หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 931 โชคชะตาที่บังเอิญพบเจอโดยไม่คาดคิด / ตอนที่ 932 สามขวบ PK สองขวบครึ่ง
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 931 โชคชะตาที่บังเอิญพบเจอโดยไม่คาดคิด / ตอนที่ 932 สามขวบ PK สองขวบครึ่ง
ตอนที่ 931 โชคชะตาที่บังเอิญพบเจอโดยไม่คาดคิด
เหนียนเสี่ยวมู่นึกไม่ถึงว่าเจิ้งเหยียนจะพาเธอมาห้างสรรพสินค้าที่อยู่ภายใต้การบริหารของตระกูลมั่ว
แต่พอคิดดูอีกทีก็คิดว่าไม่ได้แปลกอะไร
เพราะตระกูลมั่วได้ชื่อว่าเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลในเมืองN
ทุกกิจการล้วนเกี่ยวข้องกับตระกูลมั่ว
เธอยังไม่ทันได้ถามอะไร เจิ้งเหยียนก็ลากเธอเข้าไปในห้างสรรพสินค้าด้วยความตื่นเต้น
ทีแรกก็แค่อยากจะมาดูชุดราตรี แต่พอสองสาวเดินไปถึงชั้นแรกของห้างสรรพสินค้าและได้เจอตุ๊กตาน่ารักๆที่เรียงอยู่เต็มแถวก็อดไม่ได้ที่จะร้องกรี๊ดออกมา จับมือพากันเข้าไปข้างใน
เมื่ออวี๋เยว่หานและผู้ช่วยที่เดินตามมาจากข้างหลังเห็นพวกเธอหายตัวไปภายในพริบตา ก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะเอ่ย
เมื่อเดินตามไปข้างหน้าก็เห็นคนทั้งสองที่เพิ่งบอกว่าจะไปซื้อชุดราตรีกำลังกอดจี้ตุ๊กตาจิ๋วคนละสองสามชิ้น ต่างคนต่างก็ปล่อยมือไม่ลง
เจิ้งเหยียนมาคนเดียว เธอจึงอุ้มตุ๊กตาตัวโปรดของตัวเองเดินไปที่แคชเชียร์โดยตรง
ส่วนเหนียนเสี่ยวมู่จ้องหน้าอวี๋เยว่หานที่กำลังอยู่ในอาการมึนงง ก้าวไปข้างหน้า
ชูของที่อยู่ในมือพร้อมกับขายความน่ารัก “เทพบุตรจ๋า คุณจะซื้อให้ฉันใช่ไหม?”
“……”
“คุณดูจี้ตุ๊กตาพวกนี้สิ พวกมันน่ารักขนาดไหน ไม่ใช่แค่ฉันที่ชอบมัน เสี่ยวลิ่วลิ่วก็ต้องชอบแน่ๆ!”
“……”
“คุณไม่ยอมซื้อจี้ตุ๊กตาพวกนี้ให้ฉัน คุณจะต้องไม่รักฉันแล้วแน่เลย…”
ก่อนที่เหนียนเสี่ยวมู่จะพูดจบ อวี๋เยว่หานก็หยิบแบล็กการ์ดออกมาจากกระเป๋าเสื้อยื่นให้เธอเพื่อให้เธอไปจ่ายเงิน
ยังเดินไปไม่ถึงร้านขายชุดราตรีโดยเฉพาะ เหนียนเสี่ยวมู่กับเจิ้งเหยียนก็ได้ถุงเล็กถุงใหญ่ติดไม้ติดมือไปเรียบร้อยแล้ว
โชคดีที่ผู้ช่วยตามพวกเขามาด้วย จึงให้เขาเอาของไปเก็บที่รถก่อนด้วยความเห็นใจ
“ฉันนึกว่าจะมีฉันคนเดียวเสียอีกที่ชอบซื้อๆๆ ไม่คิดว่าเธอจะเป็นเหมือนกันและยังไม่ด้อยกว่าฉันเลยสักนิด” เจิ้งเหยียนพูดด้วยความพอใจพลางนับของกองใหญ่ที่ตัวเองซื้อ
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้พูดอะไรเพราะยังยุ่งอยู่กับการถือเสื้อเชิ้ตเทียบกับขนาดตัวอวี๋เยว่หาน
เสื้อผ้าของเขาเป็นเสื้อผ้าที่ตัดเย็บเองทั้งหมด น้อยมากที่จะให้เธอซื้อ
ไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสมาเดินช้อปปิ้งด้วยกัน เธอจึงอยากซื้ออะไรให้เขาสักหน่อย
แต่ใครจะรู้ล่ะว่าไม่ว่าเธอจะหยิบเสื้อแบบไหนมาทาบบนตัวเขา ก็ดูดีจนคนพูดไม่ออก
รูปร่างของอวี๋เยว่หานเป็นไม้แขวนเสื้อโดยธรรมชาติจริงๆ
“ชุดนี้และยังมีอีกสองชุดนี้ ห่อให้ด้วยนะคะ” เหนียนเสี่ยวมู่สั่งพนักงานคิดเงิน จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เธอหันไปมองอวี๋เยว่หาน “คุณจะชอบมันไหม?”
อวี๋เยว่หานหยิกแก้มเธอที่ดูเป็นกังวล ดวงตาดำขลับแฝงไปด้วยความรักใคร่
“ชอบสิ ของที่คุณซื้อให้ผมก็ชอบหมดแหละ”
ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการหาเงินของผู้ชายก็คือการให้ผู้หญิงตัวเองซื้อซื้อซื้อ
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เธอยังซื้อให้เขาอีกด้วย
เขาชอบมากไม่ไหวแล้ว
ในที่สุดเหนียนเสี่ยวมู่กับเจิ้งเหยียนก็ช้อปปิ้งจนเหนื่อย สุดท้ายก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ตัวเองตั้งใจมาซื้อชุดราตรี
“คุณเจิ้ง” ทันทีที่คนของร้านชุดราตรีเห็นเจิ้งเหยียนก็รีบทักทายอย่างสุภาพ
ดูออกว่าเจิ้งเหยียนน่าจะเป็นแขกประจำของร้านนี้
“ฉันมาที่ร้านชุดราตรีร้านนี้เป็นประจำ เมื่อไหร่ที่ใกล้จะถึงวันงานแล้วสั่งตัดชุดราตรีไม่ทัน ฉันก็จะมาเลือกชุดที่ร้านนี้แหละ ชุดราตรีของที่นี่มีแค่ชุดเดียว เธอไม่ต้องกังวลว่าจะไปใส่ซ้ำกับคนอื่น เราค่อยๆ เลือกกันเถอะ”
เจิ้งเหยียนดึงเหนียนเสี่ยวมู่เข้ามาข้างใน
ส่วนอวี๋เยว่หานกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่บนโซฟาพลางดูทั้งสองเลือกชุดราตรี
เหนียนเสี่ยวมู่หยิบชุดเดรสยาวสีฟ้าอ่อน ขณะกำลังจะลองกับเจิ้งเหยียน จู่ๆ ก็เห็นพนักงานร้านรีบออกไปด้วยความประหม่า
ไม่ใช่แค่คนเดียว ทุกคนต่างก็เดินออกไปด้วยความประหม่าเช่นกัน
ยืนอย่างเรียบร้อย
“คุณชายหย่งเหิง”
เหนียนเสี่ยวมู่อึ้งไปชั่วขณะและหันมองไปข้างนอกโดยไม่รู้ตัว
บังเอิญสบตากับสายตาเย็นชาของมั่วหย่งเหิง...
ตอนที่ 932 สามขวบ PK สองขวบครึ่ง
มั่วหย่งเหิงมีท่าทีเย็นชาเหมือนกับตอนที่เหนียนเสี่ยวมู่เจอเขาครั้งแรก
รอบๆยังคงรายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดรูปร่างกำยำที่เดินตามกันมาอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งสองสบตากันกลางอากาศภายในชั่วขณะ ก่อนที่เหนียนเสี่ยวมู่จะรู้สึกตัว มั่วหย่งเหิงก็ละสายตาเย็นชาที่มองเธอ โดยมองไปยังกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าที่กำลังทักทายเขาอย่างสุภาพ
สุดท้ายก็มองไปทางอวี๋เยว่หานที่กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่บนโซฟา
ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เป็นไปได้ยากที่จะทำให้คนมองข้ามอวี๋เยว่หาน
ด้วยกลิ่นอายอันทรงพลัง แม้จะตั้งใจไม่เป็นจุดสนใจ แต่ก็แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป
เมื่อได้ยินความเคลื่อนไหวที่หน้าประตู เขาก็วางแก้วกาแฟในมืออย่างไม่ใส่ใจ ลุกจากโซฟาเดินไปข้างๆเหนียนเสี่ยวมู่
เลิกคิ้วมองไปยังคนที่อยู่หน้าประตู
“นั่นคือมั่วหย่งเหิง เป็นคนของตระกูลมั่วที่ฉันบังเอิญเจอตอนที่ไปทิ้งขยะ”
“ทิ้งถุงยาง” อวี๋เยว่หานพูดเสริม
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” อยู่ในที่สาธารณะทั้งยังมีคนเยอะแยะ พวกเขาไม่คุยเรื่องทะลึ่งกันจะได้ไหม?
อีกอย่าง ถึงเธอจะเอาถุงยางไปทิ้ง เขาก็ยังไม่ทำอย่างที่ควรจะทำ
ตั้งชื่อซะสวยหรู : ให้บทเรียนกับเธอ
นี่ก็ไม่รู้ว่าจะท้องหรือเปล่า
พอนึกถึงเรื่องนี้ เหนียนเสี่ยวมู่ก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มคำนวณระยะปลอดภัยอยู่ภายในใจ…
เมื่ออวี๋เยว่หานเห็นว่าเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้เพ่งความสนใจไปที่มั่วหย่งเหิง เขาก็ยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ
ภาพนี้ตกอยู่ในสายตามั่วหย่งเหิง รูม่านตาหด
เขาเดินมาข้างหน้าพร้อมกับยื่นมือมา
“คุณชายหาน ผมชื่นชมคุณมานานแล้ว”
“เช่นกัน” อวี๋เยว่หานค่อยๆ ยื่นมือออกไปจับมือเขากลับ
เป็นเพียงการจับมือในยามพบปะด้วยความเป็นมิตร มั่วหย่งเหิงรับกล่องจากพนักงานร้านเสร็จก็หันออกไป
จนกระทั่งเหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าขึ้นมา เขาก็หายไปแล้ว
ไม่เห็นแม้กระทั่งเงาบอดี้การ์ดของเขา…
“มั่วหย่งเหิงล่ะ?” เธอถาม
อวี๋เยว่หาน “ไปแล้ว ทำใจไม่ลงเหรอ?”
เหนียนเสี่ยวมู่ “….” หึงมากซะด้วย
แค่จะดูหน่อยก็ไม่ได้
เมื่อเทียบกับเหนียนเสี่ยวมู่ที่โมโหแต่ไม่กล้าพูดออกมาแล้ว พนักงานในร้านต่างก็หูตาเป็นประกายเมื่อเห็นหนุ่มหล่อ
“คุณชายหย่งเหิงเท่จังเลย ฉันเคยเจอเขามาหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่เคยได้ยินเขาพูดมาก่อน ไม่คิดว่าวันนี้เขาจะยอมพูด!”
“แม้จะเป็นแค่ประโยคเดียว ฉันก็รู้สึกชีวิตได้ถูกเติมเต็ม…”
“ไม่ต้องบอกเลยว่าเสียงของคุณชายหย่งเหิงเพราะขนาดไหน ฉันยังเคลิ้มกับมันอยู่เลย…”
และยังมีคำพูดอื่นที่คล้ายกัน
เหนียนเสี่ยวมู่เบะปากใส่อวี๋เยว่หานเพื่อให้เขารับรู้ถึงความรู้สึกตัวเอง
หนุ่มหล่อเป็นทรัพยากรที่ใช้ร่วมกันทั้งจักรวาล
ไม่ดูก็เสียดายเปล่า
อวี๋เยว่หานชำเลืองใบหน้าเล็กๆที่กำลังได้ใจ หมุนศีรษะเธอมาอีกด้าน
อีกมุมหนึ่ง พนักงานสาวๆ หลายคนกำลังถือโทรศัพท์แอบถ่ายอวี๋เยว่หาน ปากยังคงกรีดร้องด้วยความตื่นเต้น
“พระเจ้า! ช่างเป็นผู้ชายที่หล่ออะไรขนาดนี้ พอเขาเดินไปทางนั้นฉันก็เข่าอ่อนไปหมดแล้ว เธอมาพยุงฉันหน่อยเร็ว…”
“หล่อสามร้อยหกสิบองศา เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นผู้ชายที่หล่อกว่าคุณชายหย่งเหิง ฉันก็เข่าอ่อนเหมือน…”
“ผู้หญิงข้างๆ นั่นคือแฟนของเขาใช่ไหม น่าอิจฉาจัง!”
“……”
เป็นคำพูดที่คลั่งไคล้ยิ่งกว่า
มีใครบางคนคิดว่านี่ยังยั่วโมโหเธอไม่พออีก เขายังจงใจโน้มหน้ามาที่ข้างหูเธอแล้วบอกว่า
“หนุ่มหล่อเป็นทรัพยากรที่ใช้ร่วมกันทั้งจักรวาลไม่ใช่เหรอ? หืม?”
“…” ทรัพยากรที่ใช้ร่วมกันกับผีน่ะสิ คู่หมั้นของเธอเป็นของเธอแค่คนเดียว
ทนไม่ได้ที่จะให้คนอื่นมอง
เหนียนเสี่ยวมู่หลุบดวงตาเจ้าเล่ห์ลง ขณะที่คิดว่าเขายั่วโมโหเธอมากพอแล้ว เธอก็จงใจยืดตัวตรงเงยหน้าขึ้นทันที
ริมฝีปากสีเชอร์รี่ปัดผ่านริมฝีปากบางของเขา…