หมอหญิงยอดมือสังหาร - ตอนที่ 906 การแก้แค้นของคุณชายเว่ย (3)
ตอนที่ 906 การแก้แค้นของคุณชายเว่ย (3)
จูชูอวี้ยิ่งเอ่ย สีหน้าของเซียวเชียนเหว่ยก็ยิ่งเคร่งขรึมขึ้น เห็นเขาเป็นเช่นนี้ จูชูอวี้รู้สึกว่าตัวเองกล่าวมากพอแล้วจึงหยุดลง จากนั้นพลับเอ่ยเบาๆ “ข้ากังวลเจ้าค่ะ หากเอ่ยสิ่งใดผิดไป ท่านพี่โปรดอย่าได้ถือสา
เซียวเชียนเหว่ยส่ายหน้า ฝืนยิ้มพลางเอ่ย “ข้ารู้ว่าเจ้าทำเพื่อเรา”
เรื่องที่จูชูอวี้เอ่ย เซียวเชียนเหว่ยเองก็เคยคิด เมื่อต้องเผชิญกับอํานาจ บางครั้งแม้แต่พ่อแม่หรือพี่น้องแท้ๆ ยังพึ่งพาไม่ได้ นับประสาอันใดกับลูกพี่ลูกน้อง แต่ความไว้วางใจและการให้ความสําคัญของเสด็จพ่อที่มีต่อพี่ชาย พวกเขาสามพี่น้องรวมกันยังสู้อีกฝ่ายไม่ได้ กองกำลังทหารกว่าแสนนาย เขตปกครองกว้างใหญ่ไพศาล ล้วนแต่มอบให้เขา ราวกับไม่เคยนึกถึงผลที่จะตามมา หรือว่าเสด็จพ่อเชื่อว่าพี่ชายไร้ซึ่งความทะเยอทะยานจริงๆ
“เรื่องนี้ เจ้าคิดว่าควรทำเช่นไร” เซียวเชียนเหว่ยถาม
จูชูอวี้ยิ้มอย่างแผ่วเบา เอ่ย “ตอนนี้เสด็จพ่อคงจะได้ข่าวจากเสด็จแม่และชายารองกงแล้ว ดูว่าเสด็จพ่อจะจัดการเช่นไรดีกว่าเจ้าค่ะ”
พวกเขาทั้งสองยังเอ่ยไม่ทันจบ ก็ได้ยินเสียงองครักษ์ดังออกมาจากด้านนอก “คุณชายรองขอรับ ท่านอ๋องเชิญไปพบ”
เซียวเชียนเหว่ยกับจูชูอวี้สองสามีภรรยาเดินมาที่กระโจมของเยี่ยนอ๋อง ก็เห็นเซียวเชียนจย่ง เสียนเกอและเนี่ยนหย่วนรอพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว เซียวเชียนจย่งดูอารมณ์ดีไม่น้อย ยิ้มให้เซียวเชียนเหว่ย “พี่รอง พี่สะใภ้รอง มาแล้วหรือขอรับ”
เซียวเชียนเหว่ยเลิกคิ้ว “มีเรื่องอันใดหรือ น้องสามถึงได้ดีใจเพียงนี้”
คุณชายเสียนเกอนั่งพิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน เอ่ยว่า “คุณชายสามกำลังจะมีลูก จะไม่ดีใจได้เช่นไร”
“เอ๋ เช่นนั้นต้องแสดงความยินดีกับน้องสามจริงๆ” เซียวเชียนเหว่ยยิ้ม แต่สายตาของเขากลับทะมึนขึ้น พวกเขาสามพี่น้อง พี่ใหญ่มีบุตรสาวแล้วหนึ่งคน ตอนนี้ปลดพระชายาซื่อจื่อเพราะไม่มีลูกชายคนโตก็ถือว่าสมเหตุสมผล หากน้องสะใภ้สามมีบุตรชาย เขาก็จะกลายเป็นหลานชายคนโตของจวนเยี่ยนอ๋อง ทว่าตัวเอง…ที่แต่งงานพร้อมกัน น้องสะใภ้สามก็ตั้งครรภ์แล้ว แต่จูชูอวี้กลับยังไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย
เยี่ยนอ๋องเพิ่งรู้ว่าจะมีหลาน อารมณ์ดีไม่น้อย เห็นจูชูอวี้กับเซียวเชียนเหว่ยเดินเข้ามา เขาเพียงขมวดคิ้วแต่ไม่เอ่ยอันใด เยี่ยนอ๋องไม่ชอบจูชูอวี้อยู่แล้ว และยิ่งไม่ชอบให้นางเข้ามาในกระโจมของตนเอง เดิมทีจูชูอวี้เจียมเนื้อเจียมตัวดี แต่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จึงตามเซียวเชียนเหว่ยมา
“นั่งลงเถิด” เยี่ยนอ๋องพยักหน้าแล้วเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
เรื่องที่เยี่ยนอ๋องเรียกพวกเขามา ไม่ใช่เพียงเรื่องที่เซียวเชียนจย่งจะได้เป็นพ่อคนแล้ว เมื่อเซียนเชียนเหว่ยกับจูชูอวี้นั่งลง พวกเขาจึงเอ่ยถาม “ไม่รู้ว่าเสด็จพ่อเรียกลูกมา มีเรื่องใดหรือพ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยนอ๋องหยิบจดหมายสองฉบับในมือขึ้นมาอ่าน เอ่ย “ข้าเพิ่งได้รับจดหมายจากพระชายา บอกว่ามีคนวางยาชายารองกงซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่รู้ว่าคือใคร แต่ว่า…ชายารองกงเขียนจดหมายมา บอกว่าต้องเป็นฝีมือของจวินเอ๋อร์แน่นอน เรื่องนี้พวกเจ้าคิดเห็นเช่นไร”
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว แต่เสด็จพ่อยังเรียกพี่ชายว่าจวินเอ๋อร์ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อคำเอ่ยของชายารองกง ถึงขั้นไม่แม้แต่จะสงสัยในตัวเว่ยจวินมั่ว เซียวเชียนเหว่ยรู้สึกเสียใจ หรือในใจของเสด็จพ่อ บุตรชายแท้ๆ ยังเทียบหลานชายอย่างเว่ยจวินมั่วไม่ได้เลยหรือ
“เชียนเหว่ย?”
ได้ยินเยี่ยนอ๋องเรียกชื่อตัวเอง เซียวเชียนเหว่ยพลันได้สติกลับมา เอ่ยอย่างนอบน้อม “เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด พี่ชายอยู่ที่เฉินโจว เขาจะทำเช่นนี้ได้เยี่ยงไร”
เซียวเชียนจย่งที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้า เอ่ยว่า “ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ อีกอย่าง หากพี่ชายอยากทำอันใดชายารองกง เขาไม่จำเป็นต้องยุ่งยากเช่นนี้ เพียงพี่สะใภ้เป็นคนจัดการ ก็สามารถทำให้ชายารองกงเสียชีวิตได้อย่างไร้ร่องรอย แน่นอนว่านี่เป็นการใส่ร้าย ยิ่งไปกว่านั้น พี่ชายไม่ได้มีความบาดหมางกับชายารองกง ไยเขาต้องทําร้ายนางด้วย”
คุณชายเสียนเกอยิ้มหยัน คร้านจะแสดงความคิดเห็น
เนี่ยนหย่วนขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน เอ่ยถามว่า “ท่านอ๋อง ไม่ทราบว่าที่ชายารองกงเอ่ยเช่นนี้ เป็นการคาดเดาของชายารองกงหรือมีหลักฐานอันใด”
เยี่ยนอ๋องเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่มีหลักฐานอันใด”
เนี่ยนหย่วนถอนหายใจ “หากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นไยชายารองกงถึงสรุปว่าเป็นฝีมือของคุณชายเว่ย ต้องรู้ว่าคุณชายเว่ยออกไปจากโยวโจวเป็นเดือนแล้ว”
เยี่ยนอ๋องไม่เห็นด้วย เอ่ยเสียงเรียบ “ผู้หญิงพูดจาเหลวไหล ไม่ต้องสนใจหรอก ข้าส่งจดหมายไปบอกให้พระชายาดูแลนางแล้ว ได้ยินมาว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มักจะชอบคิดฟุ้งซ่าน นี่คงเป็นครั้งแรกที่ชายารองกงได้เป็นแม่คน นางคงไม่สบายใจ”
“เสด็จพ่อ” จูชูอวี้ที่นั่งอยู่ข้างเซียวเชียนเหว่ยเอ่ยขึ้นมา
สายตาของเยี่ยนอ๋องเย็นชาลง นิ่งมองจูชูอวี้ด้วยสีหน้าเฉยเมย “เจ้าอยากเอ่ยอันใด”
จูชูอวี้ไม่สบายใจ แต่สีหน้าของนางกลับไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ยิ้มด้วยความนอบน้อม “หม่อมฉันคิดว่า…เรื่องนี้ไม่ค่อยถูกต้องเพคะ”
“ไม่ถูกต้องเยี่ยงไร” เยี่ยนอ๋องถาม
จูชูอวี้เอ่ย “ในเมื่ออีกฝ่ายสามารถวางยาในอาหารของชายารองกงซ้ำๆ ทำให้ชายารองกงตกใจจนสติแตก แต่พวกเรากลับทำอันใดเขาไม่ได้ หม่อมฉันคิดว่าเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่ใช่ฝีมือของพี่ชาย แต่หากชายารองกงไม่ยอมเชื่อเช่นนี้ด้วย ก็คงไม่ดีต่อเด็กที่อยู่ในท้อง ยิ่งไปกว่านั้น…คนที่วางยาชายารองกง ต้องจับเขาให้ได้เพคะ ครั้งนี้วางยาแท้งทั่วไปที่เราพอจับได้ แต่ใครจะรู้ว่าครั้งต่อไปอีกฝ่ายจะไม่…”
ยังเอ่ยไม่ทันจบ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะหยันของคุณชายเสียนเกอเสียก่อน เขาเอ่ยขึ้นว่า “ซั่นจยาจวิ้นจู่เอ่ยมาตรงๆ ว่าอยากตรวจสอบเว่ยจวินมั่วก็พอ ไม่ต้องเอ่ยอ้อมค้อมให้เสียเวลา”
จูชูอวี้นิ่ง ยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ข้าเพียงคิดว่า ถึงแม้พวกเราทุกคนจะคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพี่ชายและพี่สะใภ้ แต่ในเมื่อชายารองกงคิดเช่นนี้ ไยเราถึงไม่ใช้หลักฐานทําให้ชายารองกงสบายใจเล่า”
เสียนเกอเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “อยากให้นางสบายใจไม่ใช่เรื่องยาก” เสียนเกอโยนขวดยาให้จูชูอวี้แล้วเอ่ยว่า “ส่งนี่กลับไป หากหมอในเมืองโยวโจวสามารถตรวจสอบได้ว่าคือยาอันใด ก็จะสามารถไปตรวจสอบเว่ยจวินมั่วกับมั่วเอ๋อร์ได้ ไม่เช่นนั้นอย่าเสียเวลาเปล่าเลย หากเขาอยากฆ่านาง ย่อมไม่จำเป็นต้องยุ่งยากเช่นนี้”
รอยยิ้มของจูชูอวี้แข็งทื่อ “คุณชายเสียนเกอกำลังหาข้ออ้างหรือ” นางไม่รู้ว่าที่คุณชายเสียนเกอโยนให้คือสิ่งใด แต่หากเขากล้าถือออกมา เช่นนั้นก็หมายความว่าท่านหมอธรรมดาไม่มีทางตรวจสอบได้ว่าคือยาอันใด เพราะฉายาหมอเทวดาของคุณชายเสียนเกอไม่ใช่ฉายาที่เป็นเพียงชื่อ แต่ว่าเยี่ยนอ๋องให้เกียรติเสียนเกอด้วย แม้นางจะโมโหแต่ย่อมไม่กล้ากําเริบเสิบสาน
คุณชายเสียนเกอหัวเราะอย่างเย็นชา เอ่ยว่า “ข้าเพียงไม่ชอบคนเอ่ยอ้อมค้อม เจ้าบอกว่าเจ้าอิจฉาเว่ยจวินมั่วกับศิษย์น้องของข้า อยากไล่พวกเขาออกไปจากเฉินโจว ข้ายังพอจะชื่นชมว่าเจ้าเป็นสตรีที่กล้าหาญ”
“ท่าน!” จูชูอวี้โมโหจนหน้าแดง รีบหันไปคุกเข่าลงกับพื้นต่อหน้าเยี่ยนอ๋อง “เสด็จพ่อ หม่อมฉันไม่ได้หมายความเช่นนั้น เสด็จพ่อโปรดไตร่ตรองด้วย”
“เสด็จพ่อ ชูอวี้เพียงหวังดี คุณชายเสียนเกอเข้าใจผิด เสด็จพ่อโปรดไตร่ตรองด้วย” เซียวเชียนเหว่ยคุกเข่าลง ไม่ว่าจูชูอวี้ทำอันใดเอ่ยอันใด หากพวกเขายังเป็นสามีภรรยากัน เขาก็ย่อมต้องรับผิดชองการกระทำของจูชูอวี้ ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่จูชูอวี้เอ่ยคือสิ่งที่เขาคิดในใจ