เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 259 อิ่นซินร่วมงานเลี้ยงเต้นรำ
“ตอนนี้คุณรู้ว่าผมเป็นใครแล้วเหรอ?”
ฉินเฟิงพูดเบาๆ บนที่นั่งของเขา
“ใช่ เมื่อก่อนมันเป็นความผิดของฉันเอง คิดว่าเทพสงครามคือทายาทเศรษฐีรุ่นสองที่ทำแต่เรื่องชั่วๆ ในเรื่องนี้ฉันยอมรับว่าตัวเองไร้เดียงสาเกินไป มันเป็นความผิดของฉันเอง”
หลิวหลินยอมรับผิดอย่างไม่อ้อมค้อม
ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเธอ แต่เธอก็นึกไม่ถึงว่า Mr.X ผู้ที่พลิกฟ้าพลิกแผ่นดินในเมืองเจียงเฉิง ฉินเฟิงลูกเขยแต่งเข้าบ้าน จะเป็นเทพสงครามอันดับหนึ่งของประเทศต้าหัวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
เป็นเทพในกองทัพ!
สังหารศัตรูสามแสนนายในสงครามครั้งเดียว
“หลิวหลิน ตอนนี้คุณเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผมแล้ว ครูทหารโดยตรงคือหวังเถ่ หนึ่งในอดีตสิบนายพลแห่งอีสเตอร์แลนด์ ตอนนี้ทำกิจการพับนิพพานอยู่” ฉินเฟิงกล่าว
พับนิพพาน ก็คือบาร์เหล้าของเฉินจื่อซวนและเสี่ยวเสี่ยว
“ค่ะ”
หลิวหลินทำตามคำสั่ง แต่ก็แอบวิพากษ์วิจารณ์ในหัวใจ บุคคลใหญ่โตเหล่านี้ชอบที่จะทำสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถทำได้ อย่างเช่นเทพสงครามองค์นี้ ไปเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านของคนอื่น
พูดออกไปเช่นนี้ แล้วใครจะเชื่อ
ถึงอย่างไรเขาก็คือเทพสงคราม เทพสงครามอันดับหนึ่งของประเทศต้าหัว!
ครูทหารที่เธอขึ้นตรงท่านนี้ เคยเป็นหนึ่งในนายพลสิบอันดับแรกในอีสเตอร์แลนด์ ทำงานเบ็ดเตล็ดในบาร์เหล้า เรื่องนี้ถ้าพูดออกไปก็ไม่มีใคร ถ้าฉินเฟิงไม่ได้มาบอกเอง เธอก็ไม่เชื่อ
มะ…ไม่น่าเชื่อเลย
“จากนี้ไปคุณสามารถมาที่นี่ได้เรื่อยๆ หวังเถ่จะฝึกฝนให้คุณเอง”
“ฉันย้ายเข้ามาได้ไหม”
หลิวหลินเบิกตากว้าง มองตรงไปที่ฉินเฟิงอย่างอ้อนวอน
แตกต่างจากคนอื่นๆ หลิวหลินมีนิสัยเช่นนี้มาตั้งแต่เกิด ไม่ค่อยเกรงกลัวเทพสงครามอันดับหนึ่งแห่งประเทศต้าหัวอย่างฉินเฟิง เธอยังกล้าที่จะออกมาขัดขวางหากฉินเฟิงทำอะไรที่โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม
และเนื่องจากอยู่ในวัยเดียวกัน ทั้งสองของจึงคุ้นเคยกัน ไม่ค่อยขัดเขินสักเท่าใด
“ได้ แต่อยู่ห่างจากผมหน่อย ถึงยังไงผมก็มีภรรยาแล้ว”
ฉินเฟิงตอบตกลง อยู่ที่นี่ ถ้าไม่มีอะไรก็สามารถดูแลเด็กๆ ทำกับข้าว เป็นพี่เลี้ยง พี่เลี้ยงฟรี ไม่ได้อยู่เปล่าๆ
“เชอะ!”
หลิวหลินบุ้ยปาก
จากนั้นเธอก็ออกไปขนของแล้ว
“สาวน้อยคนนี้…นิสัยดี…แต่ว่า จะมาแทนตำแหน่งของไอ้โจวได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถมีชีวิตเหลือรอดจากการฝึกของหวังเถ่ได้หรือไม่”
ประกายรอยยิ้มกะพริบขึ้นมาบนดวงตาของฉินเฟิง
คนที่มีฉายาในประกาศมืดว่าเป็นครูทหาร ต้องไม่ใช่ธรรมดาแน่ ถ้าจะบอกว่าเป็นครูทหารปีศาจ ก็อาจจะเป็นการชมหวังเถ่เกินไป
คนคนนี้น่ากลัวจริงๆ ในเรื่องการฝึก
ในตอนนั้นมีหลายคนที่เสียชีวิตในการฝึก
และในเวลานี้ Mr.X ก็กลับมาถึงวิลล่าหยุนติ่ง และตอบตกลงคำเชิญของยมบาลเจียงไปแล้ว ว่าจะเข้าร่วมงานเลี้ยงเต้นรำในคืนนี้ งานเลี้ยงเต้นรำนี้ได้ดึงดูดสายตาของผู้คนในเมืองเจียงเฉิงเรียบร้อยแล้ว
เกรงว่าจะไม่ธรรมดา
หนึ่งในนั้นคือ Mr.X ที่เป็นดั่งมังกรดุร้ายที่เพิ่งสร้างความปั่นป่วนในเมืองเจียงเฉิงเมื่อเร็วๆ นี้
อีกคนก็มาถึงเมืองเจียงเฉิงเมื่อสามปีก่อน ใช้กำปั้นทั้งสองกวาดล้างโลกใต้ดินของเมืองเจียงเฉิง ก่อตั้งบริษัทบอดี้การ์ด มังกร จำกัด เรียกสั้นๆ ว่าบอดี้การ์ดมังกร ชื่อเสียงอันโหดร้ายของยมบาลเจียงอยู่ในเมืองเจียงเฉิง
ครั้งนี้คือการพบหน้ากันอย่างเป็นทางการของผู้นำทั้งสอง
ยังไม่ทันเริ่ม ก็มีกลิ่นดินปืนแล้ว
อิ่นซินที่นั่งอยู่ในห้องทำงานกำลังมองสิ่งนี้อยู่ บัตรเชิญที่เพิ่งถูกส่งมาเมื่อครู่ การ์ดสีแดงขอบตรง ลวดลายไหมสีทอง ดูมีระดับหรูหรา
ติ๊งติ๊ง
ในเวลานี้ มีคนคนหนึ่งโทรเข้ามา
อิ่นซินรับสาย “ฮัลโหล ลานเมิ่ง เกิดอะไรขึ้น?”
“คุณได้รับบัตรเชิญที่บอดี้การ์ดมังกรส่งมาเมื่อครู่หรือเปล่า ฉันก็มีด้วยนะ บอดี้การ์ดมังกรนี่กำลังทำอะไรอยู่ คงไม่ใช่คิดจะฆ่า Mr.X ต่อหน้าพวกเราหรอกนะ? Mr.X คนนี้คือเจ้านายของเราเอง”
หลิวลานเมิ่งคาดเดา แต่การเดานี้ค่อนข้างเป็นกังวล
หลังจากผ่านเรื่องราวในครั้งนี้แล้ว เธอก็รู้ว่า Mr.X คือเจ้านายของเจ้านายของเธอ นั่นก็คือเจ้านายใหญ่ของเธอ
หากต้องการหาเรื่อง Mr.X นั้นไม่อาจทำได้
“เออใช่ เสี่ยวซิน เธอจะไปเหรอ?” หลิวหลานกล่าว
“ไปสิ ทำไมจะไม่ไปล่ะ? แต่เดี๋ยวฉันต้องกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อย ถึงอย่างไรก็เป็นงานเลี้ยงเต้นรำ เออใช่ ฉันยังต้องพากั่วกั่วไปด้วย ฉันบอกไว้แล้วว่าคืนนี้จะพาเธอไปเที่ยว จะผิดนัดไม่ได้”
ในหัวของอิ่นซินคิดถึงกั่วกั่ว
ลูกสาวสุดที่รักของเธอ
“เสี่ยวซิน เธอเป็นไข้หรือเปล่า? ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่า คืนนี้มีสถานการณ์อย่างไร มันไม่ใช่งานเลี้ยงเต้นรำธรรมดาทั่วไป เธอยังพากั่วกั่วไปด้วยอีก?”
หลิวลานเมิ่งถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
นั่งเพื่อนโง่ กำลังคิดอะไรอยู่
“ไม่ต้องเป็นห่วง Mr.X จะแก้ปัญหาทุกอย่าง” อิ่นซินกล่าว
“ทำไมล่ะ?”
หลิวลานเมิ่งงุนงง
“เอ่อ…ฉันเองก็ไม่รู้ ถึงยังไงฉันก็มีความรู้สึกอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกว่า Mr.X จะแก้ปัญหาทุกอย่าง แล้วก็เรื่อง…ความจริง เวลาที่ฉันเผชิญหน้ากับ Mr.X ฉันมักจะรู้สึกคุ้นเคย”
อิ่นซินก็ถึงกับอึ้งไป
ตั้งแต่เรื่องราวคราวก่อนสิ้นสุดลง เธอก็มักจะมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกอยู่ตลอดเวลา รู้สึกว่าตัวเองวางใจได้ Mr.X จะแก้ไขทุกเรื่องเอง
อธิบายไม่ถูก
อีกอย่างเธอมักจะรู้สึกว่า Mr.X ค่อนข้างให้ความรู้สึกคุ้นเคย
คุ้นเคยจริงๆ เหมือนคนที่อยู่เคียงข้าง
“เธอเคยเจอ Mr.X แล้วเหรอ?” หลิวลานเมิ่งถามอีกครั้ง
“น่าจะ…เหมือนว่า…ไม่เคยนะ คราวก่อนที่ Mr.X มาช่วยฉัน ฉันก็อยู่ในอาการโคม่าตลอดเวลา ไม่ได้เห็นเขาจริงๆ แต่ฉันมักจะรู้สึกว่าอ้อมกอดเป็นที่คุ้นเคยมาก”
อิ่นซินกล่าวอย่างระมัดระวัง
“เธออยากจะบอกว่า อ้อมกอดนั้นเหมือนของฉินเฟิง? เสี่ยวซิน เรื่องนี้เธอบอกกับฉันเป็นรอบที่ห้าแล้ว แต่ฉันจะบอกกับเธออย่างจริงจังว่า มันเป็นไปไม่ได้ นั่นคือ Mr.X เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองเจียงเฉิง จะไปมีความเกี่ยวข้องกับไอ้เศษสวะฉินเฟิงนั่นได้ยังไง” หลิวลานเมิ่งกล่าวอย่างอ้อมค้อม
“ลานเมิ่ง”
น้ำเสียงของอิ่นซินไม่ค่อยพอใจ
“เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่ใช่เศษสวะ ไม่ใช่เศษสวะ ฉันมันเศษสวะ ฉันมันเศษสวะเอง โอเคไหม ฉันกลัวเธอแล้วจริงๆ ไม่อนุญาตให้ฉันพูดถึงเจ้าหมอนั่นไม่ดี พูดนิดพูดหน่อย เธอก็ทำท่าทางเหมือนจะแตกหักกับฉัน ฉันกลัวเธอแล้วจริงๆ”
“ในเมื่อเธอเชื่อมั่นในตัว Mr.X ถ้าอย่างนั้นก็พากั่วกั่วไปด้วยแล้วกัน”
“คืนนี้ฉันจะโทรหาฉินเฟิงต่อหน้า Mr.X ฉันจะทำให้เธอเห็นว่า สองคนนี้ไม่ใช่คนคนเดียวกัน ฉันต้องตัดสินความคิดของเธอให้ได้ เอาแต่คิดอะไรอยู่ได้ทั้งวันทั้งคืน คนหนึ่งก็ Mr.X คนหนึ่งก็ฉินเฟิง สองคนนี้จะเป็นคนคนเดียวกันได้เหรอ”
หลิวลานเมิ่งพูดไม่หยุด ก่อนหน้านี้สองวัน อิ่นซินมีปฏิกิริยาตอบโต้ในเรื่องนั้นแล้ว เธอเป็นประธานหญิง สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้ว
สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดคืออ้อมกอดที่คุ้นเคยนั้น แต่หลังจากที่หลิวลานเมิ่งยืนกรานว่าไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน จะเป็นไปได้อย่างไร เธอก็เริ่มเกิดความรู้สึกสงสัยแล้วเช่นกัน
Mr.X คือฉินเฟิง?
จะมองอย่างไรก็แทบจะเป็นไปไม่ได้
“เอาล่ะ”
ดังนั้นอิ่นซินจึงรับปากกับหลิวลานเมิ่งเรื่องหนึ่ง คืนนี้มันเป็นโอกาส เธอจะโทรหาฉินเฟิงต่อหน้า Mr.X เช่นนี้จะเห็นได้ชัด สามารถรู้ได้ว่าสองคนนี้เป็นคนคนเดียวกันหรือไม่
แต่เป็นไปได้มากว่าไม่ใช่คนคนเดียวกัน