เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1939 ซิงยวน (2)
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1939
หมัดปะทะกับร่างกาย กระบี่เป็นประกายไฟ
ลู่ฝานกับซิงกุยสู้ติดต่อกันเป็นร้อยกระบวนท่า ไม่มีใครกำราบใครได้เลย
โดยเฉพาะเมื่อหมัดของลู่ฝานกระแทกลงบนตัวซิงกุย ลู่ฝานรู้สึกว่าพลังหมัดตัวเองไม่สามารถเข้าไปในตัวซิงกุยได้
ร่างกายของคนคนนี้ หรือชุดคลุมยาวสีดำบนตัวเขา เหมือนฉากกั้นที่ขวางทุกอย่างไว้
ไม่ว่าจะเป็นปราณกระบี่หรือพลังหมัด โดนกันไว้ข้างนอกหมดเลย
ประสิทธิภาพคล้ายกับผ้าคลุมหยุนหลานของเขา
แต่ลู่ฝานยังไม่มีความคิดเอาผ้าคลุมหยุนหลานออกมา
การต่อสู้ระยะประชิดที่ดุเดือดแบบนี้ เขาไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว
ลู่ฝานรู้สึกว่าร่างกายตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า กล้ามเนื้อทุกตารางนิ้วกำลังครวญครางอย่างสบายใจ เพราะการต่อสู้อย่างเต็มที่ครั้งนี้!
ซัดหมัดใส่หน้าซิงกุยอีกครั้ง
พลังของหมัดนี้สามารถระเบิดภูเขาได้เลย
แต่แม้แต่หัวของซิงกุยก็ยังไม่ขยับ เขากระแทกหมัดใส่ท้องลู่ฝานเช่นกัน
กล้ามเนื้อลู่ฝานดีดหมัดของซิงกุยกลับไป
สะบัดกระบี่หนักไร้คมในมือ พลานุภาพทั้งร่างกายพลุ่งพล่าน!
“กระบี่ฟ้าดิน!”
ซิงกุยยกกระบี่หินในมือขึ้นเช่นกัน ส่งเสียงครวญครางออกมาเบาๆ
มีเพียงลู่ฝานที่อยู่ใกล้สุด ได้ยินชัดเจนว่าเขาพูดอะไร
“ร่างอาวุธวิเศษ!”
เมื่อกระบี่โจมตีลงมา แสงนับไม่ถ้วนรวมตัวกัน ฟันลงบนตัวซิงกุย
พลังฟ้าดินรอบๆ ระเบิดออก เหมือนซิงกุยอยู่ท่ามกลางหลุมที่มีเปลวไฟพวยพุ่งออกมา พริบตาเดียวเขาโดนเสียงระเบิดกลบจนหายไป
ลู่ฝานสามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงของพลังฟ้าดินรอบๆ ได้หมด
ลู่ฝานขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าภายใต้กระบวนท่านี้ เหมือนซิงกุยไม่ได้รับบาดเจ็บมากเท่าไรนัก
จู่ๆ ซิงกุยปล่อยแสงสว่างจ้าออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง
พลังฟ้าดินที่หลั่งไหลเข้ามาโดนกันไว้ทันที
อากาศเวิ้งว้างสีดำปรากฏด้านหลังซิงกุย สีดำขลับปกคลุมซิงกุยเอาไว้ด้านใน ซิงกุยพลิกตัวลงมาบนพื้น
ลมแรงพัดขึ้นมา เสื้อผ้าทั้งสองคนสะบัดเสียงดังพึ่บพั่บ
เหมือนกระบวนท่านี้ของลู่ฝานได้ผลนิดหน่อย
เสื้อผ้าบนตัวซิงกุยโดนระเบิดจนขาดเล็กน้อย เผยให้เห็นตัวเขาที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้า
ใบหน้าซีกหนึ่งปรากฏในสายตา คนจำนวนไม่น้อยพูดขึ้นมาทันที
นี่ใช่ผู้แข็งแกร่งอายุน้อยเหรอ
แม้มีเพียงใบหน้าซีกเดียว แต่ทุกคนดูออก ผิวซีดเผือดกับรอยตีนกาจากความแก่ ไม่ใช่ของคนอายุน้อยแน่ๆ
สามอริยบุคคลขมวดคิ้วเบาๆ อย่าบอกนะว่ามีคนหน้าด้านไร้ยางอายแอบเข้ามาประลองกับคนอายุน้อยในการแข่งนานาประเทศจริงๆ
นี่มันรนหาที่ตายต่อหน้าคนทั้งใต้หล้าชัดๆ!
อย่าว่าแต่ละเมิดกฎขนาดนี้เลย ประเทศเจ้าภาพอย่างประเทศฉิงเทียน ไม่มีทางปล่อยเขาไว้แน่นอน
ทุกคนในใต้หล้าไม่มีทางปล่อยให้เขารอดออกไป
นี่กำลังล้อเล่นกับคนทั้งใต้หล้า
ตัวของลู่ฝานหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว เขาจ้องซิงกุยเขม็ง
แม้อีกฝ่ายเผยใบหน้าเพียงซีกเดียว แต่ลู่ฝานจำได้แล้ว เขาพึมพำออกมาว่า “ซิงยวน!”
ในกลุ่มคน ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่หานเฟิงและคนอื่น พูดชื่อซิงยวนออกมาแทบจะพร้อมกัน
เมื่อได้ยินชื่อนี้ เหมือนแววตาซิงกุยวูบไหวเล็กน้อย
สำหรับหุ่นเชิด เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ คนที่โดนหลอมเป็นหุ่นเชิด ไม่มีทางหลงเหลือความทรงจำในอดีต น่าจะเหมือนพวกหุ่นเชิดที่โดนลู่ฝานฆ่าตายในตำหนักหมิงฉี่ จิตญาณโดนระเบิดจนแตกเป็นเสี่ยงๆ เหลือเพียงเศษความทรงจำในการต่อสู้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ต่อมาประกายนัยน์ตาซิงกุยหายไป เขาเงยหน้ามองลู่ฝาน แล้วยกกระบี่หินในมือขึ้นมาอีกครั้ง
พูดด้วยเสียงแหบพร่าว่า “ฆ่า! ฆ่า!”
ลู่ฝานหางตากระตุก ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าคนตรงหน้าคือซิงยวนที่ไม่ได้เจอกันนาน
อาจารย์ซิงยวน คณะหยินหยางแห่งสถาบันสอนวิชาบู๊ คิดไม่ถึงว่าจะตกต่ำถึงขั้นนี้ ไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ!
ลู่ฝานไม่รู้ว่าซิงยวนเจออะไรมาบ้าง ทำไมถึงกลายเป็นซิงกุยในตอนนี้
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้ซิงยวนเป็นผีก็ไม่ใช่ คนก็ไม่เชิง ไม่ต่างจากคนตายเลย
มือกำกระบี่หิน ซิงยวนพุ่งเข้ามาหาลู่ฝานอีกครั้ง
ลู่ฝานยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่หลบอะไรทั้งนั้น
เสียงดังสวบ กระบี่ยาวของซิงยวนแทงทะลุไหล่ลู่ฝาน
ในเวลาเดียวกัน ลู่ฝานก็คว้าชุดคลุมสีดำบนตัวซิงยวนเอาไว้
ลู่ฝานสัมผัสได้ว่าพลังบนชุดคลุมสีดำโจมตีใส่ฝ่ามือเขาไม่หยุด มันเป็นพลังของค่ายกล เหมือนยอดฝีมือเป็นคนทิ้งพลังนี้ไว้ด้วย
แต่ลู่ฝานฝืนใช้ปราณชี่บวกกับพลังแห่งโลกสยบมันไว้ ลู่ฝานใช้แรงกระชากชุดคลุมสีดำออกจากตัวซิงยวน
ตอนนี้รูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของซิงยวนปรากฏต่อสายตาทุกคน
ทุกคนอุทานออกมาด้วยความตกใจ “คนคนนี้คือใคร เขากล้าใช้อายุขนาดนี้เข้าร่วมการแข่งนานาประเทศ!”
“ไร้ยางอายสุดๆ ยังไม่รีบไปจับตัวเขาอีก”
“พระเจ้า คิดไม่ถึงว่าจะมีคนแก่ปลอมเป็นเด็กมาร่วมการแข่งนานาประเทศ ต้องหน้าด้านขนาดไหนถึงทำแบบนี้ได้!”
เสียงด่าทอดังไม่หยุด ทุกคนโมโหมาก
เหมือนประมุขประเทศฉิงเทียนโมโหเหมือนกัน เขาชี้ซิงกุยแล้วเหวี่ยงมือพูดว่า “จับเขาไว้!”
ต่อมาองครักษ์ประเทศฉิงเทียนล้อมซิงกุยไว้
ในเวลาเดียวกัน ลู่ฝานมองใบหน้าแสนคุ้นเคยของซิงกุยแล้วพูดเบาๆ ว่า “นี่ถือว่าทำชั่วได้ชั่วหรือเปล่า”
พูดจบ ลู่ฝานถีบลงบนตัวซิงกุย
ครั้งนี้ลู่ฝานใช้พลังแห่งโลก!
เพียงพริบตาเดียว ซิงกุยโดนลู่ฝานถีบจนกระเด็น
กระบี่หินหลุดออกจากมือ!
ลู่ฝานรีบเก็บพลังแห่งโลกของตัวเอง ตอนนี้เขาสามารถใช้พลังแห่งโลกส่วนเล็กๆ ในตัวได้แล้ว
วันนี้ดูเหมือนประสิทธิภาพไม่เลวเลย!
ซิงกุยโดนถีบจนล้มลงกับพื้น แววตาเหม่อลอยเหมือนตายไปแล้ว
พวกองครักษ์โยนโซ่ออกไปมัดซิงกุยไว้
ประมุขประเทศตันเซิ่งเหาะมาทันที
“ฆ่าเขาซะ!”
“ฆ่าคนไร้ยางอายคนนี้ซะ!”
กลุ่มคนยังตะโกนอยู่
แต่ลู่ฝานกลับหันไปมองอีกทาง
ดูจากสภาพของซิงกุย เหมือนหุ่นเชิดที่โดนทอดทิ้ง
หมายความว่าคนที่ควบคุมหุ่นเชิดยังอยู่ในกลุ่มคน
ลู่ฝานเห็นผู้อาวุโส 2-3 คน กำลังยิ้มแล้วโบกมือให้เขา รอยยิ้มในแววตาไม่พูดก็เป็นที่เข้าใจ
องครักษ์เป็นกลุ่มล้อมรอบเกาะลอยฟ้าที่ลู่ฝานอยู่
ประมุขประเทศฉิงเทียนเข้ามาข้างซิงกุย โดยไม่มองลู่ฝานสักนิด
มองซิงกุยอย่างละเอียด ประมุขประเทศฉิงเทียนสะบัดมือแล้วพูดว่า “พาตัวเขาไป”
ตอนนี้ประมุขประเทศฉิงเทียนเพิ่งหันมามองลู่ฝาน แล้วพูดว่า “ยินดีด้วย นายชนะอีกแล้ว”
ลู่ฝานดีใจไม่ออก เพราะเขาเห็นใครบางคนเดินไปข้างผู้อาวุโสพวกนั้น พูดกับพวกผู้อาวุโสอย่างมีความสุข
คนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นผู้อาวุโสซู่มั่น
หมายความว่าผู้อาวุโสพวกนี้น่าจะเป็นคนในบรรดาผู้ฝึกชั่วร้าย
งั้นเป้าหมายที่พวกเขาปล่อยซิงกุยขึ้นมาประลอง คงเป็นเพราะต้องการทดสอบความสามารถในการต่อสู้ของซิงกุยสินะ
จู่ๆ ลู่ฝานพูดเสียงดังว่า “เดี๋ยว นี่คือการต่อสู้ของฉัน!”