หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 471 เด็กน้อย
ตอนที่ 471 เด็กน้อย
แต่แรกเด็กน้อยเหล่านี้ล้วนส่งเสียงร้องโอดครวญดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด ทว่าเมื่อโลหิตไหลถ่ายเทออกจากร่าง กระทั่งใบหน้าเริ่มขาวซีดไร้สี สุดท้ายสัญญาณแห่งชีวิตไม่หลงเหลือเสียงร่ําร้องแห่งความเจ็บปวดย่อมถึงคราวสิ้นสุด
กระนั้นบุรุษร่างกํายําผู้กระทําทารุณพวกเขากลับยังไม่หยุดการกระทําอันโหดร้าย คนผู้นั้นตรงเข้าเนื้อนเนื้อออกจากร่างเด็กน้อยด้วยความชํานิชํานาญ ชิ้นเนื้อสด ๆ เป็นก้อนถูกจับเรียงใส่ในตระกร้าใบใหญ่อย่างเป็นระเบียบ และหากยังปรากฏโลหิตไหลซึม ชายพวกนั้นจะค่อย ๆ รอง รวบรวมเก็บไว้ทั้งหมด
กระบวนการทั้งหมดคล่องแคล่วชํานิชํานาญราวเครื่องจักรกล คล้ายมันกําลังฟ้องสายตาว่านี่คือสิ่งที่พวกมันเคยกระทํามาแล้วไม่ต่ํากว่าพันครั้ง ทุกกระบวนการลื่นไหลไม่สะดุดติดขัด
กระทั่งเมื่อเด็กน้อยทั้งหมดถูกชําแหละสิ้น บุรุษร่างกายผู้นั้นจึงแผดเสียงกลั้วหัวร่อขึ้นคราหนึ่งก่อนจะเดินตรงไปหาเด็กที่เหลือในกรงขัง
เหล่าเด็กน้อยต่างพากันหดหัวส่งเสียงร้องซุกซ่อนหลบหนีชะตากรรมอันโหดร้ายเบื้องหน้า
ทว่าเสียงกรีดร้องของเด็กน้อย กลับยิ่งสร้างความตื่นเต้นสนุกสนานให้บุรุษร่างกําย่าพวกนั้นมันรวบข้อเท้าเด็กหญิงวัยราวห้าหรือหกขวบขึ้นห้อยหัวส่งเสียงหัวเราะร่วน “ดูยายหนูนี่สิ ท่าจะผิวนุ่มดีแท้ จับมันรีดเลือดออกให้หมดเอาเนื้อมาเฉือนย่างกิน เห็นทีจะอร่อยไม่เบา”
“ฟังดูไม่เลว” อีกคนยื่นมือเข้าไปคว้าคอเสื้อเด็กชายวัยประมาณสี่ขวบออกมาก่อนจะฉีกเสื้อผ้าเด็กชายผู้นั้นกลืนน้ําลายเอื้อก “เจ้าดูสิ ผิวนุ่มละเอียดเช่นนี้ จับไปเคี่ยวทําน้ําแกงต้องอร่อยสดชื่นอย่างแน่นอน”
เด็กน้อยที่ถูกจับตัวทั้งสองต่างร่ําไห้ด้วยความหวาดกลัว ขณะที่เหลือพยายามดิ้นรนให้หลุดรอดจากฝ่ามือแกร่งของกลุ่มบุรุษใจเหี้ยม ทว่าที่เห็นราวลูกไก่ในกรงเล็บเหยี่ยว เป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กน้อยเหล่านั้นจะหลุดรอดมือคนอ่ามหิตกลุ่มนี้ไปได้
บุรุษผู้คว้าจับเด็กน้อยหันมาจ้องมองอาการดิ้นทุรนทุรายร่ําไห้ว่าจะขาดใจของผู้อยู่ในเอื้อมมือตนด้วยความสุขสันต์อย่างเหลือประมาณ
หน้าแข้งของบุรุษผู้นั้นกลับเจ็บแปลบขึ้นฉับพลัน เด็กชายตัวน้อยผู้ถูกจับนิ้วต่องแต่งกลางอากาศจึงร่วงหล่นกระแทกใส่พื้น
ชายกําย่าผู้นั้นเกรี้ยวกราดเดือดดาล นัยน์ตาของมันแดงกําดังหมาป่ากระหายโลหิต
ผู้ปรากฏเบื้องหน้าสายตาคือเด็กชายเสื้อผ้าขาดวิ่นใบหน้าขมุกขมัว
เมื่อครู่เป็นเด็กน้อยผู้นั้นที่กัดหน้าแข็งเขาเต็มแรง กระทั่งเขาชะงักปล่อยเด็กน้อยในมือเจ้า เด็กผู้นี้จึงรีบรวบตัวเด็กน้อยที่หลุดออกมากลับคืนในทันที
“เจ้าลูกสุนัข เห็นที่เจ้าคงหมดความอดทนจะมีชีวิตอยู่แล้วกระมังจึงกล้ากัดนายใหญ่ผู้นี้”
บุรุษร่างกํายยกฝ่ามือที่ใหญ่แข็งแกร่งราวเหล็กกล้าของตนฟาดใส่ใบหน้าเด็กชายตัวน้อยเสียง “เพี้ยะ ดังลั่นพร้อมร่างน้อยที่ถูกอัดกระแทกใส่ลูกกรงอย่างรุนแรงพร้อมหยาดโลหิตที่ไหลซึมออกจากมุมปาก
หากทว่าภายใต้สองตาที่ดําคลากลับไร้ร่องรอยแห่งความขลาดกลัวถอยหนี เด็กชายผู้นั้นพุ่งร่างเข้ารัดบุรุษร่างกําย่า
เขาพยายามปกป้องเด็กน้อยทั้งสามผู้ยืนด้านหลังเขาอย่างสุดกําลังความสามารถโดยไม่หวั่น
กลัวต่อความตาย
“เยี่ยม !” สองตาของชายอํามหิตแดงกําด้วยความเกรี้ยวกราด มันส่งเสียงเย้ยเยาะ “เมื่อเจ้าแส่หาความตายนัก เช่นนั้นข้าก็จะช่วยให้เจ้าได้สมประสงค์ เจ้าจะได้กลายเป็นศพตากแห้งก่อนเป็นคนแรก !!”
เพียงสิ้นสุดคํากล่าว เด็กชายร่างน้อยผู้นั้นก็ถูกกระชากตัวออกจากกรง
เด็กน้อยทั้งสามทางด้านหลังต่างพากันส่งเสียงร้องตะโกน “ท่านพี่” ทั้งพยายามช่วยกันยื้อยุด เสื้อผ้าดึงร่างเด็กชายผู้นั้นไว้ไม่ยอมให้เขาถูกลากออกไปด้านนอก
หากทว่ากําลังกระจ้อยของเด็กน้อย ไหนเลยจะเทียบได้กับพละกําลังของหนุ่มวัยฉกรรจ์เพียงไม่นาน เด็กชายผู้นั้นก็ถูกลากคอออกมาจากกรงขังราวไก่กําลังจะถูกเชือด
“ไอ้เด็กสารเลว ครานี้เจ้าจะได้รู้ว่าการยั่วโทสะคนเช่นข้าจ…โอ๊ย !!! ไอ้เด็กเหลือขอ เจ้ากล้าข่วนข้าเช่นนั้นรี !”
รอยเล็บก่อให้เกิดเลือดซิบเป็นทางยาวปรากฎบนดวงหน้าของชายอํามหิต ใบหน้าของมันเริ่มร้อนผ่าวแสบ ๆ คัน ๆ
เสียงหัวเราะจากกลุ่มสหายใจอํามหิตของมันดังขึ้นพร้อมคําเย้ย “เฉินเหล่าซื่อ ยิ่งนานกลับคล้ายยิ่งไม่ได้เรื่อง เพียงกระต่ายตัวกระจ้อยเท่านี้เจ้าก็ยังไม่อาจจัดการ !”
***จบตอน เด็กน้อย***