถูกตรวจโดยยูโทเปีย เป็นต้น
ส่วนเรื่องอาวุธ สำหรับด้านนอกใครจะใคร่พกอะไร ถืออะไรก็เชิญตามสบายแต่ในยูโทเปียมันไม่เป็นเช่นนั้น อาวุธทุกชิ้นที่มากกว่าเครื่องมือทำกินในชีวิตประจำวัน จำต้องมีการลงทะเบียนและต้องตรวจสอบที่มาที่ไปได้
กล่าวคือ อาวุธทุกชิ้น หากไร้ซึ่งทะเบียนและยืนยันที่มาที่ไปไม่ได้ จะถูกยึดทันที ทั้งหมดเพื่อป้องกันการก่อกองกำลังอื่นใดนอกจากคนของ “ผี” ในเกาะนี้นั้นเอง
สุดท้ายเรื่องสำคัญที่สุด ทาส ยูโทเปียนั้นไม่ยอมรับทาส ใช่…แต่เป็นบางประเภทเท่านั้น ซึ่งตัวของมาร์ เขาเองไม่อยากให้มีทาสในทวีปของเขาขนาดที่ว่า ไม่ได้พา “มันจา” ทาสหนี้พนันแล้วปล่อยให้ยังอยู่ที่คอลลาจในฐานะผู้ดูแลอาคารของเขาและอาจารย์สอนคณิตศาสตร์
แต่ว่าการจะขาดทาสหรือห้ามไปเลยในตอนนี้จะวุ่นวายเอา ทำให้ตอนต้นทิเรียเสนอว่าควรขึ้นบัญชีห้ามนำเข้าทาสสู่ “เมืองคนนอก ” เฉพาะทาสซึ่งกำหนดออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
ประเภทแรก ทาสเด็ก เป็นทาสที่อายุต่ำกว่า 21 ปี ทั้งหมดถูกห้ามนำเข้ามาในยูโทเปียเด็ดขาดไม่ว่าจะอะไรก็ตามแต่ ซึ่งหากพบว่าลักลอบหรือนำเข้ามา ทางยูโทเปียจะยึดเอา “ทาส” นั้นเอาไว้จัดการเอง การขัดขืนหรือขัดขวางมีโทษสูงสุดที่ประหารตรงหน้าทันที
ประเภทที่สอง ทาสกาม หรือทาสที่มีเพื่อการใช้บำเรอทางเพศ หรือกิจการ การกระทำใดๆ ที่เกี่ยวกับเพศและความสุขส่วนตัว รูปแบบใดๆที่เกินกว่าความบรรเทิงทั่วไป ทาสนี้จึงห้ามมีเด็ดขาด เพราะยูโทเปียมองว่าเป็นการปฏิบัติกับทาสอย่างไร้มนุษยธรรม หากพบเจอ ยูโทเปียจะยึดเอา “ทาส” นั้นเอาไว้และจัดการแบบเดียวกับทาสรูปแบบก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ยังมีการออกกำหนดกฎหมายเกี่ยวกับทาสไว้อีกด้วยว่า ทาสมีสถานเช่นเดียวกับคนนอก แต่ไม่มีสิทธิได้รับกรเลื่อนขั้นเป็น “ผู้ได้รับการตรวจสอบ” เว้นเสียแต่ เจ้าของทาสจะปลดพันธะทาสนั้น
ทำให้ เขตใดที่อนุญาตให้เฉพาะ “ผู้ได้รับการตรวจสอบ” กับ “ พลเมือง ” เข้าถึง ทาสก็จะไม่มีสิทธิเข้าไปเด็ดขาด อีกทั้งเพื่อเป็นการช่วยเหลือทาสอีกทางหนึ่ง ยูโทเปียได้ออกกฎด้วยว่า เมื่อทาสเข้ามาแล้วต้องมีราคาให้ชัดเจน โดยจะได้รับการวิเคราะห์เพิ่มเติมผ่านกิลล์นักประเมินราคา ซึ่งราคาที่ออกมานั้นจะเป็นราคาที่ทาสสามารถไถ่ตัวเองได้
รวมไปถึง ยังมีกฎด้วยว่า ทาสจะต้องได้รับการปฏิบัติดั่งคนในสถานที่แห่งนี้ หากพบเจอว่าทาสถูกปฏิบัติอย่างสิ่งของ ทาสนั้นก็จะถูกยึดโดยยูโทเปียทันทีโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ อีกทั้งทาสจะต้องได้รับสิทธิไถ่ตนอีกด้วย โดยคำนวณเป็นเงินเท่าใดนั้นขึ้นแล้วแต่กิลล์นักประเมินจะกำหนดให้กับทาสดังกล่าวตามก่อนหน้านี้
อย่างไรเสียหากเจ้าของไม่พอใจก็สามารถเลือกได้ว่าจะขายทาสให้กับยูโทเปีย หรือส่งกลับสู่ถิ่นฐานของตนด้วยเงินของเจ้าของทาสนั้น โดยหากเลือกจะขาย ยูโทเปียจะรับไถ่ทาสนั้น ในราคา 2 ใน 3 ของราคาประเมิน ซึ่งเงินที่นำมาใช้…ก็คือเงินที่วนเวียนผ่าน ค่าปรับจากการกระทำผิดอื่นๆในยูโทเปียนั้นแหล่ะ [ เงินไถ่บาป ใช้เพื่อไถ่ผู้คน ] มันคือสิ่งที่มาร์บอกเอาไว้
……
…
ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง ตู้มมม
“ เอะอะอะไรกันอีกล่ะ?? ”
ทว่าระหว่างที่แอนนากำลังเฝ้าดูอยู่นั้น อาคารหลังหนึ่งก็มีปัญหา เสียงปืนดังขึ้นและความวุ่นวายก็เช่นกัน แอนนาจึงเดินไปดู โดยผู้คนที่มาฟังและรอการตรวจต่างหลบทางให้
“ หืมม? ดรากูน? ไม่สิฮาร์ฟดราก้อน?? ไม่อ่ะมีดีแค่เกล็ดไม่มีสมองแบบนั้น ¼สินะ? เอาเถอะจะอะไรก็ช่าง… ”
สิ่งที่เธอเจอคือ ชายเกล็ดหนาร่างยักษ์ เผ่ากึ่งมังกรที่กำลังนำกลุ่มคนอีกมากมายต่อสู้กับทหารของยูโทเปีย พวกนั้นต่างใช้โล่ห์เหล็กที่ทำขึ้นมาส่งๆ แต่ก็พอจะกันกระสุนได้ รวมทั้งยังใช้ปืนหน้าไม้ยิงสวนออกมา
ตึก ตึก ตึก
“ ร้อยเอกรายงาน ”
“ เยสแหม่ม!! หมู่ที่ 23 เข้าตรวจตึกตามคำสั่ง ทว่า กลุ่มคนนอกไม่ให้ความร่วมมือจนพวกเราต้องบุกเข้าไปด้วยกำลังครับ!! ”
“ แล้ว? ”
“ ครับผม!! หัวหน้าหมู่ที่ 23 รายงานว่า พวกเขาตรวจพบสารเสพติดต้องห้าม สถานบริการใต้ดินที่ใช้ทาสทำงานในนั้น ”
มาถึงจุดจุดนี้ แอนนาก็หันไปมองยังกลุ่มคนที่กำลังต่อต้านทหารของยูโทเปีย ทหารภายใต้การบัญชาของเธอ สายตานั้นมันเป็นสายตาที่โกรธอย่างมิอาจจะประเมินได้ ใช่…นอกจากมาร์จะชอบไม่ชอบให้มีทาสแล้ว เหล่าเมดรุ่นที่ 1 ทั้งหมด ก็เกลียดพวกนายทาสทุกคน เกลียดราวกับพวกมันเป็นศัตรูของนายท่านของพวกเธอ
“ ใช้ทาสในสถานที่แบบนั้น ทาสอย่างว่าสินะ ”
“ ค ค ครับผม!! พวกทาสเหล่านั้นถูกอำพรางไว้โดยบอกว่าเป็นทาสหนี้แรงงาน ทางพวกเราที่พบว่ามีการกระทำผิดอย่างชัดเจนจึงจะเข้าจับกุมทว่าก็เกิดการขัดขืนขึ้นแล้วเป็นแบบนี้จนได้ครับ!! ”
แอนนายังคงมอง มองไปโดยไม่ละสายตา ทว่าร้อยเอกที่รายงานทุกอย่างให้เธอทราบพอได้เห็นดวงตาทั้งสองของผู้บังคับบัญชาคนนี้แล้ว เขาก็ต้องรีบก้มหน้าทันที สายตาที่มีเปลวเพลิงลุกโชนออกมา
ตึก ตึก ตึก ตึก
“ เอาสิ… กล้านักนะ กล้านักใช่ไหม? อยากนักก็ได้… ”
เธอนั้นเดินเข้าไปพร้อมกับบ่นออกมาอยู่เป็นระยะ ทว่าไอการบ่นที่ว่าก็เกิดขึ้นไปพร้อมกับเปลวเพลิงที่ลุกโชนจากร่างของแอนนา เธอเดินตรงเข้าไป เรื่อยๆ เรื่อยๆ และ..
เฟี้ยววว ฟู่
“ หึ… ”
ลูกศรจากหน้าไม้ก็โบยบินเข้าหาอย่างรวดเร็ว แต่ไม่เลย ไม่มีดอกไหนเข้าใกล้เธอได้แม้น้อย พวกมันมอดไหม้ไปจนหมดสิ้นกลางอากาศ กลายเป็นผงสะเก็ดเล็กๆน้อยๆสีดำไปเสียหมด
แม้รอบๆตัวของแอนนามันจะร้อนขนาดที่เผาศรที่พุ่งมาได้ แต่คนที่เธอเดินผ่านกลับไม่รู้สึกถึงความร้อนนั้นเลย แต่ยิ่งใกล้ผู้กระผิดมากเท่าไหร่ มันก็แสดงให้เห็นว่าความร้อนนั้นมันมากขนาดที่…
“ อ๊ากกกกกก!! ”
“ ทิ้งโล่ห์เร็วเข้า!! ”
“ อ่า อ่าา กรอดดด ”
โล่ห์พวกนั้นกลายเป็นสีแดงพร้อมกับหลอมละลายอย่างรวดเร็วไปพร้อมกับแขนของคนที่ถือพวกมัน เสียงกรีดร้องดังไปทั่ว แต่ผู้กระทำผิดก็ไม่หยุด พวกเขารู้ว่าถ้าหยุดตอนนี้ก็ไม่พ้นโทษสถานหนักอยู่ดี พวกเขาจึงต้องสู้ สู้เพื่อหลบหนีไปให้ได้ ทว่าไอการคิดจะเผชิญหน้าตรงๆแบบนั้นกับแอนนา มันก็คือการฆ่าตัวตายนั้นแหล่ะ
“ มาเริ่มทำความสะอาดก่อนนายท่านจะกลับมาเลยกันเลยดีกว่า…ไอพวกเวร ”
ฟึบ วู่มๆๆๆๆ
แอนนา หยิบเอาอาวุธของเธอออกมา แท่งเหล็กดำนั้นมันไม่มีคมดาบอย่างที่ทุกคนเห็น แต่ว่าเพียงไม่ถึงวินาที ก็เกิดแท่งแสงสีชมพูขึ้นมามันเข้มขึ้น เข้มขึ้นจนกลายเป็นสีแดงและจบที่สีขาว แท่งแสงนั้นยาวเกือบเมตรครึ่ง แถมมันก็มากกว่าคำว่าร้อนไปหลายเท่า
ฟุบ
“ อะไ…. ”
“ ตายไปแล้วนะ…แกน่ะ ”
“ ห๊ะ?!? พูดบ้าอะไรของแก ยัยเปี๊ย…. อ๊ากกกก!! ไฟบ้าอะไรกัน ไม่ ไม่ ร่างของข้า ไม่ ม่ายยยยยย!! ”
ทันทีที่มันสัมผัสกับร่างของเจ้าร่างยักษ์ มันก็แผดเผาทุกส่วนอย่างรวดเร็วจนขนาดที่ร่างกายไม่อาจรับรู้ได้ว่าชิ้นร่างกายนั้นได้หายไปและมอดไหม้จนไม่เหลือแม้แต่ฝุ่น ส่วนตัวของแอนนาเธอก็ไม่ได้สนใจเจ้ายักษ์นั้นแล้วตรงเข้าใส่ศัตรูอีกหลายสิบคนที่พยายามจะถอดเกราะเหล็กของตนออกเพื่อหนีความร้อนนรกนี้
“ ถ้าจะขัดขืนก็อย่ามาป็อดหนีไปก่อนล่ะ ”
………