เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 201 วีรบุรุษผู้ไม่มีสอง
การหว่านเสน่ห์ผู้ชาย
ฉินเฟิงไม่สนใจ และไม่อยากสนใจด้วย ลำพังแค่ผู้ชายคนนั้นไม่มีความสามารถในการควบคุมตัวเอง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเด็กผู้หญิง เผชิญหน้ากับนักเรียนมัธยมปลาย และนักศึกษามหาวิทยาลัยมันเกิดอะไรขึ้น
อีกทั้ง มันเป็นเพราะความอิจฉาริษยาเท่านั้น
เมื่อเกิดความอิจฉา จึงอยากฆ่าคน โดยไม่กังวลสิ่งอื่นสิ่งใด นี่คือตระกูลโจว ที่เรียกกันว่าเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองเจียงเฉิง
“เรื่องพวกนี้ คุณสืบพบได้อย่างไร?”
โจวซวนซวนก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ด้วยใบหน้าตกใจกลัว
ตระกูลโจวของพวกเธอ เป็นถึงตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองเจียงเฉิง พวกเธอทำเรื่องแบบนี้ มักจะซ่อนเก็บหางไว้เป็นอย่างดี ไม่เคยถูกฝ่ายตำรวจพบหลักฐาน และไม่ถูกใครรับรู้ด้วย
แต่ทว่า Mr.Xคนนี้รู้ได้อย่างไร!
เป็นไปไม่ได้
ตรวจพบได้อย่างไร
พวกเธอทำอย่างภูษาฟ้าไร้ตะเข็บเชียวนะ
“ขอแค่ทำแล้ว จะต้องเหลือร่องรอยไว้อยู่แล้ว”
คนอื่นตรวจสอบไม่พบ มันไม่ได้หมายความว่าฉินเฟิงจะตรวจไม่พบ องครักษ์หมาป่าของเขาเป็นหนึ่งในสุดยอดกองทัพสามแสนนายของเขา และเป็นหน่วยองครักษ์ของเข้าด้วย อีกทั้งยังสามารถสอดแนมสถานการณ์ทางทหารของประเทศได้
อย่าว่าแค่เมืองเจียงเฉิง ที่เป็นแค่สถานที่เล็กๆ
“เหลือ?ร่องรอยไว้ เหอะ ถึงจะเหลือร่องรอยไว้ แล้วยังไงล่ะ ในเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ ตระกูลโจวของผมเป็นตระกูลอันดับหนึ่ง ใครกล้าแตะต้องโจวซวนซวนคนอย่างผมล่ะ”
สายตาของโจวซวนซวนมีความชั่วร้ายปรากฏขึ้น
ตรวจสอบเจอแล้วยังไง ในเจียงเฉิง ใครกล้าแตะต้องเขาโจวซวนซวน
“ขอโทษด้วยนะครับ ผมกล้าแตะ”
เพียงแต่ว่า จู่ๆข้างหลังของโจวซวนซวนก็มีเสียงทรงพลังดังขึ้น
“ใคร?”
โจวซวนซวนหันหลังกลับไป
แต่ไม่รอได้เห็นชัดรูปร่างของคนที่มา ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งคว้ามือเธอไว้ แล้วจับร่างของเธอไว้ กดตัวเธอไว้กับพื้นจนแน่น ในเวลานี้เอง ผู้หญิงคนนั้นก็พูดขึ้นมาว่า“ทีมตำรวจแห่งเมืองเจียงเฉิง หลิวหลิน หัวหน้าทีมตำรวจเบอร์หนึ่ง ตอนนี้จับกุมคุณไว้แล้ว คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด เพราะทุกคําพูดของคุณจะถูกนําไปใช้ให้การต่อศาล”
“ฉันคือโจว……”
เดิมทีเธออยากพูดออกไปว่าเธอคือโจวซวนซวน แต่ก็ต้องหุบปาก
เพราะ เธอรู้ดีคนผู้นี้คือใคร
หลิวหลิน ตำรวจหญิงเบอร์หนึ่งแห่งเจียงเฉิง เป็นดอกไม้ของวงการตำรวจ ในขณะเดียวกันก็เป็นมังกรสาว หลังจากที่ถูกจับกุม ทางที่อย่าขัดขืนดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะง่ายต่อการแขนขาขาดหาย
โจวซวนซวนเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับรูปร่างของตัวเอง แน่นอนว่าเธอไม่กล้าพูดอะไร
เลวร้ายที่สุด หลังจากกลับไป ให้พี่สาวของตนมาช่วยออกไปก็พอแล้ว
เรื่องเล็กน้อย
ตอนนี้เธอจะขัดขืนไม่ได้เด็ดขาด
“อยู่นิ่งๆล่ะ”
สายตาทั้งคู่ของหลินหลินมีความโกรธปนอยู่ในนั้น เธอพึ่งอาบน้ำลงมา บนตัวสวมเสื้อผ้าของโหวเมิ่งหยาว คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงของคนพวกนี้
ประเด็นคือ คดีพวกนี้ เธอเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด
ทุกครั้งที่เธอเห็นเด็กผู้หญิงพวกนั้นที่ศีรษะเปื้อนเลือด ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยกรีดข่วน ยังมีเด็กนักเรียนผู้หญิงที่ถูกขายไปที่ภูเขา และต่างประเทศ คนที่ตายก็ตาย คนที่พิการก็พิการ หัวใจของเธอราวกับมีมีดกรีด
ทุกครั้ง ที่เธอพยายามสืบอย่างเต็มที่ แต่คนพวกนี้ก็ไม่ใช้พวกคนที่ทำเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก พวกเขาซ่อนไว้เป็นอย่างดี
ทุกครั้งเธอจะหมดหนทาง และรู้สึกผิดมาก
วันนี้ในที่สุดเธอก็สามารถจับคนร้ายได้ เธอไม่สนว่าจะเป็นตระกูลอันดับหนึ่งแห่งเจียงเฉิง หรือมีภูมิหลังใหญ่คับฟ้า เครือข่ายซับซ้อน ตอนนี้เธอแค่อยากจับตัวผู้หญิงคนนี้เข้าไป รับการดำเนินคดีถูกพิพากษา และลงโทษ
“คุณอย่าใจร้อนไปสิ ฉันไม่ขยับหรอก”
โจวซวนซวนรีบอ่อนข้อให้กับหลิวหลิน สิ่งที่เธอไม่กล้าที่สุดก็คือการยุ่งกับผู้หญิงที่ไม่สนโลกแบบนี้ แต่ตอนนี้เธอยังคงหันกลับไปพูดกับฉินเฟิงว่า“Mr.Xคะ คุณแน่ใจแล้วหรอคะ ว่าจะไม่ยอมจบกับตระกูลโจวของเรา?”
“คำถามของคุณ โจวจือเชียนเคยถามผมแล้วล่ะ”
ฉินเฟิงโบกมือ“หลิวหลิน จับส่งตำรวจ แล้วตรวจสอบ”
“ค่ะ”
หลิวหลินในตอนนี้ กลายเป็นลูกน้องของฉินเฟิงอย่างไม่รู้ตัว
เธอรีบโทรศัพท์ทันที
ผ่านไปไม่นาน ทีมตำรวจเบอร์หนึ่งแห่งเจียงเฉิง ทีมเล็กๆของหลิวหลินก็มาถึง ในตอนที่จับโจวซวนซวนออกไปนั้น โจวซวนซวนก็หันกลับมามองฉินเฟิง สายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง“Mr.X คุณอย่าได้ใจไป ตระกูลโจวของเราน่ากลัวกว่าที่คุณคิดไว้ ฉันเข้าไปวันนี้ พรุ่งนี้ก็ออกมาได้แล้ว ต่อกรกับตระกูลโจวของเรา คุณกำลังรนหาที่ตาย”
“ถ้าพรุ่งนี้คุณออกมาได้ ฉันจะคุกเข่าให้คุณเลย”
หลิวหลินตบเบาๆที่บ่าของโจวซวนซวน ด้วยสายตาโกรธ
มาถึงป่านนี้แล้ว โจวซวนซวนคนนี้ยังจองหองอยู่อีก กลับกล้าข่มขู่คนอื่นต่อหน้าเธอ คิดว่ามังกรสาวอันดับหนึ่งอย่างเธอไร้ประโยชน์อย่างงั้นหรอ
โจวซวนซวนถูกคุมตัวเข้าไปในรถตำรวจด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง
หลังจากที่จัดการเสร็จ หลิวหลินก็กลับมายืนอยู่ตรงหน้าของฉินเฟิง แล้วทำความเคารพหนึ่งครั้ง“ภารกิจสำเร็จแล้วค่ะ”
“อืม ไปเถอะ”
“ค่ะ”
ไม่รู้เมื่อไร หลิวหลินพาทีมตำรวจของตัวเองจากไป บนรถ มีสมาชิกในทีมคนหนึ่งถามอย่างแปลกใจว่า“หัวหน้าครับ คนที่สวมหน้ากากคนนั้น เป็นอะไรกับคุณหรอครับ ทำไมคุณต้องไปรายงานกับเขาด้วยล่ะ?”
หลิวหลิน“???”
จริงสิ
ทำไมฉันต้องไปรายงานกับฉินเฟิงด้วยล่ะ เขาไม่ใช่หัวหน้าฉันเสียหน่อย เขาก็เป็นหนึ่งในคนร้ายที่ฉันกำลังตามสืบหนินา
อะไรกันเนี่ย
แปลกจริงๆ
เธอทำตามสิ่งที่ฉินเฟิงมอบหมายให้ อย่างไม่รู้ตัว ไม่ทันตั้งตัว
เธอเห็นฉินเฟิงกลายเป็นหัวหน้าของเธออย่างไม่รู้ตัว
“ฉินเฟิง อย่าคิดว่า การสั่งการที่ไม่สามารถอธิบายได้ คุณจะเก่งสุดยอด ก็แค่ลูกคนรวยคนหนึ่งเท่านั้น เป็นลูกคนรวยแล้วเจ๋งรึไงยะ สุดท้ายก็ได้ความช่วยเหลือจากครอบครัว”
หลิวหลินพึมพำสองคำ แต่พอถึงท้ายที่สุด เสียงของเธอยิ่งอยู่ยิ่งอ่อนลงเรื่อยๆ
เพราะ เธอก็อาศัยครอบครัวเหมือนกัน
ไม่อย่างนั้น เธอคงถูกจัดการไปตั้งนานแล้ว
ล้วนเป็นลูกคนรวยเหมือนกัน แต่เธอคิดว่าตัวเองอาศัยที่บ้าน น้อยกว่า ไม่เหมือนกับฉินเฟิง ต้องอาศัยครอบครัว จนมาถึงที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ได้
ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ
วิลล่าหยุนติ่ง
โหวเมิ่งหยาวเดินออกมา แล้วรายงานกับฉินเฟิงว่า“บอสคะ หลิวหลินบอกว่าอีกสองวัน เธอจะมาคืนชุดให้ และยังบอกอีกว่า จะมาคิดบัญชีค่ะ”
“ได้”
คืนเสื้อผ้า แน่นอนว่าเป็นเสื้อผ้าของโหวเมิ่งหยาว
เสื้อผ้าของหลินหลิน เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้ว เมื่อครู่โหวเมิ่งหยาวพึ่งนำไปซัก
สำหรับการคิดบัญชี ฉินเฟิงได้แต่ยิ้มเบาๆ น่าจะเป็นการคิดบัญชีที่ริอ่านสั่งตำรวจสาวเบอร์หนึ่งแห่งเจียงเฉิงล่ะมั้ง แต่ว่านะ ต่อหน้าเขา ตำรวจสาวเบอร์หนึ่งแห่งเจียงเฉิง?
แม้แต่ตำรวจสาวเบอร์หนึ่งแห่งต้าหัว ยังฟังคำสั่งของเขาอย่างว่าง่ายเลย
เทพสงครามแห่งอีสเตอร์แลนด์ ครอบครองประกาศิต‘วีรบุรุษผู้ไม่มีสอง’ สามารถสั่งการทหารม้าทั่วราชอาณาจักร ในบรรดาสี่เขตสงครามหลัก มีเพียงเขาที่ได้รับเกียรตินี้
นี่เป็นสิ่งที่เขาแลกมาด้วย ชีวิต!
“จริงสิ เรียกฉีหยุนมาหน่อยนะ”ฉินเฟิงสั่ง
โหวเมิ่งหยาวรีบหันหลังเดินจากไป
ผ่านไปครู่เดียว ฉีหยุนก็มาถึง มีเพียงพวกเขาสองคน แน่นอนว่าฉีหยุนเรียกเขาอย่างคุ้นชินว่า“ท่านนายพลครับ เรียกผมมามีอะไรหรอครับ?”
“ผมให้คุณนะ เอาไปจัดการเรื่อง”
ฉินเฟิงโยนแผ่นป้ายประกาศิตให้กับฉีหยุน
พอเห็นแผ่นป้ายนี้แล้ว เดิมทีฉีหยุนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นในทันที เหมือนเขากำลังมองดูของศักดิ์สิทธิ์อะไรบางอย่างอยู่ ดูเคร่งขรึมมาก
ต่อมา เขาก็ยืนตรง พัก และทำมือตะเบะทำความเคารพเหมือนทหาร แล้วกล่าวอย่างเสียงดังฟังชัดว่า“รับรองว่าภารกิจสำเร็จแน่ครับ”