หมอหญิงยอดมือสังหาร - ตอนที่ 105 อวดความรักกับองค์ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งประเทศ (4)
เซียวเชียนเยี่ยมุมปากกระตุก ทว่ากลับแสดงอารมณ์ออกมาไม่ได้ หากวันนั้นหนานกงมั่วไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเขายังสามารถหลอกตัวเองได้ว่าหนานกงมั่วไม่รู้ความจริง แต่เห็นได้ชัดว่านางอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบ เวลานี้เอ่ยเช่นนี้ออกมาเห็นได้ชัดว่ากำลังเสียดสีเขา สมแล้วที่เป็นบุตรีของหนานกงไหว
“อู๋สยา” เว่ยจวินมั่วที่นั่งเงียบมาตลอดในที่สุดก็เอ่ยขึ้น
“หืม” หนานกงมั่วเลิกคิ้ว
เซียวเชียนเยี่ยเองก็หันไปมองเขา ในที่สุดก็รู้แล้วว่าภรรยาในอนาคตของเจ้าเป็นคนพูดไม่รู้กาลเทศะแล้วหรือ
“ข้ามิใช่คนเลว” เว่ยจวินมั่วกล่าวจริงจัง “ดังนั้น เจ้าไม่มีทางได้เจอคนเลว”
หนานกงมั่วชะงัก อดไม่ได้ก้มหน้างุดลอบยิ้ม “อืม…ข้ารู้ว่าท่านไม่ใช่ เมื่อครู่ข้ากล่าวผิดไป วัยหนุ่มสาวส่วนใหญ่ต่างต้องพบกับคนเลวสักคนสองคน”
เว่ยจวินมั่วเลิกคิ้ว พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เห็นได้ชัดว่ามั่นใจว่าตนเองนั้นไม่ใช่คนเลวที่คนส่วนใหญ่ได้พบเจอ
ผู้จัดการร้านยกกล่องออกมา วางไว้ตรงหน้าพวกเขา ช่างงดงามเหลือล้นเสียจริง
ผู้จัดการร้านยิ้มพลางเอ่ย “นี่เป็นเครื่องประดับชั้นยอดที่ทางร้านพึ่งจัดทำขึ้น ทั้งหมดมีเพียงสิบสองชิ้น ใช้สิบสองเดือนเป็นหัวข้อหลัก แต่ละชุดนั้นมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นขอรับ ร้านของเราเองจะไม่จัดทำขึ้นในรูปแบบเดียวกันนี้อีก ดังนั้นพระชายาใช้แล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไปซ้ำกับผู้ใดขอรับ” เดิมหยวนซื่อมิได้มีความสนใจอยากเลือกเครื่องประดับ เพียงแต่เซียวเชียนเยี่ยอยากมานางจึงพูดอะไรมากไม่ได้ เมื่อสักครู่ได้ยินคำพูดเสียดสีเซียวเชียนเยี่ยของหนานกงมั่ว พลันรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา เมื่อได้ยินผู้จัดการร้านบอกเช่นนั้นจึงเงยหน้าขึ้นไปมองดูเครื่องประดับบนโต๊ะ แม้ผู้จัดการร้านจะบอกว่ามีทั้งหมดสิบสองชุด ทว่าที่อยู่ตรงหน้าพวกเขามีเพียงสี่ชุดเท่านั้น ผู้จัดการร้านอธิบายต่อ “แม้ร้านของเราจะเปิดขายได้เพียงสามวัน แต่ก็ขายออกไปแล้วกว่าแปดชุดขอรับ ตอนนี้จึงมีเพียงสี่ชุดเท่านั้น”
เซียวเชียนเยี่ยตั้งใจเอาอกเอาใจพระชายาจึงลุกขึ้นมาดูใกล้ๆ ด้วยพลางกล่าวว่า “ชุดดอกโบตั๋นชุดนี้พอดีเลย ทั้งเหมาะสมกับฐานะของพระชายา”
หยวนซื่อเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มองดูเครื่องประดับทับทิมฝังทองรูปทรงดอกโบตั๋นแล้วกลับไม่เอ่ยสิ่งใด เซียวเชียนเยี่ยยิ้ม “หากพระชายาชื่นชอบก็เอาชุดนี้เถิด”
เงียบอยู่ชั่วครู่ หยวนซื่อจึงเอ่ยขึ้น “ยามนี้หม่อมฉันกำลังตั้งครรภ์ เกรงว่าคงจะสวมเครื่องประดับทองชิ้นนี้ไม่ได้หรอกเพคะ”
เซียวเชียนเยี่ยเอ่ย “ได้เยี่ยงไรกัน ตอนนี้สวมไม่ได้ รอลูกคลอดออกมาแล้วค่อยสวมในงานฉลองครบหนึ่งเดือนของลูกก็ได้” ความจริงเซียวเชียนเยี่ยเป็นคนฉลาด แต่เขาก็ยังมีสิ่งที่ผู้ชายทั่วไปมี ชื่นชอบความงาม และมีความหยิ่งยโส สำหรับพระชายาผู้มีรูปโฉมธรรมดาทว่าเกิดในตระกูลใหญ่ผู้นี้ เซียวเชียนเยี่ยมิได้ใส่ใจเลยสักนิด สำหรับเซียวเชียนเยี่ยแล้ว บุรุษชอบความงามเป็นเรื่องธรรมดา เป็นชายาเพียงช่วยเขาจัดการเรื่องในจวนเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ไม่คิดว่าหยวนซื่อจะวุ่นวายเรื่องของเขากับหนานกงซูจนเกิดเรื่องยุ่งยากถึงเพียงนี้ ในขณะเดียวกันนั้น ความตั้งใจแต่งกับหนานกงซูของเขาก็ยิ่งมีมากขึ้นทุกขณะ
หนานกงมั่วที่เฝ้ามองอยู่ข้างๆ พลันถอนหายใจ “ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อน พระชายากำลังตั้งครรภ์ ลองดูชุดดอกทับทิมปะการังนี้ เป็นอย่างไรบ้างเพคะ” เดิมทับทิมมีความหมายมงคลอยู่แล้ว นับว่าเป็นการปลอบประโลมพระชายาได้ดี ปะการังยังช่วยให้คลายความร้อน เหมาะกับหยวนซื่อ หยวนซื่อมองเครื่องประดับที่ได้รับการแกะสลักอย่างงดงามอยู่ในกล่องผ้าไหม ดวงดาวูบไหว เงยหน้าขึ้นไปมองหนานกงมั่วพลางเอ่ย “คุณหนูหนานกง ขอบคุณเจ้ามาก”
หนานกงมั่วยิ้มบางๆ “พระชายาชอบก็ดีแล้วเพคะ”
เซียวเชียนเยี่ยรู้สึกน่าเบื่อ ทำเพียงแค่นยิ้มออกมา “พระชายาชอบชุดนี้หรือ เช่นนั้นก็เอาชุดนี้เถิด จัดเตรียมแล้วส่งไปที่จวนก็พอแล้ว” อดรู้สึกว่าหนานกงมั่วขวางหูขวางตาขึ้นมาไม่ได้
ตั้งแต่คำพูดของหนานกงมั่วที่ดูไม่มีอะไรทว่ากลับทำให้ตนเองโกรธได้ เซียวเชียนเยี่ยก็ไม่มีใจจะอยู่ต่อแล้ว รับสั่งไปไม่กี่ประโยคจึงพาหยวนซื่อบอกลา หนานกงมั่วเองก็มิได้รั้งเอาไว้ เดินไปส่งทั้งสอง เห็นสายตาของหยวนซื่อที่มองมายังตนและเว่ยจวินมั่วด้วยความโศกเศร้าและอิจฉา อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
“อู๋สยา ชอบหยวนซื่อมากเลยหรือ” ในห้องเหลือเพียงสองคน เว่ยจวินมั่วเอ่ยถามเสียงเบา
หนานกงมั่วส่ายหน้า “ไม่นับว่าชอบ เพียงแต่…วันนั้นข้าเกือบทำร้ายลูกในท้องของนาง ต้องชดเชยให้นาง” วันนั้นมีความสุขที่จะจัดการกับเซียวเชียนเยี่ยและหนานกงซู ทว่ากลับลืมไปว่าหยวนซื่อกำลังตั้งครรภ์ไม่นานกำลังอยู่ในระยะอันตราย ได้ข่าวว่าหยวนซื่อกลับไปถึงก็ต้องนอนรักษาตัว หนานกงมั่วจึงรู้สึกละอายใจอยู่บ้าง เรื่องที่นางไม่ชอบเซียวเชียนเยี่ยและหนานกงซูไม่ควรดึงคนนอกเข้ามาซวยไปด้วย โดยเฉพาะเด็กที่ยังไม่เกิดมา สำหรับความสัมพันธ์ของนางและหยวนซื่อในอนาคตนั้น ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตเถิด
“อู๋สยาเกลียดเซียวเชียนเยี่ยมากเลยหรือ” เว่ยจวินมั่วเอ่ยถาม
หนานกงมั่วยิ้มตาหยีให้ ใช้เหตุผลที่เขาเคยบอกกับนาง “ไม่มีอย่างอื่น เพียงไม่ถูกชะตา”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นในดวงตาของเว่ยจวินมั่ว ลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้หนานกงมั่ว โน้มตัวเข้าไปจ้องมองตานาง เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้าไม่ทำเช่นนั้นกับอู๋สยาแน่”
ถูกสายตาสีม่วงคู่นั้นจ้องมองมา หนานกงมั่วรู้สึกหายใจติดขัดไปชั่วขณะ เบี่ยงใบหน้าหลบ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้ว่าท่านไม่ทำกับข้าเช่นนี้เป็นแน่ แต่ว่า เกิดท่านทำ…เรื่องที่ไม่สมควรให้อภัยกับข้า ข้าก็คงไม่อ่อนโยนเหมือนหยวนซื่อหรอกนะ” เว่ยจวินมั่วยิ้มเย็น “เจ้าจะทำเช่นไร” หนานกงมั่วยิ้ม “ฆ่าท่านเสีย จากนั้นหอบเอาสมบัติของท่านไปแต่งกับชายอื่น”
“เจ้าไม่มีโอกาสเช่นนั้นหรอก” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเข้ม
หนานกงมั่วรู้สึกขัดใจ เพียงล้อเล่นเท่านั้น…หรือนางจะหยอกแรงเกินไป ในเมื่อเขาสามารถล้อเล่นกับนางได้ แต่กลับไม่ยอมให้นางล้อเล่นคืน ช่างยอมให้เจ้าของแคว้นจุดไฟเผา ทว่าไม่ยอมให้ประชาชนจุดไฟจริงๆ
“เช่นนั้นก็ต้องรอดู ว่าเจ้าจะให้โอกาสนี้กับข้าหรือไม่” หนานกงมั่วปากแข็งบอก
เว่ยจวินมั่วโน้มตัวลงมาใกล้ ยกมือขึ้นสัมผัสกับริมฝีปากสีชมพู เอ่ยเสียงทุ้มตำ “แน่นอนว่าข้าไม่ทำ อู๋สยา…”
“หืม…” หนานกงมั่วรู้สึกมึนงง ไยทุกครั้งที่คุยกับคนผู้นี้ความรู้สึกของนางมักถูกทิ้งไว้อีกฝั่ง อีกทั้งน้ำเสียงเช่นนี้…ช่างผิดขนบธรรมเนียม
“ข้าคิดว่าสีฟ้าเหมาะกับอู๋สยามากกว่า” เว่ยจวินมั่วถอยห่างออกไป หนานกงมั่วยกมือขึ้นสัมผัสบนศีรษะ พบว่ามีปิ่นที่ไม่รู้ถูกปักเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรอยู่ หนานกงมั่วรีบดึงออกมาดู เป็นปิ่นปักผมสีเงินประดับพลอยไพลินแกะสลักเป็นรูปผีเสื้อสีน้ำเงินงดงาม ผีเสื้อคู่หนึ่งเชื่อมต่อกันด้วยด้ายสีเงิน ด้านบนประดับด้วยอัญมณีสีน้ำเงินสี่เม็ด มีเส้นสีเงินบางสามเส้นเกี่ยวพันไปมา เมื่อถือไว้ในมือยังแกว่งไกวไปมาได้ ปีกของผีเสื้อราวกับกำลังพริ้วไหวอยู่
“ให้ข้าหรือ” หนานกงมั่วถามด้วยความประหลาดใจ
เว่ยจวินมั่วหยิบมันออกมาจากมือนาง ปักเข้าไปที่ผมให้ใหม่อีกหน “อู๋สยาดูสิ สวยหรือไม่”
ด้านข้างมีกระจกทองเหลืองวางตั้งไว้อยู่ หนานกงมั่วหันไปมองกระจกทองเหลืองเล็กน้อย มองเห็นว่าบนศีรษะของเด็กสาวมีปิ่นสีเงินประดับด้วยอัญมณีสีฟ้าสวยกำลังทอประกายระยิบระยับอยู่บนนั้น