หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 545 รวมญาติเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ (4)
ตอนที่ 545 รวมญาติเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ (4)
“…” รองแม่ทัพเก๋อมองน้ำแกงในถ้วยราวกับมหาสมุทรด้วยความโศกเศร้า ข้าไม่ดื่มได้หรือไม่!
ชุ่ยผิงไม่ต้องถามให้มากความก็เดาออกว่าเซียงหรูกำลังจะเจอเรื่องดีๆ อะไรอยู่ แค่ว่ายัยสาวใช้คนนี้ส่งน้ำแกงเสร็จก็วิ่งหนีไป ไม่เห็นแม้แต่เงา ชุ่ยเวยอยากจะจัดการนางก็ยังหานางไม่เจอ ดังนั้นทำได้เพียงอดทนไว้ชั่วคราว กลับกระแอมไอเบาๆ สองที จากนั้นคุยกับชุ่ยผิงด้วยเสียงเบาสองสามคำก็ออกจากที่นั่ง
ทางฝั่งเก๋อไห่คอยสังเกตการเคลื่อนไหวของชุ่ยเวยตลอดเวลา ภายในใจกำลังคิดว่า หากเขาดื่มน้ำแกงสร่างเมาที่ทั้งชาและเปรี้ยวมากขนาดนี้ลงไป เจ้าก็ควรพูดอะไรกับข้าหน่อยหรือไม่ ดังนั้นชุ่ยเวยออกจากโต๊ะ เขาก็ลุกขึ้นรีบตามไปทันที
เหยาเยี่ยนอวี่ก้มหน้าแอบยิ้ม ภายในใจหวังว่าเก๋อไห่จะเกิดเรื่องน่ายินดีได้ใจของชุ่ยเวยไป เรื่องนี้จะได้กำหนดเสียที
แม่นางชุ่ยเวยนับได้ว่าเป็นคนดี ปกตินางก็ฉลาดหลักแหลม ทว่ากลับโง่เขลาในด้านความรู้สึก เหยาเยี่ยนอวี่เห็นว่านางทำใจปล่อยมือจากพ่อบ้านเอกฉังเหมาแล้ว แต่ภายในใจยังคงรู้สึกผิด ทั้งวันก็เอาแต่โทษตัวเอง นางช่างโง่เขลาจริงๆ
ทางฝั่งเก๋อไห่เดินออกจากโต๊ะ จ้าวต้าเฟิงก็รู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา ดังนั้นยกจอกเหล้าเดินมาคำนับสุรากับเหล่าพี่สะใภ้ทั้งหลาย
จ้าวต้าเฟิงมาถึง ถังเซียวอี้ก็นั่งไม่ติด จึงยกจอกไปร่วมเพลิดเพลินด้วย จากนั้นนั่งข้างซูอวี้เหิงไม่ยอมไปไหน ซูอวี้เหิงผลักเขาไม่ไหว ทำได้เพียงอธิบายกับเหยาเยี่ยนอวี่อย่างจนหนทาง “เขาต้องเมาแล้วแน่นอน พี่เหยาอย่าโทษเขาเลย ข้าจะพาเขาไปพักผ่อนก่อน”
“ไปเถอะ เวลาก็ดึกมากแล้ว” เหยาเยี่ยนอวี่กล่าวจบด้วยรอยยิ้มจางๆ เงบหน้าจับจ้องแม่ทัพเว่ยที่ดื่มเหล้ามาโดยตลอด ภายในใจคิดว่า เขาดื่มหมดไปหนึ่งไหแล้วกระมัง วิธีการดื่มเหล้าเช่นนี้ คืนนี้จะดื่มจนเป็นบ้าไปเลยหรือ
เฮ่อซีฮูหยินเป็นคนตาไวยิ่งนัก นางมองเหยาฮูหยินจับจ้องแม่ทัพเว่ยไม่หยุด จึงพูดขึ้น “คืนนี้ก็ดื่มได้พอประมาณแล้ว ฮูหยินยังต้องพักฟื้นร่างกาย ไม่ควรเหนื่อยเกินไป มิเช่นนั้นพวกเรารีบไปพักผ่อนกันเถอะ หากยังชมจันทร์ไม่พอ พรุ่งนี้ก็ยังจะชมต่อได้เหมือนกัน”
เหยาเยี่ยนอวี่พูดขึ้น “คำพูดนี้มีเหตุผลจริงๆ” ดังนั้นลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะทางโน้น
เฮ่อซีเห็นเหยาฮูหยินเดินมา ก็รีบลุกขึ้นหลีกที่นั่ง จากนั้นก็ถูกฮูหยินตนเองเร่งให้กลับเรือนได้แล้ว
เหยาเยี่ยนอวี่นั่งข้างเว่ยจาง แล้วเปรยด้วยเสียงต่ำ “ไม่เจอมาสองสามวัน เจ้าดื่มเหล้าได้เยอะขึ้นแล้วสินะ”
เว่ยจางค่อนข้างมึนแล้ว จึงถือโอกาสที่ตนเองเมากอดไหล่เล็กๆ ของฮูหยินไว้ แล้วพูดเสียงเบา “เหล่าปัญญาชนพวกนั้นกล่าวคำคำหนึ่งได้ดี ‘สวยจนอยากกลืนกิน’ คืนนี้แม่ทัพมีหญิงงามคอยนั่งดื่มสุราด้วย จึงรู้สึกมีความสุขยิ่งนัก”
เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มเสียงเบา แล้วพูดขึ้น “ยังนึกว่าแม่ทัพเป็นคนรักเดียวใจเดียว ไม่เคยเหล่มองหญิงงามใต้หล้านี้เสียอีก ดูท่าแล้ว วันนี้ข้าคงมองผิดไปแล้ว”
เว่ยจางยิ้มเสียงต่ำ “ฮูหยินกล่าวถูก หญิงสาวใต้หล้านี้ไม่เคยอยู่ในสายตาข้าอยู่แล้ว แค่หญิงงามในจวนตนเองเท่านั้นที่ข้าจะใส่ใจ”
เว่ยจางกลับไม่รอแม้แต่ชั่วครู่เดียว ยกมือกรอกเหล้าจอกนั้นเข้าปาก แล้วอุ้มฮูหยินตนเองขึ้น “คำพูดนี้ฮูหยินพูดได้ชัดเจนนัก บุษบาเลื่องชื่อล้วนมีเจ้าของ ฉะนั้นคืนนี้พระจันทร์เต็มดวง ก็ต้องเด็ดบุษบาเลื่องชื่อนั้นถึงจะถูก”
เหยาเยี่ยนอวี่ทุบตัวเขาพลางแอบมองทั่วทั้งสี่ทิศ กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของทุกคนแล้ว ในสวนเล็กๆ แห่งนี้ แม้แต่ผัวจื่อร่างกำยำยังไม่โผล่หน้ามาเลย เดิมทีตอนนางนั่งอยู่ข้างกายแม่ทัพ ทุกคนก็รู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรแล้ว
บุษบาเลื่องชื่อที่มีเจ้าของกับหญ้าเลื่องชื่อที่มีเจ้าของอยู่ด้วยกัน สำหรับพวกที่ไม่มีเจ้าของเฉกเช่นเซียงหรู อูเหมย ปั้นซย่า ไม่ตง ชุ่ยผิง และคนอื่นๆ จึงอยู่ร่วมเพลิดเพลินด้วยกัน
พวกนางหอบห่อผ้าเดินจากประตู มุ่งหน้าไปยังบ่อน้ำที่แม่ทัพเว่ยพาฮูหยินตกปลาอย่างเงียบๆ หลังจากจุดธูปไล่ยุงและแมลงแล้ว เหล่าแม่นางเอาห่อผ้าที่นำมาปูบนศาลา ทุกคนนั่งล้อมวงกัน แล้วตั้งของกินและเครื่องดื่มอีกครั้ง
ว่าไปแล้วก็มีเพียงรองแม่ทัพจ้าวต้าเฟิงที่ยังคงโดดเดี่ยวเดียวดาย รองแม่ทัพถังเดินไปเดินมาในบ้านนาด้วยความเบื่อหน่าย สุดท้ายก็เดินไปตามเสียงหัวเราะที่ดังจากข้างบ่อน้ำ พึ่งพาแสงจันทร์มองเหล่าสาวใช้ที่กำลังเป่ายิ้งฉุบกันอย่างเสียงดัง จึงรีบวิ่งไปร่วมเพลิดเพลินด้วย
“นี่ๆ ข้าเล่นด้วย ข้าเล่นด้วย!” รองแม่ทัพจ้าวไม่สนอะไรทั้งนั้น เขาเบียดเข้าไปนั่งในวงทันที
ชุ่ยผิงมองเขาพลางขมวดคิ้วอย่างไร้ความอดทน “พวกเราเป็นแม่นางทั้งหมด ท่านมาทำอะไรกัน”
“ไม่เป็นไร พวกเจ้าเห็นข้าเป็นแม่นางก็พอ ข้าไม่สนใจ”
“จริงหรือ!” เซียงหรูถามด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอนว่าจริงสิ ข้าพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว ไม่เคยพูดปด”
เซียงหรูโบกมือ แล้วพูดด้วยความจริงจัง “เช่นนั้นก็ดี ไหนๆ ท่านจะให้พวกบ่าวเห็นเป็นแม่นาง เช่นนั้นก็ต้องมีรูปลักษณ์เป็นแม่นางด้วย อูเหมย ทางโน้นมีเก๊กฮวยป่าที่เพิ่งบาน ไปเด็ดมาให้พี่จ้าวประดับบนศีรษะที”
“ไม่ใช่หรอกกระมัง!” จ้าวต้าเฟิงนิ่งงันไปทันที สาวใช้พวกนี้ปกติก็ค่อนข้างเชื่อฟัง เหตุใดคืนนี้ถึงดื้อดึงเช่นนี้
“แม่นางใดบ้างที่ไม่ทัดดอกไม้!” เซียงหรูถามกลับ
“จริงด้วย! จะเป็นแม่นางก็ต้องแต่งตัวให้เหมือนแม่นางสิ! ท่านต้องเหมือนฮูหยินพวกบ่าว เป็นสตรีที่แต่งกายเป็นบุรุษ ทั้งชุดเครื่องแบบบุรุษรักษาคนใต้หล้า?” ไม่ตงอายุน้อยที่สุด น้ำเสียงอ่อนหวานที่สุด
“เหอะ! ยัยสาวใช้คนนี้ช่างพูดจริงๆ เหตุใดถึงไม่ไปสอบคัดเลือกขุนนางล่ะ” จ้าวต้าเฟิงมองดวงตากลมมนของไม่ตง ยกมือโขกหัวของนางหนึ่งที
“โอ๊ย! พี่ชุ่ยผิง เขาตีข้า!” ไม่ตงกอดแขนฟ้องชุ่ยผิง
ชุ่ยผิงถลึงตามองจ้าวต้าเฟิงอย่างเลือดเย็น “ท่านทำตัวให้เหมือนบุรุษหน่อยได้หรือไม่!”
“ไม่ได้ บอกแล้วว่าข้าเป็นแม่นาง แม้แต่ดอกไม้ยังทัดไปแล้ว หรือว่าไม่ควรถูกปฏิบัติอย่างยุติธรรม” พูดถึงเรื่องขี้โกง เขาถนัดที่สุดแล้ว
“ยอดเยี่ยม!” ชุ่ยผิงถลึงตามองเขาเพียงปราดหนึ่ง
จ้าวต้าเฟิงลูบหน้าหนึ่งที “ข้ายอดเยี่ยมเช่นนี้ เจ้าไม่สะดุดตาหน่อยหรือ”
ชุ่ยผิงถลึงตามองเขา แล้วไม่สนใจเขาอีก ขืนเรียกร้องอะไรกับคนอันธพาล ตนเองก็คงกลายเป็นอันธพาลไปแล้ว
ไม่นานอูเหมยก็เด็กเก๊กฮวยป่ามาหนึ่งกำมือ ดอกสีเหลืองสดใส ทั้งยังส่งกลิ่นอ่อนๆ
“คุณชายสามทัดเถอะ” เซียงหรูพูดขึ้น สาวใช้สองสามคนต่างเดินหน้ามาเอาดอกไม้ติดศีรษะของเขา
“พอได้แล้ว! ไร้มารยาทจริงๆ” ชุ่ยผิงทนดูไม่ไหวก็อดตวาดไม่ได้ อย่างไรเขาก็คือรองแม่ทัพขั้นห้าคนหนึ่ง ปล่อยให้เหล่าสาวใช้ทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ ขืนคนนอกรู้เขาคงจะอับอายน่าดู!
“เอ๊ะ! พี่สาวโกรธแล้วหรือ!”
“เอ๊ะ! พี่สาวเป็นห่วงรองแม่ทัพจ้าวหรือ!”
“แหมๆ ไม่ได้การแล้ว ระวังพี่สาวจะลงโทษพวกเรา…”
สาวใช้ถูกเหยาฮูหยินเอ็นดูจนไร้มารยาท กลับหยอกเย้าชุ่ยผิง
“เงียบปากไปเลย!” ชุ่ยผิงตวาดเสียงเย็นชา “จะดื่มเหล้าอีกไหม!”