หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 628 คุณย่าฟื้นแล้ว
ตอนที่ 628 คุณย่าฟื้นแล้ว
“คุณคือ..”
“อ๋อ ฉันมาตามหาเพื่อนน่ะค่ะ”
“คุณเป็นคนที่เคยอยู่ที่นี่ใช่ไหม”
ไปรยาพยักหน้า “ใช่ค่ะ”
“เขาย้ายออกไปแล้ว!”
“ย้ายออกไปแล้วเหรอ” ไปรยารู้สึกยากที่จะเชื่อ เธอมองไปที่คนที่กำลังย้ายของอยู่ที่ด้านในแล้วขมวดคิ้ว “แล้วเขาย้ายไปไหนคะ”
คนคนนั้นยกยิ้มขึ้นมาอย่างอึดอัด “ไม่รู้เหมือนกัน!”
ไปรยายืนตะลึงอยู่ที่ตรงนั้น
จะยังไงก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้
เธอมองไปที่คนคนนั้นแล้วพยักหน้าอย่างใจลอย “ค่ะ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ!”
“ไม่เป็นไร!”
ไปรยาเดินออกมาจากที่นั้น แต่ทว่าหัวใจกลับว่างเปล่าราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างหายไป รู้สึกไม่สบายที่หัวใจเอามาก ๆ
หลังจากที่ขึ้นรถไปแล้ว ไปรยาก็ด่าออกมาอย่างหยุดเอาไว้ไม่อยู่ “SHIT! เนรคุณดีจริง! บอกไม่ต้องมาพบก็ไม่พบจริง ๆ ”
คิด ๆ ดูแล้วบางทีเขาอาจจะไปมีวันเวลาที่ดีกับตุลยาแล้วก็ได้!
พอคิดได้แบบนี้แล้ว เธอก็สตาร์ทรถ “ช่างเถอะ ในเมื่อเขาจะตัดสินใจแบบนี้แล้ว เธอจะกังวลแทนเขาไปทำมะเขืออะไร!” คิดแล้วก็ขับรถออกไป
เธอคิดว่าในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ก็ช่างเถอะ
แต่ทว่าในวันที่สองเธอก็ได้เห็นข่าวว่าคำตัดสินเรื่องการใช้สารเสพติดของตุลยาออกมาแล้ว เธอจะต้องถูกกักตัวเอาไว้สิบถึงสิบห้าวัน จากนั้นก็ต้องดำเนินการจ่ายค่าปรับ!พอเห็นเนื้อหาข่าวแล้วไปรยาก็ขมวดคิ้ว คนแบบนี้สมควรตัดสินสักหลาย ๆ ปี!ถึงเธอจะคิดแบบนั้น แต่พอเห็นข่าวนี้แล้วเธอก็รู้ได้ทันทีว่าเอลิสต์ไม่ได้อยู่กับตุลยา ถ้าอย่างนั้นเขาไปอยู่ที่ไหนกันละเรื่องของตุลยาเพิ่งจะถูกตัดสิน ทั้งยังออกอากาศไปทุกสถานีโทรทัศน์แล้วด้วยนี่ทำให้ตระหนักได้ว่าเพียงแค่ตุลยายอมรับผิด หลังจากที่ถูกกักตัวไว้เธอก็จะถูกปล่อยออกไป ที่แผนกออกแบบหลังจากได้เห็นข่าวนี้แล้วก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา จิดาภาก็เช่นกัน ไม่ได้มีความคิดเห็นหรือรู้สึกหดหู่ใด ๆ กับเรื่องนี้กลับกันกับตมิศา หลังจากที่เห็นข่าวนี้แล้วเธอก็ขมวดคิ้ว สีหน้าเองก็ไม่ดีเอามาก ๆคนจำนวนไม่น้อยในแผนกออกแบบถอนหายใจให้กับเรื่องนี้ แต่ก็เห็นชัด ๆ ว่าไม่ได้ดุเดือดอย่างเช่นหลายวันก่อนพันเดชดูรายงานข่าวจากทีวีในห้องทำงาน สีหน้าของเขาจมลง ท้ายที่สุดก็ปิดทีวีลงแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เขากำลังพิจารณาว่าควรที่จะทำอะไรสักหน่อยหรือไม่…จิดาภาไปโรงพยาบาลในช่วงบ่ายเห็นอยู่ชัด ๆ ว่ารู้แล้วว่าคนที่ทำให้หญิงชราได้รับบาดเจ็บก็คือตุลยา แต่ก็ไม่มีวิธีจัดการ จิดาภาเองก็ไม่รู้ว่าพันเดชจะลงมือทำอะไรหรือเปล่า แต่ตามสถานการณ์ปัจจุบันแล้วสิ่งต่าง ๆ ก็ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หลังจากมาถึงโรงพยาบาลแล้ว จิดาภาก็ยังคงล้างหน้าเช็ดตัวให้กับหญิงชราจากนั้นก็พูดคุยกับเธอไปด้วยหลังจากล้างหน้าบ้วนปากเสร็จ จิดาภาก็นั่งลงแล้วพูดกับหญิงชรา “คุณย่าคะ ตอนนี้พวกเรารู้แล้วนะคะว่าแท้จริงแล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตุลยา” “คุณย่ายังไม่ฟื้นแบบนี้ แล้วใครจะมาเป็นเจ้าภาพในงานแต่งงานของพวกเราละคะ!” จิดาภามองไปที่หญิงชรา คนที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าเธอกำลังพูดอยู่กับตัวเองพอมองไปที่หญิงชราที่ยังคงนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียงไม่ได้มีอะไรที่แปลกไป พอดีกับที่เธอวางมือของอีกฝ่ายลงและออกไป ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ว่านิ้วมือของหญิงชราขยับเบา ๆ จิดาภาชะงัก คิดว่าตัวเองรู้สึกไปเอง แต่พอลองมองอย่างละเอียดอีกครั้งแล้ว มันใช่จริง ๆ นิ้วมือของหญิงชรากำลังขยับจริง ๆ จิดาภารู้ว่านี่เป็นปรากฏการณ์ที่ดี เพราะคุณหมอได้บอกเอาไว้ว่านี่เป็นลักษณะของการตื่น“คุณย่า คุณย่า…” แววตาที่จิดาภาใช้มองหญิงชราแฝงไปด้วยความดีใจและประหลาดใจ“คุณย่าได้ยินที่หนูพูดไหมคะ”เห็นแค่เพียงว่าแพขนตาของหญิงชรากำลังไหวสั่น หลังจากนั้นดวงตาก็ค่อย ๆ ลืมขึ้นพอได้เห็นภาพนี้ จิดาภาก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากราวกับว่ากำลังฝันอยู่ก็ไม่ปาน “คุณย่าฟื้นแล้วเหรอคะ”หญิงชรามองจิดาภาแล้วก็ค่อย ๆ พูดออกมาช้า ๆ “ถ้าฉันยังไม่ฟื้นขึ้นมาอีกก็คงถูกเธอบ่นจนตาย…”จิดาภาหัวเราะออกมา แต่ไม่รู้ว่าทำไมที่เบ้าตาถึงเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ในตอนนี้เอง จิดาภากดลงไปบนปุ่มที่อยู่บนหัวเตียง ผ่านไปไม่นานนักคุณหมอก็เดินเข้า“เกิดอะไรขึ้นครับคุณจิดาภา” แต่ทว่าพอมองไปเห็นหญิงชราที่อยู่บนเตียง คุณหมอก็รู้สึกประหลาดใจ เขารีบเข้าไปตรวจดูทันทีจิดาภายืนอยู่ด้านข้างคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็รีบต่อสายโทรศัพท์หาพันเดชกับวรชิตหลังจากวางสาย เธอก็เข้ามายืนมองและรออยู่ที่ข้าง ๆ แต่ก็เห็นได้ชัดว่ายังไม่ได้สติดีจากความดีใจและประหลาดใจนี้แต่ทว่าหลังจากผ่านไปได้สักพัก เมื่อคุณหมอตรวจเสร็จก็ยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “ยินดีด้วยครับคุณจิดาภา หญิงชราฟื้นแล้ว อีกทั้งยังไม่มีปัญหาอะไรอีกด้วย เลือดที่อุดตันอยู่ในสมองก็ไม่มีแล้ว บำรุงอีกสักหน่อยก็จะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้โดยเร็ว!”“จริงเหรอคะ”คนเป็นหมอพยักหน้า เหมือนว่าอัตราความเป็นไปได้ที่จะฟื้นขึ้นมามีแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ แต่เห็นชัด ๆ แล้วว่าหญิงชราเป็นคนที่โชคดีที่สุดคนนั้น!“ขอบคุณค่ะคุณหมอ!”“ไม่เป็นไรครับ!”พูดจบคุณหมอก็เดินออกไปจากห้องพักฟื้นจิดาภาที่ยืนมองหญิงชราจากตรงนั้น ก็รีบเดินเข้าไปหา “คุณยายคะ ดีจังเลยที่ฟื้นแล้ว!”“เธอมารบกวนฉันทุกวัน ถ้าฉันยังไม่ฟื้นอีกก็คงต้องถูกเธอบ่นจนตาย!” หญิงชราพูดพอพูดแบบนี้แล้ว จิดาภาก็ยิ้มออกมา ดวงตาคลอด้วยหยาดน้ำใส เห็นได้ชัดว่าเธอตื่นเต้นมาก เป็นแบบนี้ยังสามารถฟื้นขึ้นมาได้ ช่างโชคดีมากจริง ๆ !ตอนที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ จู่ ๆ ประตูก็ถูกผลักให้เปิด พันเดชปรากฏขึ้นที่หน้าประตูอย่างรวดเร็วตอนที่เขาเดินเข้าไป จิดาภากำลังป้อนของอาหารให้กับหญิงชราภาพนั้นช่างเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเย็นสบาย“คุณย่าครับ…” พันเดชรีบเดินเข้ามา เขามองไปที่หญิงชรา “คุณย่าเป็นยังไงบ้างครับ ไม่ได้รู้สึกไม่สบายตรงไหนใช่ไหมครับ”“เมื่อกี้หมอเขามาตรวจแล้วบอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่บำรุงอีกไม่กี่วันคุณย่าก็จะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วค่ะ!” จิดาภายิ้มแล้วพูดออกมา อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีมาก ๆ ในช่วงเวลาที่อบอุ่นเช่นนี้ ได้ยินดังนั้นพันเดชก็มองจิดาภาครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองหญิงชรา “ถ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนต้องบอกนะครับ!”“เจ้าเด็กคนนี้นี่ เอาแต่แช่งให้ฉันไม่สบายอยู่นั่นแหละ!” หญิงชราต่อว่าด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้ว่าจะดูเป็นคำตำหนิ แต่ก็ฟังออกถึงความรักความโปรดปรานที่มีต่อพันเดชพันเดชเองก็ยิ้มออกมาทั้งสามคนพูดคุยกันอย่างมีความสุขอยู่ในนั้น หลังจากนั้นไม่นานวรชิตกับคุณหญิงภารดีก็ตามมาพอเห็นว่าหญิงชราฟื้นแล้วทั้งคู่ก็ดีใจเป็นอย่างมากตระกูลฐิตานันท์นั้นมีความซื่อสัตย์เป็นคุณธรรมประจำตระกูล สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้จิดาภารู้สึกอิจฉาและเต็มไปด้วยความเคารพนับถือถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พันเดชจะเป็นคนที่ค่อนข้างจะสารเลว แต่เธอมองออกว่าเขาเป็นคนที่ใส่ใจคนในครอบครัว