หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 795 เข้าสู่งานแต่งงาน
ตอนที่ 795 เข้าสู่งานแต่งงาน
“พวกเราเป็นช่างแต่งหน้าที่ประธานพันเดชสั่งให้มาแต่งหน้าแล้วก็สไตล์ลิสต์ค่ะ! ” ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าพูด
ทันใดนั้นไปรยาก็ตระหนักได้ มองหน้าพวกเขา “ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ? ”
“ตีห้า! ”
ไปรยามองพวกเขา “พวกคุณรอแป๊บนึงนะคะ เจ้าสาวพึ่งจะตื่น……”พอพูดจบก็รีบปิดประตูแล้วก็ไปเรียกจิดาภากับแก้ว
เพราะว่าเมื่อคืนสนุกไปหน่อย ตอนนี้ ก็เลยลืมไปซะสนิทเลย!
พอได้ยินเสียงเรียกของไปรยา จิดาภากับแก้วถึงได้ค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากเตียง แล้วก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อย
หลังจากรอให้พวกเธอตื่น ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ไปรยามองสไตลิสต์ที่อยู่ด้านนอก แล้วก็ยิ้มอย่างเก้อเขิน “ขอโทษด้วยนะคะ ที่ให้พวกคุณรอนาน ตอนนี้พวกคุณเข้ามาแต่งหน้าได้แล้วค่ะ! ”
ช่างแต่งหน้ายิ้มอย่างสุภาพมาก แล้วก็พาคนเดินเข้ามา
จิดาภาเปลี่ยนชุดแต่งงานทันที หลังจากนั้นก็เริ่มแต่งหน้า หลังจากที่จิดาภาแต่งหน้าใกล้เสร็จ ก็เริ่มแต่งให้ไปรยากับแก้ว
ทำไปทำมา ฟ้าก็สว่างอย่างรวดเร็ว มีแสงแดดส่องผ่านกระจกเข้ามา ไม่ต้องแปลกใจ วันนี้อากาศดี
หลังจากแต่งหน้าให้พวกเธอเสร็จ ก็แปดโมงแล้ว ตอนนี้เอง ด้านนอกก็มีคนมาเยอะแล้ว
ตอนนี้เอง แก้วกับไปรยามองจิดาภา ดวงตามีความอิจฉา ชุดประดับด้วยเพชร การแต่งหน้าที่ละเอียดอ่อน รูปร่างสวยงาม สามารถอธิบายได้ว่า ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าตอนนี้ เป็นผู้หญิงที่สวยเลิศล้ำที่สุดแล้ว
“จิ เธอเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ! ” แก้วอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม
“ใช่เลย และเป็นเจ้าสาวที่ดูหรูหรามากที่สุดด้วย! ” ไปรยาก็พูดออกมาอย่างอดไม่ได้
ประโยคนี้ ทำให้คนอื่นหัวเราะในทันที แต่ว่าไปรยาก็มีสีหน้าจริงจัง “ฉันพูดความจริงนะ เพชรที่อยู่บนตัวเธอ ต้องทำให้คนอื่นเป็นบ้าไปแน่เลย! ”
พันเดชฟุ่มเฟือยเกินไปจริงๆ
แก้วกลับพูดว่า “ชุดเจ้าสาวเป็นความฝันทั้งชีวิตของผู้หญิง การที่ได้หรูหราขนาดนี้ครั้งนึง ก็ไม่เปล่าประโยชน์ ถ้าเกิดว่าสามารถทำได้ มีผู้หญิงคนไหนไม่อยากได้บ้างล่ะ! ” แก้วพูด
ไปรยาก็เห็นด้วย
พอเห็นว่าพวกเธอทั้งสองคนสอดคล้องกันได้ดี จิดาภาก็ได้แต่ยิ้ม หันหน้าไปมองตัวเองในกระจก จำไม่ค่อยได้
คนในกระจก คือเธอเองจริงๆ หรอ?
ครั้งที่แล้วได้เห็นแค่ตอนที่ใส่ชุดเจ้าสาว แต่ว่าตอนนี้เจ้าสาวที่สมบูรณ์แบบยืนอยู่หน้ากระจก แม้แต่ตัวเธอเองยังรู้สึกเซอร์ไพรส์นิดหน่อย
ตอนที่เธอกำลังชื่นชมตัวเองอยู่นั้น ก็มีเสียงดังขึ้นที่หน้าประตู “จิ! ”
พอได้ยินเสียงนั้น จิดาภาก็หันหน้าไป กชกรก็เดินเข้ามา ใส่ชุดราตรีสีแชมเปญ ดูสง่างามมาก ดูมีบุคลิกที่น่านับถือของคุณผู้หญิง
“พี่สะใภ้ มาแล้วหรอ?! ”จิดาภายิ้มแล้วพูด
กชกรเดินเข้ามา ตอนที่เห็นการแต่งตัวของจิดาภานั้น ก็รู้สึกเซอร์ไพรส์
ดูล้ำค่าแต่ก็ไม่สูญเสียความสง่างาม ดูสวยงามแต่ก็ไม่สูญเสียเสน่ห์ การที่ทุกอย่างมารวมตัวกันนั้น ช่างน่าประทับใจจนทำให้คนที่พบเห็นยากจะลืมจริงๆ แม้แต่ ผู้หญิงด้วยกันมองยังรู้สึกอิจฉาเลย “จิ วันนี้เธอสวยมากจริงๆ! ”กชกรมีความอิจฉาปรากฏขึ้นในดวงตา จิดาภาก็ยิ้มอย่างสง่างาม “ฉันจำได้ว่าตอนงานแต่งของพี่กับพี่ใหญ่ ฉันก็พูดแบบนี้เหมือนกัน เจ้าสาวทุกคนก็สวยที่สุดทั้งนั้นแหละ! ” ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ว่าความสวยของจิดาภานั้น ทำให้คนยากที่จะละสายตา กชกรยิ้ม มองหน้าเธอ “แต่ว่าเธอสวยที่สุดแล้ว! ” จิดาภาก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย ได้แต่ยิ้มเท่านั้น “พี่ใหญ่ล่ะ? ” “อยู่กับพ่อแม่ด้านนอก! ” ตอนที่กำลังพูดอยู่นั้น จันทนีกับการันต์ก็เดินเข้ามา “จิ! ” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ตอนที่เห็นจันทนีกับการันต์เดินเข้ามานั้น จิดาภาก็รู้สึกแสบจมูก น่าจะเพราะว่าเห็นดวงตาที่แดงก่ำของจันทนีแล้วก็สีหน้าที่ไม่อยากปล่อยมือของการันต์ เพราะฉะนั้นเธอก็รู้สึกทนไม่ค่อยได้เล็กน้อย “แม่! ”จิดาภายิ้มแล้วเรียก พยายามอดทนอย่างมากเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา “พ่อ! ”จิดาภามองการันต์แล้วก็เรียกเช่นกัน การันต์พยักหน้า สายตามองไปที่อื่น จันทนีเดินเข้ามา มองเธอ แล้วใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มที่ปลื้มใจ “ลูกสาวของฉันสวยที่สุดอย่างที่คิดเลย! ” จิดาภายิ้ม แต่ว่าดวงตาก็แดงขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ แก้วกับไปรยา แล้วก็กชกรยืนมองอยู่ด้านข้าง ก็อดซึ้งใจไปด้วยไม่ได้จริงๆ กชกรรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก ตอนนั้นที่เธอแต่งงาน ก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน “แม่เป็นยังไงลูกก็ต้องเป็นแบบนั้นสิคะ! ” จันทนียิ้ม มองหน้าเธอ “จิ ถ้าเกิดว่าผ่านปีนี้ไป ลูกก็จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรต้องคิดทบทวนให้ดี แม่ไม่ได้อยู่ข้างลูก ลูกก็ต้องรู้จักดูแลตัวเองนะ! ” จิดาภาพยักหน้า “วางใจเถอะค่ะแม่ หนูจะทำแบบนั้นแน่นอน! ” จันทนียิ้ม ยังอยากจะพูดอะไรอีกมากมาย แต่ก็พบว่า ตอนนี้พูดอะไรไม่ออกเลย ตอนนี้เอง กชกรที่อยู่ด้านหลังก็พูดออกมา “แม่ จิก็แค่แต่งงาน ไม่ได้จะไปที่อื่นซักหน่อย ต่อไปเธอก็สามารถกลับมาเยี่ยมแม่ได้บ่อยๆ! ” ถึงจะพูดแบบนี้ แต่ก็อดเศร้าไม่ได้อยู่ดี จิดาภาพยักหน้า “ใช่ค่ะแม่ วางใจเถอะ หนูเป็นลูกสาวของแม่ และจะเป็นตลอดไป ต่อไปหนูจะกลับไปหาแม่บ่อยๆ แน่นอน! ” จันทนีพยักหน้า “พอแล้ว งานแต่งงานของลูกสาว จะร้องไห้ทำไม! ” จันทนีรีบเก็บน้ำตาของตัวเอง คิดอะไรขึ้นมาได้ ก็หยิบกล่องออกมาจากกระเป๋า “จิ นี่แม่ให้! ” จิดาภาหยิบกล่องนั้นมา “แม่……” “นี่เป็นสินเดิมของฝ่ายหญิงที่พ่อกับแม่เตรียมไว้ให้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ของล้ำค่าอะไรมากมาย แต่ว่าก็เป็นน้ำจิตน้ำใจของพ่อกับแม่! ” จิดาภาเปิดออกมาช้าๆ ด้านในมีสร้อยข้อมือหยก “สร้อยข้อมือคู่นี้ อันหนึ่งเอาให้กชกร เพราะว่าเธอเป็นลูกสะใภ้ของเรา ส่วนอีกอันให้ลูก แม่อยากให้ลูกจำไว้ ไม่ว่าจะเวลาไหน ลูกก็คือลูกสาวของแม่! ”จันทนีพูด จิดาภารู้จักสร้อยข้อมือนี้ ตอนเด็กๆ นั้นเคยเห็นจันทนีหยิบออกมาครั้งหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะเอาไว้ให้พวกเธอ จิดาภาแสบจมูก แล้วก็พุ่งเข้าไป “ขอบคุณนะคะพ่อ แม่! ” ตอนที่พูดอยู่นั้น จิดาภาก็กอดจันทนี แล้วก็กอดการันต์ด้วย “พอแล้วๆ วันนี้ลูกสาวจะแต่งงาน ถ้าเกิดว่าร้องไห้เดี๋ยวต้องแต่งหน้าใหม่ คนมากันหมดแล้ว พวกเราออกไปก่อนนะ! ”การันต์พูด จันทนีถึงได้ปล่อยจิดาภา พยักหน้า “ลูกแต่งหน้าใหม่ก่อนเถอะ เดี๋ยวแม่กับพ่อออกไปก่อนนะ! ” “อืม! ”จิดาภาพยักหน้า จันทนีก็เดินออกไปด้านนอกพร้อมกับการันต์แก้วกับไปรยายืนอยู่ด้านข้าง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกซาบซึ้งใจ โชคดีที่กชกรเข้ามา “พอแล้ว ความเศร้ามันเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ หลังจากแต่งงานเสร็จเธอก็จะรู้ว่ามันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เป็นเด็กดี ไปแต่งหน้าต่อเร็ว! ” พูดเสร็จ ก็ดึงจิดาภาไปตรงกระจก ไปรยากับแก้วก็รีบพูดต่อ “ใช่ ก็แค่แม่รู้สึกเจ็บพวกเพราะรักเท่านั้นเอง” จิดาภายิ้ม เรื่องเหตุผลเธอเข้าใจทั้งนั้นแหละ แต่ว่าเมื่อกี้อดไม่ได้ ตอนนี้จันทนีกับการันต์ออกไปแล้ว เธอก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ตอนที่จิดาภาแต่งหน้าเสร็จทั้งสี่คนก็คุยกันอยู่ในห้อง คิดว่าตอนที่พันเดชมารับเจ้าสาวใหม่นั้น จะจัดการเขายังไงดี ตอนที่ปรึกษากันอยู่นั้น ไปรยาก็มองหน้าจิดาภา “จิ เธอจะไม่ปวดใจใช่มั้ย? ” จิดาภาทำสีหน้าเหมือนอนุญาต “ตามใจเลย! ” “ฮ่าๆๆ เธอพูดแบบนี้ฉันก็วางใจแล้ว! ” ไปรยาหัวเราะออกมาเสียงดัง คิดวิธีที่จะลงโทษพันเดชออกแล้ว ตอนที่เธอกำลังภาคภูมิใจอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากด้านนอก “เจ้าบ่าวมาแล้ว! ” ประโยคนี้ ไปรยากับแก้วก็ตื่นเต้นเหมือนกับลิงโลด รีบลุกขึ้นไปปิดประตู แล้วล็อกทันที ทั้งสองคนยืนอยู่หน้าประตู รอให้พันเดชมารับเจ้าสาว จิดาภากับกชกรก็นั่งอยู่บนเตียงแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุขมาก แน่นอน หลังจากผ่านไปแป๊บนึง ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู “เปิดประตู มารับเจ้าสาวแล้ว! ” ตอนนี้เอง กชกรก็รีบวิ่งไปช่วย “คนข้างนอกคือใครกัน? ” “ก็ต้องเป็นเจ้าบ่าวแน่นอนสิ! ” ถึงแม้ว่าจะตอบแบบนี้ แต่ว่าคนที่พูดนั้นไม่ใช่พันเดชแน่นอน แต่คือลาภิศ…… “แต่ว่าฟังดูไม่เหมือนเสียงของเจ้าบ่าวเลย! ” แก้วตอบ และแล้ว ด้านนอกก็หารือกัน พันเดชก็พูดว่า “ฉันเอง เมียจ๋า ฉันมารับเธอแล้ว! ”พันเดชตะโกนอยู่ด้านนอก น้ำเสียงน่าดึงดูด แล้วน่าหลงใหลมาก ต่อให้เป็นการตะโกน แต่ว่าก็ยังน่าฟังมาก จิดาภานั่งอยู่บนเตียง พอได้ยินเสียงนั้นก็คลี่ยิ้มออกมา แต่ว่าไม่ได้ตอบรับ “อืม ครั้งนี้ใช้ได้เลย แต่ว่าอยากจะรับเจ้าสาวไปไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ? ” “ไม่ยังงั้นล่ะ? ”คนด้านนอกเหมือนกับว่ามีความอดทนมาก เหมือนกับว่ารู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดขึ้น “อืม……” ไปรยาคิดอยู่ซักครู่ แล้วพูดว่า “งั้นเอางี้ เจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าบ่าวต้องวิดพื้น50ครั้ง! ” วิดพื้นงั้นหรอ??? พอได้ยินแบบนี้ เสียงของลาภิศก็ดังขึ้นมาทันที เขาไม่ได้ได้ยินผิดใช่มั้ย? หันไปมองหน้าพันเดช แล้วก็จัสตินและปาณชัย พวกเขาคือคุณชายทั้งสี่แห่งเมืองA แล้วต้องมาวิดพื้นตรงนี้เนี่ยนะ? “ทำไม? ไม่อยากทำหรอ? ถ้ายังงั้นก็ช่างเถอะ มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลย! ” ไปรยาตอบ ในใจมีแต่ความตั้งใจที่จะลงโทษพวกเขา กชกรกับแก้วหัวเราะอยู่ข้างๆ ลาภิศ “……” เห็นว่าคนอื่นไม่ได้พูดอะไร ลาภิศก็ตัดสินใจใช้ทักษะในการเจรจา เขาก้าวไปด้านหน้า เคาะประตู “คุณไปรยา ผมมีเรื่องอยากปรึกษากับคุณหน่อย พวกเรามารับตัวเจ้าสาว แต่จะให้มาวิดพื้นตรงนี้คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง? ” ไปรยาไม่พูดอะไร “งั้นเอางี้ ขึ้นหน้าปกสี่ฉบับ! ” “ไม่ได้! ” “ห้าฉบับ! ” “ลาภิศ ต่อให้วันนี้คุณให้สิบฉบับ ฉันก็ไม่ตกลงหรอก ทำก่อนเร็ว! ” “ก็ได้ สิบฉบับ! ” ลาภิศตีประตูแล้วพูด ดังนั้น ไปรยาก็อึ้งไป ถ้าจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรก็ถือว่าโกหก เหมือนกับว่าจะมองออกว่าไปรยาใจสั่น กชกรกับแก้วมองหน้าเธอ แล้วเอ่ยปากเตือน “อย่าไปเชื่อคำพูดของเขา นี่มันเป็นกลยุทธ์! ”