เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1870 ไม่รู้
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1870 ไม่รู้
ซอยเล็ก หน้าประตูยู่ฮวาซวน
ลู่ฝานยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองรอบๆ อย่างสับสน
เมื่อกี้เขากำลังจะลงมือใส่คุณชายเฟิงเทียน แต่ต่อมาเขากลับมาที่หน้าประตูยู่ฮวาซวนอีกครั้ง
ลู่ฝานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเงยหน้ามองรอบๆ
ท้ายซอยอันเงียบสงัดไม่มีร้านน้ำชา
มีเพียงท่อนไม้ผุไม่กี่อัน
“เกิดอะไรขึ้น”
ลู่ฝานพึมพำออกมา
เจ้าดำยังหมอบอยู่บนไหล่เงียบๆ จู่ๆ เจดีย์เสวียนเก้ามังกรในตัวพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ฟื้นแล้วเหรอ!”
ลู่ฝานรีบถามว่า “ไอ้เก้า เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกับฉัน”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรตอบว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อกี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายเลย เจ้านายเอาแต่ยืนอยู่ตรงนี้ เหมือนตกอยู่ในแดนมายา”
ลู่ฝานพูดอย่างตกใจว่า “เป็นไปได้ยังไง ใครลากฉันเข้าไปในแดนมายา ตอนไหน พวกหลิงเหยาล่ะ”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรตอบว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่บอกให้พวกเขาไปไม่ใช่เหรอ นั่งรถม้าออกไปแล้ว จากนั้นเจ้านายก็เอาแต่ยืนอยู่ตรงนี้”
ลู่ฝานรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกพุ่งจากฝ่าเท้าขึ้นไปบนหัว
“จริงเหรอ ฉันเข้าไปในแดนมายาจริงเหรอ”
เขาไม่เคยเจอแดนมายาเหมือนจริงขนาดนี้มาก่อนเลย
ความทรงจำอันชัดเจนเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
เมื่อกี้ลู่ฝานจำรายละเอียดตอนดื่มชากับชายคนนั้นได้อย่างชัดเจน
รวมถึงสีของใบชา อีกฝ่ายพ่นเปลือกเมล็ดแตงโมออกมากี่อัน
เดี๋ยวนะ ชายคนนั้นชื่ออะไรแล้วนะ
จู่ๆ ลู่ฝานพบว่าตัวเองจำจุดสำคัญไม่ได้
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันว่ารีบไปกันเถอะ ถ้าเจ้านายเข้าไปในแดนมายาจริง งั้นแถวนี้ต้องมียอดฝีมือที่เก่งกว่าเจ้านายเป็นสิบเท่าร้อยเท่าแน่ๆ ยอดฝีมือที่ดึงคนอื่นเข้าไปในแดนมายาได้ตามใจชอบแบบนี้ ความสุขของเขาคือทรมานวิญญาณอีกฝ่าย รีบไปกันเถอะ!”
ลู่ฝานคิดว่าเจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดมีเหตุผล
แต่ขณะที่เขากำลังจะไป จู่ๆ ลู่ฝานมองไปในยู่ฮวาซวนอีกครั้ง
สายตาเขาหยุดลงที่ผู้ฝึกชี่วัยกลางคนที่โดนเขาโจมตีใส่จนล้มลงพื้น
หลังจากจ้องเขาครู่หนึ่ง ลู่ฝานจึงออกไปอย่างโล่งใจ
ฝีเท้ารวดเร็ว หายไปจากถนนอย่างรวดเร็ว
แต่สิ่งที่ลู่ฝานไม่เห็นคือ อันที่จริงชั้นบนสุดของยู่ฮวาซวน
คุณชายเฟิงเทียนนั่งตรงข้ามผู้อาวุโสซู่มั่น มองเขาออกไปด้วยรอยยิ้ม
คุณชายเฟิงเทียนยิ้มร้ายกาจ “รักษาความใจเย็น ไม่ตื่นตระหนกตอนอยู่ในจิตใจเต๋าของฉัน เด็กคนนี้ไม่ได้แย่อย่างที่เธอพูดสักหน่อย”
ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดว่า “แต่เขาฆ่าหลวี่เหวยจริงๆ”
คุณชายเฟิงเทียนพยักหน้า “เธอมองเขาพลาดแล้ว เขาไม่ใช่คนบุ่มบ่าม แต่เขาเป็นคนที่ไร้ความเกรงกลัวและมีความเชื่อที่แน่วแน่”
ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดว่า “นายพูดขนาดนี้แล้ว งั้นฉันคงทำได้แค่เก็บความคิดตัวเองไว้”
คุณชายเฟิงเทียนยิ้มแล้วพูดว่า “ซู่มั่น เธอจงใจให้ฉันลองเชิงเขาหรือเปล่า”
ผู้อาวุโสซู่มั่นยิ้มบางๆ “ถ้านายคิดว่าใช่ก็ใช่ คิดว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่”
คุณชายเฟิงเทียนส่ายหน้าพูดว่า “คำตอบเธอน่าเบื่ออีกแล้ว เธอตั้งใจมาหาฉันที่นี่เพื่ออะไรกันแน่ ไม่ใช่แค่ให้ฉันจัดการเรื่องของเงามืดใช่ไหม แม้เขาน่าสนใจมาก แต่ยังไม่ถึงขั้นให้ฉันเสียแรงไปฟรีๆ”
ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดอย่างราบเรียบว่า “จางเยว่หานตายแล้ว”
คุณชายเฟิงเทียนพูดว่า “จางเยว่หานคือใคร”
ผู้อาวุโสซู่มั่นตอบว่า “ศิษย์ของปราชญ์โกลาหล มีมุกหกเต๋าหุ้นตุ้นบนตัว นายยังไม่ลืมใช่ไหม!”
คุณชายเฟิงเทียนตบหน้าผาก “อ๋อ ใช่ จางเยว่หานตายที่ไหน แล้วตอนนี้มุกหกเต๋าหุ้นตุ้นอยู่ไหน รีบเอากลับมาเถอะ ของสิ่งนั้นมีประโยชน์มาก”
ประกายประหลาดฉายขึ้นนัยน์ตาผู้อาวุโสซู่มั่น “ตอนนี้ยังไม่รู้”
สีหน้าคุณชายเฟิงเทียนเปลี่ยนไป จ้องผู้อาวุโสซู่มั่นแล้วพูดว่า “ซู่มั่น เธอไม่รู้จริงเหรอ”
ผู้อาวุโสซู่มั่นตอบว่า “เรื่องที่นายจับตามองด้วยตัวเองแบบนี้ ฉันหลอกนายไม่ได้ไม่ใช่หรือไง”
คุณชายเฟิงเทียนยิ้มแล้วหัวเราะออกมา ชี้หน้าผู้อาวุโสซู่มั่นแล้วพูดว่า “เรื่องที่ยังไม่แน่ใจแบบนี้ เธอยังมาบอกฉันอีก ซู่มั่นนะซู่มั่น บางครั้งเธอก็ฉลาดเกินไป ฉลาดจนคิดว่าคนอื่นโง่”
คุณชายเฟิงเทียนหยุดพูดครู่หนึ่ง จากนั้นพูดต่อ “แต่ฉันฝากเรื่องนี้กับเธอด้วย เรื่องรวบรวมมุกหกเต๋าหุ้นตุ้น แม้ฟังดูไร้สาระ แต่ยังไงก็ต้องกันไว้ก่อน ฉันชอบความสนุก แต่ไม่ชอบความล้มเหลว เธอเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม”
ผู้อาวุโสซู่มั่นลุกขึ้นพูดว่า “เราไม่มีทางล้มเหลวหรอก”
คุณชายเฟิงเทียนพยักหน้า “พูดได้ดี ฉันดีใจที่เธอใช้คำของเรา ถ้าเอามุกกลับมาได้ เธอเอาไปเลย ฉันไม่เอา แต่ฉันไม่อยากให้มันอยู่ในมือของคนที่ไม่สมควรได้”
ผู้อาวุโสซู่มั่นคำนับแล้วออกไป ขณะที่เธอกำลังจะออกไป
จู่ๆ ด้านล่างมีคนเดินโงนเงนออกมาจากยู่ฮวาซวน
คนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้ฝึกชี่คนที่โดนกระบวนท่าของลู่ฝานโจมตี
ตัวเต็มไปด้วยเลือด เขาเดินโงนเงนออกไป ท่ามกลางการจับจ้องของผู้อาวุโสซู่มั่นกับคุณชายเฟิงเทียน
คุณชายเฟิงเทียนมองภาพนี้ด้วยรอยยิ้ม “เงามืดไม่ได้ชั่วร้ายธรรมดาๆ ฆ่าคนยังไม่เท่าไร ยังจะทำลายสำนักย่อยของเขาอีก!”
ผู้อาวุโสซู่มั่นขมวดคิ้ว “แต่นี่อาจเปิดเผยแผนของเรา อริยบุคคลอมตะคนนั้นไม่ได้เล่นงานง่ายๆ เงามืดปล่อยคนคนนี้ไป หมายความว่าแผนของเราอาจโดนเปิดเผยส่วนหนึ่ง ไอ้เด็กนี่ก่อเรื่องเก่งจริงๆ”
คุณชายเฟิงเทียนพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันอยากคิดบัญชีกับเด็กอมตะคนนั้นอยู่พอดี”
ผู้อาวุโสซู่มั่นเข้าใจความหมายที่คุณชายเฟิงเทียนพูด เธอพยักหน้าพูดว่า “ตอนนี้ฉันจะไปแจ้งธิดาเทพแห่งความมืด แล้วก็พวกฝันร้าย!”
คุณชายเฟิงเทียนพูดว่า “ไปสิ ให้พวกเขาเตรียมตัวไว้ให้ดี อ้อ สืบประวัติคนรักของเงามืดมาด้วย”
ผู้อาวุโสซู่มั่นใบหน้างุนงงทันที
คุณชายเฟิงเทียนพูดว่า “ฉันไม่เคยพูดโกหก แม้แต่ตอนอยู่ในแดนมายา”
พูดจบ คุณชายเฟิงเทียนตบแขนเสื้อตัวเอง ชะนีของเขาวิ่งออกมาทันที
คุณชายเฟิงเทียนลูบหัวชะนีแล้วพูดว่า “เสี่ยวไป๋ ฉันระบายอารมณ์ให้แกแล้ว แกจะออกไปเดินเล่นไหม”
ชะนีแยกเขี้ยวยิงฟัน เริ่มมีควันดำพุ่งออกจากตัว ควันดำวนรอบตัวชะนี ตอนนี้มีประกายดุดันออกมาจากตาของชะนี
ซู่มั่นเห็นชะนี นัยน์ตาฉายแววหวาดกลัว
ราวกับชะนีตัวนี้เป็นสัตว์อสูรที่น่ากลัวมาก!
ตัวหายวับไปจากที่เดิม ผู้อาวุโสซู่มั่นออกไปแล้ว
สายตาคุณชายเฟิงเทียนทอดมองไปยังขอบฟ้า
ตรงนั้นพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า
“ความมืดใกล้มาถึงแล้ว ฉันชอบค่ำคืนอันมืดมิด!”
เสียงหัวเราะของคุณชายเฟิงเทียนดังขึ้นไม่หยุด ตัวกลายเป็นหมอกแล้วเหาะออกไป
กลายเป็นเมฆดำที่ดูไม่สะดุดตาบนท้องฟ้า ลอยไปยังเส้นขอบฟ้า