หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 514 หน้าแตกยับเยิน
ตอนที่ 514 หน้าแตกยับเยิน
“อ๊าาา อําาา อ้าาาา !!!”
เฟิ่งเหลียนยิ่งแผดเสียงร้องลั่นหน้าซีดขาวราวซากศพ ร่างอ่อนระทวยหมดเรี่ยวแรง กระทั่งเซถลาเข้าไปในอ้อมแขนของเนียนจินเฉิน
แม้นเหล่าชาวยุทธทั้งหลายจะพยายามข่มห้ามใจก็ยังอดมิได้ที่จะหันไปนินทาส่งเสียงกระซิบกระซาบ
ไพ่ใบสุดท้ายชุดนี้ เหนือกว่าภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสวนร้อยหลากสมุนไพรไม่รู้กี่เท่า
ไม่คิดเลยว่าเทพธิดาผู้หมดจดบริสุทธิ์สะอาดดั่งหยาดน้ําแข็งเช่นเทพธิดาบัวเยือกแข็ง บุปผางามผู้สูงส่งเกินเอื้อม เนื้อแท้ที่จริง…จะเป็นสตรีผู้มักมากในกาม จัจจ์ หากมิได้ประจักษ์กับสายตาตนเองเช่นนี้ ผู้ใดจะเชื่อได้เล่า !
ก่อนหน้าสาวน้อยผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเยี่ยงเฉินชิงชูเพียงได้เห็นภาพฉากเหตุการณ์ในสวนสมุนไพรผ่านรูม่านตาที่หรี่น้อยจากตําแหน่งที่ไกลห่างออกไป ทว่าภาพแสนยั่วยวนร้อนอารมณ์ ยามนี้ถูกฉายผ่านเบื้องหน้าสายตาของนางในระยะเผาขน หญิงสาวยกมือขึ้นปิดตาร้องลั่นเสียงหลง
“หน้าไม่อาย! เพิ่งเหลียนองคนไร้ยางอาย !”
เฉินชิงชูรีบรั้งแขนท่านอากับเหล่าศิษย์ร่วมสํานักเข้ามากล่าวเตือนด้วยความห่วงใย
“พวกเจ้าอย่ามอง ประเดี๋ยวตาเป็นกุ้งยิง !”
พี่น้องร่วมสํานักเมฆาแดงต่างหันมามองนางด้วยแววตาที่อ่อนโยน ท่ามกลางความรู้สึกอิ่มเอมภูมิใจ
ทุกคนต่างจดจําได้ดีว่าตระกูลเฟิ่ง และสํานักน้อยใหญ่ทั้งหลายรุมปรามาสพวกเขาไว้เช่นไร
สํานักเมฆาแดงคือสํานักที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสํานักใหญ่ทั้งสี่ ศิษย์ในสํานักล้วนอยู่ในระเบียบวินัย แต่ละคนล้วนมีชื่อเสียงดีงาม ไหนเลยจะแบกรับความอัปยศเยี่ยงนี้ได้ ?
หากยังดีที่คุณชายท่านนี้ไม่กลัวเกรงต่ออานาจอันล้นฟ้าของตระกูลเฟิง กระทั่งที่สุดยังสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนได้
ทั้งตระกูลเฟิ่งตลอดถึงสํานักหลิวหลีถูกตบหน้าอย่างแรงเช่นนี้ เชื่อได้ว่าย่อมไม่กล้าลุกขึ้นมา แสดงอํานาจวางท่าใหญ่โตกับผู้ใดอีกยาวนานหลายเดือน โอ้ ! มันช่างเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเสียนี่กระไร !
เกอซีคลี่รอยยิ้มเล็กน้อยขณะยกมือขึ้นปัดฝุ่นด้วยท่าที่ผ่อนคลาย “เป็นอย่างไร ? ยังมีสิ่งใดที่ข้าต้องชี้แจงอีกหรือไม่ ? หากทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ข้าคงต้องขอตัวก่อน”
กล่าวจบ นางไม่หันเหลียวดูปฏิกิริยาของเหล่าผู้ชุมนุมที่ยังคงยืนตะลึงกับภาพเหตุการณ์เบื้องหน้า เพียงหมุนกายบิดร่างเคลื่อนจากไปไร้ความหวั่นเกรง
ฉางกวนเหวินจผู้นั่งอยู่เหนือบัลลังก์ทองนิ่งค้างราววิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง ขณะเฟิ่งอวินจึงผู้รับชมภาพเหตุการณ์มีสีหน้าบึงตั้ง ส่วนเพิ่งเหลียนยิ่งยามนี้แทบลมจับหมดสติไปแล้ว ราชองครักษ์ทั้งหลายต่างหันมองหน้ากันเลิกลั่ก ไม่มีผู้ใดกล้าตรงเข้าขวางเกอซี
เหล่าชาวยุทธผู้อยู่ร่วมเป็นสักขีพยานในโถงพระโรงใหญ่ต่างส่งสายตามองตามหนุ่มน้อยผู้มีพลังฝีมือเพียงขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ราวได้เห็นภูตผีปีศาจ แต่ละคนต่างพากันกระถดถอยหลบหล็ก ทางให้หนุ่มน้อยผู้น่าสะพรึงกลัว
ทว่าขณะที่ผู้อื่นกําลังก้าวหลีกทางให้นั้น เกอซีกลับถูกองค์รัชทายาท และน่าหลานจออนขวางทางไว้
นางยกยิ้มไม่เชิงยิ้มขณะเคลื่อนสายตากวาดมองน่าหลานจออขึ้นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะเบียงแนวสายตามายังองค์รัชทายาทพร้อมถ้อยคําเยาะเย้ย
“องค์รัชทายาทเห็นจะยังไม่ลืมถ้อยค่าที่เพิ่งตรัสล่วงพระโอษฐ์กระมัง ชีวิตย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิตจึงนับเป็นความเที่ยงธรรม”
“จะอย่างไรเสีย องค์ชายสามก็คือพระอนุชาร่วมพระบิดาของพระองค์มิใช่หรือ ? ยามนี้ผู้ร้าย ตัวจริงก็ได้เผยตนออกมาแล้ว พระองค์จะทรงปล่อยฆาตกรสังหารพระอนุชาให้ลอยนวลกระนั้นหรือ ?”
เพียงได้ยินถ้อยคําของอีกฝ่าย ใบหน้าขององค์รัชทายาทพลันซีดเผือด
น่าหลานจออวนพ่นลมออกจมูก ฮี
“ขวัญกล้ายิ่งนัก เจ้าเป็นผู้ใด กล้าดีอย่างไรมาบงการการตัดสินพระทัยขององค์รัชทายาทเบื้องหน้าพระพักตร์ อยากพล่ามสิ่งใดล้วนสามารถกระทําได้ตามใจชอบกระนั้นหรือ ?”
“จากที่ข้าเห็น แม้นเจ้ามีความสามารถเยียวยารักษาพิษร้าย ทว่าเจ้าก็เป็นผู้ฉวยโอกาส อาศัยความทุกข์ร้อนของผู้อื่นขูดรีดเอาอาวุธวิเศษ เพื่อแลกเปลี่ยนโอสถถอนพิษ นี่น่ะหรือคือการกระทําของผู้เป็นแพทย์ ? แม้นหากเจ้ามิใช่ผู้ร้ายฆ่าคน ทว่าคนเยี่ยงเจ้าก็มิอาจเรียกตนเป็นหมอได้เช่นกัน !”
มุมปากของเกอซียกโค้งเผยรอยยิ้มอันล้ําลึก แนวสายตาค่อย ๆ เคลื่อนกวาดมองบุรุษเบื้องหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างเชื่องช้าก่อนหางเสียงเยาะหยันจะถูกเปล่งออกจากปาก
“อ้อ ! เช่นนั้นข้าคงต้องทําให้ได้เยี่ยงน่าหลานเจิ้งเจ๋อกระมัง ไร้สามารถรักษาอาการเส้น ชีพจรูปราณฉีกขาด จ่าต้องถอดถอนงานหมั้นหมายที่ตระเตรียม กระทําตนเป็นคนสับปลับกลับคำเยี่ยงนี้เองกระนั้นหรือจึงสามารถได้ชื่อว่าเป็นหมอชั้นยอด ?”
น่าหลานจื่ออวิ๋นใบหน้าบิดเบี้ยวนิ่งอึ้งสิ้นไร้ถ้อยค่าตอบโต้
***จบตอน หน้าแตกยับเยิน***