หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 459 โรงโอสถจีเซิงอันมืดมน
นิยาย หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 459 โรงโอสถจีเซิงอันมืดมน
หน้าโรงโอสถพลันอยู่ในบรรยากาศเงียบสงัดในทันที กระทั่งชายสูงอายุพร้อมอารักขาทั้งเจ็ดยังตกตะลึงสิ้นคํากล่าว
เครื่องประดับของสี่ยอดฝีมือแต่ละชิ้นล้วนนับได้ถึงล้านหินผลึก หากนับรวมเครื่องประดับทั้งหมดบนร่างย่อมไม่ต่ํากว่า 20 ล้านหินผลึกอย่างแน่นอน
ยามนี้ชายชราผู้เป็นตัวแทนจากราชสกุลกลับหน้าถอดสีเผยความตื่นตระหนก
แค่เพียงผู้ทําหน้าที่คุ้มกันโรงโอสถล้วนสวมใส่ชุดประดับมูลค่ากว่าสิบล้านหินผลึก กระทั่งราชสกุลผู้ยิ่งใหญ่ หากต้องสิ้นเปลืองหินผลึกมากมายถึงเพียงนี้ล้วนต้องอึดอัดลังเล เจ้าของคนใหม่แห่งโรงโอสถเชิงเต่อมั่งคั่งเปี่ยมบารมีถึงระดับใดกันแน่ ?
เพียงครู่ทั้งผู้หมายฉกฉวยผลประโยชน์ตามน้ํายามโรงโอสถเชิงเต่อวุ่นวาย ทั้งผู้คิดต่อต้า นกฎเกณฑ์ใหม่ของโรงโอสถล้วนสงบเสงี่ยมเจียมตัวมิกล้ากระทําการบ่มบ่ามไร้ความคิด
สิ่งนี้หาใช่เรื่องเล็ก เจ้านายใหม่ผู้อยู่เบื้องหลังโรงโอสถย่อมต้องเป็นผู้สืบเชื้อสายโดยตรงจากตระกูลใหญ่ผู้มั่งคั่งทั้งยังทรงอิทธิพล หากเรื่องนี้ยังไม่กระจ่าง มีหรือผู้ใดจะกล้าผลีผลามลงมือ
ทดลองเปิดการค้าโอสถได้เจ็ดวัน กระทั่งที่สุดวันนี้โรงโอสถเซิงเต่อก็เปิดค้าขายอย่างเป็นทางการ ทั้งกิจการล้วนดําเนินไปด้วยดี
เด็กหน้าใหม่ที่เข้ามาช่วยงานในโรงโอสถส่วนวิ่งวุ่น กระทั่งแทบไม่เหลือเวลาให้หายใจ
ผู้ดูแลโจวและผู้ดูแลซีต่างต้องยิ้มจนแก้มปริ เมื่อผลกําไรการค้าขายในแต่ละวันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง
หากทว่าโรงโอสถจีเซ็งที่เคยคึกคักในช่วงหลายวันก่อนกลับตรงข้าม เมื่อยามนี้โรงโอสถแห่งนี้กลับเงียบเหงาวังเวง
แม่โอสถที่ออกวางขายในโรงโอสถจีเซ็งล้วนมีคุณสมบัติสูงกว่าโรงโอสถอื่น ทว่าย่อมไม่สูงส่งไปกว่าโอสถที่วางขายในโรงโอสถเชิงเต่อ ท่านหมอผู้ประจําอยู่ในโรงโอสถก็เป็นเพียงแพทย์ผู้มีทักษะเพียงขั้นหนึ่ง ขณะโจวเหยียนอันเป็นท่านหมอผู้มีทักษะทางการแพทย์ขั้นสอง
ยังมีชื่อเสียงของโรงโอสถเซ็งเต่อยามนี้โด่งดังกระฉ่อนกว่าโรงโอสถจเซ็ง โอสถที่นําออกขายล้วนประกอบด้วยคุณสมบัติชั้นยอด ไหนเลยโรงโอสถจีเซึ่งจะสามารถเทียบเปรียบได้
ยามนี้ในโรงโอสถจีเซิงเด็กรับใช้ประจําโรงโอสถได้เพียงทอดถอนใจสบตากันไปมาด้วยความรันทด เมื่อได้เห็นบรรยากาศที่คึกคักของโรงโอสถเชิงเต่อซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม
ชั่วขณะนั้นเอง บุรุษในอาภรณ์สีขาวผู้ดูคล้ายอยู่ในวัยราวห้าสิบปีเศษค่อย ๆ เยื้องย่างฝ่าเท้าเข้ามาในโรงโอสถ
เพียงได้เห็นบรรยากาศที่สิ้นหวังโศกสลดเช่นนั้น ชายชราอดซุกหน้าลงกับอุ้งมือของตนมิได้
เพียงเด็กรับใช้ที่นั่งซุกอยู่มุมห้องได้ยินเสียงแผดร้องที่เย็นชา เขาพลันสะดุ้งโหยง ครั้นเมื่อแหงนเงยใบหน้าขึ้น เด็กรับใช้ผู้นั้นจึงรีบกุลีกุจอเลื่อนเก้าอี้เข้ามาต้อนรับผู้มาเยือนอย่างไม่รอช้า “ท่านหมอฉาง เหตุใดท่านจึงมาที่นี่ขอรับ ?”
ครั้นท่านหมอก่ผู้ประจําอยู่ด้านหลังโรงโอสถได้ยินเช่นนั้นก็รีบรุดออกมาด้านหน้า เพียงเห็นหน้าชายสูงอายผู้นี้ ท่านหมอกพลันรีบโค้งศีรษะประสานมือแสดงความคารวะอย่างไม่รอช้า
ท่านหมอฉางโบกมือส่งด้วยท่าทีฉุนเฉียว เขาชี้นิ้วไปหน้าโรงโอสถจีเซิงซึ่งยามนี้วังเวงว่างเปล่า ก่อนจะเบี่ยงปลายนิ้วไปหาโรงโอสถเชิงเต๋อซึ่งมีลูกค้ารอเรียงรายเป็นแถวยาวราวมังกรเลื้อย พลางออกปากไถ่ถามด้วยน้ําเสียงเย็นยะเยือก “นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ที่นายท่านมีคําสั่งให้พวกเจ้ามาดําเนินการค้าในโรงโอสถจีเซิงแห่งนี้ ก็เพื่อให้พวกเจ้ากําจัดโรงโอสถเซ็งเต๋อให้สิ้นชื่อ แล้วนี่.. พวกเจ้ากําลังทําอะไร ?”
ท่านหมอกู้ยกมือขึ้นปาดหยาดเหงื่อเม็ดโตที่กระทั่งขนตายังแบกรับไว้มิได้คราหนึ่ง ก่อนรีบกล่าวถ้อยคําชี้แจง “เรียนท่านหมอ เมื่อไม่นานมานี้ โรงโอสถเชิงเต่อเปลี่ยนเจ้านายคนใหม่ และนับแต่นายใหม่ผู้นี้เข้ามาดูแล พวกเขาก็วางขายโอสถเสริมพลังจิตวิญญาณซึ่งมีคุณสมบัติยอดเยี่ยมมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งยามนี้ โอสถชั้นยอดที่โรงโอสถเซิงเต่อวางขายล้วนอัดแน่นไปด้วยพลังผลึกถึงระดับ 12 ทั้งยังสามารถคงความบริสุทธิ์ไว้ได้ถึง 99% ทั้งหมดทั้งมวลล้วนได้รับการรับรองจากโรงโอสถหลวง”
“เพียงโรงโอสถเชิงเต่อนําโอสถแต่ละชุดออกวางขาย ลูกค้าต่างตั้งตารอเรียงแถวเป็นแนวยาวเช่นนี้ กอรปกับทั้งตัวของโจวเหยียนอันเองคือแพทย์ผู้มีทักษะการรักษาขั้นที่สอง ส่วนผู้น้อย ผู้ประจําอยู่ในโรงโอสถจีเซิงแห่งนี้ยังเป็นเพียงผู้มีทักษะทางการแพทย์ขั้นที่หนึ่งเท่านั้น เช่นนั้นผู้น้อย…..เช่นนั้น….”
ถ้อยคําที่ท่านหมอก่ปล่อยให้เล็ดลอดผ่านริมฝีปาก ล้วนผ่านการใตร่ตรองอย่างถ้วนถี่ระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งตัวเขา ทั้งผู้ดูแลโรงโอสถล้วนถูกว่าจ้างให้เข้ามารับหน้าที่ดําเนินการค้าโอสถในโรงโอสถแห่งนี้
ส่วนผู้ว่าจ้าง แท้จริงคือบุรุษในชุดคลุมสีเทาผู้อ่าพรางดวงหน้ามิให้เขาได้เห็น และคนผู้นั้นก็คือเจ้านายของท่านหมอฉางผู้นี้
***จบตอน โรงโอสถจีเซ็งอันมืดมน***