เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1490
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1490
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรหัวเราะแล้วพูดว่า “เข้าใจแล้ว ฉันจะพูดเรื่องนี้กับเจ้านายนานแล้ว ฉันจะไปดูดซับเดี๋ยวนี้!”
หลิงเหยาพูดว่า “ลู่ฝาน นายจะบุกโจมตีในทิศที่ศัตรูคาดไม่ถึงเหรอ”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “เธอนี่รู้ใจฉันจริงๆ!”
เมื่อพูดจบขฌ ลู่ฝานได้ยินเสียงร้องอย่างตกใจดังมาจากในป่าไกลๆ
“ค่ายกลเสียหาย เจอเขาแล้ว!”
“ทุกคนเร็วๆๆๆ!”
กลางอากาศ ผู้ฝึกชี่กรูกันไปทางที่ค่ายกลเสียหายอย่างบ้าคลั่ง
ลู่ฝานจับมือหลิงเหยาแล้วพูดว่า “สูดหายใจลึกๆ ไป!”
ทันใดนั้นตัวทั้งสองคนหายไปจากที่เดิม กลายเป็นแสงพุ่งไปข้างหน้า
เสียงร้องอย่างตกใจดังขึ้นด้านหลังไม่หยุด
เหมือนไอ้เก้ายังดูดซับค่ายกลไม่หยุด
“เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฮ่าๆ ครั้งนี้ได้กอบโกยครั้งใหญ่ แค่ค่ายกลพวกนี้ฉันก็คืนทุนแล้ว”
ลู่ฝานไม่มีเวลาฟังเสียงตะโกนของไอ้เก้า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ เหมือนพวกผู้ฝึกชี่ด้านหลังยังไม่เห็นเขา
เร็วอีกหน่อย เร็วขึ้นอีกหน่อย
ลู่ฝานเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ปราณชี่ในตัวดูดพลังฟ้าดินรอบตัวอย่างบ้าคลั่ง ทำให้พวกเขามีแรงสนับสนุนที่แข็งแกร่ง
ในป่า ผู้อาวุโสชุดคลุมแดงสองคนชิงลงมาก่อน มองสถานการณ์โดยรอบแวบหนึ่ง
เขาพูดอย่างตกใจว่า “นี่มันปรมาจารย์ค่ายกลแบบไหนกัน ถึงทำลายค่ายกลได้ง่ายดายขนาดนี้!”
“รีบหาดูรอบๆ เขาต้องอยู่ไม่ไกลแน่นอน!”
ท่ามกลางความโกลาหล ผู้ฝึกชี่คนหนึ่งแอบถอยไปข้างหลัง ใช้นิ้วเขียนลงบนหยกอย่างรวดเร็ว
อีกด้านหนึ่งบนร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง หั่วตันซูมองหยกในมือด้วยรอยยิ้มหญ “ค่ายกลโดนทำลาย คนหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหอะๆญห ดูเหมือนใกล้มาแล้ว ทำให้ผู้ฝึกชี่เกือบทั้งตระกูลหั่วกระวนกระวายได้ขนาดนี้ ถือว่าคนคนนี้มีความสามารถมาก แต่น่าเสียดาย ฆ่าคนตระกูลหั่วของฉันทำไม”
หั่วตันซูวางหยกลงแล้วพูดเสียงดังว่า “จ้องค่ายกลเคลื่อนฟ้าเอาไว้ให้ดี ถ้าเห็นนักบู๊จะเข้าไปในค่ายกล รีบจับตัวไว้ทันที!”
บนร้านน้ำชา ผู้ฝึกชี่สิบกว่าคนลุกขึ้นทันที จากนั้นรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
หั่วตันซูวางแก้วชาลง มองไปบนถนนแล้วพูดเสียงเบาว่า “มาสิ ให้ฉันดูหน่อยว่านายเป็นใครกันแน่”
ตอนนี้ลู่ฝานกับหลิงเหยาพุ่งมาด้านหลังห้องห้องหนึ่ง
นี่เป็นห้องรูปทรงโดม มองจากด้านนอกเหมือนยาเม็ดกลม ถือว่าเป็นที่พักอาศัยที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศตันเซิ่ง
ทั้งสองชะงักฝีเท้าลง หอบหายใจเบาๆ หันไปมองทางป่าไม้ไกลๆ
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนทุกอย่างราบรื่นมาก เราผ่านด่านมาได้สบายๆ”
หลิงเหยาพูดว่า “ถ้าต่อไปราบรื่นแบบนี้ก็ดีสิ”
เจ้าดำฉีกยิ้ม จากนั้นดึงเสื้อของลู่ฝานแล้วชี้ไปทางร้านเหล้าไกลๆ
เหมือนมันก็อยากชิมอาหารของประเทศตันเซิ่งก่อนเหมือนกัน
ลู่ฝานตบหัวเจ้าดำเบาๆ แล้วพูดว่า “แกอยากกินอะไร แต่เรายังไม่พ้นจากอันตรายโดยสิ้นเชิงหรอกนะ ทุกอย่างค่อยว่ากันหลังใช้ค่ายกลเคลื่อนฟ้าออกจากที่นี่”
หลิงเหยายิ้มแล้วพูดว่า “กินสักนิดหน่อย ฉันว่าตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ลู่ฝาน นายจะเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนฟ้า นายมีเงินของประเทศตันเซิ่งไหม”
ลู่ฝานชะงักครู่หนึ่ง จากนั้นยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันลืมไปเลย เธอพูดถูก หาเงินมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน ถ้าฉันเอาเหรียญทองของประเทศอู่อานออกมาที่นี่ คงโดนจับตัวทันที งั้นไปแลกเงินที่ไหนล่ะ”
ลู่ฝานหันมองรอบๆ จู่ๆ ร้านยาแห่งหนึ่งปรากฏในสายตา
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนมีวิธีแล้ว”
พูดพลางลู่ฝานกำลังจะเดินออกไปด้านนอก แต่เพิ่งเดินได้เพียงก้าวเดียว เหมือนเขานึกอะไรขึ้นได้อีก
เขาชะงักฝีเท้าแล้วพูดว่า “เดี๋ยวนะ ถ้าเราไปแบบนี้ ดูสะดุดตาไปหน่อยหรือเปล่า”
หลิงเหยายิ้มแล้วพูดว่า “งั้นนายจะทำยังไง”
รอยยิ้มปรากฏบนหน้าลู่ฝาน เขาเอาชุดคลุมดำออกมาจากในอกแล้วใส่ให้ตัวเอง จากนั้นปล่อยพลังชี่ออกมาบนตัวเล็กน้อย กำมุกเวิ้งว้างกับมุกเทพมังกรไว้ในมือ
“แบบนี้เป็นไง”
ลู่ฝานยิ้มสดใสให้หลิงเหยาแล้วเอ่ยขึ้น
หลิงเหยามองลู่ฝานอย่างตกตะลึง “นายคือผู้ฝึกชี่จริงด้วย พระเจ้า ฉันเกือบจำนายไม่ได้แล้ว”
ลู่ฝานพูดว่า “ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้นักบู๊ไม่เป็นที่นิยมในประเทศตันเซิ่งล่ะ เราไปแลกเงินกันก่อนเถอะ แล้วค่อยเปลี่ยนชุดให้เธอ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอคือสาวใช้นักบู๊ข้างกายฉัน!”
หลิงเหยาเขกลู่ฝานเบาๆ หนึ่งที “สาวใช้บ้าบออะไรของนาย”
ทั้งสองคนเดินไปยังร้านยาอีกด้านหนึ่งของถนน
ตอนนี้หั่วตันซูที่อยู่บนร้านน้ำชาเห็นพวกเขาสองคนพอดี แต่หั่วตันซูมองเพียงแวบเดียวแล้วละสายตาออกมา
ผู้ฝึกชี่พานักบู๊สาวสวยไปซื้อของที่ร้านยาบภ ไม่ใช่เป้าหมายที่เขาตามหาแน่ๆ
เขาต้องตามหานักบู๊โหดเหี้ยมอำมหิตสองคน
อีกทั้งคนที่เขาตามหายังหนีออกมาจากประตูเขาตระกูลหั่วอย่างรีบร้อน จะมีกะจิตกะใจไปเดินเล่นร้านยาได้ยังไง
ดังนั้นมองเพียงแวบเดียว หั่วตันซูคิดว่าสองคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาตามหา
กวาดตามองบนถนนต่อไป หั่วตันซูจิบชาเบาๆ ดูมีความอดทนมาก
หั่วตันซูพึมพำว่า “ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายจะไม่มา!”