เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1852 เหตุผล
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1852 เหตุผล
พูดอย่างมั่นอกมั่นใจ น้ำเสียงลู่ฝานราบเรียบไม่สะทกสะท้าน
จางเยว่หานไม่รับรู้ถึงความรู้สึกใดในน้ำเสียงของลู่ฝานเลย น้อยมากที่ความสวยของเธอใช้ไม่ได้ผล
จางเยว่หานกัดฟันแล้วพยายามยกยิ้มมุมปาก “หัวหน้าสำนักลู่ นายเป็นผู้ฝึกชั่วร้าย ฉันก็เป็นผู้ฝึกชั่วร้ายเหมือนกัน ทำไมเราถึงไม่ใช่พวกเดียวกันล่ะ”
ลู่ฝานอมยิ้มไม่พูดอะไร แต่เคาะนิ้วลงบนที่วางแขนเก้าอี้อย่างเป็นจังหวะ
เมื่อจางเยว่หานได้ยินเสียงนี้ มันเหมือนเสียงรบกวนที่ทนไม่ไหวจริงๆ
จางเยว่หานหายใจเร็วเล็กน้อย
อู่คงหลิงดูอยู่ข้างๆ โดยไม่พูดอะไรสักคำ
ลู่ฝานจ้องหน้าจางเยว่หานแล้วคิดอะไรได้มากมาย
จากคนรักที่เคยสาบานว่าจะรักและซื่อสัตย์ซึ่งกันและกันตลอดไป กลายเป็นคนแปลกหน้าที่ต่างคนต่างมีทางเดินของตัวเอง แล้วก็กลายเป็นศัตรูที่ต้องการให้เขาตาย สุดท้ายกลายเป็นผู้ฝึกชั่วร้ายน่าสงสารที่ใช้เป็นแค่ความยั่วยวนตรงหน้าเขา
เวลาเปลี่ยนทุกอย่างได้จริงๆ!
ลู่ฝานมองหน้าจางเยว่หานแล้วพูดว่า “เธอรู้ไหมว่าฉันกำลังคิดอะไร จางเยว่หาน!”
จางเยว่หานตอบกลับเสียงเบา “ไม่รู้!”
ความอาฆาตแวบขึ้นมานัยน์ตาลู่ฝาน “ฉันกำลังคิดว่าจะฆ่าเธอตอนนี้ดีหรือเปล่า! เพราะสัญชาตญาณฉันบอกว่าเธอจะพาปัญหาใหญ่มาให้ฉัน ปัญหาที่ใหญ่มาก!”
เพียงประโยคเดียวทำให้จางเยว่หานคุกเข่าลงพื้น
จู่ๆ น้ำตาไหลออกมาจากเบ้าตาของเธอ เหมือนเขื่อนแตก
จางเยว่หานคุกเข่าตรงหน้าลู่ฝาน ร้องไห้พลางพูดว่า “หัวหน้าสำนักลู่ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด นายอย่าฆ่าฉันสิ ฉันมีประโยชน์มากนะ นายจะให้ฉันทำอะไรก็ได้”
ลู่ฝานมองเธอน้ำตานองหน้าอย่างไร้เยื่อใย แค่มองอย่างเฉยเมยเท่านั้น
อู่คงหลิงที่อยู่ด้านหลังเขายังไม่พูดอะไรสักคำ ราวกับว่าคนที่ใกล้ตายไม่ใช่ลูกศิษย์เธอ เธอยังนวดไหล่ให้ลู่ฝานเงียบๆ อยู่อย่างนั้น ราวกับว่านี่คือเรื่องสำคัญกว่า
แสงสว่างขึ้นในมือลู่ฝาน จู่ๆ จางเยว่หานโวยวายเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง
“ลู่ฝาน ฉันแต่งกับลู่หมิง ฉันคือภรรยาของลู่หมิง ตอนนี้ฉันเป็นสะใภ้ตระกูลลู่ นายฆ่าฉันไม่ได้!”
เมื่อได้ยินชื่อลู่หมิง แสงในมือลู่ฝานสั่นไหวเล็กน้อย
ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ แล้วพูดว่า “เธอพูดอะไรนะ”
จางเยว่หานเห็นสายตาลู่ฝานเปลี่ยนไป เธอพูดเสียงดังต่อ “ฉันเป็นภรรยาของผู้เฝ้าเมืองลู่ ตอนฉันจะออกจากเมืองลู่ ลู่หมิงขัดขวางฉัน ตอนนั้นเขาอยากฆ่าฉันเหมือนกัน แต่พ่อฉันร้องไห้อ้อนวอนฉัน ฆ่าตัวตายชดใช้ความผิดต่อหน้าเขา เขาจึงปล่อยตัวฉัน จากนั้นวันเวลาผ่านไปค่อยๆ เกิดเป็นความรัก แล้วแต่งงานที่เมืองลู่ ตอนนั้นฉันยังไม่ได้ไปเมืองหลวง นายยังไม่ใช่นักกระบี่แห่งตงหวาที่มีชื่อเสียงทั่วใต้หล้า หัวหน้าสำนักลู่ ฉันพูดความจริงทั้งหมด อ้อ ฉันยังตั้งท้องลูกของเขาอยู่ด้วย”
“หุบปาก!”
ลู่ฝานพูดเสียงดัง
จางเยว่หานเงียบทันที
ลู่ฝานมองตาจางเยว่หาน เขาแยกออกว่าคำพูดของจางเยว่หานอันไหนจริงอันไหนโกหก
ตอนนี้เขานึกออกแล้ว ตอนเขาออกมาจากเขตตงหวาในตอนนั้น ลู่หมิงเคยบอกว่ามีเรื่องจะบอกเขา
คงเป็นเรื่องที่เขาจะแต่งงานกับจางเยว่หานแน่ๆ
ลู่ฝานค่อยๆ หลับตาลง
ถ้าเป็นแบบนี้เขาคงฆ่าตามใจชอบไม่ได้
ลู่หมิงนะลู่หมิง
นายเพี้ยนขนาดไหนถึงแต่งสะใภ้แบบนี้
จู่ๆ ลู่ฝานลืมตาขึ้น นัยน์ตาเป็นประกาย เขาใช้วิชาชิงวิญญาณ ทันใดนั้นจางเยว่หานกลายเป็นหินล้มลงพื้นแล้วสลบไป
“วิชายอดเยี่ยม นายฆ่าเธอแล้วเหรอ”
ตอนนี้อู่คงหลิงเพิ่งพูดออกมา
ลู่ฝานตอบว่า “เปล่า ตอนนี้ฉันยังตัดสินใจไม่ได้”
อู่คงหลิงยิ้มแล้วพูดว่า “อ๋อ ลู่ฝาน ฉันรู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ นายกลัวเธอจะเปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของนาย นายเลยจะฆ่าเธอ แต่ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของพี่น้องนาย นายเลยลังเลเรื่องฆ่าเธอ ไม่รู้จะไปพูดกับพี่น้องของนายยังไง นายลำบากแล้วล่ะ!”
ลู่ฝานเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า “ทำไมเธอดูเหมือนรู้ไปซะทุกอย่าง อะไรคือตัวตนที่แท้จริงของฉัน”
อู่คงหลิงพูดว่า “อะไรกัน ยังมาแกล้งโง่ใส่ฉันอีก คำสั่งสูงสุดของผู้ฝึกชั่วร้าย จับลู่ฝานที่ฝึกทั้งบู๊และชี่ หัวหน้าสำนักลู่! นามแฝงของนายในบรรดาผู้ฝึกชั่วร้ายชื่ออะไรนะ เมื่อกี้ฉันได้ยินหัวหน้าสำนักที่อยู่ข้างนายเรียกว่าหัวหน้าสำนักเงามืด นี่ไม่น่าใช่ชื่อแซ่ที่นายใช้เลยนะ นายกล้ามากจริงๆ ผู้ฝึกชั่วร้ายทั้งใต้หล้ากำลังตามหานาย แต่นายดันมาอยู่ในพวกผู้ฝึกชั่วร้ายซะอย่างนั้น ทุกคนเข้าใจว่านายหลบเอาตัวรอดอยู่ตรงไหนสักแห่ง แต่นายกลับอยู่ในประเทศฉิงเทียนที่มีผู้ฝึกชั่วร้ายเยอะที่สุด อีกทั้งยังใช้ชีวิตอย่างดีด้วย”
อู่คงหลิงชะงักไปแล้วพูดว่า “ฉันอิจฉานายจริงๆ ฉันลำบากลำบนอยู่ในพวกผู้ฝึกชั่วร้ายมาตั้งหลายปี จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เป็นผู้ดูแลเลย แต่คนที่ไม่ใช่ผู้ฝึกชั่วร้ายอย่างนายกลับได้เป็นหัวหน้าสำนัก โลกนี้ยังมีเหตุผลไหม!”
ลู่ฝานมองอู่คงหลิง สายตาเป็นประกายขึ้นเรื่อยๆ “นี่คือการคาดเดาของเธอเหรอ”
อู่คงหลิงยื่นหน้ามาข้างหูลู่ฝาน เธอพูดเสียงเบาว่า “ก่อนหน้านี้ใช่ แต่ตอนนี้ดูจากสีหน้าของนาย ฉันรู้ว่าฉันเดาถูก ลู่ฝาน นายเก่งเกินไปแล้ว ตอนนี้ฉันอยากกดนายลงพื้นจริงๆ!”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “มีโอกาสอยู่แล้ว อู่คงหลิง เธอพูดแบบนี้รู้หรือเปล่าว่าฉันอาจฆ่าเธอ เพราะต้องการปกป้องชีวิตตัวเองเหมือนกัน!”
อู่คงหลิงยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “นายไม่ทำหรอก หัวหน้าสำนักลู่ของฉัน ขนาดจางเยว่หานนายยังฆ่าไม่ลงเลย จะฆ่าฉันได้ยังไง นายไม่ใช่ผู้ฝึกชั่วร้าย ไม่มีทางใช้วิธีของผู้ฝึกชั่วร้าย ฉันพูดถูกไหม!”
ลู่ฝานแววตาวูบไหว “เธอรู้ดียิ่งกว่าตัวฉันเองอีกนะ อู่คงหลิง ถ้าตอนนี้ผู้ฝึกชั่วร้ายที่ฉลาดและน่ากลัวแบบเธอหันมาเล่นงานฉัน ฉันคงไม่มีทางรอดแน่นอน หาเหตุผลที่ทำให้ฉันเชื่อเธอสิ!”
จู่ๆ อู่คงหลิงประทับริมฝีปากลงบนปากลู่ฝาน
ริมฝีปากประกบกัน แววตาอู่คงหลิงเริ่มเคลิบเคลิ้ม
ลู่ฝานรู้สึกว่าในร่างกายตัวเองมีเปลวไฟลุกโชน
ผ่านไปนาน ริมฝีปากผละออกจากกัน
อู่คงหลิงมองตาลู่ฝานแล้วพูดว่า “เหตุผลนี้เป็นไง”
ลู่ฝานพูดว่า “ก็ไม่เลว แต่ไม่สามารถโน้มน้าวใจฉันได้ทั้งหมดหรอก”
อู่คงหลิงยิ้มแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ ฉันจะค่อยๆ โน้มน้าวใจนาย ขอแค่ร่างกายนายรับไหว!”
พูดพลาง จู่ๆ อู่คงหลิงเอายาออกมาหนึ่งเม็ดแล้วพูดว่า “นี่คือยากร่อนกระดูก ใส่พลังของนายเข้ามา แล้วฉันจะกินมัน ถ้านายอยากฆ่าฉันก็แค่ใช้ความคิด สามารถกระตุ้นฤทธิ์ยาทำให้ฉันตายทันที ครึ่งหนึ่งของนายคือผู้ฝึกชี่ น่าจะดูออกว่ายานี้จริงหรือเปล่า ถ้านายคิดว่าไม่ได้ นายเอายามาให้ฉันกินก็ได้”
ลู่ฝานรับยามาดูแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “ของดี แต่เธอไม่ต้องกินหรอก!”
พูดพลาง ลู่ฝานคืนยาให้อู่คงหลิงแล้วชี้จางเยว่หาน “ให้เธอกิน”
ใบหน้าอู่คงหลิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มทันที