เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 119 ฉันจะพาคุณไปพบใครบางคน
รูปร่างหน้าตาไม่เลว แต่ว่า แย่เกินไปสำหรับเย่หลิน!
ตอนบ่าย อู่เล่อเล่อโทรหาเธอ ความหมายคือ คนคนนั้นที่มาตอนเที่ยงออกไปแล้ว วิกฤตน่าจะได้รับการแก้ไขแล้ว
"ประธานเย่ ลูกค้าของวันนี้รอคุณอยู่ข้างในแล้ว" วันนี้เป็นงานแต่งงานของอ้ายหมี่กับชูหยูจี้ เธอขอให้อู่เล่อเล่อไปจัดการแต่งหน้า
เปลี่ยนชุดทำงานแล้ว สวมผ้าปิดปาก เธอเดินเข้าไปในห้องทำงาน หลังจากเข้าไป ก็เห็นผู้หญิงคนนั้นกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน มองรูปร่างหน้าตาไม่ชัด
"สวัสดีค่ะ คุณผู้หญิง ฉันคือเย่หลิน วันนี้รับผิดชอบแต่งหน้าให้คุณ" เย่หลินดึงหน้ากากลงมาที่คาง หญิงวัยกลางคนตรงหน้าไม่เหมือนลูกค้าคนก่อนๆ ดูเหมือนว่ามาให้เธอแต่งหน้าเพื่อดูว่าที่ทุกคนเล่าลือกันมาเป็นอย่างไร เธอยังคงก้มหน้าก้มตาดูโทรศัพท์ แล้วก็ไม่ได้เงยหน้า ถือโอกาสโบกๆมือ "ไม่มีเงื่อนไข คุณแต่งให้ฉันแบบสดใสหน่อย ก็ได้นะ"
สด……สดใสหน่อยหรอ? เย่หลินขมวดคิ้ว พิจารณาคุณผู้หญิงตรงหน้านี้ จำใจต้องยอมรับ ว่าเธอดูแลสุขภาพอย่างดี ยังคงมีเสน่ห์ ร่างกายดูดีมาก แต่ ไม่ว่าจะดีแค่ไหน รูปลักษณ์นั้นก็มองออกได้ อย่างน้อยก็อายุประมาณ 50 แล้ว
เธอบอกว่าไม่มีเงื่อนไข อีกทั้งให้เธอแต่งแบบสดใสได้หรอ? อายุขนาดนี้ สดใส? เงื่อนไขนี้ มันมากเกินไปหรือเปล่า? มิน่าล่ะผู้หญิงเหล่านั้นใช้สิ่งนี้เพื่อตัดสินว่าจะเก็บไว้ให้เธอ
เห็นเธอไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ผู้หญิงคนนั้นเก็บโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้น มิงเย่หลิน "ทำไมหรอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?"
ดวงตาของเย่หลินลดลงเล็กน้อย ได้พบกับดวงตาใสคู่นั้นของเธอ อายุขนาดนี้แล้ว คาดไม่ถึงว่าจะมีแววตาที่ใสสะอาดเช่นนี้ เธออดไม่ได้ที่จะตกตะลึงในใจ เธอต้องเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากๆเลยใช่มั้ย? มิเช่นนั้น อายุขนาดนี้แล้ว หลังจากผ่านโลกมามากมาย ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาดวงตาให้ชัดเจนได้
"คุณผู้หญิง คุณต้องเป็นคนที่มีความสุขมากๆอย่างแน่นอน" ในใจคิดอะไร เธอก็พูดออกมา ทางด้านนี้ สำหรับคำว่า"สดใส"สองคำที่เธอร้องขอ ชั่วพริบตาก็ดูมีหนทาง
เปิดกล่องเครื่องสำอาง เก็บรอยยิ้มบนใบหน้า แล้วเริ่มเข้าสู่สถานะการทำงาน
เหอหลิง "ถูกต้อง สามีของฉันปฏิบัติต่อฉันเป็นอย่างดี ฉันมีลูกสาว แล้วก็มีลูกชาย ล้วนแต่ดีมากๆ ฉันยังมีหลานชายที่น่ารัก อืม ฉันก็รู้สึกว่ามีความสุขมาก" เธอพูดอย่างสบายๆ อายุมากขนาดนี้แล้ว ถ้าคนปกติพูดแบบนี้ ทำให้คนรู้สึกว่าไม่สอดคล้องกับอายุ แต่ว่า บังเอิญออกมาจากปากของเธอ เย่หลินก็รู้สึกว่ามีแต่ความสุข
เธอมีหน้าตาที่งดงามมาก โดยส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องแต่งเติม ดังนั้น เย่หลินเติมช่องว่างระหว่างคิ้วด้วยพาเลทเขียนคิ้วที่ใกล้เคียงกับสีคิ้วของเธอ จากนั้นใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อนเป็นเบสในการแต่งตา สุดท้าย ปัดอายแชโดว์สีทองอ่อนให้เปลือกตาดูสว่าง อายแชโดว์แสงแวววาวมีผลในการลดอายุได้อย่างดีเยี่ยม
ต่อจาก ขนตา อายแชโดว์ จากนั้นจึงลงลิปกลอสสีชมพูใสที่ริมฝีปาก
ใช้ที่หนีบหนีบผมที่เป็นลอนเล็กน้อยของเธอให้ตรง มัดผมหางม้าสูง แม้ว่าความสุขุมสง่างามจะน้อยลงไป แต่ความดูมีชีสิตชีวากลับมากขึ้น
ลุกขึ้น เธอพินิจดูอย่างรอบคอบแล้ว พบว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็เลยยื่นกระจกแต่งหน้า ส่งให้เหอหลิง
"คุณผู้หญิง คุณลองดู ว่าอย่างนี้ได้ไหม?"
เหอหลิงรับกระจกมา ชำเลืองมองแบบไม่ได้ใส่ใจมาก จากนั้น พอแสงส่องตรงหน้า ก็ลุกขึ้นยืน หันไปทางกระจกแต่งหน้าบานใหญ่ หันดูซ้ายดูขวา "ไอ๊ยะ สมคำร่ำลือจริงๆ เพื่อนของฉันบอกว่าคุณเก่งมาก บอกว่าคุณฝีมือดี ไม่เลวไม่เลว"
พูดจบ ก็หยิบโทรศัพท์ เดินไปทางประตู แล้วหันกลับมา มองเย่หลิน "สาวน้อย คุณชื่ออะไร? ฉันกลับไปจะไปพูดถึงคุณกับนิ้งสาวของฉัน เธอก็เป็นช่างแต่งหน้าที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติอีกด้วย……”
เย่หลินพยักหน้า "คุณผู้หญิง คุณเรียกฉันว่าเย่หลินก็ได้"
"โอเค เสี่ยวเย่ ไว้เจอกันนะ"
เห็นภาพด้านหลังที่เดินจากไปอย่างกระตือรือร้นนั้น เย่หลินก็ยิ้ม คนคนหนึ่งจะมีความสุขหรือไม่มีความสุข ไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาษาและการแต่งตัวของคุณ แต่ขึ้นอยู่กับสายตา ถึงจะอายุเท่านี้ แต่ยังมีนิสัยเหมือนเด็กแบบนี้ เธอคิดว่า ผู้หญิงคนนี้จะต้องมีผู้ชายที่เป็นห่วงเธออยู่ที่บ้าน
แต่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน วันหนึ่ง เธอจะถูกผู้ชายคนนั้นรักและเอ็นดู
"ประธานเย่ ตอนบ่ายสองโมงคุณต้องไปแต่งหน้าให้คุณอ้ายหมี่ คุณว่าควรจะออกไปสักกี่โมงดี? ฉันจะเรียกรถมาให้คุณ" เห็นเธอออกมา อู่เล่อเล่อก็เข้ามาหา
"อื้ม ไม่ต้องหรอก ฉันยังต้องกลับบ้าน เดี๋ยวนั่งรถไปเอง!" วันนี้เป็นพิธีแต่งงานของชูหยูจี้และอ้ายหมี่ พวกเขาเน้นว่าจะต้องพาเย่เสี่ยวโม่ไปด้วย
พูดถึงอ้ายหมี่ เย่หลินเพิ่งจะมารู้ทีหลังว่า ที่แท้ พ่อของอ้ายหมี่ก็ทำการค้าอาวุธยุทโธปกรณ์อยู่ที่ต่างประเทศ ค่อนข้างมีอำนาจและบารมีสูงทั้งด้านขาวและดำ
เธอรู้จักกับชูหยูจี้เมื่อตอนที่มาเที่ยวต่างประเทศ
อ้ายหมี่หลงรักหยูจี้ตั้งแต่แรกพบ รบเร้าพ่อของเธอ บีบบังคับให้พาเธอไปตระกูลชูเพื่อสู่ขอ
ตระกูลชูก็เป็นครอบครัวใหญ่ ตนเองไม่เกรงกลัวอำนาจบารมีพ่อของอ้ายหมี่ แต่ว่า ช่วงหลังก็ได้พบอ้ายหมี่เด็กคนนี้แล้วก็สนิทกัน อาจจะด้วยการเติบโตที่ต่างประเทศ นิสัยจึงเปิดกว้างเป็นพิเศษ แต่ ก็ชนะก้นบึ้งของหัวใจ หลังจากนั้นตระกูลชูก็เห็นว่าชูหยูจี้ไม่มีความรักมาหลายปี ก็ไม่ได้คิดวางแผนที่จะเจรจา ก็ตอบรับให้อ้ายหมี่เป็นลูกสะใภ้ตระกูลชู
เวลานั้น เธออยู่เมืองS ชูหยูจี้เป็นห่วงเธอ วิ่งมาหาเธออยู่บ่อยๆ หลังจากได้พบอ้ายหมี่แล้ว ก็ตามไปอยู่ที่เมืองS
พอดีเธอท้องได้สามเดือน ไปตรวจครรภ์กลับมา พบอันธพาลสองสามคนบนถนน เห็นรูปร่างหน้าตาเธอไม่เลว จึงมีความคิดที่ไม่ดี
เมื่อเธอกำลังไม่ได้รับการช่วยเหลือ เธอก็พบผู้หญิงคนหนึ่ง สวมรองเท้าส้นสูง ยกมือขึ้นลง เธอมองไม่เห็นการกระทำที่ชัดเจนของเธอ พวกอันธพาลเหล่านั้นก็ถูกทุบตีจนหมอบคลาน
ต่อมา ผู้หญิงคนนั้นก็หยิบมือถือมาดูรูปหนึ่งแล้วพิจารณาเธออยู่รอบหนึ่ง
ต่อจากนั้น เมื่อชูหยูจี้เข้ามา เธอจึงรู้ว่าที่แท้ที่ก็คือคู่หมั้นของเขา เข้าใจแล้วว่าเพรสะเหตุใดในตอนนั้นที่หนิงเส่าเฉินเจอชูหยูจี้ครั้งแรก จึงให้เธอออกให้ห่างเธอหน่อย เพราเบื้องหลังผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา
หลายปีมานี้ ถ้าจะบอกว่าชูหยูจี้มีบุญคุณต่อเธออย่างมากจนไม่อาจทดแทนได้ อย่างนั้นอ้ายหมี่คนนี้ก็เข้าใจและใจกว้างอย่างมาก และที่สำคัญ
พ่อของอ้ายหมี่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น เพราะความซื่อสัตย์และความกล้าหาญ วันนี้ลูกสาวของเขาแต่งงาน ฉากนี้ ก็เป็นประวัติการณ์เช่นกัน
"แม่ คุณไปเป็นเพื่อนน้าอ้ายหมี่ ส่วนฉัน ฉันจะไปหาของกินสักหน่อย" หลังจากมาถึง เย่เสี่ยวโม่ก็กล่าว
"เย่เสี่ยวโม่ วันนี้มีคนเยอะ คุณวิ่งไปแบบนี้คนเดียวไม่ได้" เย่หลินไม่ปล่อยมือ
"แม่ คุณคิดว่าฉันคือคุณหรอ? จะว่าไปแล้ว อยู่ในเขตน้าอ้ายหมี่นี้ ใครจะกล้าลักพาตัวฉันไป?"พูดจบ ก็ดันมือของเย่หลินออก ร่างน้อยๆบิดไปมา วิ่งไปจนมองไม่เห็นคนแล้ว
เย่หลินชขมวดคิ้ว
"พี่เย่ เดี๋ยวฉันไปคนไปคอยดูหน่อยก็ได้ ยัยหนูเสี่ยวโม่นั่น ฉลาดหลักแหลม คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก" อ้ายหมี่ยืนอยู่หน้าประตู ส่งเสียงกล่าว
เย่หลินพยักหน้า หันตัวกลับ "คุณนั่งลง ฉันจะเริ่มแต่งหน้าให้คุณ!"
แต่อ้ายหมี่ไม่ได้นั่งลงตามคำสั่ง "พี่เย่ ฉันจะพาคุณไปพบคนคนหนึ่งก่อนนะ?"
"ใคร?"