หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 539 ตักเตือน (3)
ตอนที่ 539 ตักเตือน (3)
“คุณชายสี่” เหยาจื้อจงมองเรื่องพวกนี้ออกมานานแล้ว ดังนั้นจึงรีบกระโดดลงจากอานม้าเพื่อไปน้อมคำนับ
“ข้าก็รู้สึกคุ้นๆ หน้า ที่นี่ก็มาจากจวนเหยานี่เอง” เก๋อไห่พยักหน้า แล้วมองไปยังรถม้าที่อยู่ด้านหลัง “ด้านในคือแขกเหรื่อจากที่ใด พวกเจ้าไปถนนเส้นนี้ จะไปเยี่ยมฮูหยินหรือ”
“เรียนองค์ชายสี่ เป็นเช่นนั้นขอรับ” เหยาจื้อจงค่อนข้างกลัวเก๋อไห่ที่มีใบหน้าโหดเหี้ยมคนนี้อยู่บ้าง จึงรีบตอบกลับ “ด้านในรถม้าเป็นคุณหนูสามของพวกบ่าวเองขอรับ ฮูหยินผู้เฒ่าและฮูหยินสั่งให้คุณหนูสามไปส่งของให้คุณหนูรองขอรับ”
เก๋อไห่กวาดสาตามองไปที่รถม้า แล้วส่ายหัว “เช่นนั้นก็ไปเถอะ ข้าจะไปหาแม่ทัพที่บ้านนาพอดี พวกเราไปทางเดียวกัน”
เหยาจื้อจงพลันพูดยิ้มๆ “ขอรับ รถม้าของพวกเราจะเทียบกับม้าพันธุ์ดีของคุณชายสี่ได้อย่างไรกัน หากคุณชายสี่มีธุระอะไร ก็อย่ารอพวกเราเลย”
“ก็ได้ เช่นนั้นข้าไปก่อน อย่างไรตอนกลางวันแสกๆ ก็คงไม่มีใครกล้าทำอะไรหรอก” เก๋อไห่ยิ้มจางๆ ต่อให้เขายิ้ม แววตายังคงโหดเหี้ยมยากคาดเดา
“คุณชายสี่กล่าวถูกขอรับ” เหยาจื้อจงพลันประสานมือส่งเขา
“ไปก่อนแล้ว” เก๋อไห่ดึงบังเหียนม้าโบกมือตีเหลียงจวีแรงๆ หนึ่งที ม้ามุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
เหยาเชวี่ยหวาเห็นว่าเหยาจื้อจงเคารพคนคนนั้นมาก ด้วยเหตุนี้จึงถามเสวี่ยเหลียน “ผู้นี้คือใครกัน”
เสวี่ยเหลียนก็กลัวว่าคุณหนูสามไม่รู้จักคนอื่น ถึงเวลาจะพูดจาไร้มารยาท จึงรีบพูด “ท่านนี้เป็นคนของจวนแม่ทัพ น่าจะเป็นลูกน้องของแม่ทัพเว่ยเจ้าค่ะ”
“หน้าตาเหี้ยมโหดเช่นนี้เลยหรือ!” เหยาเชวี่ยหวาขมวดคิ้ว
เหยาซื่อสี่เห็นสีหน้าของคุณหนูสามของพวกเขาดูค่อนข้างรังเกียจแม่ทัพท่านนี้ เช่นนี้ก็ดีเลย ประเดี๋ยวตอนเจอกันที่บ้านนาจะได้ไม่ต้องเกิดเรื่องอะไรอีก ดังนั้นจึงพูดเกินจริงไป “เขาคือรองแม่ทัพ จึงค่อนข้างน่าเกรงขามและโหดเหี้ยมเป็นเรื่องธรรมดา อีกอย่างได้ยินว่าท่านนี้แตกต่างจากคนทั่วไป ตอนใช้ดาบบาดเนื้อคนนั้นไม่กะพริบตาแม้แต่น้อย”
“อั๊ยยา เจ้าอย่าพูดอีกเลย!” เดิมทีเรื่องพวกนี้ก็น่ากลัวมากพอแล้ว เหยาเชวี่ยหวานึกถึงใบหน้าที่ซูบผอมแต่ดูโหดเหี้ยมนั้น สีหน้าก็ขาวซีดทันที
เหยาซื่อสี่เห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็ยิ้มพลางเกลี้ยกล่อม “บ่าวแค่อยอยากจะเตือนคุณหนูสาม ดูแม่ทัพเก๋อท่านนี้ก็จะไปบ้านสวนเช่นเดียวกัน ประเดี๋ยวก็คงได้เจอ พวกเราอย่าไปหาเรื่องเขาย่อมดีที่สุด”
“เจ้าหมายความว่าอะไร! ใครจะหาเรื่องเขา?!” เหยาเชวี่ยหวาจับจ้องเหยาซื่อสี่อย่างไม่พอใจ บุรุษที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ นางไม่อยากมองแม้แต่คราเดียว ยิ่งไม่อยากไปมีความสัมพันธ์ใดๆ กับเขา
เหยาซื่อสี่ยกยิ้ม ภายในใจกำลังคิดว่า ท่านคิดเช่นนี้ได้ พวกบ่าวก็สบายใจแล้ว
ตลอดทางก็ไม่มีอะไรจะคุย รถม้าของเหยาเชวี่ยหวาถึงหน้าประตูบ้านนาวัวจวู มีทหารรักษาการณ์เข้ามาถาม เหยาซื่อสี่รายงานหน้าประตู แล้วพูดจุดประสงค์ที่มาเยือน จึงถูกปล่อยให้เข้าไปด้านใน
รถม้าเข้าไปด้านในบ้านนา หลังจากผ่านถนนเส้นหนึ่งก็จอดอยู่ตรงหน้าประตูเรือนหลัก เสวี่ยเหลียนและเหยาซื่อสี่ลงจากรถม้า พยุงเหยาเชวี่ยหวาลงไป มีคนมารายงานตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว ไม่นานเซียงหรูและอูเหมยก็พาบ่าวผู้ดูแลบ้านนาสองคนเข้ามา
หลังจากทุกคนเจอหน้าทักทายกันเสร็จ เหยาเชวี่ยหวาถามเซียงหรู “ร่างกายพี่รองเป็นเช่นไรบ้างแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าและฮูหยินเฝ้าคะนึงถึงพี่สาว แต่ก็ไม่สะดวกมาเยือน เอาแต่พร่ำบ่นในเรือนตลอดเวลา”
เซียงหรูพลันพูด “ช่วงก่อนมีนักพรตเต๋ามาที่บ้านนา กำลังช่วยฮูหยินฟื้นฟูสภาพร่างกายอยู่ ทว่าวันนี้คุณหนูสามมาได้ไม่บังเอิญจริงๆ ฮูหยินติดตามนักพรตเต๋าผู้นั้นไปในป่า ไม่อยู่บ้านนาเจ้าค่ะ”
“หา? นี่…” เหยาเชวี่ยหวาตะลึงงัน ไม่ใช่ว่าควรพักผ่อนในเรือนหรือ เหตุใดถึงยังเข้าป่าอีก
“ไหนๆ คุณหนูก็มาแล้ว เข้ามานั่งในเรือนก่อนเถอะ” เซียงหรูพูดขึ้นต่อ
เหยาซื่อสี่และเสวี่ยเหลียนสบตากัน แล้วพูดยิ้มๆ “ว่าไปก็ใช่ พวกเรายังส่งเสื้อผ้ามาให้คุณหนูรองแน่ะ อย่างไรก็ควรเข้าไปให้คุณหนูลองชุดก่อน”
“คุณหนูสาม พี่เสวี่ยเหลียน พี่เหยาซื่อสี่ เชิญเข้าไปเถอะ” เซียงหรูรีบหลีกทาง
เหยาเชวี่ยหวาไม่ได้ผิดหวัง เดิมทีตนยังคิดอยู่ว่าจะบอกเรื่องที่ฮูหยินผู้เฒ่ามอบหมายกับเหยาเยี่ยนอวี่อย่างไรดี วันนี้ก็ดีแล้ว นางไม่อยู่ คงโทษข้าไม่ได้ว่าข้าไม่พูดหรือเปล่า
ทุกคนเข้าประตู เดินผ่านระเบียงยาวไปด้านหลัง เหยาซื่อสี่สั่งให้บ่าวสองคนยกหีบไม้เข้าไป ด้านในเป็นเสื้อผ้าที่หวางฮูหยินสั่งให้คนตัดให้เหยาเยี่ยนอวี่เพื่อเตรียมใส่ในฤดูใบหน้าร่วง
เว่ยจางกำลังพูดคุยกับเก๋อไห่ที่โถงหน้า เหตุเพราะได้ยินคนข้างนอกพูด จึงถามขึ้น “ใครอยู่ด้านนอก?”
เซินเจียงที่อยู่หน้าประตูรีบเข้ามารายงาน “เรียนแม่ทัพ คุณหนูสามเหยามาส่งของให้ฮูหยิน เซียงหรูกำลังพานางเดินไปด้านหลัง”
เว่ยจางถามอีกครั้ง “ครั้งนี้ส่งอะไรมาอีก”
เซินเจียงพลันตอบกลับ “บอกว่าส่งเสื้อผ้าที่หวานฮูหยินสั่งทำ หลายวันนี้อากาศเริ่มเย็น กลัวว่าฮูหยินไม่ได้เตรียมชุดสำหรับฤดูใบหน้าร่วง
เว่ยจางได้ยินก็ยิ้มขึ้น ผายมือให้เซินเจียงออกไปได้
“ว่าไปแล้ว เหยาฮูหยินก็ถือว่าดีกับฮูหยิน” เก๋อไห่จับคางกะปริบตา จู่ๆ ก็ถามขึ้น “แม่ทัพ ฮูหยินได้บอกเรื่องของข้ากับชุ่ยเวยหรือไม่”
“เจ้าถามข้า? ตอนนี้ข้ายังไม่ได้เจอนางทั้งวันทั้งคืนเลย!” แม่ทัพเว่ยถอนหายใจอย่างจนปัญญา หลังจากไอ้เฒ่าน่ารังเกียจนั่นมา มักจะพาเหยาเยี่ยนอวี่เดินป่า บางครั้งไม่เจอหน้าสองวัน หากไม่ใช่เพราะเชื่อใจในฮูหยิน แม่ทัพเว่ยคงสั่งให้คนพลิกแผ่นดินป่าผืนนั้นไปแล้ว
“เช่นนั้นประเดี๋ยวแม่ทัพเห็นฮูหยินแล้ว ช่วยข้าน้อยถามหน่อยได้หรือไม่” เก๋อไห่ก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องของฮูหยินมาก เพราะดูจากสีหน้าบูดบึ้งของเว่ยจางก็รู้ว่าเขาไม่สบอารมณ์อย่างมาก จึงไม่มากความถึงจะดีกว่า
ทว่าเขาเร่งรีบเหลือเกิน! สหายในเมืองหลวงอวิ๋นต่างสู่ขอภรรยาแล้ว หลายวันมานี้เขาส่งของขวัญแสดงความยินดีมากจนนับไม่ถ้วน ภายในใจรู้สึกเจ็บปวด เขาจึงอยากจะสู่ขอภรรยาเต็มทน!
“รอให้นางกลับมาค่อยว่ากันเถอะ” แม่ทัพเว่ยหมดความอดทน
“ได้” เก๋อไห่ก็ไม่ขออะไรมาก แม่ทัพช่วยเขาถามก็พอแล้ว เขาคิดว่าแม่ทัพของเขาก็มีความสำคัญต่อฮูหยิน เขาพูดอะไร ฮูหยินย่อมฟังอยู่แล้ว
พอนึกถึงตอนนั้นที่อยู่เมืองเฟิ่ง ฮูหยินไปบังลูกศรหน้าไม้แทนแม่ทัพ พวกเขายังรู้สึกตกตะลึง เหล่าแม่ทัพไม่ได้เป็นบุรุษที่หลายใจ หากชีวิตนี้มีแม่นางที่บังธนูแทนตนเอง ก็ยินดีที่จะขอสู่กลับบ้านแล้วปรนนิบัติเป็นอย่างดี
กล่าวถึงเหยาเชวี่ยหวาที่ติดตามเซียงหรูเข้าไปด้านหลัง หลังจากยกน้ำชาเสร็จ เหยาเชวี่ยหวาก็สั่งให้คนเอาเสื้อผ้าสี่ชุดที่หวางฮูหยินฝากมาให้เซียงหรู เซียงหรูรับไว้ แล้วกล่าวขอบคุณแทนเหยาเยี่ยนอวี่
เหตุเพราะเหยาเยี่ยนอวี่ไม่อยู่บ้าน เหยาเชวี่ยหวาก็เป็นแขก ย่อมต้องมีคนคอยนั่งคุยเป็นเพื่อน ดังนั้นเซียงหรูทำได้เพียงปรนนิบัติอยู่ที่นี่ ขณะเดียวกันก็ได้คุยกับเหยาเชวี่ยหวา
เหยาเชวี่ยหวาถามถึงสุขภาพร่างกายของเหยาเยี่ยนอวี่ก่อน แล้วถามว่านางกินหรือนอนได้ดีหรือไม่ วิชาการแพทย์ได้รับผลกระทบอะไรไหม จากนั้นยังถามว่าจะใช้วิธีฝังเข็มรักษาผู้ป่วยได้อีกหรือไม่ ฯลฯ
เซียงหรูเลือกตอบเฉพาะในสิ่งที่ตอบได้