หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 559 หลั่งน้ําตา
ตอนที่ 559 หลั่งน้ําตา
หนานกงยวีรวบฝ่ามือน้อยไว้อย่างนุ่มนวล กล่าวถ้อยคําปลอบใจด้วยน้ําเสียงอ่อนโยน
“ซีเอ่อ ข้าเคยกล่าวไว้แล้วว่าเจ้าจักต้องเป็นชายาของข้า ชาติภพนี้เจ้าถูกกําหนดให้อยู่ร่วมกับข้า แม้นเจ้าจะอยู่ไกลถึงปลายขอบฟ้า ลึกถึงนรกโลกันตร์ชุมใด ข้าก็พร้อมจะไล่ติดตามนําพาตัวเจ้ากลับมาอยู่เคียงกาย เช่นนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะไม่ได้พบเห็นหน้าข้าอีก !”
ร่างน้อย ๆ ของเกอซีสั่นเทาอยู่ในอ้อมแขนของเขา ชายหนุ่มค่อย ๆ คลายมือออกทีละน้อย อย่างเชื่องช้า
ดวงหน้าน้อยยังคงนิ่งสงบ หากแต่แววตาหงส์คู่งามยังคงแดงระเรื่อประหนึ่งเพิ่งผ่านการร่ําไห้มาอย่างโชกโชน
ชายหนุ่มย่อมตระหนักดีว่า หญิงสาวผู้อยู่ในอ้อมแขนของเขานี้ คือดรุณีน้อยผู้มีปกตินิ่งสงบสุขุม กระทั่งแม้เมื่อได้รับบาดเจ็บร่างชุ่มกองโลหิต นางก็ไม่เคยยอมหลั่งน้ําตา
หากทว่ายามนี้ ยามที่นางกําลังร่ําไห้อยู่เช่นนี้ เขารับรู้ได้เพียงความเดือดดาลหมายเข่นฆ่าผู้คนให้พินาศย่อยยับอย่างมิอาจหาคําบรรยาย ความเดือดดาลของเขาอัดแน่นจวนเจียนจะระเบิดอยู่ภายในใจ
เขาก้มลงจุมพิตเรือนผมดําขลับของนาง แนบริมฝีปากกับพวงแก้มอุ่น กระทั่งที่สุดจึงประทับจุมพิตลงบนริมฝีปากนุ่มสีชมพูระเรื่อนั้น
หากแต่ในครานี้กลับไม่เหมือนดังเช่นทุกครา เกอซีมิได้ดิ้นรนขัดขึ้นดังที่เคย กลับกัน นางยกแขนขึ้นโอบรัดรอบล่าคอน้อมรับจุมพิตอันอ่อนโยนจากเขา
ม่านตาของชายหนุ่มหลง นัยน์ตาแวววาวแฝงอาการตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อ
ฝ่ามือแกร่งข้างหนึ่งกดแผ่นหลังยึดร่างของนางไว้อย่างแน่นหนา ริมฝีปากตลอดถึงเรียวลิ้นรุกล้ำเข้าสู่โพรงปากของนางด้วยอาการก้าวร้าวดุดัน
สัญชาตญาณหญิงทําให้เกอซีเริ่มขยับหลีกหนี หากทว่าอีกฝ่ายกลับไม่เปิดโอกาส
ปลายลิ้นของเขาตวัดรวบเรียวลิ้นน้อย ๆ ฉกฉวยความหอมหวานจากปากของนางดื่มดํา ควานหาความหอมหวนจากทั่วทุกอณูของนาง
เกอซีถูกกระหน่ําจุมพิต กระทั่งหูตาเริ่มพร่าเลือน ภายในกายร้อนผ่าว สองตาของนางเห็นแต่เพียงใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มผู้ช่วยฉุดรั้งนางขึ้นจากห้วงนรกอันมืดมน
ไม่ว่านางจะยอมรับหรือไม่ก็ตามที่ บุรุษผู้นี้อาศัยทั้งความก้าวร้าวดดัน ทั้งความอ่อนโยนละมุน ละม่อมเพื่อบุกรุกครอบครองหัวใจของนาง
มิได้พบเจอ จิตใจกลับพร่ําเพ้อเพรียกหา
มิได้เห็นหน้า กลับต้องห่วงพะวงในความบ้าระห่า ยามใดเห็นเขายืนเคียงข้างเพิ่งเหลียนอิ่ง ภายในใจกลับยิ่งเกรี้ยวกราดเดือดดาล
หากแต่เมื่อถึงคราวสิ้นหวังอับจนหนทาง คนเพียงผู้เดียวที่หัวใจร่ําร้องเรียกหากลับยังคงเป็นเขาผู้นี้
หนานกงยว…ข้าจะปักใจเชื่อถือบุรุษผู้นี้ได้จริงกระนั้นหรือ ? ข้าพร้อมจะเปิดใจรับความรักจากชายผู้นี้จริง ๆ กระนั้นหรือ ?
ภายในหัวหมกมุ่นครุ่นคิดเพียงชั่วครู่ ฉับพลัน แววตาแห่งความมั่นใจก็เผยผ่านดวงตาคู่นั้น
เมื่อจิตใจของนางหวั่นไหวไปกับหนานกงยว เหตุใดต้องขลาดกลัว เหตุใดต้องหลบเลี่ยงอุปนิสัยเยี่ยงนี้คือเกอซีแต่ที่ใด ?
หากวันหนึ่งข้างหน้า หนานกงยทรยศนาง นางจะจับเขาตัดความเป็นบุรุษเพศ ระบายความคั่งแค้นภายในใจให้สาสม
หญิงสาวไร้ความลังเลภายในใจ เมื่อตัดสินใจได้เด็ดขาดเช่นนั้น นางโอบรัดอีกฝ่าย ดื่มด่ำไปกับแรงจุมพิตอันบ้าคลั่งประหนึ่งเพลิงพายุของหนานกงยวด้วยความเต็มใจ
เนิ่นนานกว่าริมฝีปากของทั้งสองจะแยกห่าง
ชายหนุ่มก้มลงมองสาวน้อยในอ้อมแขนด้วยแววตาหวานลําพะเน้าพะนอเอาใจ ฝ่ามือแกร่งยกขึ้นลูบไล้เรือนผมนุ่ม ขณะปล่อยเสียงกระซิบเพียงแผ่วเบา
“ซีเอ่อ เจ้า… เจ้ายินยอมพร้อมใจเป็นพระชายาของเป็นหวางหรือไม่ ?”
หญิงสาวเลิกคิ้วสูงด้วยท่าที่เคอะเขิน “สมรสกับข้าหาใช่ง่ายดาย
“ข้าเป็นคนหวงของยิ่งนัก ทั้งมิอาจยินยอมร่วมสามีกับสตรีอื่น หญิงสองหนึ่งบุรุษ คือสิ่งที่ข้าไม่ แม้เพียงคิด และหากเมื่อใดที่ท่านทรยศข้า ข้าก็จะจับท่านทําขันที่เสีย !”
ผู้รับฟังส่งเสียงขึ้นจมูกพร้อมอาการยิ้มเย้ย
“เจ้าตัวป่วน ก่อนเป็นหวางจะได้พานพบเจ้า เป็นหวางก็ไม่เคยเหลียวแลสตรีใด เบื้องหน้าต่อไป เป็นหวางจะมีชายาเพียงผู้เดียวเท่านั้น จะไม่แยแสหญิงอื่นอีก เช่นนี้ซีเอ่อ เจ้าพึงพอใจหรือไม่ ?”
***จบตอน หลั่งน้ําตา***