หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 456 มั่งคั่ง
ตอนที่ 456 มั่งคั่ง
เม่ยหรูเยียนหยิบระฆังขนาดประมาณเท่าฝ่ามือออกมา น้ําเสียงของนางสั่นเครือ “นี่มัน……ระฆังเพ้อฝันอาวุธวิเศษชั้นยอดสําหรับผู้ใช้มนตร์เวท”
ทั้งห้าต่างหันมามองหน้ากันเลิกลักด้วยความตื่นตะลึงในนายใหม่ของตน
โจวฮวายอันกล้ํากลืนน้ําลายด้วยความยากล่าบากก่อนเอ่ยปากถาม “ท่านพี่ท่านรู้หรือไม่ว่านายท่านคนใหม่ของพวกเราคือผู้ใด ? เหตุใดนายน้อยจึงเชื่อมั่นในตัวเขาถึงเพียงนี้ ? ข้าได้ยินมาว่าโอสถเสริมพลังชั้นยอดที่วางขายในโรงโอสถเซ็งเต่อล้วนปรุงกลั่นด้วยฝีมือคนผู้นี้มิใช่คนผู้นี้มาจากตระกูลผู้มั่งคั่งกระนั้นหรือ ?”
โจวเหยียนอันเผยน้ําเสียงเย้ยหยันคล้ายอยากกล่าว พวกเจ้าเพิ่งตื่นตระหนกกระนั้นหรือ ?
นี่หากพวกเจ้าได้ล่วงรู้ว่าโอสถชั้นยอดตลอดถึงส่วนประกอบโอสถชั้นยอดทั้งหมดในโรงโอสถล้วนเป็นฝีมือของคุณชายซีทั้งสิ้นพวกเจ้าจะไม่ตะลึงงันอ้าปากจนกรามค้างลากพื้นกระนั้นหรือ
หากทว่าเรื่องนี้ถือเป็นความลับสูงสุดไม่อาจประมาท มีหรือที่โจวเหยียนอันจะกล้าหลุดปากออกไป
เขาเพียงกระแอมเล็กน้อยกระซิบเบา “คุณชายผู้นี้คือท่านหมอเทวะที่ข้าเคยเล่าให้เจ้าฟัง อย่างไร คนผู้นี้มีบุญคุณกับนายน้อยใหญ่หลวงยิ่งนัก ไม่เพียงบุกเข้าจวนมู่หรงเพื่อช่วยเหลือคุณชายยังให้การเยียวยารักษาฮูหยินกระทั่งยามนี้อาการป่วยของฮูหยินเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ เป็นระยะ”
“สามารถกล่าวได้ว่า ชีวิตของนายน้อยเป็นของคุณชายซีเช่นนั้น ชีวิตของพวกเราล้วนเป็นของคุณชายซีเช่นกันนับแต่นี้ไปพวกเจ้าสมควรปฏิบัติต่อคุณชายซีในฐานะนายที่แท้จริงอีกผู้หนึ่ง”
ขณะกล่าวว่า โจวเหยียนอันยังชี้ไปที่ขวดกระเบื้องเคลือบในมือเฉินไป “เชื่อข้าเถิดหากพวกเจ้าเชื่อฟังและติดตามคุณชาย เบื้องหน้านับแต่นี้ผลประโยชน์งามนับประมาณไม่ถ้วนจะถึงมือ ของพวกเจ้าอย่างไร้ที่สิ้นสุด”
ยอดฝีมือทั้งห้าต่างก้มลงมองขวดกระเบื้องเคลือบในมือของเฉินไปด้วยนัยน์ตาที่เปล่งประกายแวววาว
หากเบื้องหน้าแต่นี้ต่อไป คุณชายผู้นี้สามารถมอบโอสถคุณภาพสูงส่งเช่นนี้ให้พวกเขาอย่างต่อเนื่องการเข้าถึงความเป็นสุดยอดพลังฝีมือย่อมเสมือนใกล้แค่เพียงเอื้อม !
ทันทีที่กลับถึงโรงโอสถเซิงเต่อ เกอซีรีบตรงเข้าถ่ายเทพลังปราณพฤกษ์ธาตุให้แก่กู้อวหลานอย่างไม่รอช้า
ในช่วงให้การเยียวยารักษาอยู่นั้น ก่อวหลานพลันรู้สึกตัวตื่นด้วยอาการสะลึมสะลือเพียงได้เห็นเกอซีผู้มอบการรักษา หยาดน้ําใสพลันเอ่อคลอหลั่งล้นในดวงตาด้วยความรู้สึกตื้นตันกระทั่งมิรู้จะเอ่ยกล่าวถ้อยคําใด
ทว่าพิษยาฝิ่นที่ยังเหลือตกค้างภายในยังคงส่งผลครอบงําจิตใจ เพียงพริบตาก่อวหลานพลันกลับเข้าสู่ห้วงภวังค์อีกครา
เมื่อเกอซีชาระมือเรียบร้อยแล้วจึงติดตามกู้หลิวเพิ่งออกมายังศาลาด้านนอก เห็นสีหน้าหวั่นวิตกของกู่หลิวเพิ่งเช่นนั้น เกอซีจึงอดกล่าวปลอบใจมิได้ “ไม่ต้องห่วงภาวะจิตใจของท่านแม่เจ้าดีขึ้นบ้างแล้ว พิษในร่างได้ถูกขับออกไปทีละน้อยในกระบวนการขับพิษเรื้อรังย่อมยากเย็นทั้งยังทรมานอย่างที่สุดโชคดีที่ท่านแม่ของเจ้าได้ผ่านกระบวนการที่ล่าบากอย่างที่สุดมาแล้ว”
ได้ยินเช่นนั้น กู้หลิวเพิ่งรีบตอบกลับ “ได้แพทย์ฝีมือฉกาจเยี่ยงเจ้าเป็นผู้ดูแลท่านแม่ของข้าย่อมต้องหายเป็นปกติไม่มีสิ่งใดที่ข้าต้องกังวล”
หญิงสาวได้เห็นแววตาสีดอกท้อที่เปี่ยมเสน่ห์ดึงดูดสายตา ท่าที่ไม่ยี่หระแยแสต่อสิ่งใดบุคลิกเช่นนี้ล้วนไม่ต่างกับครั้งแรกเมื่อนางได้พบเจอเขาในอาณาจักรกําบัง
เพียงในยามนี้บนดวงหน้านั้นไร้หน้ากากปกปิด แววตาคู่นั้นบรรเทาความเจ็บปวดแววแห่งความเศร้าลดเลือน เห็นได้ชัดว่าความทรมานใจที่ได้รับก่อนหน้าของเขาล้วนลดทอนบรรเทาลงไปมาก
ครั้นเห็นเกอซีจ้องเอาจ้องเอาเช่นนั้น กู้หลิวเพิ่งจึงส่งเสียงกระแอมขึ้นคราหนึ่งก่อนกระซิบเบา “ว่าแต่เยว่เอ๋อน้อย เจ้านช่างสามารถกําราบผู้คนได้อยู่หมัดยิ่งนักข้าเห็นเจ้ารับขวัญพวกเฉินไปด้วยสมบัติวิเศษล้ําค่าคาดเดาได้ว่าย่อมมีมูลค่าไม่ต่ากว่า 70 หรือ 80 ล้านหินผลึกกระมัง ?”
“ทว่าเยว่เอ๋อน้อย เจ้าจะลําเอียงเช่นนี้ย่อมมิควร ! ดูเถิด ข้าคือผู้ติดตามคนแรกของเจ้า ทว่าผู้อื่นได้พบเจอเจ้าเพียงคราแรกล้วนได้ของรับขวัญล้ําค่ามากมายคงมีเพียงข้าผู้เดียวที่ยังมิเคยได้รับของปลอบขวัญจากเจ้า”
ขณะกล่าวว่า ชายหนุ่มขยับเอนกายพิงเสาหินในศาลา มุมปากขยักยิ้มเล็กน้อย ดวงตาสีดอกท้อยังคงมอบความอบอุ่นราวฤดูใบไม้ผลิ ตลอดทั่วสรรพางค์กายแผ่กลิ่นอายแห่งความดึงดูดเปี่ยมเสน่ห์ถ้อยคําช่างออดอ้อนฉอเลาะคล้ายเด็กน้อยที่ถูกตามใจจนเสียคน
***จบตอน มั่งคั่ง***