เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 71: ปราสาทราชาแห่งผี (ตอนที่ 6)
เส้นทางแห่งโชคชะตา เล่ม 1 ตอนที่ 71: ปราสาทราชาแห่งผี (ตอนที่ 6)
เล่ม 1 ตอนที่ 71: ปราสาทราชาแห่งผี (ตอนที่ 6)
ทุกคนยังอยู่ในอาการตกใจไม่หาย แม้ว่าค้างคาวพวกนี้จะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่นัก แต่ค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากมันนั้นก็สูงเป็นอย่างมาก จากการจัดการกับพวกมันอย่างดุเดือดควบคู่ไปกับค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากผู้พิทักษ์ประตูนรกแล้ว ทําให้พวกเขาได้รับค่าประสบการณ์เยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมิงซิน เลเวลข องเธอพุ่งขึ้นมาถึง 4 เลเวลขณะทุกคนกําลังพูดคุยกันอย่างมีความ สุข แต่ทว่ากวยหลงนั้นกลับจมลงสู่ความเงียบงัน
“ทําไมกัน นายไม่มีความสุขหรือ ?” มู่หรงเสี่ยวเทียนตบไหล่กวยหลงเบา ๆ และถามขึ้นมา
“เอ่อ…. คือ… ฉัน…” กวยหลงพูดไม่เป็นคํา
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” มู่หรงเสี่ยวเทียนมองที่กวยหลงด้วยความเห็นอกเห็นใจ “ฉันรู้ว่านายคิดอะไรอยู่ นายคิดว่าตัวเองไร้ค่า ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถช่วยทุกคนได้แล้วแต่นายยังเป็นตัวถ่วงของทุกคนอีกใช่ไหม ? ”
แม้ว่ากวยหลงจะเงียบงันแต่การแสดงออกของเขานั้นก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาคิดเช่นนั้น
มู่หรงเสี่ยวเทียนยิ้มและตบลงบนไหล่ของกวยหลงอย่างหนักแน่น “ไม่จําเป็นจะต้องแบกรับภาระที่หนักขนาดนั้นหรอก พวกเราปฏิบัติต่อนายเหมือนกับว่านายเป็นเพื่อนคนหนึ่ง หากว่านายกังวลกับสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ แบบนั้นเราจะเป็นเพื่อนกันได้ยังไง ? อย่ามากังวลเรื่องอะไรแบบนี้เลย มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่เพื่อนจะช่วยเหลือกัน แน่นอน ฉันพูดถึงเพื่อนที่เป็นเพื่อนแท้ เพื่อนแท้ที่สามารถตายแทนกันได้ ! ” ในช่วงเวลานั้นมู่หรงเสี่ยวเทียนก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงหมิงหยวน
ดวงตาของกวยหลงเปล่งประกาย จากนั้นเขาค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ “ใช่แล้ว พวกเราคือเพื่อนกัน สักวันหากว่าต้องการความช่วยเหลือ ฉันก็จะทําแบบเดียวกันกับที่ทุกคนช่วยเหลือฉันในวันนี้” หัวใจที่หดหูของเขาเริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมามากแล้ว
“พี่เทียน ฉันว่าทุกคนควรจะกลับไปที่เมืองกันก่อน” วู่เฟิงพูดออกมาในขณะนั้น “ยาของฉันใกล้จะหมดลงแล้ว ฉันคิดว่าคนอื่น ๆ ก็น่าจะใกล้หมดแล้วเช่นกัน ฉันเกรงว่าเราจะไม่มียาเพียงพอที่จะต่อสู้กับราชาแห่งผี” วู่เฟิงส่ายหัว “แล้วพวกทีมสายฟ้าล่ะ ?”
“ใช่ ๆ ของฉันก็เกือบหมดแล้ว”
“ของฉันก็เช่นกัน”
“ของฉันหมดเกลี้ยงเลย”
ในเวลานี้ สิ่งที่ทุกคนกําลังพูดถึงอยู่ สรุปได้ก็คือ ไม่มีใครเหลือยามากพอที่จะสู้ต่ออีกแล้ว
“ฉันเตรียมมาแล้ว” มู่หรงเสี่ยวเทียนหยิบบางอย่างออกมาจากแหวนแห่งความโกลาหลอย่างภาคภูมิใจ เขาเตรียมการมาอย่างดี ในตอนที่จึงยี่เห็นว่าเขานั้นได้นํายามาจากร้านขายยาโจรอันดับหนึ่งในใต้หล้า จึงยี่ก็มีท่าทางที่โกรธและไม่พอใจมาก ส่วนมู่หรงเสี่ยวเทียนนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างลับ ๆ
“พี่โจร ทําไมถึงสามารถใส่มันได้เยอะแยะขนาดนั้น ? ” เมื่อเห็นมู่หรงเสี่ยวเทียนควักยาออกมามากมาย พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา
“ก็มันไม่จํากัดน้ำหนักไงละ” สายฟ้าซวนตอบกลับอย่างหดหู่ใจ
“พี่โจร มันน่าทึ่งมาก ! ” ดาราดังจื่อเฟิงพูดขึ้นด้วยอารมณ์ที่ตื่นเต้นของเขา
“ฮ่าฮ่า นายใหญ่โจร เอายามาเยอะขนาดนี้แล้ว หลังจากกลับไปก็ระวังตัวให้ดี ๆ บางทีนายหญิงอาจจะปล่อยให้คุกเข่าเป็นเวลานานเพื่อเป็นการลงโทษ” หยางซ่งมองไปที่มู่หรงเสียวเทียนด้วยสายตาแปลก ๆ จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “ก๊าก ๆๆ”
ฮ่าฮ่าฮ่า เสียงหัวเราะของทุกคนดังขึ้น
“หาเรื่องกันซะแล้ว เจ้าเด็กนี่” มู่หรงเสี่ยวเทียนหน้าแดงจากนั้น เขาก็ไล่ตีหยางซ่ง
“จริงสิพี่โจร เมื่อไหร่ฉันถึงจะเรียกพี่จึงยี่ว่าพี่สะใภ้ได้กันละเนี่ย ? ! ” หมิงซินพูดติดตลกแซวออกมาเหมือนกัน
“โอ้ยย ได้โปรดเถอะ อย่าเดาสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้ได้ไหม” มู่หรงเสี่ยวเทียนส่ายหัวอย่างขมขื่น จากนั้นร่างของไปหยุนก็ปรากฏขึ้นมาในหัวอีกครั้ง ไปหยุนอยู่ที่ไหนกันนะ ตอนนี้เธอจะสบายดีไหม มู่หรงเสี่ยวเทียนแอบถอนหายใจเบา ๆ
เมื่อเห็นว่าทุกคนเตรียมพร้อมจากการเติมยาแล้วนั้น มู่หรงเสี่ยวเทียนก็เดินเข้าไปยังห้องตรงกลาง อย่างไรก็ตามเขายังต้องผ่านประตูพวกนี้ไปยังปราสาทราชาแห่งผี ดังนั้นเขาจึงเลือกมันที่ละอัน มู่หรงเสี่ยวเทียนเปิดประตูอีกครั้งและพยายามคลําหาลูกบิดหรือกลไกบางอย่าง แต่ทว่าหลังจากคลําหาอยู่เป็นเวลานาน อย่าว่าแต่ลูกบิดเลย แม้แต่สิ่งใด ๆ เขาก็ไม่พบแม้แต่น้อย
“หมิงซิน มาดูนี่หน่อย” มู่หรงเสี่ยวเทียนยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
“ดูเหมือนว่าประตูนี้จะไม่ได้ถูกล็อคเอาไว้” หมิงซินเดินไปแล้วใช้มือผลักเบา ๆ จากนั้นประตูก็ถูกเปิดออกจนดัง เอี้ยด
“เอ้า อะไรกันเนี่ย ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนมีท่าทางเขินอาย
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ทุกคนมองเหยียดไปที่มู่หรงเสี่ยวเทียนพร้อม ๆ กัน จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และแล้วพวกเขาก็เดินเข้าไปยังประตูห้องกลางที่ละคนสองคน พวกเขาจัดรูปแบบตําแหน่งของแต่ละคนตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ มู่หรงเสี่ยวเทียน วู่เฟิงดาราดังจือเฟิงนั้นยืนอยู่แถวหน้า หยางซ่ง กวยหลง และหมิงซิน เดินอยู่ตรงกลางส่วนพี่น้องทีมสายฟ้านั้นปิดท้ายขบวน
ข้างในประตูกลางนั้นไม่ต่างอะไรไปจากก่อนหน้านี้เลย มันเหมือนกับเป๊ะ ๆ
“พี่เทียน ทางนี้ไม่เห็นต่างอะไรไปจากทางก่อนหน้าเลย เป็นไปได้ไหมว่าจะมีค้างคาวอยู่เหมือนกัน ! ” หยางซ่งคิดถึงการต่อสู้อันหนาวเหน็บเมื่อสักครู่นี้จนกังวล
“ปากเสียนะนาย นายจะพูดอะไรดี ๆ ไม่ได้เลยรียังไง ? นายไม่รู้ยังไงว่าการหลอกคนอื่นนั้นจะทําให้คนอื่น ๆ กลัวขึ้นมาจริง ๆ ” สายฟ้าปาไม่พอใจ เธอยีหัวของหยางซ่งให้ยุ่งทันทีขณะที่เธอพูด ออกมา
ทุกคนเดินไปข้างหน้าสักพัก พวกเขาก็ไม่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของค้างคาวแต่อย่างใด ดังนั้นพวกเขาจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งแต่การที่จะไม่ต้องต่อสู้กับค้างคาวนับพันนั้นย่อมดีกว่า
ช่วงเวลาเดียวกันที่พวกเขานั้นผ่านเข้าไปเกือบจะสุดทาง จู่ ๆ ตรงหน้าก็เริ่มสว่างขึ้นมา หน้องโถงขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของพวกเขา
ห้องโถงนั้นมีขนาดสี่ถึงห้าร้อยตารางเมตร มันกว้างและว่างเปล่าปราศจากมอนสเตอร์ใด ๆ ตรงกําแพงที่อยู่ตรงข้ามกับพวกเขานั้นก็มีอักขระตัวใหญ่สะดุดตาเขียนเอาไว้ว่า “ปราสาทราชาแห่งผี” ใต้ตัวอักษรพวกนั้นมีบ่อเลือดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ บ่อนั้นสูงมาก มันตั้งอยู่ติดกับผนังอย่างเด่นชัด และมีบันไดที่สามารถใช้เพื่อขึ้นไปข้างบนบ่อได้ เลือดสีแดงสดในบ่อกระเพื่อมไปมาส่งกลิ่นเหม็นคาวที่รุนแรงจนแทบอ้วก เลือดในบ่อก็สะท้อนตัวอักษรูปราสาทราชาแห่งผีที่อยู่ด้านบน ทําให้ทั้งห้องโถงนั้นน่าสยดสยองเป็นอย่างมาก
ทุกคนเดินเข้าไปในห้องโถงอย่างระมัดระวัง พวกเขาไม่พบกับมอนสเตอร์ใด ๆ เลยแม้แต่ตัวเดียวและสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องเพ่งความสนใจไปก็คือบ่อเลือด
“มันอยู่ในนั้นใช่ไหม ? ” วูเฟิงถามออกมาพร้อมกับชี้ไปที่บ่อเลือด
“ไม่รู้เหมือนกัน ไปดูกันเถอะ” มู่หรงเสี่ยว เทียนเดินขึ้นไปบนบันไดอย่างระมัดระวัง ขณะที่กําลังก้าวขึ้นไปได้ขั้นเดียวนั้น ปราสาทราชาแห่งผีก็สั่นสะท้าน
“ระวังนะ มันอยู่ใต้พื้น” หมิงซินพูดออกมาอย่างกังวล
ทุกคนรีบถอยไปที่ทางเข้าพร้อมกับยืนเรียงกันอย่างระมัดระวัง พวกเขากําลังจ้องมองห้องโถงที่กําลังสั่นไหว และเกิดสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิด
ด้วยการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงของห้องโถงนั้น รอยแยกขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงกลางจากนั้นบัลลังก์ขนาดใหญ่ก็ผุดขึ้นมาจากใต้พื้นดิน !