หมอหญิงยอดมือสังหาร - ตอนที่ 1015 ฉินของคุณชายเสียนเกอ (2)
ตอนที่ 1015 ฉินของคุณชายเสียนเกอ (2)
เนี่ยนหย่วนยิ้มบาง เอ่ย “คุณชายฝีมือสูงส่งยอดเยี่ยมนัก เพียงแต่…ท่วงทำนองเช่นนี้เกรงว่าจะทำให้จิตใจคนปั่นป่วนได้ง่าย คุณชายควร…”
เสียนเกอลุกขึ้นยืน หัวเราะขึ้นมา “ไต้ซือผิดแล้ว ทำนองนี้…ชื่อขึ้นอยู่กับใจ หากผู้ฟังใจมีรักแน่นอนว่ายินดี ใจไม่สงบแน่นอนว่าเป็นทุกข์ ใจมีความทะเยอทะยานก็มีความทะเยอทะยาน ผู้ที่ใจโหดร้าย…แน่นอนว่าปั่นป่วน ผู้ที่จิตใจกว้างขวางก็จะไพเราะเสนาะหู ผู้ที่มีจิตใจละเอียดอ่อนดุจฝุ่นผง…ก็จะซาบซึ้งตรึงใจ นอนหลับในค่ำคืนที่ยากลำบาก”
เนี่ยนหย่วนเอ่ย “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ คุณชายช่างมีความสามารถสูงส่ง อาตมาได้รับการสั่งสอนแล้ว”
“ขอตัว” คุณชายเสียนเกอเลิกคิ้วอย่างอารมณ์ดี หมุนตัวเดินออกไป
รอจนคุณชายเสียนเกอเดินออกไปแล้ว สีหน้าของเนี่ยนหย่วนพลันเปลี่ยน กระอักเลือดออกมาในทันที ใบหน้าที่เคยนิ่งสงบซีดขาวไม่อาจทีสิ่งใดมาเทียบได้
“เจ้าสำนัก” องครักษ์ที่เฝ้าอยู่ในกระโจมยามนี้ได้สติกลับคืนมา เขาได้รับผลกระทบไม่มากเท่าเนี่ยนหย่วนเพียงไม่นานก็ไม่เป็นไรแล้ว เห็นเนี่ยนหย่วนเป็นเช่นนี้จึงรีบพุ่งตัวเข้าไปรับ เนี่ยนหย่วนยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปาก ยกมือขึ้นสัมผัสเลือดที่กระเด็นไปโดนฉิน “น่าเสียดายฉินที่ดี”
ความเจ็บปวดราวกับเผาไหม้ที่ปลายนิ้ว เนี่ยนหย่วนรีบยื่นมือขึ้นไปเช็ดเลือดให้สะอาด ดวงตาไหววูบ “คุณชายเสียนเกอช่าง…สมคำร่ำลือเสียจริง”
“เจ้าสำนัก ในกองทัพไม่ปลอดภัยแล้ว ขอเจ้าสำนักเห็นแก่ความปลอดภัยด้วยเถิดขอรับ” องครักษ์เอ่ยเสียงเบา
เนี่ยนหย่วนใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเลือดที่ปลายนิ้วอย่างเชื่องช้า เพียงแต่ความเจ็บปวดนั้นยังคงอยู่ทว่ายังพอทนได้ เห็นได้ว่าคุณชายเสียนเกอเองก็ไม่ได้คิดจะวางยาพิษเขา เพียงการหยอกล้อที่ชั่วร้ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น “เจ้าคิดว่า ไยเสียนเกอจึงทำเช่นนี้”
องครักษ์เงียบไปชั่วครู่ เนี่ยนหย่วนเอ่ยเสียงเรียบ “เพราะว่าตอนนี้พวกเขาไม่กล้าลงมืออย่างไรเล่า”
“แต่ว่า…”
“ไม่ต้องกังวล ไม่นาน…เรื่องของพวกเราก็คงจบลงแล้ว แม้ตอนจบจะไม่เป็นไปตามคาดก็เถอะ นั่นก็คงเพราะสวรรค์ไม่ช่วยข้า ทำสิ่งใดไม่ได้”
“ขอรับ เจ้าสำนัก”
“ในเมื่อเว่ยจวินมั่วกลับไปแล้ว เกรงว่าหยวนชุนก็คงอดทนอยู่ได้อีกไม่นาน” เนี่ยนหย่วนเอ่ย “พวกเราควร…รีบข้ามแม่น้ำ ยึดครองจินหลิง”
“เจ้าสำนักจะช่วยเยี่ยนอ๋องบุกยึดจินหลิงจริงหรือขอรับ” องครักษ์ประหลาดใจ เนี่ยนหย่วนเอ่ยเสียงเรียบ “ยามนี้เยี่ยนอ๋องกุมชัยชนะ จะช่วยหรือไม่ช่วยจุดจบก็เป็นเช่นเดิม ในเมื่อเป็นเช่นนี้ไยจะไม่ช่วยเล่า”
องครักษ์เงียบไป เขาไม่เข้าใจว่าเจ้าสำนักกำลังคิดอันใด และไม่จำเป็นต้องเข้าใจ ขอเพียงเจ้าสำนักออกคำสั่ง พวกเขาปฏิบัติตามก็พอแล้ว
ไม่นานคนที่เยี่ยนอ๋องส่งไปก็พาเด็กกลับมา เพียงแต่มีกงเสี่ยวเตี๋ยติดตามมาด้วย รวมไปถึงหย่งเฉิงจวิ้นจู่และจูชูอวี้ที่ไม่อาจห้ามกงเสี่ยวเตี๋ยได้ ในกระโจมของเยี่ยนอ๋องกงเสี่ยวเตี๋ยร้องไห้คร่ำครวญอ้อนวอนเยี่ยนอ๋องให้ตนเองอยู่ดูแลบุตรชาย ทว่าเยี่ยนอ๋องเพียงปรายตามองนาง เอ่ย “เจ้าร่างกายไม่แข็งแรง อยู่ในค่ายทหารลำบากไม่ต้องอยู่จะดีกว่า”
“แต่ว่า ซั่วเอ๋อร์…” กงเสี่ยวเตี๋ยเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ ถึงนางร่างกายไม่แข็งแรง แต่จะอ่อนแอกว่าเด็กสองสามขวบเลยหรือ ยิ่งไปกว่านั้น นางไม่อยู่แล้วใครจะดูแลลูก
เยี่ยนอ๋องสีหน้าทะมึน เอ่ยเสียงเรียบ “พอแล้ว ข้าอยากดูแลลูกก็ไม่ได้เลยหรือ”
กงเสี่ยวเตี๋ยพูดไม่ออก เยี่ยนอ๋องอยากดูแลลูกแน่นอนว่าไม่มีปัญหา แต่เห็นได้ชัดว่าเยี่ยนอ๋องต้องการแยกตนเองกับลูกออกจากกัน กงเสี่ยวเตี๋ยไม่ฉลาดแต่ก็ไม่ได้โง่เพียงนั้น หากเป็นเวลาปกติ ยังจะเอ่ยได้ว่าการเลี้ยงลูกอยู่ข้างกายเยี่ยนอ๋องนั้นเป็นการให้ความสำคัญและโปรดปราน แต่ว่าตอนนี้…
เยี่ยนอ๋องไม่ให้โอกาสนางได้พูด เพียงเอ่ย “เอาล่ะ เจ้ากลับไปพักผ่อนเถิด เด็กอยู่ที่นี่กับข้าไม่มีทางเป็นอันใด อีกไม่กี่วันเดี๋ยวจะส่งกลับไปให้เจ้าเอง พวกเจ้าสองคน พาพระชายารองกลับไป”
“เพคะ เสด็จพ่อ”
หย่งเฉิงจวิ้นจู่และจูชูอวี้รีบประคองกงเสี่ยวเตี๋ยซ้ายขวาออกไปด้านนอกทันที กงเสี่ยวเตี๋ยไม่อาจดิ้นรนต่อสู้กับกำลังของทั้งสองได้ จำต้องถูกทั้งสองคนลากออกไป ออกมาด้านนอกกระโจมบังเอิญเจอกับคุณชายเสียนเกอ คุณชายเสียนเกอเดินเข้าไปพร้อมรอยยิ้ม เอ่ย “โอ้ นี่เป็นอันใดกันหรือ”
“คุณชายเสียนเกอ”
คุณชายเสียนเกอเท้าคางมองสำรวจกงเสี่ยวเตี๋ย แสดงออกว่าไม่เข้าใจต่อรสนิยมของเยี่ยนอ๋องนัก ก็เห็นอยู่ว่าพระชายาเยี่ยนอ๋องและชายารองคนอื่นๆ ก็ดูปกติดีนี่นา
“พระชายารองเป็นอันใดหรือ”
จูชูอวี้มองไปที่คุณชายเสียนเกอ ถอนหายใจเบาๆ เอ่ย “เยี่ยนอ๋องต้องการนำคุณชายสี่มาดูแลข้างกายสักระยะ ทว่าพระชายารองทำใจไม่ได้เท่านั้นเจ้าค่ะ”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” คุณชายเสียนเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เยี่ยนอ๋องต้องการดูแลคุณชายสี่ด้วยตนเอง นับว่าเป็นวาสนาของคุณชายสี่ จริงสิ ข้าเองก็ชอบเด็ก หากมีโอกาสข้าจะช่วยพระชายารองดูแลคุณชายน้อยเอง รับรองเขา…จะแข็งแรงสุขภาพดี”
กงเสี่ยวเตี๋ยตกตะลึง มักรู้สึกว่าคำว่าแข็งแรงสุขภาพดีของคุณชายเสียนเกอมีความหมายลึกมากกว่านั้น
เพียงฟังคุณชายเสียนเกอเอ่ยต่อ “จะว่าไป คุณชายเช่นข้าเองก็มีหลานชายหลานสาวที่อายุไล่เรี่ยกันกับคุณชายสี่ เพียงแต่น่าเสียดาย…ช่วงนี้ได้ยินมาว่าหายไปหนึ่งคน ข้าร้อนใจเป็นกังวลอย่างยิ่ง พระชายารองต้องดูแลคุณชายสี่ให้ดีจึงจะถูก เพื่อจะไม่ถูกลักพาตัวไปที่ใดไม่อาจรู้ได้เช่นหลานสาวของข้า”
กงเสี่ยวเตี๋ยสีหน้าซีดขาว จ้องมองคุณชายเสียนเกอนิ่งงัน
คุณชายเสียนเกอยิ้มบางเอ่ย “จะว่าไปคุณชายเช่นข้ายังไม่เคยเจอกับพระชายาเลย ข้าน้อยเสียนเกอ เป็นศิษย์พี่ขอหนานกงมั่ว”
เอ่ยจบคุณชายเสียนเกอพลันเดินหนีไป หย่งเฉิงจวิ้นจู่จนปัญญา คุณชายเสียนเกอไม่ช่วยเกลี้ยกล่อมพระชายารองไม่พอ ยังมาแหนบแนมนางอีก จริงๆ เลย… “เอ๋ หลานสาวของคุณชายเสียนเกอ มิใช่เยาเยาหรอกหรือ” พลันนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา สีหน้าของหย่งเฉิงจวิ้นจู่ก็ไม่น่ามองขึ้นมา “เยาเยาเกิดเรื่องหรือ นี่…ข้าจะไปถามเสด็จพ่อ”
จูชูอวี้รีบดึงนางไว้ เอ่ย “เสด็จพ่ออารมณ์ไม่ดี พวกเราอย่าไปกวนเลย เยาเยาอยู่ไกลนับพันลี้ พี่ชายและพี่สะใภ้จะยอมปล่อยให้บุตรีหายตัวไปได้เยี่ยงไร ไม่แน่ว่าอีกไม่นานอาจจะหาเจอแล้วก็ได้” หย่งเฉิงจวิ้นจู่เองก็นึกถึงใบหน้าไม่น่ามองของบิดาขึ้นมา เพียงถอนหายใจ เอ่ย “ไม่รู้ว่าใครช่างไร้คุณธรรมเพียงนั้น ถึงได้ลงมือกับเด็ก สมควรตายจริงๆ”
กงเสี่ยวเตี๋ยสีหน้างุนงง ซีดเซียว ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกัน
กลับมาถึงในเมือง เดินเข้าไปในห้องกงเสี่ยวเตี๋ยพลันล้มลงบนเตียงทันที
“คุณหนู ท่านเป็นอะไรเจ้าคะ” กงชีเอ่ยถามด้วยความกังวล กงเสี่ยวเตี๋ยคว้านางเอาไว้ เอ่ยถาม “กงอวี้เฉินทำอันใด” กงชีชะงัก เอ่ยอย่างไม่เข้าใจ “คุณหนู ท่านเอ่ยอันใดเจ้าคะ” กงเสี่ยวเตี๋ยเอ่ยเสียงดัง “ข้าถามเจ้า กงอวี้เฉินทำอันใดกันแน่”
กงชีถอนหายใจ เอ่ย “คุณหนู ท่านอย่าใจร้อน ค่อยๆ เอ่ยเจ้าค่ะ เกิดเรื่องอันใดแล้วเจ้าคะ”
ดวงตาของกงเสี่ยวเตี๋ยเต็มไปด้วยความโกรธแค้น “กงอวี้เฉินส่งคนไปจับตัวบุตรีหนานกงมั่วหรือ”
กงชีชะงัก ความจริงนางก็ไม่ได้เข้าใจทั้งหมด อย่างไรเสียนางก็อยู่ข้างกายกงเสี่ยวเตี๋ยตลอด ข่าวคราวแน่นอนว่าไม่ได้รวดเร็วเหมือนตอนอยู่ข้างนอก เพียงแต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
“กงอวี้เฉินคิดจะทำอันใดกันแน่ เขาจะทำร้ายซั่วเอ๋อร์ของข้าใช่หรือไม่” กงเสี่ยวเตี๋ยเอ่ยเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง
กงชีรีบปิดปากนาง เอ่ยเสียงเบา “คุณหนู ใจเย็นเจ้าค่ะ”
กงเสี่ยวเตี๋ยจับข้อมือของนางเอาไว้ น้ำตาร่วงหล่นไม่หยุด “ท่านอ๋องเอาซั่วเอ๋อร์ของข้าไปแล้ว ข้าดูออก เขาต้องการแยกข้ากับซั่วเอ๋อร์ออกจากกัน อีกทั้งคุณชายเสียนเกอนั่น…เห็นชัดว่าเขาไม่ได้คิดดีต่อซั่วเอ๋อร์ กงอวี้เฉินจับตัวบุตรีหนานกงมั่วไป พวกเขา พวกเขาจะเอาคืนกับบุตรชายของข้า”
“คุณหนู นี่คงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ต่อให้เจ้าสำนักจับตัวบุตรีของหนานกงมั่วไป แล้วมันเกี่ยวอันใดกับท่าน” หากเป็นเช่นนี้จริงๆ นั่นหมายถึงว่า…ตัวตนของพวกเขาถูกเปิดเผยแล้ว แต่ผ่านมานานเพียงนี้ กลับไม่เป็นอันใด ไยเยี่ยนอ๋องต้องอดทนกับพวกเขา กงชีพยายามปลอบใจตัวเองไม่ให้ตกใจจนพลาดท่า แต่ความไม่สงบในจิตใจที่เกิดขึ้นย่อมยากที่จะลบมันไปได้
กงเสี่ยวเตี๋ยฟุบหน้าร้องไห้อยู่บนเตียง “ข้าไม่รู้…ไม่รู้ ท่านอ๋อง ไยต้องทำกับข้าเช่นนี้”
กงชีถอนหายใจ นิสัยของกงเสี่ยวเตี๋ยช่าง…
“คุณหนู บางทีท่านอ๋องอาจต้องการเล่นกับคุณชายเพียงไม่กี่วันจริงๆ ก็ได้เจ้าค่ะ”
กงเสี่ยวเตี๋ยส่ายศีรษะ “เจ้าไม่เข้าใจ ข้าสัมผัสได้ ท่านอ๋อง…ท่านอ๋องไม่ชอบซั่วเอ๋อร์ ไยจึงอยากเอาเขาไปเล่นเล่า”
“ถึงจะเป็นเช่นนั้น เสือร้ายไม่กินลูกตนเอง ท่านอ๋องคงไม่ทำอันใดคุณชายสี่กระมังเจ้าคะ” กงชีเอ่ย “คุณหนู พวกเราจะทำอันใดตามใจไม่ได้ เกิดทำลายแผนการของเจ้าสำนัก…” กงเสี่ยวเตี๋ยวยิ้มเย็น เอ่ย “ข้ายังต้องสนใจจะทำลายแผนการอยู่อีกหรือ ต้องโทษกงอวี้เฉิน หากไม่ใช่เพราะเขาท่านอ๋องจะตีตัวออกห่างข้าหรือ จะเกลียดซั่วเอ๋อร์ได้อย่างไร จะ…คุณชายเสียนเกอจะมีใจคิดสังหารซั่วเอ๋อร์ของข้าได้อย่างไร”
กงชีกลอกตา ตอนนั้นนางเองก็อยู่ข้างๆ เห็นชัดว่าคุณชายเสียนเกอเพียงเอ่ยประโยคไม่ชัดเจนไม่กี่ประโยคเท่านั้น ไหนเลยจะมีใจสังหารเด็กกันเล่า ต่อให้มีนั่นก็เป็นเพียงการข่มขู่กงเสี่ยวเตี๋ยเท่านั้น เพียงแต่เอ่ยเช่นนี้…ตัวตนของพวกเขาเกรงว่าคงจะ…
คิดมาถึงตรงนี้ กงชีก็ไม่มีใจคิดสนใจอารมณ์ของกงเสี่ยวเตี๋ยแล้ว ต้องรีบติดต่อเจ้าสำนัก ตัดสินใจว่าก้าวต่อไปจะทำเช่นไร หากตัวตนของพวกเขาถูกคนสงสัยแล้วจริงๆ ก็คงต้อง… “คุณหนู ท่านเตรียมตัวให้ดี ไม่แน่พวกเราอาจต้องไปจากที่นี่แล้ว”
กงเสี่ยวเตี๋ยกลับไม่สนใจ “ข้าไม่มีทางไปจากท่านอ๋อง ไปจากซั่วเอ๋อร์ ท่านอ๋องเพียงเข้าใจข้าผิด ขอเพียงเข้าใจแล้วเขาก็จะดีกับข้าเหมือนแต่ก่อน ข้าจะไปอธิบายกับท่านอ๋อง” เอ่ยจบกงอวี้เฉินกำลังจะลุกขึ้นเดินออกไป ทว่าถูกกงชีจับกดข้อมือลงกับเตียง “ท่านบ้าไปแล้วใช่หรือไม่ อย่าลืมว่าท่านเป็นใคร ท่านเป็นสายลับของสำนักหอธารา ท่านไม่เคยเห็นว่าท่านอ๋องจัดการกับสายลับอย่างไรใช่หรือไม่”
ได้ยินเช่นนั้นหัวใจของกงเสี่ยวเตี๋ยพลันกระตุก ใบหน้าซีดเซียว กัดฟันเอ่ย “ข้าเป็นชายารองของท่านอ๋อง เป็นมารดาของซั่วเอ๋อร์ เขาไม่ทำเช่นนี้กับข้าแน่”
กงชียิ้มเย็น “ใช่ ท่านเป็นมารดาของคุณชายสี่ หากท่านเป็นสายลับธรรมดาท่านอ๋องอาจเห็นแก่ท่านที่เป็นมารดาของคุณชายสี่ไว้ชีวิตท่าน แต่ว่า…ท่านอย่าลืมตัวตนของท่าน ท่านเป็นสายลับธรรมดาหรือไม่ ท่านมีความสัมพันธ์เช่นไรกับคุณชาย”
กงเสี่ยวเตี๋ยกัดริมฝีปากอย่างอ่อนแอ “ตัวตนเช่นนี้ ข้ายินยอมด้วยตนเองงั้นหรือ”
“น่าเสียดาย ท่านก็อยู่ในตัวตนนี้แล้ว นี่เป็นชะตากำหนด” กงชีเอ่ย “ต่อให้ท่านช่วยเจ้าสำนักไม่ได้ ทางที่ดีอย่าสร้างความวุ่นวาย มิเช่นนั้น อย่าโทษข้าที่ต้องลงมือจัดการท่านก่อน”