หมอหญิงยอดมือสังหาร - ตอนที่ 832 โยนความผิดหรือ การเจรจาครั้งที่สอง (3)
ตอนที่ 832 โยนความผิดหรือ การเจรจาครั้งที่สอง (3)
“รายงานท่านอ๋อง จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องขอเข้าพบพ่ะย่ะค่ะ” ด้านนอก องครักษ์รายงานขึ้น
“ไสหัวไป…ให้เขาเข้ามา” หนิงอ๋องกัดฟันเอ่ย
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง”
ไม่นานพวกเว่ยหงเฟยสามพ่อลูกก็ถูกพาเข้ามาในห้องโถง มองเห็นเว่ยจวินมั่วและหนานกงมั่วที่นั่งอยู่ด้านข้างกลับไม่แปลกใจนัก แน่นอนว่าพวกเขารู้เรื่องที่ทั้งสองถูกหนิงอ๋องเรียกตัวมาตั้งแต่เช้า สัมผัสได้ถึงบรรยากาศในห้องโถงที่ไม่ดีนัก เว่ยหงเฟยก็รู้สึกยินดีอยู่ในใจ
“กระหม่อมถวายพระพรท่านอ๋อง” สามพ่อลูกเอ่ยพร้อมเพรียง
หนิงอ๋องส่งเสียงหยัน เอ่ยเสียงเรียบ “ไม่ต้องมากพิธี จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องรู้หรือไม่ว่าเมื่อคืนจวนหนิงอ๋องเกิดเรื่องอันใดขึ้น”
เว่ยหงเฟยรีบเอ่ย “กระหม่อมได้ยินเพียงว่าเมื่อคืนจวนหนิงอ๋องมีการลอบสังหาร ไม่ทราบว่าท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”
หนิงอ๋องยิ้มเย็น “ยังไม่ตาย”
เว่ยหงเฟยเอ่ยด้วยรอยยิ้มแห่งความยินดี “ท่านอ๋องมีเกียรติประดุจทองคำ มีค่าสูงส่งราวกับหยก ต้องเป็นคนที่โชคดีอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่คนลอบสังหารนั่นช่างชั่วร้าย ไม่รู้ว่า…ท่านอ๋องสืบทราบถึงตัวตนของมือสังหารแล้วหรือไม่ มีสิ่งใดให้กระหม่อมช่วยหรือหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
หนิงอ๋องหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบเบาๆ หลุบตาลงเอ่ยเสียงเรียบ “ยังไม่มีข่าวอันใด หากจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องช่วยข้าจับคนที่อยู่เบื้องหลังได้ แน่นอนว่าดีที่สุดแล้ว ข้า จะกำจัด มัน ให้ สิ้น ซาก”
รอยยิ้มของเว่ยหงเฟยชะงัก รีบเอ่ย “กระหม่อมจะทำสุดความสามารถพ่ะย่ะค่ะ” ในใจกลับรู้สึกประหลาดใจ ต่อให้หนิงอ๋องจะไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของเยี่ยนอ๋องทั้งหมด อย่างน้อยก็ต้องสงสัยบ้างจึงจะถูก ไยจึงเอ่ยบอกว่าไม่มีข่าวเลยสักนิด เมื่อคืนเกิดผิดพลาดอย่างไร หรือพวกเว่ยจวินมั่วทั้งสองคนเอ่ยสิ่งใดหรือไม่
คิดมาถึงตรงนี้ เว่ยหงเฟยจึงร้อนใจขึ้นมาโดยไม่อาจควบคุม “ท่านอ๋อง ไม่รู้ว่า…มือสังหารมีคนรอดชีวิตหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
หนิงอ๋องพยักหน้า “มีสองคน”
“เช่นนั้น…”
หนิงอ๋องเอ่ยขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “ข้าสั่งให้คนไต่สวนมือสังหาร แต่ว่าพวกเขาเพียงเอ่ยเหลวไหลจนข้าโมโห”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ขอกระหม่อมเจอกับมือสังหารได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยหงเฟยรีบเอ่ย
หนิงอ๋องเลิกคิ้ว “จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องไม่เชื่อฝีมือของคนจวนหนิงอ๋องเช่นข้าอย่างนั้นหรือ”
“มิกล้าพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยหงเฟยรีบเอ่ย “เพียงแต่ เพิ่มมาหนึ่งคนก็เพิ่มมาหนึ่งวิธีเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
หนิงอ๋องครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้าเอ่ย “ก็ดีเหมือนกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้พวกเจ้าสองคนก็ไปด้วยกันเถิด” ประโยคหลังนั้นหนิงอ๋องหันมาเอ่ยกับหนานกงมั่วและเว่ยจวินมั่ว
ดังนั้น ทั้งหมดจึงมุ่งหน้าไปยังคุกของจวนหนิงอ๋อง
คุกใต้ดินจวนหนิงอ๋องมิใช่สถานที่ที่ดีนัก ไม่เหมือนกับคุกใหญ่ในเมืองสีโจว ที่นี่เป็นสถานที่ส่วนตัวในการจัดการคนของหนิงอ๋อง เพียงแต่ในคุกไม่มีนักโทษแต่อย่างใด หนิงอ๋องจัดการเรียบร้อยไร้ร่องรอยมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยหลงเหลือสิ่งมีชีวิตทิ้งเอาไว้ ยามนี้ในห้องขังจึงมีเพียงนักโทษสามคนที่บุกเข้ามาเมื่อคืนนี้
เข้ามาเพียงครึ่งวันเท่านั้น ทั้งสามคนกลับถูกทรมานจนสิ้นสภาพ ทั่วทั้งห้องขังเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นอับชื้น ทำให้คนเข้ามาใหม่แทบอยากอาเจียน
“ท่านอ๋อง”
องครักษ์ทั้งสองเดินเข้ามาถวายความเคารพ หนิงอ๋องโบกมือเอ่ยถาม “เป็นอย่างไรบ้าง”
องครักษ์ที่ควบคุมตัวเอ่ยรายงานสิ่งที่บันทึกเอาไว้ เอ่ย “พวกเขายังคงยืนกราน…ว่าเป็นคำสั่งของจวนเยี่ยนอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
“เหลวไหล” หนิงอ๋องโกรธเกรี้ยว โยนบันทึกคำสารภาพทิ้งไปอีกฝั่ง “ความสัมพันธ์ของข้ากับพี่สามนั้นไม่เลว พี่สามจะทำเรื่องเช่นนี้ได้เยี่ยงไร เฆี่ยนต่อไป”
รอจนทหารองครักษ์ยกแส้ขึ้นมาเฆี่ยนไปยังคนที่ถูกมัดยึดเอาไว้ ภายในห้องขังเกิดเสียงร้องโหยหวนดังขึ้น สีหน้าของเว่ยหงเฟยแข็งค้าง เว่ยจวินปั๋วและเว่ยจวินเจ๋อที่เดินตามหลังเขามาเองสีหน้าก็ไม่ดีนัก แม้พวกเขาจะเติบโตมาในจวนอ๋อง เคยเห็นความโหดร้ายมาไม่น้อย แต่เป็นครั้งแรกที่เห็นเลือดเจิ่งนองเพียงนี้
“บอกมา เป็นผู้ใดส่งพวกเจ้ามากันแน่”
“คะ คุณชายเว่ย…”
“เหลวไหล” ทหารองครักษ์ผู้รับหน้าที่เฆี่ยนตีเอ่ยเสียงเย็น “พวกเจ้าเป็นคนของวังจื่อเซียวหรือ นักฆ่าวังจื่อเซียว พวกเจ้าจะอยู่อันดับที่เท่าใดกัน” ความจริงแล้วฝีมือของนักฆ่าเหล่านี้ไม่เลว ต่อให้เปรียบเทียบกับมือสังหารของวังจื่อเซียวก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่องครักษ์จวนหนิงอ๋องก็มิใช่เครื่องประดับตกแต่ง จวนหนิงอ๋องคุ้มกันแน่นหนา เหล่ามือสังหารเองก็ไม่คิดจะทำได้สำเร็จจึงกลายเป็นเหตุการณ์ในตอนนี้
“พวกข้า…เป็น เป็นคนจวนเยี่ยนอ๋อง” มือสังหารคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
“ยังปากแข็ง คุณชายเว่ยยังอยู่สีโจว เยี่ยนอ๋องจะส่งคนมาลอบสังหารท่านอ๋องในเวลานี้หรือ”
“พวกข้า…เป็นคนของจวนเยี่ยนอ๋อง…” มือสังหารคนนั้นราวกับไม่ได้ฟังคำพูดขององครักษ์ ยังคงเอ่ยซ้ำๆ
“ท่านอ๋อง” เว่ยจวินปั๋วเอ่ยเสียงเข้ม “เฆี่ยนมาจนถึงเพียงนี้แล้วยังไม่เปลี่ยนคำสารภาพ ท่านอ๋องจะมั่นใจได้เยี่ยงไรว่าพวกเขาโกหก” มือสังหารเหล่านี้ใกล้จะกลายเป็นเต้าหู้เลือดอยู่แล้ว ไยหนิงอ๋องจึงยังมีความเชื่อใจเพียงนั้น หรือว่าความสัมพันธ์ของหนิงอ๋องและเยี่ยนอ๋องจะดีจริงๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมเชื่อว่าเยี่ยนอ๋องจะสังหารเขา หากเป็นเช่นนี้ คงเป็นปัญหาใหญ่เสียแล้ว
หนิงอ๋องปรายตามองเขา “เจ้ามีความคิดเห็นเช่นไร”
เว่ยจวินปั๋วรีบยกมือขึ้นประสาน “กระหม่อมเพียงไม่เข้าใจ ไยท่านอ๋องจึง…”
หนิงอ๋องยิ้มเย็น “ไยจึงไม่เชื่อคำของมือสังหารหรือ ความหมายของคุณชายใหญ่เว่ยก็คือ มือสังหารเหล่านี้เป็นคนของพี่สามส่งมาอย่างนั้นหรือ”
“กระหม่อมมิกล้า” เว่ยจวินปั๋วเอ่ย “เพียงแต่ กระหม่อมเพียงไม่เข้าใจไยมือสังหารเหล่านี้จึงปากแข็งเพียงนี้ ท่านอ๋องเคยสืบตามคำกล่าวอ้างของมือสังหารแล้วหรือไม่”
ขอเพียงหนิงอ๋องสืบข่าว พวกเขาก็มีวิธีสร้างเบาะแสชี้ไปยังจวนเยี่ยนอ๋อง
ด้านข้าง หนานกงมั่วเอ่ยว่า “เสด็จลุงหนิงอ๋อง คุณชายใหญ่เว่ยเอ่ยก็มีเหตุผล หากไม่สืบก็คงไม่อาจทำให้คนยอมจำนนได้ เพียงแต่…หม่อมฉันยังมีวิธีที่ดีกว่า ไม่แน่อาจทำให้เขายอมรับความจริงออกมาก็ได้เพคะ”
“โอ้” หนิงอ๋องเลิกคิ้ว
หนานกงมั่วเอ่ย “หม่อมฉันสามารถยืมแม่นางปี้เยียนมาช่วยได้หรือไม่เพคะ”
“เจ้าอยากใช้วิชาสุรเสียงดูดวิญญาณของปี้เยี่ยนหรือ ไม่มีประโยชน์หรอก” หนิงอ๋องเอ่ย วิชาสุรเสียงดูดวิญญาณของปี้เยียนสามารถสะกดจิตใจของคนได้ก็จริง แต่ว่าเวลาไม่นานพอที่จะเอามาใช้สอบสวนมือสังหารได้ดีเท่าการทรมาน อย่างไรเสียเหล่าหน่วยกล้าตายและมือสังหารพวกนี้ สะกดจิตพวกเขาเพียงชั่วครู่นั่นทำง่าย แต่หากต้องการให้พวกเขาหลงใหล กระทั่งให้พวกเขาเอ่ยความจริงออกมานั่นย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย คนที่ถูกเฆี่ยนตีเพียงนี้ยังปิดปากอยู่ได้ จะยอมสารภาพเพียงเพราะวิชาสุรเสียงดูดวิญญาณได้อย่างไร อย่างน้อยปี้เยียนคงทำไม่ได้ถึงขั้นนั้น
หนานกงมั่วยิ้มเอ่ย “เสด็จลุงโปรดวางใจ ในเมื่อหม่อมฉันเอ่ยเช่นนี้แน่นอนว่าต้องมีความมั่นใจ”
ได้ยินเช่นนั้น พวกเว่ยหงเฟยทั้งสองคนสีหน้าพลันแปรเปลี่ยน อยากห้ามทว่าไม่มีข้อแก้ตัวเพียงพอจะห้ามได้ เว่ยจวินเจ๋อยิ้มหยัน เอ่ย “ใช้การทรมานหนักเพียงนี้ยังไม่มีประโยชน์ จวิ้นจู่คิดว่าตนเองเก่งกาจกว่าการทรมานขององครักษ์เหล่านั้นหรือ”
หนานกงมั่วทำราวกับไม่ได้ยินวาจาของเขา หันกลับไปหาหนิงอ๋อง เอ่ย “หม่อมฉันต้องการเวลาในการเตรียมตัวสักครู่เพคะ”