หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 529 อสูรน้อยจอมซื่อบื้อ
ตอนที่ 529 อสูรน้อยจอมซื่อบื้อ
ต้านต้านร้องไห้จ้าสุดเสียง
“ท่านแม่นิสัยไม่ดี !”
ทั้งยังแอบลอบเหลือบมองป้าเถาม่วงกับมังกรทองตัวน้อยที่กําลังร่วมมือกันล้มอสูรน้อยจอมอัปลักษณ์ และแน่นอนทั้งคู่มิอาจกําราบเจ้าตัวน้อยแสนน่าเกลียดนั้นได้
ยิ่งเห็นต้านต้านก็ยิ่งหวั่นเกรง เกรงจะถูก จับให้เข้าคู่ กับเจ้าตัวประหลาดนั้น
เจ้าตัวกลมจึงรีบหนีกลับเข้าไปซ่อนตัวในห้องโถงใหญ่ของวังซูม แม้นจะร้องเรียกหาสักเท่าไร ต้านต้านก็ไม่ยอมโผล่ออกมาให้ได้เห็น
เกอชื่อดนักขันมิได้ เช่นนั้นหญิงสาวจึงเก็บเถาวัลย์ม่วงอเวจี และมังกรทองตัวน้อยกลับเข้าสู่มิติเวทเช่นกัน
แม้มังกรทองตัวน้อยจะเป็นผู้ประกาศกร้าวว่าตนจะช่วยจัดการผู้ที่รังแกต้านต้านหากแต่ไม่คิดเลยว่า ถึงจะประมือกันเนิ่นนานเขากลับไม่สามารถสัมผัสแม้เพียงปลายเส้นขนของเจ้าอสูรตัวน้อย เช่นนั้นเขาจึงกลับเข้าสู่มิติเวทด้วยความรู้สึกหงุดหงิดขัดเคือง
เมื่ออสรเวทจอมอัปลักษณ์ไม่เห็นต้านต้าน มันก็ยิ่งกระสับกระส่ายร้อนรน เจ้าตัว ขี้เหร่วิ่งพันแข้งพันขาส่งเสียงร้องโวยวายจี๊ดๆ อยู่กับเกอซี
ครั้นเมื่อหญิงสาวก้มลงมองจึงประสานเข้ากับนัยน์ตาน้อย ๆ ทรงเมล็ดถั่วเขียวที่ยามนี้กาลังหม่นหมองด้วยความทุกข์โศกเศร้าเสียใจ
ได้เห็นเช่นนั้น ผู้ใดจะทนใจแข็งอยู่ได้ ราวกับนางกําลังทําร้ายจิตใจเจ้าอสูรตัวน้อยให้ต้องทุกข์โศกอย่างหนักหญิงสาวจําต้องแข็งใจหันหน้าหนีเลี่ยงหลีกไป
หากแต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าเจ้าอสูรน้อยช่างว่องไวปราดเปรียวยิ่งนัก ทั้งพลังภายในของมันก็นับว่าล้นเหลืออย่างยิ่ง
แม้นเกอซีจะเร่งความเร็วในการเหาะเหินสักเพียงใด มันก็สามารถเร่งความเร็วติดตามได้ทันท่วงที่เสมอ
ตลอดการติดตาม มันไม่เคยทําเสียงดังรบกวนนางแม้เพียงน้อย คงเพียงส่งเสียง
สัตว์เวทอสูรที่ได้พบเจอตามราวป่ามาตลอดทางอีกด้วย
และด้วยเหตุที่เจ้าอสูรน้อยคอยตามติดเกอซีไม่ห่างเช่นนี้ ต้านต้านจึงไม่ยอมออกจากมิติเวท เช่นนั้นม่วงน้อยและมังกรทองตัวน้อยย่อมต้องอยู่ในมิติเวทเป็นเพื่อนต้านต้านเช่นกัน
เกอซีผู้น่าสงสารจึงจําต้องรับมือกับเหล่าสัตว์อสูรเพียงลําพัง และทุกคราที่ล้มสัตว์ อสูรลงได้ หญิงสาวจะส่งอาหารปรุงเป็นสํารับจานเยี่ยมให้เจ้าตัวน้อยทั้งหลายที่หมกตัวอยู่ในมิติเวท
ถึงอสูรน้อยจะแลดูซื่อบื้อไม่รู้เรื่องรู้ราว หากแต่ก็นับได้ว่าเป็นเด็กดีอยู่ไม่น้อยเพราะทุกคราที่เกอซีพบเจอสัตว์อสูรเจ้าตัวอัปลักษณ์จะลงมือช่วยทุกคราไป
แม้เกอซีจะตระหนักดีว่าสัตว์อสูรโดยทั่วไปหาได้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดไม่ ทว่าเจ้าอสูรน้อยตนนี้แม้นจะแลดูซื่อบื้อเงอะงะ หากแต่กลับรู้ความ เพียงยังมิรู้ว่าเขาคือตัวอะไรเท่านั้น
ครั้นเมื่อเกอซีเห็นท่าทางเหงาหงอยของอสูรตัวน้อย นางจึงปั่นอาหารให้ได้ชิม อสูรน้อยมองสํารับเบื้องหน้าด้วยอาการที่มทื่อสองตาน้อย ๆ รูปเมล็ดถั่วเขียวคลอหยาดน้ําวาว
หัวกลม ๆ น้อย ๆ ก้มสุด ๆ ที่มอยู่กับชามอาหารคล้ายกําลังกัดกินอย่างเอร็ดอร่อยครั้นสวาปามทุกสิ่งจนเกลี้ยงแล้ว เจ้าตัวน้อยก็พันแข้งพันขาเกอซีไม่ยอมปล่อยต้านต้านถึงกับลงไปนอนกลิ้งไถลไถเลือกกับพื้นร้องโวยวายว่าท่านแม่ไม่รักเขาแล้ว
เทือกเขาสลายวิญญาณแห่งนี้ อสูรน้อยจอมอัปลักษณ์จะไม่ตามติดวอแวนางอีก
การแข่งขันล่าสัตว์อสูรใช้เวลานานถึงหนึ่งขวบเดือน ล่วงเลยหนึ่งเดือนไปแล้ว อาคมส่งตัวจะส่งผลอีกครา เป็นการประกาศถึงการสิ้นสุดการประชันฝีมือล่าสัตว์อสูร
เกอซื้อยู่ในเทือกเขาสลายวิญญาณมาเนิ่นนานถึงเจ็ดวันแล้ว แก่นจิตอสูรเวทขั้นห้าในกระเป๋ามิติยามนี้มีจํานวนมากมายอย่างน่าตื่นตะลึง
ยิ่งผ่านลึกเข้าไปในราวป่า จํานวนสัตว์อสูรที่หญิงสาวได้พบเจอก็ยิ่งท่วมท้น ทั้งยิ่งเปี่ยมพลังเวทน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าที่แปลกก็คือ นางแทบไม่พบเจอผู้เข้าแข่งขันท่านอื่นเลย
ในวันนี้ เกอซีเพิ่งก่าจัดเสือลายพาดกลอนขั้นห้าไปถึงสามตัว จึงแทบสลบไสลสิ้น แรง หญิงสาวจิบทิพย์ธาราชั้นเก้า ก่อนขยับกายลงนั่งโคจรฟื้นพลังฉับพลันในใจกลับรับรู้ถึงลางสังหรณ์ประหลาด
หากแต่หญิงสาวยังไม่ทันฉุกคิดทบทวนว่าสมควรเป็นเรื่องใด คลื่นพลังอบอวลมหาศาลพลันโอบล้อมห่อหุ้มเรือนกายของนาง
***จบตอน อสูรน้อยจอมซื่อบื้อ***